" หม้อแกงฝากมาให้มึงแล้วให้กูบอกว่า ต่อไปจากนี้ไปมึงกับเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก"
ผมอึ้งยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นอย่างทำอะไรไม่ถูก ทำไมได้ยินคำนี้แล้วมันจุกที่หน้าอกข้างซ้าย เพื่อนๆผมคนอื่นๆก็นิ่งงันไปตามกันไม่มีใครเปล่งเสียงออกมา
"มึงเจอหม้อแกงที่ไหน"
ผมถามมันออกไปด้วยเสียงสั่นๆ มันเค้นหัวเราะออกมา
" หน้าห้องที่พวกมึงกำลังคุยกันอยู่ไง"
ไอ้แบร์รี่พูดจบพวกผมอีกสี่คนอ้าปากค้างกันทันที นี่หม้อแกงได้ยินทุกอย่างที่ผมคุยกับไอ้พวกนี้ตั้งแต่เรื่องน้องมะปรางเลยอย่างงั้นเหรอ แล้วทำไมหน้าผมถึงร้อนผ่าวอยากจะร้องไห้แบบนั้นวะ ความรู้สึกนี้มันคืออะไรวะ
"ชิบหายแล้วไอ้ปอร์เช่ มึงจะเอาไงต่อ"
ไอ้เกอร์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจสุดๆ
"กูไม่รู้วะ"
ผมสมองตื้อไปหมดยัยนั้นบอกเลิกผมแล้วอย่างงั้นเหรอ ผมไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้นะ คือผม
"ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอไงไอ้ปอร์เช่มึงอยากเลิกกับเค้าอยู่แล้วหนิ ตอนนี้มึงก็คบกับน้องมะปรางของมึงอย่างเปิดเผยโดยไม่ต้องสนใจยัยแว่นนั้นแล้ว ดีจะตายหนิ"
ไอ้แบร์รี่น้ำเสียงติดประชดผมกลายๆแล้วมันก็เดินออกจากห้องไปทันที ผมพูดไม่ออกจริงๆไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง แต่ก็ชั่งเถอะผมอยากคบกับน้องมะปรางอยู่แล้วหนิ งั้นก็ปล่อยเลยตามเลยแล้วกัน
" พวกมึงเงียบกันทำไมวะกูโอเค ดีอย่างที่ไอ้แบร์รี่บอกไงกูจะได้ไม่ต้องไปหาวิธีเลิกกับยัยแว่นไง"
ผมพยายามพูดให้พวกมันรู้สึกดีขึ้นแต่เหมือนว่าพวกมันจะรู้สึกผิดต่อยัยแว่นเพราะสิ่งที่พวกเราพูดกันนั้นใครได้ยินก็คงเจ็บปวดเหลือเกิน
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป..
Mawkaeng Talk
นี่ก็ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ฉันกับปอร์เช่ไม่ได้คุยอะไรกันเลย หลังจากวันนั้นเขาก็พยายามติดต่อมาคุยกับฉัน ทั้งโทรทั้งไลน์มาหาที่ห้องแต่ฉันไม่อยากคุยไม่อยากเจอเขา วิชาที่ลงเรียนห้องเดียวกันฉันก็ไม่ได้เข้า เห้อ ฉันเดินไปเรื่อยๆ ไม่รู้จุดมุ่งหมาย ก่อนจะไปเจอเข้ากับไอ้คนที่ฉันพยายามหลบหน้าเขามาตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเขากำลังมองมาทางฉันอยู่ ซวยจริงๆฉันรีบหันหน้าหนีจู่ๆก็มีมือมาดึงฉันไว้
"หลบหน้าฉันทำไม"
ฉันเงียบไม่ตอบอะไร เขาบีบแขนฉันแน่น
"ไม่มีปากหรือไงถามทำไมไม่ตอบ"
ฉันเงยหน้ามองเขานิ่ง
"มีอะไรกับฉันไม่ทราบ"
ฉันพยายามคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ ฉันไม่อยากอ่อนแอให้เขาเห็น
"เธอกล้ามากนะมาบอกเลิกฉันนะ"
เขาเค้นเสียงหัวเราะออกมาใส่ฉัน ฉันมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
"ต้องการอะไรอีก นายต้องการแบบนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"
ฉันถามออกไปน้ำตาเริ่มคลอเบ้า ฉันปาดน้ำตาทิ้งเหมือนเขาจะตกใจไม่น้อยที่ฉันร้องไห้ออกมา
"เอ่อ คือฉัน ฉัน ขะ"
" พี่ปอร์เช่คะรอมะปรางนานมั้ย แล้วนี่ใครคะ"
ผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อมะปรางมองมาทางฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วแสยะยิ้มใส่ฉัน
" คงมาตามตื้อพี่ปอร์เช่สินะ เขามีแฟนแล้ว ไปไกลๆได้ล่ะ"
ยัยนั้นยังคงจิกฉันไม่เลิกกอดแขนแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
" แล้วนายจะเสียใจที่ทำกับฉันแบบนี้ปอร์เช่"
พูดจบฉันก็เดินหนีไปจากตรงนั้นทันที มันถึงเวลาแล้วที่ฉันจะเอาคืนเขาบ้าง เขาจะต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่เขาทำกับฉัน ฉันกลับมาคอนโดตัวเองก่อนจะไปโล๊ะตู้เสื้อผ้าทิ้งให้หมดแล้วโทรหายัยเพ้นตี้
(ว่าไงแก)
"เพ้นตี้แกต้องช่วยฉัน"
(ช่วยอะไร)
" เจอกันที่ห้าง U"
(โอเค)
ฉันกดวางแล้วหยิบกุญแจรถที่ไม่ค่อยได้ขับกับกระเป๋าเงินเดินออกไปจากคอนโดทันที
@ห้างสรรพสินค้า U
ฉันนั่งรถยัยเพ้นตี้ประมาณ5นาทีมันก็วิ่งมาทางฉันที่กำลังนั่งกดโทรศัพท์เล่นอยู่
"รอนานมั้ยแก"
ฉันส่ายหน้าเบาๆก่อนเอ่ยออกมา
"ไม่หรอก ป่ะไปเถอะ"
มันมองฉันอย่างงงๆว่าฉันจะทำอะไร
"แกจะทำอะไรพิเรนท์ใช่ไหม"
ฉันหัวเราะหึหึ
"ฉันจะเป็นคนใหม่ไงแก"
พูดจบฉันก็ลากยัยเพ้นตี้ไปเข้าร้านเสื้อผ้า เลือกชุดที่สวยบาดใจชายที่สุด มีทั้งเซ็กซี่ เดรสคุณหนู ชุดกระโปรง เสื้อหลายๆแบบ ได้มาเกือบยี่สิบชุด จากนั้นก็ไปซื้อคอนแทคเลนส์มาสามคู่ แล้วก็ซื้อรองเท้ากระเป๋าใหม่ ชุดนักศึกษาใหม่ จากนั้นก็ไปสปาหน้าสปาตัว ทำผมทรงใหม่
" แม่งอิหม้อ มึงสวยชิบหาย อ๊ายๆๆๆๆ"
มันดูจะตื่นเต้นนะหลังจากที่ฉันทำผมเปลี่ยนลุกใหม่มันกริ๊ดกราดอะไรก็ไม่รู้
"จริงเหรอ"
ฉันถามขึ้นก่อนมองในกระจก แล้วก็ต้องตกใจ อินี้ใครวะ ฮ่าๆๆ ไม่คิดว่าตัวเองพอแต่งเนื้อแต่งตัวขึ้นมาแล้วจะพอดูได้นะเนี้ย
"อิเหี้ย สวยกว่าอิผู้หญิงคนปัจจุบันที่ไอ้ปอร์เช่ควงซะอีก"
ฉันหน้าหงอยขึ้นมาทันที มันหัวเราะแหะๆก่อนจะตีปากตัวเอง
"ขอโทษนะแก พรุ่งนี้เราจะไปเชิดใส่ไอ้ผู้ชายที่มันไม่เห็นคุณค่าของเรานะคะเพื่อนสาว"
ฉันพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินออกมาจากร้านทำผม วันนี้กลับบ้านก่อนดีกว่า และตั้งแต่พรุ่งนี้ไปอิหม้อแกงคนเดินที่เฉิ่มๆมันได้ตายไปแล้ว