พยศรักพ่อเลี้ยงบ้านไร่ 02
โจมตี
"นางแบบสาวชื่อดัง ม. ปฏิเสธแฟนคลับที่เข้าไปขอถ่ายรูปอย่างไม่รักษาน้ำใจในขณะที่เดินซื้อของอยู่ในห้างสรรพสินค้าดัง โดยให้เหตุผลว่า 'นี่เป็นเวลาส่วนตัว' ทั้งที่แฟนคลับสาวทั้งสองคนนั้นชื่นชอบผลงานของเธอมากและติดตามเธอมานาน"
xxx : นี่ไงฉันบอกแล้วว่าชีหยิ่งมากกก
xxx : นี่เห็นมาหลายครั้งแล้วจากตอนแรกที่ชอบตอนนี้เลิกติดตามไปนานแล้ว ติดตามแค่น้องอันดาคนเดียวก็พอ
xxx : โห่ เสียความรู้สึกมากอะเห็นแบบนี้จากตอนแรกที่ชอบมากติดตามมานาน คนเป็นแฟนคลับก็ไม่ขออะไรมากเลยแค่นี้ให้กันไม่ได้เลยเหรอ
xxx : การที่เจ้าของเพจเอาข่าวมาเขียนแบบนี้เพื่อเรียกกระแสรึเปล่าคะ แล้วไอ้คนที่คอมเมนต์เนี่ยอ่านหนังสือไม่แตกกันเหรอเพจมันก็เขียนบอกไว้อยู่ว่าเดินซื้อของในห้างฯ ฮัลโหลมันก็คือเวลาส่วนตัวปะ เป็นคนดังก็ต้องมีเวลาส่วนตัวนะฝากไว้ให้คิดใช่ว่าจะต้องไปทำตามใจแฟนคลับตลอดเนอะ
xxx : คนที่คอมเมนต์ต่อว่าเขาก็คงอ่านหนังสือไม่แตกจริง ๆ เขาก็บอกอยู่ว่าเวลาส่วนตัวเนาะ เป็นแฟนคลับที่ดีไม่ควรก้าวก่ายเวลาส่วนตัวของเขาค่ะ
xxx : @xxx แต่ก็ควรจะตอบแฟนคลับดี ๆ รึเปล่าเขาอุตส่าห์ติดตามผลงานมานาน
xxx : @xxx แล้วที่ตอบนี่ไม่ดีตรงไหนอะยังไม่เห็นถึงคำหยาบคายตรงไหน แล้วที่บอกติดตามมานานนี่มีหลักฐานมายืนยันไหมเดี๋ยวก็เหมือนพวกที่ผ่านมาที่ว่าจะเข้ามาโจมตีเขาแต่ดันพลาดเพราะไม่ใช่แฟนคลับจริง ๆ แต่เป็นแฟนคลับของคนอื่น
นางแบบสาวไล่สายตาอ่านข้อความบนหน้าจอไอแพดพร้อมกับไล่อ่านความคิดเห็นของผู้คนที่พากันเข้ามาแสดงความเห็นอย่างไม่ใส่ใจ
"หึ คิดไว้ไม่มีผิด" มุมปากเรียวยกยิ้มขึ้นมาอย่างเย้ยหยันมือเรียวปิดหน้าจอไอแพดลงก่อนจะวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง เธอคิดไว้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องมีกระทู้นี้เข้ามาโจมตีเธอแต่ถ้าหากเธอเป็นคนอ่อนแอคงจะอยู่ในวงการมายาแบบนี้ไม่ได้นานขนาดนี้
เธอไม่ได้สนใจกับคอมเมนต์ที่ต่อว่าเธอเสีย ๆ หาย ๆ เพราะไม่คิดจะให้ค่าอยู่แล้ว มิลลิกาล้มตัวลงนอนบนเตียงก่อนจะหลับตาเข้าสู่ห้วงนิทราไปในเวลาต่อมา
วันต่อมา...
ครืด~ ครืด~
"อะไรนักหนาเนี่ย!!" เสียงหวานสบถออกมาอย่างหัวเสียในขณะที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงแต่เสียงสั่นครืดคราดของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ปลุกให้เธอตื่นจากการหลับใหล มือเรียวเอื้อมไปหยิบขึ้นมาก่อนจะเลื่อนรับสายโดยที่ยังไม่ลืมตาขึ้น
(นี่แกตื่นหรือยังยัยมิล)
"มีอะไรอีกคะ?" คิ้วสวยขมวดชนกันยุ่งเมื่อได้ยินเสียงของเอมมี่ดังออกมาจากโทรศัพท์
(นี่แกยังกล้ามาถามอีกเหรอฮะ!? วันนี้มีคิวถ่ายงานวันสุดท้ายแกรีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วมาเร็ว ๆ เลยนะไม่แฉะนั้นแกกับฉันมีเรื่องแน่)
"เออ รู้แล้วน่า" นางแบบสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนจะกดวางสายแล้วโยนโทรศัพท์ลงที่เดิมก่อนจะลากสังขารอันเกียจคร้านเข้าห้องน้ำไป
มิลลิกาใช้เวลาไม่นานก็ขับรถมาถึงสถานที่ถ่ายทำในวันนี้ นางแบบสาวเดินลงจากรถก่อนจะมีทีมงานมาพาไปแต่งหน้าทำผมแล้วก็เปลี่ยนชุดรอเข้าฉากต่อไป
"เตรียมเข้าฉากได้เลยครับ เซตนี้จะเป็นเซตถ่ายรวมนะครับ น้องธันวาอยู่กลางน้องมิลอยู่ทางขวาทั้งคู่หันหน้าเข้ากันครับ" เสียงของตากล้องบอกทำให้ธันวาซึ่งเป็นนายแบบหนุ่มมาแรงทำตามเช่นเดียวกับมิลลิกาที่ทำได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง โดยที่มีอันดานางแบบรุ่นน้องไฟแรงร่วมเซตอยู่ด้วย
"โอเค น้องอันจับไหล่น้องธันไว้นะครับแนบใบหน้าลงกับแผ่นหลังเลย แบบนั้นครับ"
แชะ! แชะ!
"ดีมากครับ น้องมิลโอบลำคอน้องธันไว้ครับใบหน้าชิดกันหันมองกล้องครับ" ทั้งสามคนเปลี่ยนท่าโพสต์ได้เป็นอย่างดีในขณะที่ตากล้องกดชัตเตอร์รัว ๆ ความเป็นมืออาชีพของนายแบบและนางแบบหน้ากล้องทำให้เหล่าทีมงานต่างมีความสุขไปตาม ๆ กันที่ไม่มีอุปสรรคอะไรเข้ามาขวาง
"โอเคครับทุกคน เซตนี้สวยมากวันนี้ปิดกล้องครับ"
"เย้!!! ฮู้วววว!!" เสียงของทีมงานร่องออกมาเสียงดังด้วยความดีใจหลังจากที่เหนื่อยกันมานาน ที่เหนื่อยไม่ใช่หมายถึงงานแต่หมายถึงต้องคอยกันนางแบบสาวทั้งสองคนแยกออกจากกันไหนจะรับมือกับนิสัยขี้วีนและเอาแต่ใจของมิลลิกา เพราะแบบนี้เมื่อได้ยินคำพูดของตากล้องทำให้อดที่จะดีใจไม่ได้
"วันนี้ทำได้ดีมาก" เสียงของเอมมี่ดังขึ้นหลังจากที่มิลลิกาเดินออกมาจากฉากหลังจากถ่ายเสร็จในเซตสุดท้าย หญิงสาวเพียงแค่มองหน้าก่อนจะหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม
"วันนี้มีงานแค่นี้ใช่ไหมคะ?"
"อืม"
"วันนี้เชิญทุกคนไปเลี้ยงฉลองปิดกล้องที่ผับกันด้วยนะ ขาดไม่ได้เลยสำหรับนางแบบและนายแบบคนสำคัญของเรา ไปกันด้วยนะครับ" เสียงของตากล้องดังขึ้นในขณะที่จัดการเก็บกล้องเข้ากระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
"อย่าลืมไปนะครับน้องมิล" ตากล้องหนุ่มหันมาบอกกับนางแบบสาวอย่างมิลลิกาที่ยืนอยู่เธอเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยแต่ไม่ได้ตอบอะไรออกไป
"ถ้างั้นมิลไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ" เธอหันไปบอกกับผู้จัดการส่วนตัวก่อนจะเดินไปยังห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนชุด
"อืม"
"น้องมิลจะกลับแล้วเหรอครับ?" ในขณะที่มิลลิกาเก็บของอยู่หน้าโต๊ะแต่งหน้าหลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จเงยหน้าขึ้นมามองนายแบบหนุ่มอย่าวธันวาที่เดินเข้ามาในห้อง
"ค่ะ"
"เย็นนี้มีงานเลี้ยงปิดกล้องมิลไปไหม?"
"ไม่รู้สิคะ" นางแบบสาวตอบอย่างไม่ใส่ใจเธอรู้จักชื่อเสียงของธันวาดีว่าเจ้าชู้แค่ไหนถึงตอนนี้นายแบบหนุ่มจะมีแฟนสาวอย่างแพรพลอยซึ่งเป็นนางแบบในวงการเดียวกันแต่นั่นก็ใช่ว่าจะหยุดความเจ้าชู้ของธันวาได้
"แต่พี่อยากให้มิลไปนะครับ อุตส่าห์ทำงานเหนื่อยมาตั้งหลายวันถือว่าเลี้ยงส่งท้ายเพราะกว่าเราจะได้ร่วมงานกันก็คงอีกนานเลย" การที่จะได้ร่วมงานกับนางแบบคิวทองอย่างมิลลิกาไม่ใช่เรื่องง่ายเลยการจะสานสัมพันธ์กับเธอเช่นกัน ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ข่าวคราวในวงในเรื่องของเธอไม่ว่าจะเรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานต่าง ๆ หรือข่าวการเป็นมือที่สามแต่ทว่ากลับไม่มีใครสามารถหาหลักฐานมาพิสูจน์ความจริงได้เลยว่านั่นคือเรื่องจริงหรือเป็นเพียงแค่ข่าวลือ
"อีกอย่างเราจะได้กระชับความสัมพันธ์ฉันพี่น้องที่ร่วมงานกัน..."
"ทำอะไรกัน?" ธันวาถอยห่างจากมิลลิกาทันทีเมื่อได้ยินเสียงของแฟนสาวอย่างแพรพลอยที่เปิดประตูเข้ามาในห้อง แพรพลอยต้องหน้าธันวาเขม็งสลับกับนางแบบสาวรุ่นน้องก่อนจะเดินเข้าไปยืนข้าง ๆ แฟนหนุ่ม
"เราก็แค่คุยกัน ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น" ธันวารีบเข้าไปโอบไหล่แพรพลอยเอาไว้เพราะกลัวแฟนสาวจะปรี๊ดแตกกลางห้องแต่งตัวเขากลัวจะเป็นข่าวอย่างที่ผ่าน ๆ มา
"อันว่าไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่ธันกับพี่มิลคงพูดคุยกันฉันพี่น้องที่ร่วมงานกันเท่านั้นแหละค่ะ" อันดาที่เดินตามเข้ามาก็เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มทำให้แพรพลอยหันมองนิ่ง ๆ
"อย่าให้ฉันรู้นะว่ามีอะไรมากกว่านั้น เพราะฉันไม่ปล่อยเอาไว้แน่" แพรพลอยเอ่ยออกมาพร้อมกับมองหน้าแฟนหนุ่มรุ่นพี่ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ใบหน้าของมิลลิกา ธันวาที่เห็นท่าไม่ดีก็รีบพาแฟนสาวออกไปจากห้องทันทีเพราะไม่อยากจะมีข่าวเสียหายตอนนี้
"คืนนี้เจอกันที่งานเลี้ยงนะคะพี่มิล อันอยากร่วมงานเลี้ยงส่งท้ายกับพี่ค่ะ" อันดาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มหวานแต่ทว่ามิลลิกากลับมองออกว่ามันรอยยิ้มที่เสแสร้งขนาดไหน
นางแบบสาวปรายตามองนางแบบรุ่นน้องเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป ถ้าเธออ่อนต่อโลกคงอยู่ในวงการมายาที่ใส่หน้ากากเข้าหากันแบบนี้ไม่ได้
@คอนโดมิลลิกา
"แกยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น" ทันทีที่มิลลิกากำลังจะเดินไปที่ห้องนอนหลังจากเปิดประตูเข้ามาในคอนโดจำต้องหยุดเดินก่อนจะหันหน้าไปทางต้นเสียงที่เอมมี่เดินตามหลังเข้ามา
"มีอะไรอีกคะ?" นางแบบสาวเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายเธออุตส่าห์รีบกลับหลังจากถ่ายงานเสร็จเพื่อจะมานอนพักผ่อนต่อแต่ทว่ากลับต้องมานั่งฟังผู้จัดการส่วนตัวบ่น
"ฉันยังไม่ได้เคลียร์เรื่องข่าวเมื่อคืน" เป็นอีกครั้งที่นางแบบสาวกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายกับอีแค่ข่าวแค่นี้ไม่รู้จะไปให้ค่ามันทำไมนัก
"บอกหลายทีแล้วใช่ไหมเรื่องที่แฟนคลับขอถ่ายรูป"
"ก็บอกไปแล้วไงคะว่าเป็นเวลาส่วนตัว เป็นคนดังก็ต้องมีเวลาส่วนตัวกันบ้างสิคะจะไปคอยทำตามความต้องการของแฟนคลับอย่างเดียวมันก็ใช่เรื่องนะ" เธอเบื่อหน่ายกับเรื่องแบบนี้เต็มทน ใช่ว่าจะไม่แคร์หรือไม่สนใจแฟนคลับแต่ก็ต้องดูเวลาที่เหมาะสมด้วยใช่ว่าจะเข้ามาขอถ่ายรูปตอนไหนก็ได้ เธอก็เป็นคนต้องการเวลาส่วนตัวเหมือนกัน
"ถ้าจะพูดเรื่องนี้มิลขอไม่ฟังนะคะ เหนื่อยจะไปนอนแล้ว"
"คืนนี้แกต้องไปงานเลี้ยงปิดกองด้วย แกเป็นตัวหลักในงานคืนนี้ต้องไปพบผู้สนับสนุนโปรเจกต์นี้" มิลลิกาไม่ตอบเธอเลือกที่จะเดินเข้าไปในห้องนอนทันทีโดยปล่อยให้เอมมี่ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน เธอมีนางแบบนายแบบในสังกัดอีกหลายคนที่จะต้องดูแลแต่ทว่ากลับต้องมาปวดหัวอยู่กับคนคนเดียว
@BG CLUB
ร่างระหงของนางแบบสาวในชุดเดรสรัดรูปเกาะอกที่มีสายคล้องคอความยาวของชุดสั้นเหนือเข่าขึ้นมาเห็นโคนขาอ่อนด้วยสีของชุดที่เป็นสีดำสนิททำให้ขัดกับผิดขาวเนียนจนเป็นที่ดึงดูดสายตาแก่คนที่พบเห็น
มิลลิกาเดินไปยังโซนที่จัดเป็นสถานที่เลี้ยงปิดกล้องที่อยู่อีกโซนทันทีเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เอมมี่เดินเข้ามา
"มาพอดีนี่ทางเจ้าของโปรเจ็กต์ถามหาอยู่" นางแบบสาวเดินตามผู้จัดการส่วนตัวไปยังโต๊ะหนึ่งที่มีเหล่าผู้ร่วมโปรเจ็กต์และเจ้าของนั่งดื่มสังสรรค์กันอยู่
"สวัสดีค่ะ" เสียงทักทายของเธอทำให้คนที่นั่งอยู่หันหน้ามามองด้วยรอยยิ้ม
"สวัสดีครับ ขอบคุณมากเลยนะครับที่ยอมมาถ่ายแบบให้โปรเจ็กต์ของทางเรา" ชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
"ยินดีค่ะ ขอบคุณเช่นกันนะคะที่ติดต่อมา"
"แน่นอนครับ นางแบบมืออาชีพแบบนี้ใคร ๆ ก็อยากร่วมงาน นี่ผู้สนับสนุนโปรเจ็กต์อีกคนยังไม่มาเลย คุณสนใจร่วมโต๊ะด้วยกันไหมครับ"
"เอ่อ...ไม่เป็นไรค่ะ" นางแบบสาวพูดคุยกับเหล่าผู้ลงทุนอยู่สักพักก่อนจะขอตัวแยกย้ายออกไป
"ทำไมมานั่งอยู่คนเดียวล่ะครับ งานไม่สนุกเหรอ?" เสียงทักทายของธันวาทำให้มิลลิกาที่นั่งดื่มอยู่หน้าโต๊ะบาร์เพียงแค่ปรายตามองเล็กน้อยเธอยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบไม่ได้สนใจคนที่เข้ามาใหม่อย่างที่ควร แต่ทว่านายแบบหนุ่มกลับไม่หยุดแค่นั้นเขาถือวิสาสะหย่อนสะโพกนั่งลงเก้าอี้ข้าง ๆ กันก่อนจะสั่งบาร์เทนเดอร์ให้ชงเหล้าแก้วใหม่ให้
"นั่งดื่มคนเดียวมันเหงานะ งั้นพี่ขอนั่งเป็นเพื่อนแล้วกัน"
"แฟนพี่ไม่มาเหรอคะถึงมานั่งกับผู้หญิงอื่นได้แบบนี้" มือเรียวแกว่งแก้วเหล้าของตัวเองไปมาอย่างช้า ๆ ในขณะที่สายตามองแบบหนุ่มรุ่นพี่นิ่ง ๆ
"อย่าพูดถึงคนอื่นเลยครับ ตรงนี้มีแค่เรานะ" มิลลิกายกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยันให้กับคนตรงหน้า เธอล่ะอยากให้แพรพลอยมาได้ยินคำพูดของแฟนหนุ่มที่รักจนหัวปักหัวปำนักว่ายังจะโง่ตาบอดยอมเชื่อร้อยเล่ห์กลผู้ชายอย่างธันวาอยู่อีกไหม
"พูดแบบนี้เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้ามันจะดูไม่ดีนะคะ"
"ถ้างั้นเราไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันดีกว่าไหมครับ" ธันวาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความร้ายกาจ ผู้หญิงถึงแม้จะว่าใจแข็งขนาดไหนแต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับผู้ชายอย่างเขาอยู่วันยังค่ำ
------
นางเอกเราสายฟาดค่ะฟาดหมดไม่สนลูกใคร แฟนคลับก็ด้วยค่ะ 55555
อ่านแล้วอย่าลืมกดใจ + คอมเมนต์เพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะคะ