พิง 80%

1128 คำ
ฝนตกลงมาหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก ยี่สิบนาทีแล้วที่หญิงสาวนั่งมองรถที่ขับผ่าน กับอีกเกือบยี่สิบนาทีที่ทำให้รู้สึกอึดอัดจนเริ่มทนไม่ไหวเมื่อต้องอยู่ในที่ที่ไม่มีอากาศถ่ายเทแบบนี้ แต่ก็รถเสียนี่ แถมฝนก็ตก ถ้าให้ลงไปยืนรอข้างนอก ถนนเส้นนี้กว่าครึ่งก็รถบรรทุกทั้งนั้น ล่อเสือล่อตะเข้ชัดๆ ทนอยู่แบบนี้น่าจะปลอดภัยกว่า ทว่าความอดทนของเธอกำลังสิ้นสุด ไม่ใช่ที่ใจแต่เป็นกาย อยู่ในที่อึดอัดอากาศไม่พอแบบนี้ ชักเริ่มเวียนหัวหนัก แถมโทรศัพท์ยังมาแบตหมดอีก ซวยกว่านี้มีอีกมั้ยเกวลิน ร่างบางถอนหายใจเฮือก เอนหัวพิงพนักเบาะ มือสองข้างโอบกอดตัวเองไว้อย่างหมดสภาพ ถ้าช่างกับพี่นอสยังไม่มาเธอจะทนอึดอัดไหวไหม เธอจะเสี่ยงลงไปดีหรือเปล่า รอบกายมีเพียงความมืดและฝนตกหนักแบบนี้ ถ้าเธอเป็นลมไปในนาทีใดนาทีหนึ่งจะทำอย่างไร ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอพี่นอสจะเป็นยังไง ความหนาวเหน็บเกาะกินใจบางๆ ร่างเล็กสั่นเบาๆ จากความคิดกลัวกังวลความอ่อนแอเริ่มคืบคลานเข้ามา ก่อนนาทีที่ความคิดความอ่อนแอกำลังเข้าครอบงำ แสงไฟวาบผ่านสายตาเรียกสติกลับคืนมาอยู่กับปัจจุบัน แววตาอ่อนแรงเปลี่ยนเป็นดูมีประกายสดใสพอระบายยิ้มอ่อนออกมาได้บ้าง เมื่อมองผ่านกระจกด้านข้างแล้วเห็นรถยกตบไฟเลี้ยวมาจอดต่อท้าย ก่อนที่ครู่หนึ่งก็มีผู้ชายใส่ชุดคล้ายช่างเธอเห็นไม่ชัดนักเพราะฝนตกเม็ดใหญ่แล้วเขาใส่ชุดกันฝนสีส้มทับไว้ “รบกวนด้วยนะคะ” เกวลินกล่าวพลางค้อมหัวให้น้อยๆ เมื่ออีกฝ่ายแสดงตัวว่าเป็นช่างจริงๆ เหตุการณ์หลังจากนั้นค่อนข้างรีบมากพอสมควรเพราะต้องทำเวลาแข่งกับฝนตก ดีที่ของที่คิดว่าจะเอาไปด้วยระหว่างที่รอเธอก็หยิบเตรียมไว้หมดแล้ว หญิงสาวลงจากรถยื่นกุญแจให้ช่าง เธอว่าจะขอยืมโทรศัพท์เขาโทรบอกสามีเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมากนัก “เกว!!” ทว่าเสียงเรียกชื่อตัวเองผ่านสายฝนที่คล้อยมาจากด้านหลังทำให้เธอต้องหันกลับไปมอง “พี่นอส!!” ใบหน้าหวานระบายยิ้มยิ่งขึ้น เมื่อเห็นว่าคนที่กางร่มเดินลงมาจากรถคันคุ้นๆ ที่จอดต่อท้ายอีกคันนั้นเป็นใคร “พี่นอส” เขาเดินเร็วๆ เข้ามาหา ส่วนเธอก็เร่งฝีเท้าสั้นๆ เพื่อเดินไปหาเขา ท่ามกลางสายฝนกระหน่ำเราต่างเดินเข้าหากัน พอระยะทางกระชับใกล้เข้ามา ร่างเล็กจากเดินก็เปลี่ยนเป็นกึ่งเดินกึ่งวิ่งโผเข้าหาอ้อมกอดอบอุ่น ใจที่เคยหนักและหวั่นกลัวสิ่งใดก็ตามนาทีนี้เหมือนทุกอย่างมลายหายไปพร้อมกับอ้อมกอดอบอุ่นปลอดภัยนี้ แขนข้างหนึ่งของชายหนุ่มกางกว้างรับคนตัวเล็กที่โถมเข้ามากอดรับรู้ถึงแรงสั่นน้อยๆ จากร่างบางอ้อมแขนใหญ่กระชับแน่นขึ้นเหมือนหัวใจกับร่างกายได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง “เป็นไงบ้าง” ใบหน้าคมก้มถามชิดแก้มซีดเปียกชื้นของอีกคนมือข้างหนึ่งเขาถือร่มกันฝนให้ ส่วนอีกข้างกระชับอ้อมกอดกอดร่างบางมาไว้แนบกับตัวแน่นขึ้นไปอีก “ไม่เป็นไรค่ะ” ร่างเล็กซุกอกแกร่งมือกอดเอวหนา ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอู้อี้ก่อนเงยหน้าขึ้นมอง เหนือนทีก้มลงไปกดทั้งจมูกทั้งริมฝีปากบนหน้าผากคนตัวเล็กอย่างอ่อนโยน “กลัวมากมั้ยครับ” เสียงทุ้มที่กระซิบถามท่ามกลางสายฝนมันเบาจนแทบไม่ยิน แต่กลับโอบล้อมหัวใจเติมความอบอุ่นแผ่ซ่านให้กับใจดวงนี้เหลือเกิน เกวลินส่ายหน้า… เมื่อมีเขา เธอไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้ว รู้สึกถึงอ้อมแขนที่กระชับส่งผ่านความอบอุ่นปลอดภัยความเหนื่อยล้าหนักเบลอราวกับปลิวหายไป นาทีนี้เธอฝากชีวิตไว้ที่เขาอย่างที่ไม่เคยฝากกับใคร เชื่อว่าเขาปกป้องดูแลเธอได้ ในยามที่เธอเหนื่อยล้าหมดแรงก็พร้อมปล่อยวางกายใจให้เขาปกป้องดูแล ไม่ต้องเข้มแข็งตลอดเวลาเหมือนเมื่อก่อนแล้วก็ได้ ไม่ต้องดิ้นรนต่อสู้หรือทำอะไรเพื่อเอาตัวรอดคนเดียวอีกต่อไปแล้ว แค่มีพี่นอสก็เหมือนมีมือที่ทั้งอบอุ่นอ่อนโยนและมั่นคงคอยพยุงเธอยามเธออ่อนแอ มีเขาคอยซัพพอตเสมอ เหนือนทีพาภรรยาไปกลับไปนั่งรอบนรถ ส่วนเขากลับไปจัดการเรื่องรถของเธอต่อ เสร็จเรียบร้อยจึงกลับขึ้นมา ยังไม่ทันจะนั่งดีก็โดนร่างเล็กโผเข้ากอดกดจมูกบนแก้มสากอย่างไม่ทันตั้งตัว “ขอบคุณนะคะ” เธอบอกเสียงหวาน มันก็ดีอยู่หรอก ถ้าสิ่งที่เด่นสะดุดตาเขาอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ชุดเดรสสีขาวเปียกที่ผ้าลู่ลงจนแนบเนื้อเห็นไปถึงบราข้างในโชว์ทรวดทรงอวบอิ่มของเธอแบบนี้ “รู้หรือเปล่าว่าพี่จะมา” “รู้ค่ะ” เกวลินตอบ ถือโอกาสตอนสามีหันหลังไปทางเบาะด้านหลังเพื่อเอาคอมในมือหอมแก้มเขาอีกข้าง นี่ก็อีกอย่างเป็นรางวัลที่นอกจากจะเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยเธออีกแล้ว ไม่ใช่แค่ติดฝนรถเสีย แต่ยังเป็นธุระเอาคอมพิวเตอร์ที่ตอนแรกเธอเลือกจะไม่เอาลงมาจากรถด้วยเพราะกลัวว่าจะเปียก พาของสำคัญยิ่งชีวิตของเธอกางร่มเอามาให้ได้อย่างปลอดภัยไม่เปียกฝนเลยสักหยด ‘ถึงพี่นอสอาจจะไม่ใช่เจ้าชายขี่ม้าขาว แต่เจ้าม้าแดงแรงฤทธิ์ของพี่ก็ไม่เคยพลาดที่จะมาช่วยเพื่อนผมทันทุกครั้งนะครับ’ เพื่อนของเธอคนหนึ่งได้กล่าวไว้ในงานแต่งงาน ซึ่งเธอก็ว่ามันจริงที่สุด นี่แหละเขา นอกจากเป็นหมอเจ้าของไข้ที่ห่วงคนไข้มาก ตอนนี้เธอยกให้เขาเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวสำหรับชีวิตตัวเองไปแล้ว ตอนที่โทรศัพท์แบตหมดถึงจะติดต่อไม่ได้ แต่เธอก็รู้ว่าเขาจะมา เขาไม่มีทางนิ่งนอนใจแน่นอน เพราะผู้ชายคนนี้ไม่เคยทอดทิ้งในวันที่เธอต้องการ เขาจะมาอยู่ข้างโดยที่เธอไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากขอร้องอะไรเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม