“พราวว่าเราไปเถอะค่ะ เกิดอะไรขึ้นก็จะไม่คุ้มกันหรอก เชื่อพราวสักครั้ง นะคะ”
ฐิรดลมองตาเศร้า ๆ ของเด็กสาวตรงหน้าแล้วก็ยอมตามอย่างไม่ใคร่เต็มใจเท่าไรนัก เขาพารถเข้าถนนขับไปไม่นานเธอก็ค่อยได้กลิ่นอายความเค็มแตะที่ปลายจมูก ภัทรวรินทร์ยื่นหน้าจากแผ่นหลังของเขามองไปยังเบื้องหน้า ผืนน้ำทะเลสุดหูสุดตาอยู่ตรงหน้านี้แล้ว
เด็กสาวเคยมาทะเลแค่สามครั้งตั้งแต่เกิดและจำความได้
สองครั้งแรกภัทรวรินทร์มากับทางโรงเรียน อีกครั้งไปกับสมสมร ครั้งนี้ครั้งที่สี่ และทุก ๆ ครั้งเด็กสาวก็จะมาถึงทะเลในตอนเช้า อยู่ถึงแค่เที่ยง ไม่เกินบ่ายสองก็ต้องกลับ ไม่เคยมาถึงทะเลในเวลาเฉียดเที่ยงคืนแบบนี้มาก่อน ก็ทำให้ตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ ไม่น้อยเลยทีเดียว
“ชอบไหม” เสียงถามดังมาจากคนพามา
“ชอบค่ะ”
บอกเขาแล้วก็อ้ำอึ้งไม่กล้าถามว่าจะพากลับบ้านตอนไหน ขับรถมาไกลขนาดนี้แล้วขากลับจะง่วงนอนไหม เขาจะขับรถกลับไหวหรือเปล่า ก็พอดีได้ยินฐิรดลเอ่ยปากชวนมาว่า
“เดี๋ยวเราหาอะไรกินกันก่อน ค่อยเดินหาห้องนอนกัน พี่หิวมาก ๆ เลย พราวล่ะหิวไหม”
มองใบหน้าที่ยังคงมีสีแดงเป็นปื้นเต็มซีกแก้ม ส่วนคราบเลือดตรงมุมปากหายไปแล้ว เขาคงล้างออกจนหมดตอนที่แวะเข้าสถานีบริการน้ำมันตรงนั้น ก็ให้ปฏิเสธไม่ลง ยิ้มให้เขาแล้วพยักหน้าตอบไปด้วยอาการคล้อยตามเขาไป แม้จะไม่หิวเท่าไรนักเพราะกินอะไรมาบ้างแล้วที่งานเลี้ยงวันเกิดของฐิติชญา แต่ก็อยากทำอะไรเป็นเพื่อนเขา
ฐิรดลมีเงินสดติดตัวมาพอสมควร เขาพารถไปจอดที่หน้าบังกะโลหลังสวยติดทะเล ติดต่อได้ห้องมาแล้วค่อยพาเธอออกไปกินข้าวและซื้อเครื่องดื่ม
เข้าห้องมาได้เด็กสาวก็ให้กระดากอายไม่น้อย
แสงไฟสีนวลตา เตียงนอนหลังเดียวในนั้นและห้องน้ำในตัวเป็นที่รโหฐานแบบที่ตนไม่เคยอยู่กับใครแบบนี้มาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ฐิรดลวางกุญแจรถกระเป๋าเป้ใส่ของและกระเป๋าสตางค์ของเขาลงที่โต๊ะ แล้วก็เปิดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กระป๋องออกรินดื่มทีเดียวจนเกือบหมดแล้วเอ่ยชวน
“เล่นน้ำทะเลกันไหม”
“ตอนนี้น่ะหรือคะ”
“สนุกออก ไม่เคยล่ะสิ”
“ไม่เคยค่ะ พราวไม่เคยมาทะเลตอนกลางคืนเลยนะคะ ไม่เคยเห็นทะเลตอนกลางคืนมาก่อนด้วยค่ะ”
ยิ้มแล้วเดินออกไปโต้ลมทะเลตรงระเบียงหน้าห้อง พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองไปยังบนท้องฟ้า ทะเลมืดไปหมด ท้องฟ้าด้านบนก็ไร้ซึ่งแสงจากดวงจันทร์และหมู่ดาว
“เร็ว ลงมา” ฐิรดลไม่ชวนปากเปล่า ทั้งยังจับมือลากลงไปยังทะเลเบื้องหน้าอีกด้วย และไม่ทันได้ตั้งตัวเลยผวาไปตามแรงดึง ฐิรดลรับแล้วช้อนอุ้มพาลงทะเลไปทั้งชุดนั้นเลย
ภัทรวรินทร์ถูกเขาอุ้มลงไปถึงในทะเลแล้วถึงได้ยอมปล่อยเธอแต่แล้วพาถูกปล่อย ปรากฏว่าขาของเด็กสาวหยั่งไม่ถึงพื้นก็ตกใจหน้าซีดกอดคอคนชอบแกล้งไว้แน่น ร้องบอกเขาไปว่า
“พราวว่ายน้ำไม่เป็น”
“จริงน่ะ”
“จริงค่ะ”
“เดี๋ยวพี่สอน”
“ไม่เอา”
ฐิรดลไม่ฟังเสียงคัดค้าน เขาพาเด็กสาวลงไปในทะเลตรงที่น้ำลึกยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ชนิดขาเหยียบพื้นไม่ถึงเลยทั้งสองคนก็ให้คนว่ายน้ำไม่เป็นกลัวหนักขึ้นไปอีก
“ไม่ไปแล้วค่ะ พราวกลัว”
“พี่อยู่ตรงนี้แล้วไง ไม่ต้องกลัว”
ฐิรดลบอกพร้อมกับหันหลังให้เธอเกาะ เขาแข็งแรงมาก พาเธอลอยคออยู่แบบนั้นเป็นนาน จนเธอเริ่มหนาว
“ปากสั่นเลย” เขาถามพร้อมกับแตะมือไปตามริมฝีปากของเธอ “หนาวแล้วสิ”
เด็กสาวทั้งหนาวทั้งรู้สึกแปลก ๆ กับสัมผัสจากชายรุ่นพี่ แล้วพยักหน้าหงึก ๆ ตอบรับเขาไป “ค่ะ”
“หนาวก็ขึ้นไปอาบน้ำดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยลงมาเล่นน้ำด้วยกันใหม่”
ฐิรดลให้เธอเข้าไปอาบน้ำก่อน เขาเคาะประตูห้องน้ำเบา ๆ บอกที่ด้านนอกว่า “ผ้าเช็ดตัวครับ เมื่อกี้เราลืมซื้อเสื้อผ้าเนอะ เดี๋ยวพี่ออกไปดูมาให้ พราวอาบเสร็จแล้วจะอยู่รอในนั้นหรือนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมารอข้างนอกนี่ก่อนก็ได้ครับ”
ภัทรวรินทร์หน้าออกแดงออกร้อนไม่น้อยกับข้อเสนอของเขา บอกกลับไปว่า พราวรอในนี้ดีกว่าค่ะ
“เดี๋ยวพี่มานะ”
เขาบอกแล้วก็ออกไปไม่นาน ก่อนจะกลับมา พร้อมกับเสียงเคาะประตูห้องน้ำเบา ๆ
“พี่มาแล้ว”
เลยแย้มประตูเปิดมองดู ก่อนยื่นมือออกไปเอาเสื้อผ้าชุดใหม่เข้ามาในห้องน้ำ สวมเสร็จเรียบร้อยก็ออกมาที่ด้านนอกทันที
“ใส่ได้ไหม” ฐิรดลเปิดเบียร์อีกกระป๋องขึ้นดื่ม ถามพร้อมกวาดสายตามองร่างเล็ก ๆ ด้วยความพึงพอใจในฝีมือการเลือกเสื้อผ้าของตนเอง
“ได้ค่ะ พอดีเลย”
มองความพอดีที่เด็กสาวตรงหน้าบอกก็ยิ้มขัน พอดีตรงไหน หลวมโพรกขนาดนั้น แต่ดีแล้วจะได้อุ่น ๆ แล้วถามยิ้ม ๆ ไปถึงอีกสองชิ้นที่เขาเลือกเฟ้นมาให้
“แล้วตัวที่ใส่อยู่ข้างในล่ะ พอดีไหม”
ยิ้มอาย ๆ ไม่ตอบเพราะว่าบราตัวใหม่สวมได้แบบพอดิบพอดีเลย เดินหนีไปดูอาหารที่เขาซื้อใส่ห่อมาวางที่โต๊ะ
“พี่ได้ของอร่อยมาด้วย”
ฐิรดลบอกพร้อมชี้นิ้วจิ้มลงที่ถุง ก่อนจะเอาของในนั้นออกมาชูให้ดู
“หมึกแดดเดียวของคุณยายหน้าหาด อร่อยมากเลยนะพราวลองชิมดูซิ ถ้ายายครีมเห็นต้องร้องกรี๊ดแน่”
ยิ้มกว้างขึ้นเมื่อได้ยินเขาพูดถึงฐิติชญาแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ เพราะทำตัวไม่ถูก ฐิรดลเห็นเธอส่ายหน้าก็รีบถามอย่างเอาใจ
“พราวไม่ชอบกินหมึกหรือ เดี๋ยวพี่ไปดูอย่างอื่นให้นะ”
“กินได้ค่ะ” ตอบรับแกน ๆ เพราะไม่ใช่อาหารที่อยากกินเท่าไรนัก ก่อนถามเขากลับไปบ้าง “พี่คีย์ชอบหรือคะ”