29

1180 คำ
“หมอรายได้น้อยอย่างคุณสู้ราคาไม่ไหวหรอก” จบคำสบประมาทของเธอ นายแพทย์ฐิรดลคว้าแขนของเธอดึงให้หันไปหาเขาก่อนจะโน้มหน้าลงบดจูบในทันที เขาสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากของเธอ มือบีบคางให้อ้ารับเขา เธอเฉย ไม่ตอบและไม่ดิ้นรนหนีเขาอีกด้วย ก่อนจะถูกมือของเขาลากมือไต่ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งบนเรือนร่างของเธอพร้อมกับพึมพำบอก “ไม่ผิดหวังเลยที่ได้...เป็นคนแรก” ฐิรดลจงใจเว้นคำพร้อมแววตาหมิ่นแคลนมองมาที่เธอ ภัทรวรินทร์เม้มปากแล้วดันอกของเขาออก ยิ้มหมิ่น ๆ ให้เขาด้วยแววตาที่ลอกเลียนแบบเขามา ก่อนจะย้อนคืนเขากลับว่า “มั่นใจขนาดนั้นเลยหรือว่าเป็นคนแรกของฉันน่ะ” นายแพทย์ฐิรดลยิ้มมุมปาก เขายอมผละออกจากเธอในที่สุด ก่อนถอยหลังเพื่อมองจ้องเธอทั้งใบหน้า ถามย้อนกลับด้วยรอยยิ้มเยาะหยัน “สรุปว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อนสินะ” นายแพทย์ฐิรดลย้อนคืนคำพูดของเธอ ภัทรวรินทร์ผ่านคนจำพวกนี้มาบ้างแล้ว จึงรู้วิธีควบคุมอารมณ์ของตนเอง ไม่พยายามเต้นไปกับคำพูดยั่วยุของเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมลดราวาศอกกับเธอเลย “แตะตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยก็คงดิ้นพล่านแบบเดิมสินะ” ยิ้มก่อนจะก้มลงตอบเขากลับไปว่า “ไม่รู้ว่าคุณพูดถึงอะไรนะ เพราะตอนนี้ฉันมีหน้าที่ทำให้ผู้ชายครางลั่นห้องแล้วก็ดิ้นพล่าน ต่างหากล่ะ” จบคำพูดท้าทายของเธอแววตาของนายแพทย์ฐิรดลวาววับขึ้น เขาทำท่าจะดึงเอาตัวเธอเข้าไปกอดและก็คงจะจูบหยาบคายแบบเมื่อครู่นี้อีก แต่เธอถอยหลบทัน แล้วในตอนนั้นเองที่มีเสียงเรียกดังขึ้นที่ด้านหลัง “คุณพราวครับ” เสียงเรียกชื่อนั่น ไม่ได้ทำให้เขายอมผละออกไปจากเธอเลย ฐิรดลเดินหน้าเข้าหาเธออีกครั้ง เลยกลายเป็นเธอเองที่ต้องหันหลังเดินไปสมทบกับชายที่เรียกเธอเมื่อครู่นี้ “มีอะไรหรือคะ” “ท่านเห็นว่าคุณออกมาเข้าห้องน้ำนาน ผมเลยออกมาดูให้ครับ” “เสียเวลาคุยกับคุณหมออยู่น่ะค่ะ” เธอตอบโกศลแล้วก็ค่อยหันไปยิ้มหวานให้เขา “ขอตัวนะคะ ไม่อยากเสียเวลากับใครอีก” ภัทรวรินทร์บอกทางคนติดตามของท่านแล้วก็ค่อยเดินกลับไปยังห้องวีวีไอพีอีกครั้ง นั่งลงดื่มต่อจนเที่ยงคืน เกษมสันต์ก็ค่อยเอ่ยชวนขึ้นว่า “เราขึ้นห้องกันเลยดีไหม” เธอยิ้มตอบชายมากวัยกว่า ตอบรับเห็นพ้องต้องตรงกัน “ไปเลยก็ดีค่ะ” ฐิรดลมองไปทางเกษมสันต์ด้วยสายตาไม่สบายใจ อดีตรัฐมนตรีหัวเราะ น้อย ๆ บอกขึ้นว่า “ลุงไปนะ ไม่ต้องห่วง จะพยายามรักษาสุขภาพให้ดีที่สุด ไม่ต้องให้หลานต้องกังวลเด็ดขาด” เกษมสันต์บอกทางนั้นแล้วค่อยเอื้อมมือมาจับมือของเธอ พาเดินออกจากห้องนั้นไปด้วยกัน ห้องชุดที่ด้านบนถูกเปิดไว้รอแล้ว ทันทีที่ออกจากคลับที่ด้านล่าง คนสนิทของเกษมสันต์ก็เคลียร์เส้นทางให้คนเป็นนาย พาเข้าลิฟต์ตรงขึ้นไปยังชั้นบนในทันที “ถึงกับต้องมีมาคอยดูแลเลยหรือคะ” เธอถามหยอกเย้าเกษมสันต์เมื่อออกจากคลับ ตรงเข้าลิฟต์มาแล้ว และกำลังขึ้นไปยังห้องพักที่ชั้นบนสุดด้วยกัน เกษมสันต์บอกขณะลูกน้องของเขาส่งสายตาถามว่าให้คอยหรือไม่ ชายมากวัยโบกมือทำนองไล่พร้อมตอบเธอกลับอย่างอารมณ์ดี “พ่อของคีย์ เขาเคยดูแลผมมาก่อนน่ะ พอเขาเสีย ลูกชายเขาก็เลยรับหน้าที่ดูแลผมต่อจากพ่อ” คุยกันมาถึงตรงนี้ ลิฟต์พาขึ้นมาถึงชั้นบนพอดี ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันตรงไปยังห้องที่เปิดรอเอาไว้ เข้ามาถึงในห้องแล้ว เกษมสันต์เล่าต่อไปอีกว่า “ปกติคีย์เขาไม่รับใครเป็นคนไข้ง่าย ๆ หรอกนะ หยิ่งออกจะตาย ถ้าไม่ใช่ผม คีย์ไม่มีทางตอบรับแน่นอน มีหลานชายเป็นหมออยู่ข้าง ๆ บอกเลยว่าผมอุ่นใจไม่น้อยล่ะ” ภัทรวรินทร์เลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องราวของฐิรดล เอียงคอถามยิ้ม ๆ ยั่วยวนชายแก่คราวพ่อกลับไป “เก่งขนาดนั้นเลยหรือคะ” เกษมสันต์หัวเราะจนพุงกระเพื่อมถูกอกถูกใจกับจริตจะกร้านของเธอไม่น้อย “เก่งมากเลยล่ะ พราวอยากได้ไว้เป็นหมอประจำตัวไหม” เสียงถามของชายมากวันฟังดูแล้วหยั่งเชิงเธออยู่ “ขอบคุณนะคะที่ท่านใส่ใจ แต่พราวดูแลตัวเองได้ค่ะท่าน” ภัทรวรินทร์บอกไปตามสัตย์จริงที่ตนยึดถือคำมั่นนั้นเอาไว้ แล้วเลิกสนใจที่จะคุยเรื่องของนายแพทย์ฐิรดล ในห้องตอนนี้มีเพียงเธอกับเกษมสันต์เพียงสองคนเท่านั้น ลูกน้องคนสนิทพากันเดินหน้าออกไปจนหมดแล้ว จึงลุกไปรินเครื่องดื่มมาบริการลูกค้ารายสำคัญ ได้มาสองแก้วก็ค่อยเดินนำมาส่งให้ เห็นว่าน่าจะพร้อมแล้ว ค่อยเอ่ยถามเสียงนุ่มนวลไปว่า “เรา...เริ่มกันเลยดีไหมคะท่าน” เกษมสันต์แตะมือตัวเองลงบนหลังมือของเธอแล้วครางชื่อของเธอแผ่วกระเส่าทีเดียว สายตาที่มองเธอเผยความต้องการมากกว่าที่ตกลงกันเอาไว้เสียอีก “พราว” ภัทรวรินทร์ช้อนตามองพร้อมขานรับเสียงหวาน “คะท่าน” “ผมชอบพราวมากนะ” เธอหลุบตาลงก่อนจะช้อนตาขึ้นมองอย่างมีจริตอีกครั้ง ย้ำเตือนอีกฝ่ายไปว่า “พราวทราบค่ะ แต่ที่เราคุยกันไว้...” “ผมอยากได้พราวมากกว่าที่เราคุยกันไว้นี่นา” และก่อนที่ทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตามตอนของมัน เสียงโทรศัพท์ที่บันทึกด้วยเสียงหัวเราะดัง ๆ ของเจ้าของเครื่องก็แผดดังขัดขึ้นเสียก่อน ภัทรวรินทร์ไม่ยอมให้อีกฝ่ายหยุดชะงักธุระกลางคัน แต่แล้วเกษมสันต์ก็วางมือของเขาลงกับมือของเธอแล้วดึงออกจากเนื้อตัวอวบอ้วนของตนเอง “ผมต้องรับสายนี้ก่อนพราว” เสียงแหบพร่าบอกอย่างเสียอารมณ์ไม่น้อย อดีตรัฐมนตรีจัดแจงลุกออกจากโซฟาตัวใหญ่ กระแอมในลำคอหลาย ๆ ครั้งติดกันแล้วก็ค่อยยกโทรศัพท์ขึ้นปาดหน้าจอเพื่อกดรับสาย พร้อมกับเดินเลี่ยงไปยังอีกห้องที่ด้านใน แว่วเสียงคุยดังออกมาว่า “ว่าไงนะ” “ใครเป็นอะไรนะ มึงพูดช้า ๆ ให้กูฟังรู้เรื่องหน่อยซิวะ” หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบห้องชุดอย่างเบื่อหน่าย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม