“ว่าไงนะ”
“ใครเป็นอะไรนะ มึงพูดช้า ๆ ให้กูฟังรู้เรื่องหน่อยซิวะ”
หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบห้องชุดอย่างเบื่อหน่าย เกษมสันต์คุยสายอีกราว ๆ ห้านาทีเห็นจะได้ ค่อยตัดการสนทนาไป แล้วเดินตรงมาบอกเธอด้วยท่าที เซ็ง ๆ ว่า
“เรานัดกันอีกครั้งได้ไหมพราว อย่าเพิ่งเบื่อผมนะ”
“ได้ค่ะท่าน” ยิ้มรับแล้วถามด้วยท่าทีเสียดายเฉกเช่นเดียวกัน “ท่านจะออกไปเลยหรือคะ”
“พราวลงไปพร้อมผมเลยไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
เขาบอกลาด้วยท่วงท่าเก้ ๆ กัง ๆ แล้วเดินไม่เต็มฝ่าเท้าตรงไปยังประตูห้อง ก่อนจะดันมันออก พร้อมขบวนผู้ติดตามเข้าลิฟต์ลงไปที่ด้านล่าง
ภัทรวรินทร์มองไปที่ประตูห้องแล้วก็ค่อยยกโทรศัพท์ขึ้นต่อสายบอกให้มัดหมี่และคนติดตามนำรถมาจอดรอที่ด้านหน้าได้เลย
มัดหมี่ร้องถามมาตามสายว่า “อ้าว ทำไมไวจังเลยคะคนสวย เกิดอะไรขึ้น ไหนบอกพี่หมี่หน่อยสิ”
“ท่านไปแล้วพี่” บอกอย่างเซ็ง ๆ ที่งานครั้งนี้ชวดแล้วชวดอีกจนเริ่มหงุดหงิดใจ “ที่บ้าน ไม่ก็สาว ๆ คนไหนคงโทรตามมั้งคะ พราวได้ยินแว่ว ๆ อย่างนั้น”
ปลายสายหัวเราะก่อนบอกกลับมา “ไม่ใช่ว่ายัยคุณนายหัวหงอกนั่นหาเรื่องตามผัวกลับบ้านหรอกหรือ รอบนี้คงใจขาดตายไปจริง ๆ แน่ ถ้ารู้ว่าผัวตัวนัดกับดาวเด่นของเรือนมาลีน่ะ”
“อย่าแช่งใครแบบนี้สิพี่หมี่ ฟังแล้วรู้สึกไม่ดีเลยนะ” เตือนอีกฝ่ายแล้วก็ย้ำอีกครั้งว่า “ให้รถมารอพราวตอนนี้เลยนะ เดี๋ยวพราวลงไป”
วางสายจากมัดหมี่แล้ว เธอเข้าไปเช็กความเรียบร้อยที่ในห้องน้ำ ก่อนออกมารอลิฟต์ แล้วก็พบว่ามีคนออกมาจากห้องที่อีกฟาก ตรงมายืนรอลิฟต์เช่นกัน ภัทรวรินทร์นึกแปลกใจที่ชั้นนี้มีคนอื่นด้วยนอกจากเธอเกษมสันต์ และก็ไม่ได้หันไปมองทางนั้น แต่พอเห็นเงาสะท้อนของอีกฝ่ายแล้วให้คอแข็งขึ้นเล็กน้อย
ไม่นานประตูเหล็กเปิดออก เขาตรงเข้าไปก่อน เธอเดินเข้าไปยืนที่อีกมุมของลิฟต์แล้ว เสียงของเขาก็ค่อยดังขึ้นว่า
“เคลียร์คิวให้ผมแล้วหรือ”
ทันทีที่ได้ยินคำถามของเขา เธอยิ้มเนือย ๆ ยกมือขึ้นกอดอกไม่ได้ตอบอะไรทั้งนั้น ฐิรดลเลยย้ายตัวเองเข้ามาใกล้เธอแล้วก้มลงถามอีกครั้งว่า “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใคร ๆ พากันพูดถึงคุณพราวไปทั่ว ก็ตัวจริงทั้งเซ็กซี่ ทั้งยั่วยวนขนาดนี้ไง”
ถอนใจด้วยท่าทีรังเกียจ พร้อมกับขยับออกห่างจากเขา
“สรุปจะไม่รับนัดแฟนคนแรกหน่อยหรือ”
ยิ้มหยันแล้วว่า “ฉันไม่เคยมีแฟน แล้วอย่างคุณก็จ่ายให้ฉันไม่ไหวหรอก”
แววตาของเขากร้าวขึ้นขณะโต้เธอกลับมา
“ตัดสินผมจากอะไรที่บอกว่าจ่ายไม่ไหวน่ะ” ฐิรดลทิ้งช่วงไว้อึดใจก่อนถามด้วยเสียงหยัน “จากแหวนวงที่เคยให้น่ะหรือ”
เธอไม่ตอบ คอตั้งตรงด้วยอารมณ์เดือดดาลเช่นกันที่เขาพูดถึงแหวนวงนั้นขึ้นมา
“ยังไงก็ลองบอกมาก่อนสิว่าคิดราคาที่เท่าไร ถ้าไม่แพงมากแล้วก็คุ้มค่าเงินของผม บางทีผมอาจจะยอมจ่ายก็ได้นะ”
เขาพูดพร้อมงอนิ้วไล้ไปตามท่อนแขนของเธอ ภัทรวรินทร์หลุบตาลงมองก่อนจะขยับตัวออกไปยืนรอที่ประตูลิฟต์เมื่อเห็นตัวเลขใกล้ชั้นที่เป็นจุดหมายเข้าไปทุกที ๆ
ฐิรดลเข้ามายืนซ้อนที่ด้านหลังของเธอ พร้อมกับหย่อนกระดาษนามบัตรใบแข็งกับกระเป๋าของเธอ เขาวาดแขนของตัวเองกักเธอจากทางด้านหลัง ก้มลงกระซิบชิดแก้มว่า
“ถ้าเปลี่ยนใจ โทรหาผมนะ”
“ฉันไม่รับลูกค้าที่ชอบฉวยโอกาส ไม่เป็นสุภาพบุรุษแล้วก็จ้องแต่จะเอาเปรียบผู้หญิง”
ฐิรดลเผยอปากอ้าจะสวนกลับแต่แล้วกลับเม้มปากจนเป็นเส้นตรง คำพูดกล่าวหากับแววตาหยันเหยียดทำให้นายแพทย์หนุ่มต้องใช้เวลาราวนาทีที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้สงบนิ่งลงมากกว่านี้
เขาก้าวมาถึงวันนี้ได้ ผ่านอะไรมามากมายนับไม่ถ้วน เป็นผู้นำคน เป็นผู้บริหารของเฮลธิเวลธิกรุ๊ปโดยไม่พึ่งพาใครด้วยซ้ำ จะมาถูกพูดจาหมิ่นแคลนแบบนี้ไม่ได้ โดยเฉพาะคนพูดจาหมิ่นเป็นพวกผู้หญิงอย่างว่าเสียด้วยสิ
ฐิรดลตอบโต้พร้อมด้วยสายตาหมิ่นแคลนมองกวาดลงช้า ๆ อย่างจงใจ แล้วทิ้งสายตาอ้อยอิ่งอยู่ตรงทรวงอิ่มของเธอ
“เท่าที่จำได้ ผมไม่เคยเอาเปรียบใครนะ มีแต่สมยอมให้แบบฟรี ๆ ทั้งนั้น จนผมละอาย ต้องขอจ่ายเงินเสียเอง บางคนก็แลกด้วยของมีค่านะ อย่างพวกแหวนทองอะไรพวกนั้น”
ภัทรวรินทร์แสดงสีหน้าไม่หวั่นเกรงเขา ลากสายตามองเลยไปยังตัวเลขระบุชั้นที่เคลื่อนตัวลงมาเรื่อย ๆ ขยับมุมปากโค้งขึ้นเป็นยิ้ม ก่อนจะยกเท้าข้างขวาขึ้นแล้วเหยียบเฉพาะตรงส้นแหลม ๆ ลงบนรองเท้าของเขาด้วยแรงทั้งหมดที่เธอมี ล้วงเอาการ์ดใบแข็งของเขาออกมาถือรอ เอียงหน้าไปบอกเขาว่า
“มีใครเคยบอกคุณไหม ว่าคุณเป็นคนที่น่ารังเกียจที่สุด และเรื่องระหว่างเราก็ให้มันจบ ๆ ไปเถอะนะ อย่ารื้อฟื้นขึ้นมาอีกเลยหรือว่ามันฝังใจคุณจนลืมไม่ลง น่าสงสารจังเลยนะคะ”
พูดจบประตูลิฟต์เปิดออกพอดี จึงยกเท้าออกจากหลังเท้าของเขา พร้อมกับทิ้งการ์ดนามบัตรของเขาไว้ในลิฟต์ ก้าวขาออกจากตู้เหล็กแคบ ๆ นั่นไปในทันทีโดยไม่เสียสายตามองไปยังเขาอีกเลย
รถของเรือนมาลีรอรับเธอขึ้นรถจนเรียบร้อยแล้วก็พามุ่งหน้ากลับไปยังปลายทาง
เรือนมาลีไม่ได้ตั้งอยู่ท้ายซอยลึกลับอย่างที่ทุกคนเคยรับรู้อีกต่อไป สิบปีก่อนเรือนมาลีเปลี่ยนเจ้าของคนใหม่ แล้วก็ค่อย ๆ ลำเลียงคน ย้ายมายังที่นี่ ที่ตั้งตรงย่านใจกลางมหานคร บนพื้นที่เฉียดสิบไร่