“ครีมเพิ่งรู้ธาตุแท้ของยัยนั่นค่ะ และคนแบบนั้นก็ไม่ใช่เพื่อนครีมด้วย พี่คีย์ก็เหมือนกันนะ อย่าได้หลงกลยัยจอมโกหก แล้วก็แรดแบบนั้นเด็ดขาดเลยนะครีมเตือนไว้ก่อนเลย”
ฐิรดลฟังแล้วก็ส่ายหน้า ไม่อยากเชื่อคำพูดของน้องสาว คนอยากหาพวกเห็นว่าพูดเท่านี้พี่ชายคงจะไม่เชื่อตนแน่ก็ใส่สีตีไข่สร้างเรื่องเข้าไปอีกว่า
“พี่คีย์โดนหลอกให้ซื้อนั่นซื้อนี่ให้ไปเท่าไรแล้วละคะ จะบอกให้ว่าแม่เนี่ยตีเนียนหลอกให้เราซื้อของให้เก่งมาก ๆ เลยล่ะ ครีมหมดไปกับยัยนี่หลายตังค์เลย พี่คีย์ก็คงไม่รอดเหมือนกันแหละครีมว่านะ”
ฐิรดลหันหลังไม่อยากฟังสิ่งที่น้องสาวของเขาพูดอีกต่อไป ออกจากบ้าน ขับรถไปที่ร้านซ่อมเสื้อผ้าของสมสมรในเวลาต่อมา เขาพกเอาความไม่เชื่อใจ ความผิดหวังและความเจ็บแค้นมาด้วยเต็มพิกัด
ไปถึงก็พบว่าสมสมรกำลังกวาดลานหน้าร้านซ่อมเสื้อผ้าของตนเองอยู่ สมสมรละมือจากงานตรงหน้า ยืนมองเด็กหนุ่มที่จอดรถแล้วก็ลงมาด้วยใบหน้าถมึงทึง ถามห้วนสั้นออกไป
“มาหาใคร”
เขาชะเง้อเข้าไปด้านใน พอเห็นสมสมรชักสีหน้าไม่พอใจก็บอกไปว่า
“ผมมาหาพราวครับ”
สมสมรมองสำรวจฐิรดลแล้วถึงได้พยักเพยิดหน้าไปยังถนน
“นู่นไง กลับมาพอดี”
ฐิรดลหันไปยังอีกทิศทาง พบว่าเด็กสาวที่เขามีใจให้ กำลังเดินมาพร้อมเอ เท่านั้นไม่ได้ทำให้ฐิรดลโกรธเท่ากับที่เห็นผู้ชายคนอื่นแตะต้องเนื้อตัวของภัทรวรินทร์เลย
ฐิรดลที่โกรธเป็นทุนเดิมเห็นว่าภัทรวรินทร์ถูกคนอื่นจับเนื้อต้องตัวก็ทำให้โกรธหนัก ตรงเข้าไปหาเรื่องในทันที
ภัทรวรินทร์คงถึงคราวเคราะห์หนัก เย็นนี้กลับค่ำเพราะช่วยอาจารย์ที่ในห้องพักครู มาถึงป้ายรอรถจึงพบคนแน่นขนัดไปหมด ตนขึ้นมาสุดท้ายก็ได้แต่เกาะเหล็กท้ายรถแน่น ช่วงที่รถเบรกเลยโดนเบียดจนกลิ้งตกลงมา เอที่ชวนกลับด้วยแต่ เด็กสาวไม่กลับ เลยขับมอเตอร์ไซค์ตามหลังมา เห็นเข้าก็รีบเข้ามาช่วยในทันที
“มึงเลิกยุ่งกับพราวได้แล้ว” ฐิรดลตวาดพร้อมกับจะเข้าไปคว้าแขนของ ภัทรวรินทร์ แต่เอขวางไว้เสียก่อน ร้องถามด้วยน้ำเสียงและใบหน้ายียวน
“ทำไมกูจะต้องทำตามที่มึงบอกด้วยวะ”
“พราวเป็นของกู”
เอมองฐิรดลที่เกรี้ยวกราดใส่ตนเองด้วยสายตาปนขำ ก่อนจะบอกออกไปว่า “มึงเที่ยวขี้ตู่ว่าคนนั้นคนนี้เป็นของมึงไม่ได้นะโว้ย”
ฐิรดลไม่ฟังเสียงใคร เพราะตอนขามา เขามีอารมณ์คุกรุ่นเป็นทุนอยู่เกินครึ่ง ยิ่งมาถึงแล้ว พบภาพบาดตาบาดใจ ไม่น่าอภิรมย์ก็ยิ่งโมโหหนักมากยิ่งขึ้นอีกหลายเท่าตัว ตรงเข้าไปเงื้อหมัดชกเข้าที่กึ่งกลางใบหน้าตรงดั้งจมูกของเอเข้าอย่างจัง
“พี่คีย์ ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ”
ภัทรวรินทร์ร้องห้ามหน้าซีด ยกแขนขวางเอาไว้ไม่ให้ชายสองคนมีเรื่องกัน ไม่อยากให้คนมายืนมุง แม้จะอยู่ในซอยลึก แต่ก็มีคนในเรือนมาลีอยู่ จึงไม่อยากให้ใครมายืนมองดูเหตุการณ์ลักษณะนี้
“ไม่ใช่แล้วความจริงมันคืออะไร พูดมาเลยพราว”
ถามออกไปแล้วได้แต่ความเงียบเป็นคำตอบ ฐิรดลก็ยิ่งโกรธหนัก เขาคว้ามือเด็กสาวไปดู ก่อนจะถามขึ้นอีกครั้ง
“แล้วแหวนพี่อยู่ไหน”
“แหวนพี่คีย์...”
ภัทรวรินทร์ทวนคำถามของเขาด้วยใบหน้าซีดไร้สีเลือด เพราะลืมทิ้งไว้ในห้องน้ำ จนป่านนี้ก็ยังหามันไม่เจอเลย หากเขาจะเอาคืนก็ไม่รู้ว่าจะบอกเขาไปอย่างไรดี
ฐิรดลมองหน้าที่เซียวซีดแล้วก็ให้เสียดในหัวใจ ถามย้ำคำเดิมออกไปว่า
“แล้วแหวนที่พี่ให้พราวอยู่ที่ไหน”
“คือ พี่คีย์คะ พราว ทำ ทำหายค่ะ...”
ฐิรดลขยับหนี พร้อมกับล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะชูมันขึ้นมาที่ตรงหน้าเด็กสาว “มันไม่ได้หายไปไหนหรอกมั้งพี่ว่า แต่มีคนเอาของที่พี่ให้ไปจำนำแลกเงินซะมากกว่า”
ฐิรดลพูดตามอย่างที่ฟังมาจากแม่ของเขา ทั้งยังยืนรอด้วยท่าทีที่คล้ายจะใจเย็น แต่เปล่าเลย ข้างในมันเดือดจะร้อนอย่างที่สุด
“ใช่อย่างที่พี่พูดหรือเปล่า”
“เปล่านะคะ พราวไม่ได้...” ภัทรวรินทร์พูดได้เพียงเท่านั้นก็พูดอะไรต่อไปอีกไม่ออก
“อยากได้เงินมากนักใช่ไหม ก็ขายตัวให้พี่สิ พี่ยินดีซื้อ แต่เราทำแบบนี้ทำไมพราว ทำทำไม!”
ภัทรวรินทร์มองเขาด้วยสายตาผิดหวังและเสียใจที่ได้ยินคำพูดแบบนั้นหลุดออกมาจากปากเขา
เขาคาดหวังลึก ๆ ในใจว่าภัทรวรินทร์พูดหรืออธิบายเรื่องแหวนแต่แล้วเด็กสาวกลับยืนนิ่งเงียบไป ไม่มีท่าทีจะแก้ต่างอะไรให้ตัวเขาเข้าใจเสียใหม่ ก็ให้รู้สึกผิดหวังไม่น้อย
เรื่องราวที่เขามีร่วมกันกับเธอ เป็นเขาเองที่หลงคิดไปฝ่ายเดียวหรืออย่างไร
ฐิรดลชูแหวนขึ้นประกอบคำพูดเศร้า ๆ ของเขา “ในเมื่อพี่ให้พราวแล้ว พราวจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของพราวเถอะ แต่พี่อยากให้พราวรู้เอาไว้นะว่าแหวนวงนี้สำคัญกับพี่มาก และที่พราวทำนั่น พราวทำลายความรู้สึกดี ๆ ของพี่ที่มีให้พราว ทำลายจนไม่เหลืออะไรดี ๆ ให้พี่จำเลย”
เขาบอกจบแล้วก็หันหลังไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขา ขับจากไปในทันที ภัทรวรินทร์กัดปากตัวเองเอาไว้แน่นไม่ให้ร้องเรียกเขาหรือวิ่งตามเขาไป ยืนมองฐิรดลพารถออกไปจากลานโล่งตรงนั้น จนไฟท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของเขาลับหายไปจากสายตา
เอที่ยืนปาดเลือดที่ไหลซึมออกจมูกบ่นอย่างหัวเสียไล่หลังไปว่า
“ไอ้สัตว์ ถามหาแหวนอยู่นั่น กูนึกว่ากอลลัม แน่จริงมึงวนกลับมาอีกดิวะ พ่อจะอัดแม่งให้หมอบคาตีนนี่เลย”
พูดจบก็ทำท่าถอยหลังกรูดเมื่อเห็นลิบ ๆ ว่ามีรถมอเตอร์ไซค์ขับเข้ามาทางปากซอย แต่พอมองอีกทีแล้วพบว่าไม่ใช่รถของฐิรดลก็ค่อยยืดอกสบถด่าต่ออีกหลายคำค่อยกลับออกไปจากตรงนั้นบ้าง
“รู้ข่าวเรื่องครีมหรือยังอะแก”
“มีอะไรหรือ”
“เห็นอาจารย์คุยกันเมื่อกี้นี้ในห้องพักครู บอกว่าครีมจะลาออก”