สนามบินสุวรรณภูมิต่างคับคั่งไปด้วยผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาจากต่างประเทศ อัคชัยเดินนำลูกและภรรยามารับลูกชายคนโตที่สนามบิน หลังจากได้รับรายงานว่าเครื่องบินที่ชายหนุ่มนั่งมาลงจอดที่สนามบินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
10 ปีก่อนหน้านี้
" ไอ้คราม! ถ้าแกไม่พอใจเจ้าเอยแล้วยังแกล้งน้องอยู่แบบนี้ พ่อจะส่งแกไปเรียนที่ต่างประเทศ " อัคชัย ผู้เป็นบิดาประกาศกร้าวเมื่อเห็นสภาพลูกสาวบุญธรรมที่ตัวเปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำ เด็กหญิงร้องไห้น้ำตานองหน้าหลังจากถูกพี่ชายบุญธรรมแกล้งโดยการผลักลงน้ำ
" พ่อจะอะไรมากมาย นี่ก็ช่วยขึ้นมาให้แล้วไง " ชายหนุ่มยังคงไม่ยอมรับผิด เขายืนมองหน้าเด็กหญิงที่นั่งตัวสั่นงันงกอยู่ข้างสระน้ำ
" แกก็รู้ว่าน้องว่ายน้ำไม่เป็น แกก็ยังจะแกล้งน้องอีก "
" ผมจะไปตรัสรู้ได้ไงล่ะ ก็เห็นชอบเดินอยู่ข้างสระน้ำก็นึกว่าว่ายน้ำเป็น ว่ายไม่เป็นแล้วยังเสือกอยากมายืนอยู่แถวนี้อีก ดีที่ไม่จมน้ำตายไปก่อน " ประโยคหลังฟ้าครามหันมาพูดกับเด็กสาว
" ฮึกๆ อะ..เอยไม่ได้อยากมา อะ..เอยมาหา ขะ..ของ " จันทร์เจ้าเอยพูดไปร้องไห้ไป
" เงียบเดี๋ยวนี้เลยนะ! ร้องไห้น่ารำคาญ! " ฟ้าครามตวาด ทำให้เด็กสาวสะดุ้งด้วยความตกใจ มือบางรีบปาดน้ำตาทิ้งไปอย่างลวกๆ ตามคำสั่งเขา
" ไอ้คราม! แกนั่นแหละหยุดได้แล้ว! "
" พ่อ! "
" ถ้าแกยังไม่หยุดทำแบบนี้อีกนะ ปีหน้าแกเตรียมตัวย้ายไปเรียนต่างประเทศได้เลย! " อัคชัยพูดด้วยความโมโห
" เอ่ออ! ถ้าพ่ออยากให้ผมไป ผมไปก็ได้ แล้วพ่อจะเสียใจที่เลือกยัยเด็กนี่แทนที่จะเลือกผม "
นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่จันทร์เจ้าเอยและคนในตระกูลอัศวาวิชัยได้เจอกับฟ้าครามในวัยหนุ่มนักศึกษาเลือดร้อน
10 ปีต่อมา
ฟ้าคราม หนุ่มนักธุรกิจวัย 29 ปี จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีและโทด้านการบริหารจากต่างประเทศ และมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานบริษัทในเครืออัศวาวิชัย มีหน้าที่ดูแลสาขาใหญ่และสาขาย่อยอีกหลายแห่ง
ชายหนุ่มร่างสูงสวมเสื้อโค้ทแขนยาวสีดำ กางเกงขายาว และรองเท้าหนัง เรือนผมสีดำถูกเซ็ตมาอย่างดีเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาอันมีเสน่ห์ เขาเดินออกมาจากเกทพร้อมกับโปรยยิ้มบางๆทำเอาสาวน้อยใหญ่มองตามกันตาละห้อย
" นั่นไงคะ พี่คราม " ฟ้าพราวชี้ไปที่ประตูผู้โดยสาร ร่างสูงโปร่งเดินออกมาพร้อมด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ฟ้าครามมีรูปร่างที่ดูแข็งแรงขึ้นจาก 10 ปีที่แล้ว ตอนนี้เขากลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มทรงเสน่ห์ ไม่ใช่แค่เดือนมหาลัยสุดหล่อของสาวๆอีกต่อไป
" พ่อ แม่ สวัสดีครับ " ชายหนุ่มเดินมาหยุดตรงหน้าบุพการีทั้งสอง และยกมือไหว้ตามธรรมเนียมไทยที่เคยปฏิบัติ
" สวัสดีลูก คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองนะ " วิภา ภรรยาของอัคชัยรับไหว้ลูกชายด้วยน้ำตานองหน้า
10 ปีที่ไม่เจอกันทำเอาหญิงวัยกลางคนถึงกับซึมลงเพราะความเหงา ยังดีที่ฟ้าพราวเรียนจบปริญญาตรีมาอยู่ที่บ้านแล้วเหมือนกัน บ้านถึงค่อยๆครึกครื้นขึ้น
" พี่คราม สวัสดีค่ะ " น้องสาวคนสวยเดินเข้ามาไหว้พร้อมกับสวมกอดพี่ชาย จนคนเป็นพ่ออดแซวไม่ได้
" โตขนาดนี้แล้วยังติดพี่ชายอยู่อีกนะยัยพราว "
" ก็แหมม ไม่เจอกันตั้ง 10 ปี ก็ต้องคิดถึงเป็นธรรมดาสิคะคุณพ่อ "
ฟ้าพราวที่ขณะนี้เรียนจบปริญญาตรีสาขาบัญชีได้เข้ามาช่วยเหลืองานที่บริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันรับหน้าที่เป็นหัวหน้าแผนกบัญชีและดูแลงบการจัดซื้อไปด้วยในตัว
" เดี๋ยวค่อยมารำลึกความหลังกันใหม่ ตอนนี้พ่อว่าเรากลับบ้านกันก่อนดีกว่า ตาครามคงอยากพักผ่อนแย่แล้ว "
" ก็ดีเหมือนกันนะคะ " ฟ้าพราวเห็นด้วย
ครอบครัวอัศวาวิชัยเดินทางกลับมาถึงบ้านหลังใหญ่ในเวลาอันรวดเร็ว ทันทีที่เท้าแตะพื้นดินฟ้าครามก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่เคยมีมาก่อน เขาหันกลับไปมองครอบครัวของตนที่ยืนอยู่อย่างพร้อมหน้า แต่แล้วกลับรู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป
" มีอะไรหรอคราม " วิภาเดินเข้ามาถามลูกชายเมื่อเห็นเขายืนนิ่งไป
" ไม่มีอะไรครับแม่ เรารีบเข้าบ้านกันเถอะ ผมคิดถึงห้องนอนตัวเองจะแย่แล้ว " ชายหนุ่มอ้อนมารดาเหมือนตอนเป็นเด็กๆ ก่อนจะเดินจูงมือเข้าไปในบ้าน
" บ้านยังเหมือนเดิมเลยนะครับ " เครื่องเรือนทุกชิ้นภายในบ้านยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม มีเพียงของบางชิ้นที่ชำรุดทรุดโทรมไป จึงได้ทำการเปลี่ยนใหม่
" คุณเอยกลับมารึยัง " อยู่ๆผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวก็เอ่ยคำถามหนึ่งขึ้นมากับแม่บ้าน
ใจฟ้าครามกระตุกวูบเหมือนมีบางอย่างเข้ามาสะกิดจนเกิดแรงสั่นคลอน
" คุณพ่อ! " ฟ้าพราวถึงกับอุทานขึ้นมา เธออุตส่าห์ไม่พูดถึงชื่อจันทร์เจ้าเอยตั้งแต่ชายหนุ่มมาถึง กลับต้องมาพังเพราะคุณพ่อลืมตัวเสียได้
" คุณพ่อถามถึงใครครับ "
ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาเขาเรียนหนัก กิจกรรมแน่น รวมถึงการเริ่มเข้าทำงานในบริษัทต่างประเทศ และหาคอนเน็คชั่น ทำให้เหมือนมีอะไรบางอย่างที่เขาลืมไป แต่นึกไม่ออกว่าคืออะไร
" ก็... " อัคชัยกำลังจะตอบแต่กลับโดนลูกสาวสะกิดเข้าเสียก่อน
" ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่คราม น้องว่าเราไปทานข้าวกันก่อนเถอะค่ะ น้องหิวมากเลย " หญิงสาวออดอ้อนพี่ชายจนสำเร็จ
วันนี้แม่ครัวทำอาหารมื้อใหญ่ขึ้นมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ต้อนรับการกลับมาของลูกชายคนโตของบ้าน ซึ่งเป็นของชอบที่ชายหนุ่มชอบกินตั้งแต่เด็ก
" แม่ไม่รู้ว่าครามยังจะชอบของพวกนี้อยู่รึเปล่านะ "
" คุณแม่ทำอะไรให้ทาน ผมก็ชอบหมดแหละครับ " ชายหนุ่มตอบอย่างเอาใจมารดาจนน้องสาวอดแซวไม่ได้
" แหมมม ปากหวานจริงๆนะคะ "
" เดี๋ยวเถอะยัยพราว " เเม่ดุหญิงสาวอย่างไม่จริงจังนัก
" งั้นลองทานดูนะลูก ถ้าช่วงนี้ชอบอะไรเป็นพิเศษก็บอกแม่ได้ เดี๋ยวแม่ทำให้ "
" ขอบคุณครับ "
ครอบครัวอัศวาวิชัยนั่งทานข้าวที่โต๊ะอาหารอย่างเอร็ดอร่อย พลางเล่าเรื่องที่เขาประสบพบเจอให้ฟัง
วูบบบ
หางตาฟ้าครามเหมือนเห็นอะไรแวบๆเดินผ่านไป ชายหนุ่มหันกลับไปมองตาม
" มีอะไรหรอคะพี่คราม "
" พี่รู้สึกเหมือนมีใครเดินผ่าน " เขาขมวดคิ้วยุ่ง รู้สึกคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาด
" แม่บ้านมั้งคะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ "
ฟ้าครามพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น