“ไปไหนคะพี่คีย์”
เด็กสาวร้องถามโต้กับเสียงลม แต่แล้วก็ไม่มีคำตอบใด ๆ ออกมาจากปากของเขา มีเพียงมือข้างหนึ่งของเขาที่ทั้งใหญ่และทั้งแข็งแรงมากกว่าดึงมือเธอให้กอดรัดที่เอวของเขาเอาไว้ให้แน่น ๆ
ภัทรวรินทร์ยิ้มอาย ๆ ในหมวกยินยอมกอดเอวเขา ปล่อยให้สายลมโต้ใบหน้าช่วยพัดเอาความหม่นหมองที่มีให้จางหายไปไว ๆ
ไม่นานจากนั้น สันเขื่อนโค้งยาวสุดตาก็ปรากฏขึ้นที่ตรงหน้า
ฐิรดลหาที่จอดบริเวณก้อนหินก้อนใหญ่ตรงมุมสุดของเขื่อน แล้วพาเธอลงไปคุยกัน
“เทอมหน้าพี่ต้องเรียนหนักกว่าเดิม อาจจะไม่ค่อยได้กลับบ้าน” เขาบอกพร้อมกับยื่นมือออกมาจับมือเธอไว้ ส่วนอีกข้างล้วงเอาของในกระเป๋าออกมา แต่เด็กสาวไม่ได้สนใจ ถามเขาออกไปด้วยหัวใจที่แหว่งหายออกไปทีละนิด วูบโหวงในอกชอบกล
“จะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้วหรือคะ”
“กลับสิ แต่คงนาน ๆ กลับมาสักครั้ง ถ้าพี่ยังไม่ได้กลับบ้านเร็ว ๆ นี้พราวก็อย่าไปตกลงคบใครนะ พราวต้องรอพี่นะ รู้ไหม”
ฐิรดลดันแหวนทองวงสวยใส่เข้าไปที่ในนิ้วเล็ก ๆ ของภัทรวรินทร์ เด็กสาวมองแหวนที่เขาสวมให้ก็ออกร้อนไปทั้งหน้า ร้องเรียกเขาเสียงสั่น
“พี่คีย์”
“พี่จองไว้แล้วนะ ห้ามให้ใครมาทับรอยพี่เด็ดขาด”
“ค่ะ” เด็กสาวพึมพำตอบรับเขาอาย ๆ
“พราวสัญญากับพี่นะว่าจะรอพี่ ห้ามไปตอบรับรักใครที่ไหนทั้งนั้น”
ฐิรดลบอกด้วยท่าทีจริงจัง น้ำเสียง แววตาของเขาดูไม่มีท่าทีของการพูดเล่นเลยแม้แต่นิด ภัทรวรินทร์มองเขาแล้วก็ยิ้มอาย ๆ เมื่อไม่ได้คำตอบเขาก็ดึงมือเธอไปกระตุกเอาเบา ๆ
“ว่ายังไงล่ะพราว สัญญาได้ไหม”
ภัทรวรินทร์เงียบไม่ยอมตอบรับเขา เพราะมัวแต่มองแหวนที่เขาสวมให้ ฐิรดลเห็นอย่างนั้นแล้วก็ทำทีเป็นพูดแหย่มาว่า
“หรือถ้ารอพี่ไม่ไหว อยากหาผัวใหม่ ก็ตามใจพราวเลยนะ”
ได้ยินเขาพูดแบบนั้น เด็กสาวก็ร้อนฉ่าไปทั้งหัวใจ เอามือข้างหนึ่งรูดแหวนของเขาออก ฐิรดลไวกว่า เขารั้งไว้ทัน ดันกลับที่เดิม เลยขยับตัวจะลุกหนีไป ฐิรดลเลยหัวเราะในลำคอเบา ๆ พร้อมกับยื่นมือไปดึงมือของคนขี้ใจน้อยเอาไว้แน่น ๆ ถามเสียงกลั้วหัวเราะ
“อะไรเล่า จะไปไหน”
เด็กสาวรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่เขาพูดจาราวกับดูถูกตนออกมาแบบนี้ ก็ให้ร้อนไปหมดทั้งกระบอกตา ไม่เคยเลยคิดว่าตัวเองจะมีอารมณ์ในลักษณะแบบนี้ด้วย
แล้วขัดขืนแรงของเขา ดึงมือของเขาออกแต่ฐิรดลกลับแกล้งเธอ เขารั้งให้เข้าไปหาแล้วก้มลงจูบที่ริมฝีปากของเธอ
ภัทรวรินทร์เอียงหน้าหนีด้วยความอาย
“ตรงนี้ไม่มีใคร มีแค่เรา”
เสียงของฐิรดลบอกที่ข้างแก้มก่อนจะก้มลงจูบเธอในที่สุด
อาทิตย์อัสดงกำลังคล้อยตัวลงเรื่อย ๆ และลาลับขอบฟ้าลงไปอย่างช้า ๆ ภาพเด็กหนุ่มและเด็กสาวถูกคนติดตามบันทึกเอาไว้ได้ในที่สุด ก่อนจะถูกส่งต่อให้แพทย์หญิงสิรินตามคำสั่ง
ฐิรดลส่งภัทรวรินทร์ที่บ้านแล้วก็ขับรถกลับเข้าบ้านในตอนเกือบเที่ยงคืนเห็นจะได้ เขารู้ว่าพ่อไม่อยู่บ้านไปสัมมนาจึงแอบหลบออกจากหอกลับมาบ้านในวันนี้
ทันทีที่จอดรถแล้ว แพทย์หญิงสิรินก็เดินลิ่ว ๆ ตรงมาหา เรียกด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
“คีย์”
ฐิรดลตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินเสียงของแม่ เขายิ้มพร้อมกับขานรับท่าน “ครับคุณแม่”
“อาจารย์หมอบ่นว่าลูกไม่ค่อยตั้งใจเรียน เหม่อบ่อย ๆ แล้วนี่ลูกกลับมาบ้านบอกใครหรือยัง คุณพ่อรู้ไหม”
ฐิรดลถอนหายใจเบา ๆ
“ผมบอกคุณแม่แล้วนี่ครับ ว่าผมไม่อยากเรียนหมอ ผมไม่ชอบ แล้วทำไมจะต้องไม่ให้ผมกลับมาบ้านด้วยล่ะครับ ผมไม่เข้าใจเลย”
“ก็เพราะว่าลูกกลับมาแล้วก็ติดลมน่ะสิ แอบไปเที่ยวเล่นกับพวกเพื่อน ๆ ของลูกจนไม่สนใจเรียน แล้วไหนจะเรื่องผู้หญิงอีก ลูกเชื่อฟังพ่อกับแม่มาตลอด ไม่เคยเกเรเหลวไหล แม่ขอร้องเถอะนะ อย่ามาเสียคนตอนนี้ได้ไหมคีย์”
“ผมแบ่งเวลาได้น่า”
ฐิรดลบอกอย่างหัวเสียแล้วเดินหลบเข้าไปที่ห้อง ไม่นานเสียงเคาะเบา ๆ ดังที่ประตูพร้อมกับเปิดแย้มออก เป็นน้องสาวของเขา ฐิติชญานั่นเองที่ตรงนั้น
“พี่คีย์ ทำไมอาทิตย์นี้กลับมาบ้านได้ล่ะคะ แล้วหายไปไหนมาคะ ทำไมมาถึงบ้านดึกจังเลย”
“ยังไม่นอนอีกหรือไงเราน่ะ”
ฐิรดลถามด้วยแววตาเอ็นดู พร้อมกับหยิบกระเป๋าเป้ออกมาเปิดออก ล้วงเอาของขวัญมาส่งให้
“ช้าไปหน่อย แต่พี่ไม่ได้ลืมนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
ฐิติชญารับมาแล้วก็รีบแกะห่อของขวัญทันทีพบว่าเป็นเซทตุ๊กตาที่ตนอยากได้ก็ร้องวี้ดเบา ๆ ด้วยความดีใจ เข้าไปนั่งเบียดพี่ชายกอดแขนแน่นเอียงหัวซบบอกขอบคุณเขายกใหญ่ พร้อมกับเล่าเรื่องคืนนั้นให้พี่ชายฟัง
“ตอนวันเกิด คุณลุงเกษมชวนครีมไปเรียนต่อที่แคนาดาด้วยค่ะ”
ฐิรดลปล่อยให้น้องสาวอิงซบ ปากถามกลับไปว่า
“เราอยากไปหรือ”
“ไม่รู้สิคะ มันทั้งอยากแล้วก็ไม่อยากครึ่ง ๆ ยังไงไม่รู้ครีมอธิบายไม่ถูก”
ฐิติชญาบอกแบบแบ่งรับแบ่งสู้ แล้วพูดเจื้อยแจ้วไปว่าทำไมตนถึงอยากไปแล้วอะไรที่ทำให้ตนเองไม่อยากไป แต่ฐิรดลเองก็มีเรื่องในหัวต้องขบคิดเช่นกัน เขาไม่ได้ฟังเลยว่าน้องสาวกำลังเล่าอะไร จมกับความคิดของตัวเอง
“มีอะไรจะบอก”
ฐิติชญามีท่าทีสนใจในทันที ขยับไปหาพี่ชาย ถามด้วยสีหน้าอยากรู้เต็มที่
“อะไรหรือหรือคะพี่คีย์”
ฐิรดลยิ้มออกปากจะบอกน้องสาวเรื่องที่คบหากับภัทรวรินทร์แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ บอกไปว่า
“เดี๋ยวค่อยบอกดีกว่า เราก็ไปนอนได้แล้ว ไป”
ฐิติชญาทำหน้าทะเล้นก่อนจะวิ่งเข้าห้องนอนของตนเอง
สายของวันก็แว่วเสียงดังที่ด้านล่างของบ้าน เด็กสาววิ่งลงมาดูแต่แล้วก็ไม่ทัน เห็นแต่รถของพ่อขับออกไป
“พี่คีย์ละคะคุณแม่”