ไต้ฝุ่น : ปราย...
เสียงข้อความยังคงดังรัวขึ้นต่อเนื่อง นี่ถ้าไม่ใช่เพราะข้อความของอีตาเด็กบ้านี่ เธอก็คงไม่ต้องเดินขึ้นบันไดจากชั้นสามขึ้นไปถึงชั้น8แบบนี้หรอก คิดแล้วก็พานทำให้หงุดหงิดขึ้นมาเลย
ปรายฟ้า : เลิกทักฉันมาสักที ฉันรำคาญ!!
ไต้ฝุ่น : ทีผมยังไม่เคยรำคาญปรายเลยนะ
ปรายฟ้า : เรียกฉันพี่ด้วย ฉันไม่ชอบให้เด็กปีนเกลียว
ไต้ฝุ่น : ถ้าปีนขึ้นตัวได้ไหม?
ปรายฟ้า : ทุเรศ!!
“หึ่ย ไหนยัยฝันบอกว่าน้องมันน่ารักวะ ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหนเลย เป็นโรคจิตหรือไง ชอบพูดจาลามกอยู่เรื่อย” กล่าวขึ้นกับตัวเองด้วยความหัวเสีย ก่อนที่จะทิ้งโทรศัพท์ลงไปที่เตียง
โดยอุปนิสัยที่ไม่ได้ชอบความตึงเครียดตามแบบฉบับสาวสุขนิยม จึงหยิบโน้ตบุ๊คขึ้นมาเปิดดูซีรีส์ต่อ เพื่อสร้างความจรรโลงใจให้แก่เธอตอนนี้ แต่โทรศัพท์เจ้ากรรมก็ดันเด้งแชทเด็กบ้านั่นเข้ามารบกวนสมาธิเธอจนดูไม่รู้เรื่อง
ไต้ฝุ่น : ปรายฟ้าตอบ!!
ไต้ฝุ่น : ถ้าไม่ตอบ ไปกรุงเทพเมื่อไหร่ผมจะไม่ทำแค่จูบแน่
ไต้ฝุ่น : ให้โอกาสตอบครั้งที่1
ไต้ฝุ่น : ครั้งที่2 ถ้า3เมื่อไหร่ โดนแน่
ดวงตากลมโตเบิกกว้างเพื่อมันขึ้นว่ากำลังพิมพ์ แน่นอนว่าเธอก็คงไม่อยากโดนเด็กนี่เปิดซิงแน่นอน รับไม่ได้อย่างแรง ลามกเกินเด็ก แม้จะหล่อก็เถอะ แต่นิสัยต่างกันแบบสุดขั้ว เอาวะแค่ตอบเอง สุดท้ายจึงตัดสินใจละเลงนิ้วตอบเขาไปก่อนที่เขาจะนับ3
ปรายฟ้า : ตอบแล้ว!!
ไต้ฝุ่น : ถือว่ารอดตัวไปนะ
“เด็กนี่ จะเอาแต่ใจ ก้าวก่ายฉันเกินไปแล้วนะ” สบถออกมาด้วยความหัวเสีย
ตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยโดนใครบังคับจิตใจขนาดนี้เลย นึกแล้วก็พานทำให้หงุดหงิดชะมัดเลย
ปรายฟ้า : ดึกแล้วฉันนอนก่อนนะ ฝันดี
ตัดบทไปจะได้จบๆ คนแบบนี้มันเผด็จการ แสร้งทำเป็นตามใจไปก่อน ทั้งที่รำคาญเต็มทน เดี๋ยวก็เลิกบ้า เลิกตอบไปเองนั่นแหละ เธอคิด
ไต้ฝุ่น : ฝันดีครับ
“หึ่ย!! ขนลุกเป็นบ้า” ด้วยเพราะสเปคของเธอคือผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ ไม่ชอบคนที่อายุน้อย พอมาเจอเด็กนี่รุกแบบก็มันก็รู้สึกไม่ชินแล้วก็ไม่ชอบเอาเสียเลย จะบอกว่าต่อต้านก็คงจะเป็นอะไรเทือกๆ นั้นแหละ
สายๆ ของวันต่อมา...
ครืด ครืด ครืด!!
‘เฮียปราณ’
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาต่อเนื่อง รบกวนเวลานอนของสาวสวยรูปร่างสมส่วน ราวกับนางแบบ ผิวขาวสว่างดั่งตะวันในยามเช้า ยิ่งต้องแสงแดดยิ่งทำให้เธอยิ่งขาวผุดผ่องเข้าไปอีก ใบหน้ารูปไข่ยู่เข้าหากันด้วยความหงุดหงิด เมื่อถูกรบกวนเวลานอนอีกแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าช่วงนี้ไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้นักหนา ถึงได้โดนขัดความสุขแบบนี้เป็นประจำเลย
มือเล็กคลำหามือถือทั้งที่ยังหลับตาอยู่ กว่าจะคลำเจอตาก็สว่างแล้ว สุดท้ายก็เลยต้องจำใจตื่นขึ้นมาเพื่อรับสายเฮียสุดที่รัก
“โอ๊ยเฮีย!! คนจะนอน...โทรมาทำไมเวลานี้ ปรายนอนอยู่เข้าใจไหม!!”
[นี่มันจะบ่ายแล้วนะปราย มาวีนใส่เฮียแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน งั้นไม่ต้องเอาเงินอาทิตย์นี้เลยดีไหมฮะ] พอโดยบ่นกลับก็เล่นเอาน้องสาวเงียบกริบไปเลย
“เอ่อ...ขอโทษค่ะเฮีย...ปรายนอนดึกไปหน่อย...พอนอนไม่พอมันเลยหงุดหงิด...คิคิ...ว่าแต่เฮียโทรมามีอะไร...”
[ฝันไม่สบาย วันนี้ว่างไหม...มาอยู่เป็นเพื่อนฝันหน่อย]
“เอ้า เมื่อวานยังดีๆ อยู่เลย ทำไมป่วยได้ล่ะ หรือจะทำงานหนักอีกเนี้ย” บ่นกระปอดกระแปดออกมา เพื่อนเธอมักจะเป็นแบบนี้อยู่เรื่อยเลย บอกก็ไม่ยอมฟัง
“เย็นๆ ได้ไหมเฮีย ขอนอนต่ออีกหน่อยก่อน”
[อืม...] ตอบรับเพียงแค่นั้นแล้วก็ตัดสายไป
โทรศัพท์มือถือราคาแพงถูกโยนไปที่ว่างข้างๆ จากนั้นก็มุดตัวลงไปใต้ผ้าห่มอีกครั้งเพื่อหลับต่อ
ครืด ครืด ครืด!!
“โอ๊ย อะไรนักหนาวะเนี้ย” พอกำลังจะเคลิ้มเท่านั้นแหละ เสียงเครื่องสี่เหลี่ยมก็แผดร้องขึ้นมาอีกครั้ง พอหยิบมาดูก็พบว่าเป็นเบอร์แปลก โดยปกติแล้วเธอก็จะไม่รับเบอร์แปลกเสียด้วยสิ จึงกดตัดสายไป แล้วนอนต่อ
ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง!!
ไต้ฝุ่น : ปราย!!
ไต้ฝุ่น : รับสาย!
ไต้ฝุ่น : กล้าตัดสายฝุ่นหรอปราย
ไต้ฝุ่น : อย่าให้ต้องบุกคอนโด
“โอ้ย อะไรกันเนี้ย ทำไมช่วงนี้ชีวิตฉันถึงได้วุ่นวายนักนะ” รีบคว้าโทรศัพท์มาตอบ เมื่อแชทที่เด้งรัวๆ เข้ามานั้นคือน้องชายของเพื่อนก็ยิ่งทำให้รู้สึกหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
ปรายฟ้า : เหงามากหรือไง คนจะนอน!!
ไต้ฝุ่น : เหงาดิ คิดถึงเนี้ย เล่นเกมปะ ตานึง
ปรายฟ้า : ไม่เล่น ฉันจะนอน!!
ไต้ฝุ่น : เมื่อคืนเล่นเกมกับใคร ทำไมตอน5ทุ่มเห็นเข้าเกม
ปรายฟ้า : จะเล่นกับใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย เด็กบ้า แค่นี้นะฉันจะนอน
ยังคงตั้งมั่นชัดเจน ไม่ว่ายังไงตอนนี้เธอก็จะนอนให้ได้ เรื่องนอนคือเรื่องใหญ่สำหรับเธอ แล้วเธอก็เกลียดที่สุด คือคนที่รบกวนเธอเวลานอนนี่แหละ
ตกเย็น...
หลังจากที่ได้นอนหลับเต็มตื่นแล้วก็ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่จะไปคอนโดพี่ชาย ได้นอนครบ12ชั่วโมง ค่อยสดใสขึ้นมาหน่อย ส่วนไอ้เด็กบ้านั่นก็หายไปเลย สงสัยเพราะโดนด่าไป แต่ก็ดีแล้วแหละ ไม่ได้อยากคุยด้วย
“เฮีย ฝันเป็นยังไงบ้าง?” ถามพี่ชาย ทันทีที่เจ้าของห้องนั้นเปิดประตูให้
“ก็ไข้ขึ้น แต่เช็ดตัวให้แล้ว ตัวเย็นขึ้นมานิดหน่อย” คำว่าเช็ดตัวของปราณนั้น ทำคนขี้สอดถึงกับหูผึ่ง
“เช็ดตัว?” เลิกคิ้วมองหน้าพี่ชายเชิงจับผิด
“กะ...ก็...ใช่ไงแค่เช็ดตัว...”
“ดูพูดไม่ค่อยเต็มปากเลยเนาะ เหมือนปกปิดอะไรเอาไว้” ไม่วายเดินเข้าไปใกล้พี่ชาย ตากลมๆ จ้องมองไม่กะพริบ แถมหรี่ตาหวังคาดคั้นให้เขาเผยความลับที่เก็บซ่อนเอาไว้ให้หลุดออกมา
หมับ!!
“บอกว่าแค่เช็ดตัวก็คือเช็ดตัวสิ ถามมากจังวะ...แล้วห้ามออกไปไหน เดี๋ยวเฮียจะออกไปซื้ออาหารเย็น...จดให้หน่อยสิว่าฝันชอบกินอะไร...เมื่อเช้าเอาข้าวต้มให้กินบอกจืด”
“เมื่อเช้า? เดี๋ยวนะ...เฮียอยู่นี่ตั้งแต่เช้าเลยหรอ?” ปลายปากกากำลังจะจรดลงไปที่กระดาษเพื่อเขียนรายการอาหารที่เพื่อนรักชอบลงไปตามคำสั่งของพี่ชาย แต่ก็ต้องชะงักไปอีกรอบเมื่อได้ยินปราณบอกว่าเมื่อเช้า
“ก็คุยกันในไลน์ บอกว่าจะมารับไปทำงานไง แต่โทรมาก็ไม่รับเลยเข้ามาหา...พอมาถึงก็เห็นนอนโทรมอยู่บนเตียงแล้ว เลยอยู่ดูอาการในฐานะของหมอไง” ปราณกล่าวบอกน้องสาว ซึ่งความเป็นจริงแล้วเมื่อคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นเขาก็ไม่ได้บอก
“อ๋อๆ ฐานะหมอ อยากเป็นแค่นั้น” แสร้งถามด้วยทีท่ากวนๆอีกรอบ
“อยากเป็นแฟนด้วย...” ตอบไปตามความจริง ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
“เฮีย ฝากซื้อยำด้วยนะ ขอแซ่บๆ...” ไหนๆ ก็ไหนๆแล้ว ซื้อให้เพื่อนเธอก็ขอส่วนบุญใช้หน่อยแล้วกัน
“อื้ม แล้วอย่าให้ฝันอาบน้ำนะ” กำชับน้องสาวเอาไว้ ซึ่งเรื่องนี้เธอเองก็รู้อยู่แล้วไหม เพราะเธอเองก็เรียนหมอ แม้ว่าจะไม่ได้อยากเรียนก็เถอะ
ระหว่างที่รอเพื่อนตื่น ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมเพื่อฆ่าเวลา จนแล้วจนรอดก็ปาไปเกือบจะ2ทุ่มเข้าไปแล้ว จึงวางโทรศัพท์แล้วเดินเข้าไปดูอาการเพื่อนเสียหน่อย
"ตื่นแล้วหรอแก"เปิดประตูเข้าไปในห้องก็เห็นว่าเพื่อนนั้นกำลังจะลุกจากเตียงพอดี
"เอ่อ...อืม"เพียงฝันตกใจเล็กน้อยที่เห็นปรายฟ้า แทนที่จะเป็นปราณ ดวงตาคู่สวยมองไปรอบๆ ห้องราวกับกำลังหาอะไรบางอย่าง
"เฮียออกไปซื้อกับข้าว...เช็ดตัวหน่อยไหม...แกยังตัวร้อนอยู่เลย"ไม่ทันที่เพียงฝันจะได้เอ่ยปากถาม ปรายฟ้าก็ตอบออกไปราวกับรู้ความคิดในหัวของเพื่อน
"ฉันอยากอาบน้ำ"คนป่วยค่อยๆ ขยับตัวลงจากเตียงกว้างด้วยความยากลำบาก
"ไม่ได้!...เฮียสั่งไว้ว่าห้ามอาบ"
"ก็ฉันเหนียวตัว...ฉันรู้สึกไม่สบายตัว...ให้ฉันอาบเถอะแก"พยายามรบเร้าปรายฟ้า เพราะรู้ดีว่าปรายฟ้าเป็นคนใจอ่อน
"ทำไมถึงได้ไม่สบายแบบนี้? ...ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำงานเยอะ...ไม่ฟังกันเลย"เพียงฝันขมวดคิ้ว ปรายฟ้ายังไม่รู้เรื่องนั้นหรอ? เป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจ
"เมื่อคืนมีเลี้ยงสาย...ฉันกลับดึกด้วยแหละ...สงสัยอากาศกลางคืนจะเย็นเลยไม่สบาย"เธอแก้ตัว "พี่ปราณ...ไม่ได้เล่าอะไรให้แกฟังหรอ?"
"ไม่นะ...แค่บอกว่าวันนี้แวะมาหาแก...แล้วเห็นว่าแกไม่สบายเลยเรียกฉันมาดูเนี้ย"
"อ้อ...งั้นหรอ?"เพียงฝันพยักหน้าตอบรับ หรือเขาจะไม่อยากเปิดตัวกับเธอนะ คบแล้วรอวันเขี่ยทิ้งหรือเปล่า ใบหน้าของเพียงฝันดูกังวลลงเล็กน้อย เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ที่เธอโดนแฟนเก่ามอมยา จนต้องโทรเรียกปราณให้มาช่วย สุดท้ายแล้วเรื่องแบบนั้นก็เลยเกิดขึ้น แอบเฟลๆ อยู่หน่อยๆ ที่เขาไม่บอกอะไรน้องสาวเลย
"แกเป็นไร...ทำไมทำหน้าอย่างงั้น"ปรายฟ้ามองหน้าเพื่อนที่ดูหงอยๆ ด้วยความเป็นห่วง
"เปล่า...ไม่ได้เป็นอะไร"แม้ปากจะบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่สีหน้าของเธอนั้นออกชัดจนปรายฟ้านั้นสังเกตเห็น แต่เพียงแค่ไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเพื่อนเท่าไหร่
"ลุกไหวไหม...ฉันว่าแกเช็ดตัวดีกว่านะเดี๋ยวฉันเช็ดให้...ถอดเสื้อผ้าเลย"มือเล็กของปรายฟ้าเตรียมปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอ แต่ก็ถูกมือของเพียงฝันตะครุบไว้เสียก่อน ขืนปล่อยให้ปรายฟ้าถอด มีหวังได้เห็นรอยของปราณที่ทำเอาไว้แน่ๆ
"เอ่อ...ไม่เป็นไรแก...เดี๋ยวฉันทำเองดีกว่า...ฉันไหว!"เพียงฝันหลุบตาลงต่ำเพื่อหลบสายตา...เพราะเธอโกหกไม่เก่ง กลัวว่าเพื่อนรักจะจับพิรุธได้
"แก...ไหวแน่นะ?"ปรายฟ้าถามย้ำ
"ไหว...เดี๋ยวฉันไปเช็ดเอง...แกออกไปรอข้างนอกเถอะ...เดี๋ยวฉันตามออกไป"ปรายฟ้าพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินออกไปรอที่ห้องนั่งเล่น แต่ก่อนออกไปก็ไม่วายหันไปบอกเพียงฝันด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
"มีอะไรก็เรียกฉันล่ะ"
"อืม"พยักหน้าตอบ
แม้ว่าจะเป็นห่วง เมื่อเห็นทีท่าแปลกๆ ของเพื่อนรัก แต่ก็ไม่อยากจะไปเซ้าซี้อะไรมาก ถ้าเธอพร้อมเดี๋ยวก็คงบอกเองนั่นแหละ ปรายฟ้าคิด ก่อนที่จะเปิดทีวีดูแก้เบื่อ
ตื้อดึ่ง!!
เสียงข้อความในโทรศัพท์เครื่องหรูของปรายฟ้าแจ้งเตือนข้อความจากใครบางคน ทำให้ร่างบางละสายตาออกจากทีวีจอแบนตรงหน้ามามองข้อความที่โชว์ขึ้นบนหน้าจอ
ไต้ฝุ่น : ทำไรอยู่?
"ไอ้เด็กบ้านี่...จะทักมาทำไมนักหนา?"คิ้วเรียวขมวดมุ่นจนเป็นปม แต่แล้วเธอก็คว่ำหน้าโทรศัพท์ลงแล้วดูทีวีตรงหน้าต่อ โดยไม่สนใจข้อความของไต้ฝุ่นเลย
ไต้ฝุ่น : ปรายฟ้า!!
ไต้ฝุ่น : ตอบ!!
ข้อความยังคงดังขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อไม่มีทีท่าว่าเธอจะตอบ จนร่างเล็กรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว แถมยังมาออกคำสั่งกับเธอ ซึ่งเธอไม่ชอบ!!
ฮันเตอร์ : ว่างไหม...พรุ่งนี้ไปดูหนังเป็นเพื่อนหน่อยสิ
อยู่ๆ เพื่อนหน้านิ่งที่ทำให้หัวใจสั่นคนนั้นก็ทักเข้ามาพร้อมกับไต้ฝุ่น ร่างเล็กยกยิ้มขึ้นบนใบหน้า ก่อนจะละเลงนิ้วไปบนแป้นพิมพ์ในมือถือด้วยหัวใจที่พองโต ต่างจากข้อความของใครอีกคน ที่มองทีไรก็รู้สึกถึงความอันตรายแถมพานทำให้หัวเสียทุกที
ปรายฟ้า : ว่าง
จริงๆ แล้วเธอและฮันเตอร์ เจอกันบ่อย แล้วก็นัดไปกินข้าวด้วยกันบ่อยด้วย ตั้งแต่ทำงานกลุ่ม จริงๆ ก็เริ่มมีทักมาคุยกันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว และฮันเตอร์ก็ดันตรงสเป็กเธอเสียด้วยสิ เธอชอบผู้ชายนิ่งๆ พูดน้อยๆ ถ้าจะบอกว่า ชอบตั้งแต่วันที่ฮันเตอร์ซื้อน้ำมาให้เธอก็คงจะแบบนั้น
ฮันเตอร์ : งั้นพรุ่งนี้จะเข้าไปรับนะ
ปรายฟ้า : โอเค
ติ้ง!!
ไต้ฝุ่น : ขึ้นออน...แต่ไม่ตอบคือ?
~เสียงโทรศัพท์ของปรายฟ้า~
'ไต้ฝุ่น'
ถอนหายใจออกมาหนักๆ เมื่อข้อความเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นโทรมาแทน และสุดท้ายเธอก็ต้องจำใจยอมรับสายนั้น
"อะไรของนายเนี้ย!!"แผดเสียงแข็งใส่ปลายสาย
[ทำไมไม่ตอบ?]
"ไม่เห็น...ไม่ได้เล่นโทรศัพท์"แก้ตัวออกไป ทั้งที่ความเป็นจริงตั้งใจที่จะเมิน เพราะรู้สึกรำคาญกับความเจ้ากี้เจ้าการของเขา
[ปรายฟ้า] เสียงเข้มเอ่ยเรียกชื่อเธอ ทำเอาร่างบางนึกหวั่น
"ดูหนังอยู่...เลยไม่ได้ตอบ"เธอตอบไปส่งๆ
[พรุ่งนี้จะเข้ากรุงเทพไปดูหอ...ไปเป็นเพื่อนหน่อย...หรือจะไปเป็นแฟนผมก็ได้นะ] เสียงไต้ฝุ่นกล่าวด้วยน้ำเสียงทะเล้น
"ไม่ว่าง!"
[ทำไมถึงไม่ว่าง!] จากเสียงที่เล่นๆ ก็เปลี่ยนเป็นเสียงเรียบนิ่งทันที
"มีนัดกินข้าวกับพ่อที่บ้าน"
[ไปด้วยดิ...อยากไปไหว้พ่อ]
"ไม่...แล้วฉันก็ไม่ว่างด้วย...นายไปดูเองคนเดียวเถอะ...แค่นี้นะ"จากนั้นปรายฟ้าก็กดตัดสายไต้ฝุ่นทันที
"แล้วทำไมฉันต้องโกหกเด็กบ้านั่นด้วย? ...ถ้าบอกไปตรงๆ นายนั่นจะได้ไม่ต้องมาวอแว...หรือควรบอกไปดีว่ามีแฟนแล้วดี"เธอเลิกคิ้วถามตัวเอง แต่ลึกๆ แล้วกลับยอมเลือกที่จะไม่บอก ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ไม่เข้าใจตัวเองเลย