มองใบหน้าของเขาเห็นรอยปื้นแดงเต็มซีกแก้มของเขาชัดเจน แล้วยังมีหยดเลือดที่มุมปาก ก็ให้นึกสงสารและห่วงเขามากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีเพื่อเป็นการปลอบใจเขา
แม้เธอจะโตมาในเรือนมาลีแต่ก็ไม่เคยถูกใครทำร้ายร่างกายแบบนี้มาก่อน
ฐิรดลบดกรามของเขาพร้อมกับหายใจเข้าออกหนัก ๆ จนเห็นไหล่ของเขายกขึ้นลงตามแรงอารมณ์ก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ยชวนขึ้นว่า
“ออกไปข้างนอกกับพี่ได้ไหมพราว”
มองตอบสายตาอ้างว้างของเขาพร้อมกับร้องถามออกไป “คะ?”
ฐิรดลไม่ได้ตอบเธอว่าอะไร เขาเดินเข้ามาหาแล้วดึงเอาตัวเธอเข้าไปกอดไว้ทั้งตัวนานเป็นนาที ก่อนจะยอมปล่อยให้เป็นอิสระแล้วจับจูงมือเธอไปยังอีกด้านของหลังบ้าน ตรงนั้นมีรถมอเตอร์ไซค์คันโตของเขาจอดอยู่ ชายหนุ่มขึ้นคร่อมพารถออกมาแล้วตบเบาะเรียกเธอให้ขึ้นไปซ้อนท้ายเขา
เด็กสาวมองเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทของฐิรดลแล้วก็ให้รู้สึกสงสาร เห็นใจ ถอนลมหายใจเบา ๆ ขยับเข้าไปหา ก่อนจะพาตัวเองขึ้นนั่งซ้อนท้ายรถของเขา แล้วเจ้าสองล้อก็พาทั้งสองคนออกจากรั้วบ้านหลังนั้นไป
ภัทรวรินทร์กอดเอวของชายรุ่นพี่ที่แอบชอบแน่นขึ้นอีกนิด เมื่อลมโต้ใบหน้าของเธอจนต้องใช้หลังของเขาเป็นที่กำบัง
“ไปทะเลกันไหม” เขาชวนเสียงเศร้า ๆ จนเด็กสาวได้ยินแล้วใจหาย ร้องถามเขาเสียงหลงราวกับหาคำอื่นมาถามไม่ได้ว่า
“คะ?”
“อยู่เป็นเพื่อนพี่หน่อยได้ไหมพราว”
เสียงของเขาฟังแล้วเศร้าจนรู้สึกได้ เลยยิ้มไม่พูดอะไรขัดเขาออกไป ฐิรดลพารถเข้าไปยังสถานีบริการน้ำมัน เขาหันมาถามเธอ
“แวะห้องน้ำหรือหาอะไรกินก่อนไหม”
“ไม่ค่ะ” ปฏิเสธเขาแล้ว ฐิรดลก็นึกขึ้นได้เขาเดินตรงไปยังโทรศัพท์สาธารณะเพื่อต่อสายคุยเป็นครู่ ก่อนวางลงแล้วเดินกลับมาหาเธอ
“พี่โทรบอกยายครีมแล้วว่าเรากลับถึงบ้านแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง”
“แล้วครีม...” เธอกำลังจะถามว่าเพื่อนไม่ถามหรือ แต่แล้วฐิรดลก็บอกสวนเธอว่า
“พี่แกล้งดัดเสียงเป็นเสียงของคนที่บ้านพราว หลอกครีมได้ด้วยนะ”
“ครีมเชื่อหรือคะ”
“ยายครีมหลอกง่ายจะตาย คงเชื่อแหละ ตอบรับเสียงเรียบร้อยเลยนะว่า ‘ค่ะ ค่ะ ๆ’ ” ท้ายประโยคเขาทำเสียงล้อเลียนน้องสาวของเขาด้วย จนเธออดขำตามไม่ได้
“ตลกแล้วพี่คีย์น่ะ”
เห็นท่าทางเขาดูผ่อนคลายมากขึ้นก็ค่อยโล่งใจ อ้าปากกำลังจะถามว่าเขาจะพาไปส่งที่บ้านตอนไหน แต่แล้วกลับได้ยินเขาบอกขึ้นว่า
“พราวโทรไปบอกที่บ้านสิ เดี๋ยวคุณน้าจะเป็นห่วงซะก่อน”
ยิ้มเนือย ๆ เพราะอยากกลับบ้านแล้ว ไม่อยากไปที่ไหนต่ออีกค่ำมืดแบบนี้แล้วด้วย รู้สึกอันตราย ฐิรดลเห็นเธอนิ่งก็ดึงมือให้ตรงไปที่โทรศัพท์ด้วยกันเพื่อโทรหาสมสมร เลยจำต้องรับหูโทรศัพท์ที่ฐิรดลจัดแจงต่อสายให้เองมาแนบหู รอจนเกือบวางสาย ถึงได้มีคนยกหูเพื่อตอบรับ
ภัทรวรินทร์ได้ยินเสียงของน้าที่ปลายสายก็เรียกท่านเสียงอ่อยไม่เต็มเสียงเท่าไรนัก
“น้าสม”
“จะกลับหรือยังพราว นี่มันดึกมากแล้วนะ”
“พอดีว่าครีม... ครีมชวนนอนค้างที่บ้านน่ะจ้ะ”
ปลายสายเงียบไปเป็นนานเลยทีเดียว ก่อนจะถามกลับมาได้ “แล้วจะกลับบ้านตอนไหน”
อึกอักมองหน้าฐิรดลเห็นเขาขยับปากพูดแบบไม่มีเสียงว่า ‘บ่าย ๆ’ ก็ยังอุตส่าห์อ่านปากของเขาออก พูดตามเขา โกหกสมสมรตามที่เขาชักนำว่า
“พรุ่งนี้ บ่าย ๆ จ้ะน้าสม พรุ่งนี้พราวจะรีบกลับเลยจ้ะ”
“อยู่บ้านเขาก็อยู่ดี ๆ ล่ะ อย่าไปทำตัวยุ่มย่ามให้เขาว่าเอาได้”
“จ้ะ” ตอบรับ ยิ้มเซียว ๆ รู้สึกไม่ดีเลยที่ต้องโกหกสมสมรไปแบบนั้น ฐิรดลจึงเอาโทรศัพท์ออกจะวางให้ แต่ได้ยินเสียงเรียกมาเสียก่อนว่า “พราว” เด็กสาวจึงรีบคว้าหูมาตอบรับปลายสายว่า
“จ๋า น้าสม”
“น้าเป็นห่วงนะ”
ได้ยินสมสมรบอกมาแบบนั้นก็ร้อนไปทั้งกระบอกตา ตอบรับปนเสียงสะอื้นนิด ๆ ไปว่า “จ้ะน้า”
สมสมรวางสายไปแล้ว เด็กสาวก็ยืนนิ่งตรงโทรศัพท์อย่างนั้นด้วยอาการไม่สบายใจที่ลามไปทั่วทั้งตัว ฐิรดลเข้ามาจับมือแล้วดึงให้กลับไปที่รถของเขาอีกครั้ง
“ไปกันเถอะ”
ตอนนั้นเองที่เด็กสาวเกิดความลังเล ไม่อยากไป เลยเอ่ยถามออกไปว่า “อีกไกลไหมคะพี่คีย์”
“ไม่ไกลหรอก ข้างหน้านี่ก็ถึงแล้ว”
“พราวขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
ฐิรดลพยักหน้าว่าเขาจะรอตรงนี้ ก็ค่อยยิ้มส่งให้เขาเดินเข้าห้องน้ำภายในสถานีบริการน้ำมันไปแล้ว พอออกมาจากห้องน้ำอีกทีก็ไม่เจอฐิรดล ชั่วแวบแรกเด็กสาวตกใจเล็กน้อย
เขาหายไปไหน
ขณะที่กำลังยืนวิตกอยู่ตรงนั้นเอง เสียงทักก็ดังขึ้นว่า “อ้าวเฮ้ย นี่น้องพราวนี่หว่า”
เสียงนั่นมาจากมุมมืดด้านหลังห้องน้ำฟากผู้ชายทำให้เด็กสาวกลัว จึงหมุนตัวจะเดินออกจากตรงนั้นไป แต่แล้วกลับชนเข้ากับชายร่างสูงกว่าตนไม่มากที่เขามายืนขวางหน้าไว้เสียก่อน
“มาขายอะไรแถวนี้จ๊ะน้องพราว นี่มันดึกแล้วนะ”
“ใช่น้องพราวคนเดียวกันกับที่ว่าที่ ‘บ้านมาลี’ หรือเปล่าวะ”
“ใช่เว้ย คนเดียวกัน”
“ไปเถอะน้องพราวคนสวย ขึ้นรถ คืนนี้พี่เหมาทั้งคืนเลย”
“น้องเขามากับกู” ฐิรดลส่งเสียงมาแต่ไกล เดินแทบเป็นวิ่งแหวกชายสี่ห้าคนนั้นแล้วทำท่าจะมีเรื่องกัน เธอเลยเข้าไปดึงแขนฐิรดลให้ออกห่างจากคนเหล่านั้น
“อ้าว เฮ้ย ไม่แบ่งกันมั่งหรือไงวะ”
“เรารีบไปเถอะค่ะพี่คีย์”
เด็กสาวออกแรงรั้งแขนของเขาไว้แน่นสุดกำลัง เมื่อฐิรดลมีทีท่าจะไม่ยอมคนพวกนั้นง่าย ๆ เธอจับมือเขาแน่นมาก แต่ฐิรดลกลับดึงมือของเธอออก เลยต้องวาดแขนกอดเอวเขาแล้วใช้แรงที่มีทั้งหมดลากไปยังรถมอเตอร์ไซค์ของเขาที่จอดรออยู่
“พราวว่าเราไปเถอะค่ะ เกิดอะไรขึ้นก็จะไม่คุ้มกันหรอก เชื่อพราวสักครั้ง นะคะ”