"คนนี้หรอที่ชื่อปรายฟ้า"ทันทีที่เข้ามานั่งในรถยนต์ไต้ฝุ่นก็เอ่ยถามพี่สาวขึ้นด้วยเสียงนิ่งๆ
"ใช่...สวยอย่างที่บอกไว้ไหม"ตอบกลับเสียงใสพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ
"หวานติดลิ้นเลย...หึ!"พอนึกถึงจูบเมื่อครู่ก็ทำเอาร่างสูงนั้นติดใจอยู่ไม่น้อย
"ว่าไงนะ?"ถามน้องชายที่โตมาด้วยกัน เพราะได้ยินไม่ค่อยถนัดกับสิ่งที่เขาพูดสักเท่าไหร่
"เปล่า...ก็งั้นๆ แหละ"
"อ้อ...แล้วปีหน้าจะเข้ามหาลัยที่ไหน?"
เนื่องจากไต้ฝุ่นกับเพียงฝันห่างกันแค่ปีเดียว เลยทำให้ทั้ง2คนสนิทกันมาก บวกกับโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ เพราะไต้ฝุ่นเป็นลูกบุญธรรมของป้าเธอและอยู่บ้านข้างๆ กัน
"เล็งๆ มหาลัยเดียวกับพี่ฝันนั่นแหละ"
"จะเข้าคณะอะไร...แล้วป้าฝนจะให้มาหรอ?"
"คุยกับแม่แล้ว...ฝุ่นจะเรียนวิศวะไฟฟ้า"
"อ้อ"
"สมัครผ่านเว็บไปแล้วด้วยนะ...อาทิตย์หน้ารู้ผล"ไต้ฝุ่นยกยิ้ม เมื่อนึกถึงใบหน้าแสนสวยของสาวร่างบางหุ่นดีในคอนโดเมื่อเช้านี้ แถมยังได้ลิ้มรสของความหวานจากโพลงปากนุ่มนิ่มนั่นอีก
"ดีเลยจะได้มาอยู่ใกล้ๆกัน...น้องชายพี่หล่อขนาดนี้...มาอยู่นี่จะต้องฮอตมากแน่ๆ"เพียงฝันเอ่ยชมน้องชาย
"ก็พูดเว่อร์...แล้วนี่จะแวะซื้ออะไรก่อนเข้าบ้านไหม?"ถามพี่สาวเมื่อขับเข้ามาในเส้นทางเมืองอยุธยา และอีกไม่ไกลก็จะถึงอำเภอของบ้านเขาแล้ว
"อยากกินสายไหม...ไปกินกัน"เพียงฝันตอบเสียงใส เพราะสายไหมอยุธยานี่ขึ้นชื่อมากๆ เลยและเป็นของโปรดของเธอด้วย
"ฝุ่นกินจนเบื่อแล้ว...พี่ฝันกินเถอะ...เดี๋ยวจอดให้"ว่าแล้วสายตาคมกริบก็มองไปยังถนนเบื้องหน้า พอเจอร้านประจำก็หักพวงมาลัยแล้วไปจอดหน้าร้านโรตีสายไหมข้างทางทันที
ติ้ง!!
ปรายฟ้า : แกออกไปตอนไหนเนี้ยทำไมไม่เห็นบอกฉันเลย
เสียงข้อความจากโทรศัพท์มือถือของเพียงฝัน ดังขึ้นอยู่บนเบาะข้างๆ ทำให้ไต้ฝุ่นหันไปมองหน้าจอสี่เหลี่ยมพร้อมกับข้อความจากใครบางคนที่เด้งขึ้นมา ก่อนที่จะยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าเป็นข้อความของสาวสวยที่เขาฉกจูบไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว
"อะไรจะสติหลุดขนาดนั้น?"กล่าวกับตัวเองเบาๆ มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะรีบหันไปมองเบื้องหน้า เพราะเพียงฝันกำลังจะเปิดประตูรถเข้ามาแล้ว
"เมื่อกี้ยิ้มอะไรอะ?"คนตาไวถามน้องชายขึ้นด้วยความสงสัย
"ดีใจเห็นพี่กลับบ้าน...ทำแกงเขียวหวานให้กินด้วยนะ"ทำเฉไฉพูดไปเรื่องอื่น
"ได้สิ...ปะรีบไปกันเถอะ...อยากกินตะโก้จะแย่แล้ว"เสียงหวานกล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส จากนั้นทั้งคู่ก็มุ่งตรงไปจนถึงบ้าน
อีกด้าน...
ติ้ง!!
ฮันเตอร์ : ไปกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยดิ ว่างปะ
เสียงข้อความจากโทรศัพท์เครื่องหรูราคาแพงดังขึ้น ในขณะที่เจ้าของร่างอรชร ใบหน้าสวยสง่ากำลังนั่งดูซีรีส์เรื่องเดิมต่อจากเมื่อคืน เรียกสติให้เธอหันไปหยิบมันขึ้นมาตอบกลับทันที
“กรี๊ด ผู้ชายทักมา” พูดขึ้นด้วยความดีใจเมื่อนึกถึงเพื่อนผู้ชายที่เพิ่งรู้จักเมื่อไม่นานมานี้ แถมยังได้ทำรายงานกลุ่มเดียวกันอีกด้วย
ปรายฟ้า : ว่าง
ฮันเตอร์ : ไปกินข้าวกัน
ปรายฟ้า : ได้สิ แต่ขออาบน้ำก่อนนะ
ฮันเตอร์ : ส่งโลเคชั่นไว้เลยนะ เดี๋ยวไปรับ
“ฮือ...ผู้ชายจะมารับ...อีปราย...แกจะมีผัวแล้ว” พอนึกถึงหนุ่มหล่อมาดนิ่งนามว่าฮันเตอร์ก็พานทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหว รีบสะบัดผ้าห่มและปิดคอมทันที วินาทีนี้ซีรีส์ก็ซีรีส์เถอะ พักไว้ก่อน จะมาดูตอนไหนก็ได้ แต่ผู้ชายชวนเดต เลื่อนนัดไม่ได้เด็ดขาด!!
นานๆ ทีจะมีเป้าหมายตรงสเปกขนาดนี้ผ่านเข้ามาสักคนหนึ่ง คว้าโอกาสเอาไว้ ถือเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
ใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนักก็รีบออกมาแต่งองทรงเครื่องด้วยความตื่นเต้น น้ำหอมแบรนด์ดังถูกประโคมใส่ตัวจนกลิ่นฟุ้งตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง
ฮันเตอร์ : ถึงแล้วนะอยู่ล็อบบี้ข้างล่าง
ปรายฟ้า : โอเค กำลังลงไป
นิ้วเรียวพิมพ์ตอบกลับไป พร้อมกับหันไปหยิบกระเป๋าใบเก่งขึ้นสะพายไหล่ แล้วรีบลงไปหาชายหนุ่มมาดนิ่งด้วยทีท่ากระดี๊กระด๊าทันที
“มาแล้ว” เอ่ยบอกเสียงใส แต่กลับได้ใบหน้าเรียบนิ่งมองมาที่เธอแทน
แอบหน้าเสียเล็กๆนะ นี่ชวนเธอมาแต่กลับไม่พูดไม่จาอะไรกับเธอเลยเนี้ยนะ มีมนุษยสัมพันธ์กับเธอหน่อยก็ดี เช่นชวนพูด ชวนคุยเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ที่เขาชวนผู้หญิงทานข้าวน่ะ เธอฮึดฮัดอยู่ในใจ
แต่เอาวะ เขาอาจจะแสดงออกไม่เก่งก็ได้ รอดูสถานการณ์ไปก่อน อีกอย่างอีตาฮันเตอร์ก็ดันเป็นผู้ชายในอุดมคติของเธอด้วย หล่อ สูง ขาว หน้านิ่ง พูดน้อย แต่ก็ไม่ควรน้อยขนาดนี้ไหม!!
“เธอชอบกินอะไร เลือกเลยนะ” แน่ะ แอบใส่ใจกลายๆ หลอกถามเมนูโปรดเธอชัดๆ ปรายฟ้ากระหยิ่มยิ้มย่องภายในใจ
“ชอบกินปิ้งย่าง”
“อืม” พยักหน้าตอบแล้วขับรถมุ่งตรงไปยังห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ
@BB Grill
“ฮันเตอร์ นายจะเอาน้ำอะไร” หญิงสาวเอ่ยถามชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
“เอาเหมือนเธอก็ได้” ตอบด้วยใบหน้าเรียบนิ่งตามสไตล์
ถามว่าชอบไหมผู้ชายนิ่งๆ ก็ชอบนะ แต่บางทีก็นิ่งเกินไป จนบางทีเธอก็เข้าไม่ถึง ถึงอย่างงั้นก็เถอะ สุดท้ายเธอก็พยายามชวนคุย เอาวะ...บางทีถ้าทำให้เขาประทับใจได้ เขาอาจจะชวนคุยมากขึ้นก็ได้
เขาว่ากันว่าคนนิ่งๆ เงียบๆ คุยน้อยๆ พอรู้สึกพิเศษกับใคร ก็จะพูดเยอะเลย แบบนี้ต้องลองซะแล้ว
“ปกติ...นายพูดน้อยแบบนี้หรอ” พยายามพูดคุยระหว่างที่รอของมาเสิร์ฟ
“อืม...” เป็นคำตอบเดียวของเขา ไม่คิดจะพูดคำอื่นบ้างเลยหรือไง ปรายฟ้าคิด
“แล้ว...ทำไมถึงชวนฉันล่ะ แดนเทพไปไหน?” ถามถึงเพื่อนอีกคนของเขาที่มักจะตัวติดกันตลอด
“ไม่ว่าง...” ถามคำตอบคำจนคนชวนคุยเริ่มที่จะท้อแล้ว เลยจำใจต้องสงบปากสงบคำลง บวกกับอาหารมาเสิร์ฟพอดี ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาต่างคนต่างกินโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาอีกเลย อึดอัดชะมัด!! เธอเอ่ยขึ้นกับตัวเองในใจอีกครั้ง
พอรับประทานอาหารเสร็จฮันเตอร์ก็บอกจะไปส่งเธอที่คอนโด แต่เธอก็ปฏิเสธว่าไม่เป็นไร เพราะจะเดินเล่นแก้เบื่อก่อนกลับ
“อืม งั้นฉันกลับก่อนนะ” อะไรกันเนี่ย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ชวนฉันเพื่อที่จะมากินข้าวแค่อย่างเดียวเนี่ยนะ เธอฮึดฮัดในใจกับท่าทีของผู้ชายที่เธอปลื้ม
“เอ่อ...อื้ม...กลับดีๆ นะ” แต่สุดท้ายก็ได้แต่ยกยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “บ้า บ้าที่สุด นายเป็นผู้ชายแบบไหนกันเนี่ยห๊ะ นายควรที่จะบอกว่าฉันเป็นคนพามาฉันก็ต้องพาเธอกลับด้วย ต้องแบบนี้ไม่ใช่หรือไง...นี่อะไร อืม...พูดเป็นคำเดียวหรือไงไอ้บ้าเอ๊ย” ทันทีที่ฮันเตอร์เดินจากไปไกลแล้ว เธอก็สบถออกมาเสียยาวยืดด้วยความหงุดหงิดทันที
“นี่ฉันปรายฟ้าเลยนะ ไม่คิดที่จะพูดประโยคยาวๆ กับฉันเลยหรือไง...เอ๊ะหรือเขาจีบสาวไม่เก่ง...” ราวกับเป็นไบโพล่า พูดเองเออเองอยู่คนเดียว
พยายามปลอบใจตัวเองว่าเขาอาจจะชอบเธอก็ได้ เพียงแค่ตอนนี้เก็บอาการ แต่จะเก็บอาการลึกเกินไปไหมล่ะ??? โอ้ย ไม่อยากคิดแล้ว นังปรายฟ้าปวดหัว
@โรงพยาบาลอภินันท์ประภากรณ์
“ลมอะไรหอบมา” ดวงตาแพรวพราวตวัดมองน้องสาวที่เอาแต่นั่งหน้ามุ้ยอยู่บนโซฟาตัวยาว ในห้องทำงานของเขาด้วยความสงสัย
“ปรายเบื่อ...เฮีย...ขอตังซื้อของหน่อยสิ”
“อะไรเนี่ย...เบื่อแล้วมาขอตังเฮียทำไม”
“ไม่งั้นไม่ช่วยจีบฝันนะ...เอาไง?” ออกเชิงขู่พี่ชาย
“เออๆ ...แล้วจะเอาเท่าไหร่” เมื่อตกเป็นรองจึงจำใจต้องยอมให้ ในใจก็แอบภาวนาว่าสาธุอย่าให้มันเบื่ออีกนะ เบื่อทีไรเสียเงินทุกที
“คิคิ...น่ารักอีกแล้วเฮียสุดหล่อของปรายเนี้ย” เอ่ยชมพร้อมกับถลาตัวไปออดอ้อนข้างๆ โต๊ะทำงานของพี่ชายสุดที่รัก
“ไม่ต้องมาชม อาทิตย์นี้ใช้เงินให้น้อยๆ หน่อยนะปราย ไม่งั้นเฮียจะฟ้องป๊า”
“ก็มันเครียด!”
“แล้วนี่เพื่อนปรายจะกลับมาเมื่อไหร่”
“มะรืนมั้ง เห็นบอกกลับไปทำบุญวันครบรอบพ่อแม่เสีย”
“น่าเห็นใจฝันเนาะ” พูดด้วยเสียงเศร้าๆ พลันนึกเห็นใจคนตัวเล็กเพื่อนน้องสาวของตน
“...สงสารก็อย่าคิดที่จะเล่นๆกับเพื่อนปรายเข้าใจไหม! ไม่งั้นเจอดีแน่” คาดโทษพี่ชายแล้วรีบดึงเช็คที่ปราณเซ็นออกไปจากมือ
“รู้แล้ว นี่กำลังจริงจังอยู่...เชื่อใจเฮียสิ”
“ก็เพราะเชื่อใจเฮียนั่นแหละ ปรายถึงไม่เหลือเพื่อนสักคน...ขอเถอะเฮีย...คนนี้คือเพื่อนคนสุดท้ายที่ปรายเหลืออยู่...ปรายรักฝันมาก...เฮียเข้าใจปรายใช่ไหม” จ้องมองหน้าพี่ชาย แล้วเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เฮียรู้นะ ว่าที่ผ่านมาเฮียอาจจะทำให้ปรายเห็นในสิ่งที่ไม่ดีและไม่เชื่อมั่นในตัวเฮีย แต่ตอนนี้เป็นคนดีแล้วไม่คิดที่จะเชื่อกันเลยหรอ” ตอบด้วยความจริงจังไม่ต่างกัน
“ให้จริงเถอะ!! งั้นปรายกลับแล้วนะ...ส่วนเช็กเนี้ย...ขอเติมจำนวนเงินเอง”
“เฮ้ย!! ได้ไง!!” ตะโกนไล่หลังน้องสาวตัวแสบที่เผ่นแนบวิ่งออกจากห้องทำงานไปอย่างรวดเร็ว