26

1159 คำ
“เห็นอาจารย์คุยกันเมื่อกี้นี้ในห้องพักครู บอกว่าครีมจะลาออก” “เฮ้ย จริงหรือ” “จริง” “แล้วจะไปเรียนต่อที่ไหน อ๋อรู้แล้ว ไปเรียนต่อที่กรุงเทพตามพี่คีย์แน่ ๆ เลย” ได้ยินเพื่อนร่วมห้องพูดถึงเรื่องของฐิติชญาในเทอมสุดท้ายก็ให้ใจหาย ภัทรวรินทร์ไม่ได้รับความสนิทสนมจากเพื่อนที่เคยสนิทที่สุด รักที่สุดอีกเลย ฐิติชญาขอแลกที่นั่งกับเพื่อนอีกคน ย้ายตัวเองออกห่างจากกันไปทุกที ๆ ภัทรวรินทร์เคยพยายามเข้าไปหา เข้าไปเพื่อคุยเรื่องราวทั้งหมดด้วย แต่อีกฝ่ายกลับเดินหนีตนไป จนวันหนึ่ง เมื่อหมดหนทางแล้วก็ตัดสินใจเขียนทุกอย่างลงในกระดาษ สารภาพหมดทุกเรื่อง เด็กสาวตัดสินใจเขียนเล่าตั้งแต่วันที่ได้เจอฐิรดลในวันฝนตกวันนั้นและติดต่อกับเขาเรื่อยมา จนถึงคืนงานเลี้ยงวันเกิดก็หายไปกับฐิรดล ก่อนจะเขียนย้ำในตอนท้ายว่าไม่เคยสนิทสนมกับเอ ไม่เคยคิดอะไรกับรุ่นพี่ที่ชื่อเอ ไม่ได้คบกันกับเอแต่อย่างใด เอเพียงแต่มาจ้างให้เธอทำการ์ดเท่านั้น อยากบอกมากกว่านี้แต่เอาไว้คุยกันต่อหน้าเลยจะดีกว่า เมื่อบอกเรื่องที่อยากบอกลงในกระดาษแล้ว เด็กสาวพับลงใส่ซองที่ทำขึ้นเอง อาศัยช่วงเวลาพักกลางวัน นำไปสอดที่ในกระเป๋าเรียนของฐิติชญา ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ตอนนั้นเองที่มีใครบางคนมาเห็นเข้าพอดี ใครคนนั้นตรงไปเปิดกระเป๋าของฐิติชญาออก แล้วนำปึกกระดาษที่ภัทรวรินทร์ใส่ลงไปเปิดอ่านก่อนจะดึงออกไปแล้วดันกระเป๋าใบนั้นกลับเข้าที่เดิม ไร้ซึ่งจดหมายสารภาพของภัทรวรินทร์ที่ในนั้น ภัทรวรินทร์รอจนเลิกเรียน รอจนข้ามวันใหม่ ลุ้นอยู่ในใจว่าเพื่อนจะได้อ่านจดหมายนั่นแล้วหรือยัง แล้วก็รอคอย ลอบมองเพื่อนเพียงคนเดียว ที่เคยสนิทกันมาก รอลุ้นว่าหากได้อ่านแล้วจะรู้สึกอย่างไร จะเชื่อในสิ่งที่เธอสารภาพจนหมดเปลือกนั่นหรือไม่ แต่แล้วปฏิกิริยาของเพื่อนก็ยังคงเฉยเมยอย่างเดิม จนวันสอบวันสุดท้าย เพื่อนในห้องนำอาหารเครื่องดื่มและจัดเลี้ยงอำลาให้ฐิติชญา โดยมี มณีนาถนำของขวัญที่รวบรวมเงินของเพื่อน ๆ ในห้องรวมถึงเงินที่ตัวเองเก็บออมไว้ทั้งหมดหาซื้อของขวัญอำลาให้ฐิติชญา ภัทรวรินทร์มองเพื่อนรักจากมุมไกล ๆ น้ำตาของเด็กสาวไหลอาบลงมาเป็นทาง นึกเสียใจที่ไม่พูดเรื่องราวทั้งหมดกับเพื่อนไปในวันนั้น ฐิติชญาจากไปแล้ว วันนี้เป็นวันปิดภาคเรียนที่หดหู่ที่สุด ภัทรวรินทร์ข่มกลั้นอาการพะอืดพะอมไว้แทบไม่ไหว หลายวันมาแล้วที่เด็กสาวมีอาการเหมือนจะไม่สบาย คลื่นเ**ยน เวียนศีรษะ กินอะไรไม่ใคร่ได้อย่างที่เคย กลับถึงบ้าน ช่วยงานจนเสร็จแล้ว ก็รีบวิ่งไปอาเจียนที่ในห้องน้ำก่อนจะล้างหน้าล้างตาเดินโซเซออกมาที่ด้านนอก เด็กสาวตัดสินใจเอากระดาษที่จดเบอร์ติดต่อของฐิรดลออกมาคลี่ออกดู แล้วตัดสินใจโทรหาเขาครั้งหนึ่งแล้วกรอกเสียงลงไปว่า “สวัสดีค่ะ” แต่แล้วปลายสายก็ตัดทิ้งไป จึงคิดว่าสายคงหลุดเลยต่อสายที่เบอร์เดิมนั้นอีกครั้ง แต่ไม่มีคนรับสาย เด็กสาวทิ้งช่วงอีกครู่ตัดสินใจโทรไปอีกครั้ง ปลายสายมีคนรับแล้วและยังเป็นเสียงของฐิรดลอีกด้วย ได้ยินเสียงเขา เด็กสาวยิ้มได้แม้จะเศร้าก็ตามที “สวัสดีค่ะพี่คีย์ พราวเองนะคะ” “มีอะไรหรือ” “พราว พราวไม่สบายค่ะพี่คีย์” “โทรมาบอกพี่ทำไมเรื่องแค่นี้ แถวนั้นไม่มีโรงพยาบาลหรือไง” เด็กสาวกำหูโทรศัพท์แน่นก่อนจะหันไปดูว่ารอบ ๆ บ้านมีคนหรือไม่ ค่อยกรอกเสียงบอกเขาไปตามสายว่า “ประจำเดือนพราวไม่มาเลยค่ะ” “แล้วยังไง” เขาถามกลับมาแบบนั้นก็ทำเอาเด็กสาวถึงกับนิ่งงัน อึ้งงงไปเป็นนาที แล้วก็พูดอะไรต่อไม่ออก “แค่นี้ใช่ไหมเรื่องที่จะคุย” ฐิรดลถามกลับมาตามสาย “พี่คีย์” เด็กสาวปล่อยเสียงเรียกสะอื้นน้อย ๆ ราวกับจะขาดใจผ่านออกมาอย่างที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ “ทำไมพี่คีย์พูดเหมือนโกรธพราว” เสียงเขาถามกลับแทนที่จะตอบคำถามเมื่อก่อนหน้านี้ “พราวทำอะไรให้พี่ต้องโกรธอย่างนั้นหรือ” เด็กสาวตัวสั่น เสียงสั่นถามเขากลับไป “แล้วที่พี่คีย์บอกว่าจะรับผิดชอบพราว จะแต่งงานกับพราว...” “พี่เคยพูดแบบนั้นด้วยหรือ” ภัทรวรินทร์ใจสลายไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดปัดความรับผิดชอบแบบนี้จาก ฐิรดล เขาเหมือนไม่ใช่ฐิรดลคนเก่าที่เธอเคยรู้จัก “พี่คีย์โกหกพราว” “ก็แล้วทำไมพี่จะโกหกไม่ได้ พราวเองก็โกหกพี่ หลอกพี่เหมือนกัน ไม่มีอะไรก็แค่นี้นะ พี่ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ อ้อ แล้วทีหลังก็อย่าโทรมาอีก พี่รำคาญ” สมสมรเพิ่งกลับเข้าบ้านมา ทันได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์เข้าพอดี นางยืนมองเด็กสาวที่ตนเลี้ยงมาเองกับมือด้วยสายตาราบเรียบเฉยชา คาดเดาอารมณ์ ความคิดของเจ้าตัวแทบไม่ออกว่ารู้สึกเช่นไรในตอนนั้น แม้จะไม่ได้เลี้ยงฟูมฟักมาอย่างดี แต่สมสมรก็ดูแลทุกอย่าง ห่วงใยทุกเรื่อง “มึงท้องหรือพราว” ภัทรวรินทร์ที่ยังไม่ได้วางหูโทรศัพท์ลงด้วยซ้ำตัวชา หน้าชาไปหมด หันไปทางสมสมรด้วยใบหน้าซีดเผือด “อะไรนะจ๊ะน้า” “กูได้ยินเสียงมึงอ้วกทุกวัน เมนส์มึงไม่มาด้วยใช่ไหม” ได้ยินสมสมรพูดขึ้นกูมึงด้วยก็ใจแป้วแล้ว ทั้งยังถามคำถามจี้ใจดำก็ให้ออกร้อนไปทั้งกระบอกตา เด็กสาวส่ายหน้าน้อย ๆ พูดไม่ออก “มึงตอบกูมาเดี๋ยวนี้นะอีพราว มึงท้องใช่ไหม” เสียงตวาดถามดังลั่นขึ้น จนสาว ๆ ในเรือนมาลีบางคนที่แต่งตัวแต่งหน้าเสร็จแล้วต้องเดินข้ามบ้านมายืนมองว่าเกิดอะไรขึ้น ภัทรวรินทร์ได้แต่ก้มหน้านิ่ง พูดไม่ออก สมสมรเห็นแบบนั้นก็ยิ่งบันดาลโทสะเดินเข้ามาคว้าคอเสื้อแล้วตวาดถามด้วยน้ำเสียงอย่างคนโมโหสุดขีด “ตั้งแต่มึงหายไปกับไอ้ลูกหมอคนนั้นน่ะ เมนส์มึงมาหรือยังอีพราว กูถามมึง ได้ยินไหม”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม