เมลดานั่งมองธนบัตรสีแดงสองใบในมือด้วยน้ำตาคลอเป้าแทบจะร่วงหล่นลงพื้น แต่หญิงสาวก็กลั้นเอาไว้ไม่อยากแสดงความอ่อนแอออกมา แม้เงินที่เธอหาได้จะน้อยนิด แต่ก็ถือว่ายังดีกว่างานแม่บ้านทำความสะอาดอยู่มาก
เป็นอย่างที่พราวได้บอกไว้ ทุกอย่างต้องใช้ความกล้าและประสบการณ์ และที่สำคัญเธอต้องแข่งขันกับเพื่อนร่วมงานอีกจำนวนมากที่จะมาเป็นคู่แข่งแย่งแขกของเธอไปแบบหน้าด้านๆ
“เป็นไงบ้างเมย์ ไหวหรือเปล่า”
เสียงของพราวที่ดังมาจากทางด้านหลังปลุกให้คนที่กำลังจมอยู่กับความคิดกระพริบตาถี่ๆเพื่อไล่น้ำตาออกจากดวงตา แล้วหันมาส่งยิ้มให้เพื่อน
“ไหวสิ นี่ฉันได้ทิปตั้งสองร้อยแล้วนะ ขอบใจมากนะแกสำหรับคำแนะนำดีๆ”
“อะไรกัน ทำไมได้น้อยจัง มีใครแกล้งเธอหรือเปล่าเมย์”
พราวไม่อยากจะเชื่อว่าหลายชั่วโมงมานี้เมลดาจะได้ทิปแค่สองร้อยบาท เพราะสวยระดับเธอต้องมีแขกสนใจในตัวเธอมากแน่ ดีไม่มีอาจจะถึงขั้นขอไปเลี้ยงดูแล้วก็ได้ หากว่าไม่โดนแกล้งเสียก่อน
“ไม่มี ไม่มีใครแกล้ง”
“เธอโกหก บอกมานะว่าใครแกล้ง ฉันจะไปเอาคืนให้”
“อย่ามีเรื่องกันเลยพราว ฉันมาทำงานวันแรกไม่อยากมีปัญหากับใคร”
“แต่ถ้าขืนแกยังเป็นแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้เงินตามเป้าที่วางไว้ล่ะ”พราวรู้สึกร้อนใจแทนเพื่อน
“ฉันต้องหางานอื่นทำเพิ่ม”
“จะบ้าเหรอเมย์! ร่างกายคนนะไม่ใช่เครื่องจักร จะให้ทำงานตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงไม่ให้พักได้ยังไง”
พราวโวยลั่นเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนพูด แค่เรียนและทำงานเสริมแค่นี้ก็แทบจะไม่มีเวลาพักอยู่แล้ว แล้วถ้าไปหางานเพิ่มอีกมีหวังร่างกายพังก่อนเรียนจบเป็นแน่
แต่ก่อนที่สองสาวจะได้พูดคุยโต้ตอบกันมากกว่านั้น เสียงของผู้จัดการหนุ่มก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ส่งผลให้สองสาวต้องหันไปมองพร้อมกัน
“พราว ว่างหรือเปล่า”
“ผู้จัดการมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“มีแขกห้องวีไอพี ต้องการเด็กนั่งดริ้ง”
ได้ยินดังนั้นพราวก็ยิ้มแก้มปริทันที เพราะโอกาสทองกำลังมาถึงแล้ว และเธอก็จะมอบโอกาสดีๆนี้ให้กับเพื่อนรักได้หาเงินบ้าง
“เมย์ว่างค่ะ เมย์จะไปเดี๋ยวนี้”พราวตะโกนตอบผู้จัดการแข่งกับเสียงดนตรีดังๆ จากนั้นก็หันมาบอกกับเพื่อนสาว
“นี่เป็นโอกาสของเมย์แล้วนะ อย่าลืมนะว่า ออดอ้อน เอาใจ ยกยอ นั่นเป็นสิ่งที่ผู้ชายชอบ พอใจไม่พอใจให้ยิ้มเข้าไว้ ถ้าอยากด่าแขกก็ให้ด่าในใจสิ่งที่จะแสดงออกมาได้ต้องเป็นแค่รอยยิ้ม และคำพูดหวานหูเท่านั้น และไม่ต้องกลัวว่าใครจะไปแกล้งเธออีก เพราะในนั้นเป็นห้องวีไอพี ถ้าแขกไม่เรียกคนเพิ่มก็จะไม่มีใครเข้าไปวุ่นวาย แต่ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือให้รีบโทรหาฉันด่วน ส่วนอันนี้ไว้ในกรณีฉุกเฉินนะ”
พราวร่ายยาว ทั้งสอน ทั้งย้ำ และสั่งเพื่อนไว้ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น จากนั้นก็ดึงสเปรย์พริกไทยขวดจิ๋วใส่มือของเพื่อนไว้ป้องกันตัวในกรณีที่มีคนมาช่วยไม่ทัน เมลดารับมาซุกไว้ใต้ขอบกระโปรงก่อนจะกล่าวขอบใจเพื่อน
“ขอบใจมากนะแก”
“อย่าเพิ่งซาบซึ้งอะไรในตอนนี้เลย รีบเข้าไปเถอะเดี๋ยวแขกจะรอนาน”
“อืม”
เมลดาสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วก้าวตรงไปยังเป้าหมายที่เพื่อนชี้ทางให้ เธอละทิ้งความกลัว ความกังวล และทุกสิ่งไว้เบื้องหลัง เพราะนี่เป็นโอกาสทองที่เธอจะต้องรีบคว้าเอาไว้ก่อนที่โอกาสจะหลุดลอยไป
…………………………………………
วิลเลียมกระตุกหัวคิ้วนิดหนึ่งเมื่อเห็นร่างอรชรในชุดเดรสสั้นเหนือหัวเข่าเดินเข้ามา ใบหน้าใสซื่อที่เขาเห็นในงานศพไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางบางๆ สลัดคราบเด็กสาวเรียบร้อยที่นั่งร้องให้ขี้มูกโป่งกลายเป็นผีเสื้อราตรีแสนสวยเย้ายวนราวกับเป็นคนละคนกัน
เมื่อชั่วโมงก่อนหลังจากที่เขาเดินทางกลับจากงานศพ ก็ได้มีปากเสียงกับนางแบบสาวจนถึงขั้นไล่ให้เธอกลับต่างประเทศ แต่เมื่อเจ้าหล่อนยืนยันว่าจะอยู่กับเขาที่เมืองไทย วิลเลียมเลยเดินออกมาจากโรงแรมอย่างหัวเสีย แล้วมานั่งหาที่สงบสติอารมณ์อยู่ที่ไนต์คลับแห่งนี้
แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะบังเอิญเจอกับเด็กทุนที่ลุงของตัวเองเป็นคนอุปการะค่าเทอมให้ แถมเขายังตกปากรับคำกับโลแกนว่าจะสานต่อเรื่องทุนร่วมกับโลแกนแทนลุงที่ล่วงลับไป นั่นก็แสดงว่าเด็กทุนของเขากำลังมาทำงานที่นี่ซึ่งเขาไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
จะด้วยค่าใช้จ่ายไม่พอหรือความจำเป็นอะไรก็แล้วแต่ เธอก็ไม่สมควรมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ เพราะนักศึกษาที่มีการศึกษาดีๆต้องไม่เลือกมาทำอาชีพเสริมในลักษณะนี้ แต่กระนั้นก็ไม่อาจชี้หน้าด่าหรือต่อว่าเธอได้ นอกจากนั่งนิ่งๆเก็บอารมณ์กรุ่นๆไว้ข้างในเพียงเท่านั้น
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเมย์จะมาดูแลคุณในคืนนี้ค่ะ”
เมลดายกมือไหว้ทักทายแบบไทยด้วยท่าทางเกรงๆ เมื่อนัยน์ตาคมกริบนั้นจับจ้องเธอไม่วางตา ด้วยการที่เห็นว่าหน้าตาเขาเป็นฝรั่งเลยทักทายออกไปเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมๆกับแอบชื่นชมในความหล่อเหลาของชายหนุ่ม เธออดแอบยอมรับกับตัวเองไม่ได้ว่าฝรั่งตรงหน้าดูหล่อเหลาอย่างที่เธอไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน
‘ทำไมหัวใจของเราเต้นแรงแบบนี้นะ’
เมลดาพึมพำถามตัวเองในใจพลางบีบมือเล็กไว้แน่นจนเหงื่อเริ่มซึมออกมาเต็มฝามือ ทั้งที่ห้องนี้เปิดแอร์เย็นเฉียบ
เธอไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะสายตาคมกริบของเขา หรือว่าเพราะเป็นแขกคนแรกที่เธอกำลังจะใกล้ชิดด้วยกันแน่ ที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูกแบบนี้
“จะยืนอีกนานไหม”
เสียงทุ้มต่ำเป็นภาษาอังกฤษเอ่ยขึ้นหลังจากที่นิ่งเงียบอยู่นาน รอว่าเมื่อไหร่สาวน้อยจะเดินมาหย่อนสะโพกลงข้างๆตน จนเมื่อเวลาผ่านไปหลายนาทีความอดทนก็สิ้นสุดลง
เมลดาสะดุ้งโหยงก่อนจะค่อยๆเดินมานั่งลงข้างๆเขา พยายามอย่างยิ่งที่จะนึกถึงสิ่งที่พราวได้พร่ำสอนเธอไว้ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาหาใบหน้าหล่อเหลาพลางฉีกยิ้มหวานส่งให้ทั้งที่ในใจนั้นแอบหวั่นอยู่ไม่น้อย เพราะห้องนี้นอกจากเธอและเขาก็ไม่มีใครอีกเลย และถ้าคนตัวใหญ่อย่างเขาคิดจะทำมิดีมิร้ายกับเธอ แรงอันน้อยนิดของผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอก็คงสู้เขาไม่ได้เป็นแน่
เมลดาเริ่มที่จะรินไวน์ราคาแพงใส่แก้วด้วยอาการมือไม้สั่นนิดๆ ส่งให้กับเขา ความรู้ในเรื่องการอ่อยผู้ชายมีแค่ไหนก็พยายามงัดออกมาใช้ให้หมด โดยเฉพาะการแสดงที่เธอต้องงัดจริตมารยาของผู้หญิงกร้านโลกทั้งที่ตรงข้ามกับชีวิตจริงของเธออย่างสิ้นเชิง
วิลเลียมเองก็ลอบสังเกตอาการของหญิงสาวอยู่เงียบๆโดยที่ไม่พูดอะไรออกมา เขานั่งจีบไวน์โดยที่ไม่คิดจะล่วงเกินเธอเลยแม้แต่น้อย เพราะรอดูอยู่ว่าเธอจะใช้ไม้ไหนมาเอาอกเอาใจเขา แต่นอกจากรอยยิ้มและความเงียบเขาก็ไม่ได้รับอะไรจากเธอเลย
‘หึ! นี่หรือผู้หญิงที่ถูกส่งมาเอาใจแขกวีไอพี’
ชายหนุ่มคิดในใจพลางส่ายหน้าเบาๆกับความไม่ได้เรื่องของผีเสื้อราตรีตัวนี้ เห็นทีงานนี้เขาจะต้องเป็นฝ่ายรุกเองเสียแล้วกระมัง คิดได้ดังนั้น มือใหญ่ก็ไม่รอช้าที่จะจับร่างอรชรรั้งขึ้นมาไว้บนตักหนาของตัวเอง ท่ามกลางอาการตกใจของสาวน้อยที่ไม่ทันระวังตัว
“อุ๊ย!”
เมลดาเผลอหลุดอุทานออกมา เมื่อจู่ๆร่างของเธอก็ลอยหวือลงมากองอยู่บนตักกว้างแข็งแกร่งของเขาอย่างง่ายดาย และรวดเร็ว ตอนแรกเธอจะขัดขืนแต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เพื่อนได้สอนไว้ก็ยอมนั่งนิ่งๆไม่ไหวติง เพราะไม่อยากทำให้แขกอารมณ์เสียแล้วไล่เธอออกไป เพราะถ้าเป็นแบบนั้นเห็นทีงานนี้ต้องอดได้ทิปก้อนโตจากแขกเป็นแน่
ดูจากเสื้อผ้าแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า และนาฬิกาเรือนหรูตรงข้อมือใหญ่ก็บ่งบอกถึงสถานะทางการเงินของอีกฝ่ายแล้วว่าไม่ธรรมดา และยิ่งท่าทางสุขุม นิ่งขรึม แลดูมีอำนาจแล้วก็เดาไม่ยากว่าเขานั้นน่าจะมีอำนาจตำแหน่งไม่น้อย เผลอๆบางทีเขาอาจจะเป็นนักธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการใหญ่โตก็เป็นได้
“เมื่อกี้เธอบอกว่าชื่ออะไรนะ ฉันได้ยินไม่ถนัด”
“มะ…เมย์ค่ะ”
หญิงสาวรู้สึกเหมือนลมหายใจตัวเองกำลังติดขัด เสียงทุ้มต่ำวนเวียนถามอยู่ใกล้ใบหูเล็ก และมันใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆของคนถาม
“คิดอะไรอยู่เหรอเมย์”