เช้าตรู่วันต่อมา ฟ้าครามลืมตาตื่นขึ้นมาก่อนฟ้าสาง เนื่องจากยังรู้สึกไม่ชินกับเวลาที่ไทย ร่างสูงผุดลุกขึ้นจากเตียง เปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดนอนเป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสำหรับออกกำลังกายยามเช้า
ไหนๆก็นอนไม่หลับแล้วออกไปวิ่งให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าหน่อยดีกว่า
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้าหนักๆดังขึ้นรอบบ้าน จันทร์เจ้าเอยขมวดคิ้วยุ่งอย่างขุ่นเคือง เธอนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนที่นอน มือบางหยิบหมอนที่อยู่ข้างตัวได้ ก็นำมาปิดใบหูเพื่อกั้นเสียงจากภายนอก
ใครลุกขึ้นมาทำอะไรแต่เช้า เสียงดังจริงๆ ไม่เกรงใจคนที่เพิ่งเข้านอนตอนใกล้สว่างอย่างเธอบ้างเลย
แต่เอ๊ะ!
ปกติก็ไม่เคยมีใครลุกขึ้นมาทำอะไรแต่เช้าขนาดนี้นี่หน่า
หรือว่าจะเป็นโจร!
หญิงสาวเด้งตัวลุกขึ้นจากที่นอนอย่างรวดเร็ว เธอเดินตรงดิ่งไปที่หน้าต่างในห้องนอน ค่อยๆใช้มือแหวกม่านเป็นรูเล็กๆเพื่อให้เพียงพอต่อการมองเห็น
มีเงาตะคุ่มๆอยู่ที่สวนจริงๆด้วย!
เนื่องจากบริเวณนั้นมีแสงสว่างไม่เพียงพอทำให้เธอมองเห็นไม่ชัดว่าคนที่อยู่ในสวนรูปร่างและหน้าตาเป็นยังไงกันแน่
ไม่เป็นไร ลงไปดูซะ จะได้รู้กันไปว่าเป็นใคร ถ้าเป็นโจรคงได้เห็นดีกันแน่
หญิงสาวตัดสินใจเดินย่องออกจากห้อง และไม่ลืมที่จะหยิบไม้เบสบอลของฟ้าพราวที่วางอยู่ในห้องนั่งเล่นไปด้วย
เธอต้องไปดูลาดเลาให้แน่ใจก่อนว่าเป็นโจรจริงๆค่อยขึ้นมาบอกคุณลุงให้โทรเรียกตำรวจ
ร่างบางเดินอ้อมไปจนถึงบริเวณสวนด้านข้างบ้าน อาศัยรูปร่างที่เล็กกระทัดรัดของตัวเองแทรกตัวเข้าไปอยู่ตรงกลางระหว่างซอกเก้าอี้และต้นไม้ต้นหนึ่ง ดวงตากลมโตมองไปที่เงาตะคุ่มตรงหลังพุ่มไม้
เธอมองเห็นร่างสูงกำลังเดินออกมา แล้วใช้มือปัดเศษใบไม้ตามเนื้อตามตัวออก คะเนจากรูปร่างน่าจะเป็นผู้ชายสูง 180 เซนติเมตรขึ้นไป รูปร่างหนา บึกบึน มีมัดกล้ามเนื้อเหมือนคนออกกำลังกายมาเป็นเวลานาน
หญิงสาวก้มมองรูปร่างของตัวเอง เธอมีความสูงแค่ 165 เซนติเมตร ไม่ต้องพูดถึงรูปร่างที่ผอมบางเพรียวลมของตัวเอง เธอก็ตัดสินได้เลยว่า ถ้าสู้กันก็มีแต่แพ้กับแพ้แน่นอน เพราะฉะนั้นเธอต้องถอยเพื่อไปตามคนมาช่วย ถึงจะมีโอกาสชนะได้
คิดได้ดังนั้นร่างบางจึงค่อยๆเดินย่องออกมาจากที่ซ่อน เธอหันกลับไปมองด้านหลังเพื่อให้แน่ใจว่าเขายังไม่เห็นเธอแล้วค่อยเดินต่อไป
ก๊อปแก๊ป!
จันทร์เจ้าเอยสะดุ้งเฮือก เมื่อหันกลับมาถึงได้พบว่าตัวเองเหยียบเข้ากับเศษใบไม้แห้งที่คนสวนยังไม่ได้กวาด
" ใครน่ะ! " ร่างบางขนลุกเกรียวเมื่อได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากด้านหลัง
ใครจะอยู่ก็อยู่ไป แต่ฉันไม่อยู่แล้ววว
ยังไม่ทันที่ร่างบางจะได้วิ่งหนีก็ถูกมือหนาคว้าข้อมือไว้ แล้วดึงจนร่างเธอปลิวเข้าไปกระแทกกับกล้ามเนื้อหน้าอกแข็งตึง ไม้เบสบอลที่คิดจะนำมาป้องกันตัวหลุดกระเด็นหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
จันทร์เจ้าเอยได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆจากร่างสูงลอยเข้ามาเตะจมูก
โห...ใช้น้ำหอมฝรั่งเศสซะด้วย เป็นโจรที่เทสดีชะมัด
" เธอเป็นใคร? " เสียงนุ่มทุ้มถามเธอในความมืด หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขา แต่ก็ถูกความมืดปกคลุมจนมองไม่เห็นว่าหน้าตาเขาเป็นยังไง
" ปล่อยฉันนะไอ้โจรบ้า! "
" โอ้ย! "
จันทร์เจ้าเอยส่ายหน้าให้ตัวเองหลุดจากภวังค์ ก่อนจะกระทืบเท้าชายหนุ่มเข้าไปเต็มแรงแล้ววิ่งหนีไป
" ยัยบ้าเอ้ย! กลับมานี่นะ " แม้จะเจ็บเท้าที่โดนกระทืบใส่ แต่ชายหนุ่มก็ฝืนวิ่งต่อไปเพื่อจะได้จับหญิงสาวให้ทัน เขาอาศัยช่วงขาที่ยาวกว่าก้าวเข้าไปจนเข้าใกล้เธอ
มือหนาคว้าเอวบางไว้แน่นก่อนที่หญิงสาวจะสะดุดขาตัวเองแล้วพาทั้งคู่กลิ้งล้มลงบนพื้น
" โอ้ย! " จันทร์เจ้าเอยโดนร่างสูงล้มทับด้านบนจนขยับตัวไปไหนไม่ได้ เขาเหมือนจะรู้ตัวจึงค่อยๆขยับตัวออกไป
แปะ!
ด้วยความมืดทำให้เขาขยับตัวสุ่มสี่สุ่มห้าจนมือไปสัมผัสเข้ากับเนื้อนุ่มหยุ่นที่มีขนาดใหญ่เกินฝ่ามือเขาไปมาก
" กรี๊ดดดด " เสียงแหลมเล็กทำเอาชายหนุ่มขยับตัวลุกหนีแทบไม่ทัน
" โอ้ยย..จะกรี๊ดทำไมเนี้ย "
" นายจับหน้าอกฉัน ไอ้โจรโรคจิต! " พอตั้งตัวได้ร่างบางก็ตรงดิ่งเข้าไปทุบตีเขาทันที ฟ้าครามยกมือขึ้นปัดป้องไม่ให้เธอทำร้ายเขาได้ ก่อนจะสวมกอดเธอจากทางด้านหลังพร้อมทั้งยกมือขึ้นปิดปาก ไม่ให้เธอกรีดร้องออกมาได้อีก
" ชู่ววว เงียบๆสิ เดี๋ยวคนอื่นก็พากันตื่นขึ้นมาหมดหรอก "
" อื้ออออ อ่อยยยยย " จันทร์เจ้าเอยพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการของโจรร้าย แต่เหมือนเขาจะรู้ทันและกอดรัดเธอแน่นขึ้นกว่าเดิม
กลิ่นหอมกรุ่นที่ออกมาจากกายสาวทำเอาชายหนุ่มที่ไม่ได้สัมผัสผู้หญิงคนไหนมานานตาสว่างแทบจะทันที ผู้หญิงคนนี้มีผิวที่เนียนละเอียดน่าลูบไล้ รูปร่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจนของหญิงสาวที่โตเต็มวัย ไหนจะหน้าอกอวบขนาดใหญ่ที่เขาได้สัมผัสไปก่อนหน้านี้อีก ทั้งหมดทำให้เกิดคำถามว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร มาอยู่ที่บ้านเขาได้อย่างไร
" เกิดอะไรขึ้นๆ เสียงดังเอะอะโวยวายอะไร " อัคชัยวิ่งนำหน้าคนบนตึกลงมาถึงสนามหญ้าก่อนใคร ชายวัยกลางคนมองชายหญิงคู่หนึ่งที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ในสวน
" มีโจรค่ะคุณลุง ช่วยหนูด้วยค่ะ " หญิงสาวเมื่อเห็นว่ามีคนมาช่วย เธอก็ตะโกนขอความช่วยเหลือทันที
" ไหนโจร ไหนๆๆๆ " ฟ้าพราวที่วิ่งตามมาทีหลังพร้อมกับมารดาและคนสวนบางส่วน พอได้ยินคำว่าโจรก็ช่วยกันมองหาทันที
" พี่พราวช่วยเอยด้วยค่ะ "
" อ้าว...เอย พี่คราม มาทำอะไรกันตรงนี้คะ " เสียงเรียกชื่อของฟ้าพราวทำเอาทั้งสองคนหยุดนิ่ง
จันทร์เจ้าเอยเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าร่างสูง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาจ้องมองลงมาพอดี
เหมือนบรรยากาศที่มีอยู่จะยังมาคุไม่เพียงพอ แสงแดดอ่อนๆก็ดันสาดส่องลงมา ให้ทั้งคู่ได้มองเห็นใบหน้าของกันและกันพอดีอีก
" พี่ฟ้าคราม " หญิงสาวเอ่ยเสียงเบา มือทั้งสองข้างทิ้งลงข้างตัวอย่างหมดแรง ผู้ชายที่กำลังยืนกอดเธอจากทางด้านหลังเป็นผู้ชายคนเดียวกับที่เคยแกล้งเธอเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ใบหน้าที่หล่อเหลาแบบนี้เธอจดจำได้แม่นทีเดียว
" ผู้หญิงคนนี้คือ... " ฟ้าครามเว้นช่องไว้สำหรับฟังคำตอบที่เขาไม่อยากได้ยินสักเท่าไหร่
" เอ่ออ...น้องเอยไงคะ เจ้าเอย น้องสาวบุญธรรมของเรา " และแล้วฟ้าพราวก็เป็นคนเติมคำตอบในช่องว่างให้
ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นนิ่งเงียบและไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพราะกลัวจะรบกวนหรือทำลายความอดทนของฟ้าครามลง
จันทร์เจ้าเอยเมื่อได้สติเธอก็ขยับตัวออกห่างจากชายหนุ่มอย่างหวาดๆ แล้วค่อยๆเดินไปหลบหลังฟ้าพราว
ด้วยท่าทางของเธอทำให้ฟ้าครามคิดว่าเธอรังเกียจเขา ชายหนุ่มจึงกระตุกคิ้วขึ้นอย่างไม่ยินยอม
" ทำเป็นรังเกียจฉัน เมื่อกี้ยังให้ฉันจับนมอยู่เลย " ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเหยียดยิ้มที่ริมฝีปากออกอย่างนึกขัน
" พี่ฟ้าคราม! " หญิงสาวไม่นึกว่าเขาจะยังเป็นชายหนุ่มที่หยาบกระด้างเหมือนเดิมได้ขนาดนี้ จนอดไม่ได้ที่จะตะโกนตำหนิออกไป
" ทำไม..แค่นี้ยอมรับไม่ได้รึไง ยัยเด็กเหลือขอ " พูดจบร่างสูงก็เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับเบียดร่างเธอให้ออกห่างจากน้องสาวแท้ๆของตัวเอง
ฟ้าครามนึกไม่ถึงว่าสิ่งที่ตัวเองลืมไปตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาจะเป็นน้องสาวบุญธรรมคนนี้ พอนึกขึ้นมาได้เขาก็กระตุกยิ้มอย่างร้ายกาจ
ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะ พี่ชายคนนี้กลับมาหาเธอแล้วน้องสาวบุญธรรมของพี่