บทที่5 ให้พี่เขาช่วยสิ

1519 คำ
บทที่5 ให้พี่เขาช่วยสิ เช้าวันต่อมา “คุณดิน” เสียงเรียกที่ดังขึ้นไม่ดังและก็ไม่เบาปลุกให้ปฐพีรู้สึกตัว ทันทีที่ลืมตาขึ้นก็เห็นใบหน้าอึดอัดของเนตรนลินปรากฏอยู่ต่อหน้า “มีอะไรหรือเปล่า?” “นาอยากเข้าห้องน้ำค่ะ” หญิงสาวเอ่ยบอกอย่างเหนียมอาย “แล้วยังไง?” ปฐพียังไม่เข้าใจที่หญิงสาวพูด หญิงสาวมีท่าทีขัดเขินระคนฉุนจึงฟาดนิ้วเรียวยาวลงบนแขนขาของชายหนุ่มซึ่งกอดรัดเธอจนลุกไปไหนไม่ได้ “รู้หรือยังคะ?” เธอว่าพร้อมกับค้อนให้มองแขนแข็งแรง ปฐพีมองตามก่อนจะขยับวงแขนออกจากร่างนุ่มที่เขากกกอดมาทั้งคืน ไม่รู้ว่าเผลอไปกอดไว้ตอนไหนเหมือนกัน เนตรนลินรีบลุกไปห้องน้ำทันทีโดยไม่รู้เลยว่าสายตาที่ปฐพีมองตามมานั้นมีความรู้สึกที่เขายังบอกตัวเองไม่ได้ว่ามันคืออะไร ชายหนุ่มเบนสายตาไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงก่อนจะส่ายหน้ากับตัวเอง 7โมงกว่าเข้าไปแล้วแต่เขาเพิ่งจะตื่นทั้งที่ปกติตื่นตั้งแต่เช้ามืด นี่เขาหลับสบายขนาดไหนกันถึงได้ตื่นสายขนาดนี้ เพื่อความรวดเร็วชายหนุ่มจึงลุกไปใช้ห้องอาบน้ำห้องข้าง ๆ แทนที่จะรอให้เนตรนลินออกมาเนื่องจากเช้าวันนี้เขาให้คนสนิทนัดเจ้าหน้าที่เขตมาแต่เช้า เช้าวันนี้ปฐพีและเนตรนลินลงมาจากห้องพร้อมกันด้วยชุดโทนสีเดียวกันโดยไม่ได้ปรึกษากันก่อนแต่ทันทีที่คุณหญิงประภาพรเห็นก็ชมเปราะถึงความเหมาะสมกันของทั้งคู่ “เหมาะสมกันจริง ๆ เฮ้อ ในที่สุดความฝันของแม่กับเนื้อทองก็เป็นจริงสักที” คุณหญิงประภาพรชมไม่ขาดปากหลังจากที่ปฐพีและเนตรนลินจดทะเบียนสมรสและถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยิ่งปลื้มอกปลื้มใจเมื่อได้เห็นกำไลข้อมือประจำตระกูลอยู่ที่ข้อมือของหญิงสาว ปฐพีเลือกแล้วว่าจะอยู่กับเนตรนลินไปตลอดชีวิตจึงได้ยกกำไลประจำตระกูลให้ จะไม่ให้นางปลื้มใจได้อย่างไรกัน “ความฝัน?” “ใช่ แม่กับน้าเนื้อทองน่ะเคยคิดอยากจะเป็นทองแผ่นเดียวกันแต่ตอนแรกล้มเลิกไปเพราะน้าเนื้อทองแท้งลูกคนแรก กว่าหนูนาจะเกิดเรากับดาวก็อายุ10ขวบไปแล้ว เลยไม่ได้พูดถึงอีก แต่ในที่สุดเราก็มีวันนี้” คุณหญิงประภาพรเอ่ยก่อนจะยิ้มยินดีที่ความฝันของตนและเพื่อนรักเป็นจริงเสียทีโดยลืมนึกไปว่าเนตรนลินไม่เคยรู้เรื่องที่เนื้อทองเคยแท้งลูกหรือสาเหตุที่แท้งไป “แท้ง คุณแม่เคยท้องก่อนจะมีนาด้วยเหรอคะ?” เมื่อลูกสะใภ้ถามมาคุณหญิงประภาพรจึงได้แต่หุบยิ้มและถอนหายใจ “คงถึงเวลาที่หนูจะต้องรู้ความจริงแล้วล่ะ” “ความจริงอะไรคะ?” “ความจริงหนูควรจะมีพี่แต่น่าเสียดายที่เขาจากไปตั้งแต่ไม่ได้ลืมตาดูโลก” คุณหญิงประภาพรเอ่ยก่อนที่จะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง “ก่อนหน้าที่หนูจะเกิดแม่หนูไม่ได้อยู่ที่บ้านอินทรโยธาหรอกนะ แต่เนื้อทองกับคุณพ่อของหนูน่ะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่บ้านพักในค่ายทหาร แต่ตอนที่เนื้อทองท้องลูกคนแรกคุณหญิงวาริณีก็รู้เข้าและไม่ยอมรับแม่หนู ยัยคุณหญิงนั่นมาที่ค่ายตอนที่พ่อหนูไม่อยู่ มาจิกหัวใช้เนื้อทองทำนั่นทำนี่จน...” “แท้ง” “ใช่ เพราะทำงานหนักเกินไปเนื้อทองเลยเสียลูกไปแต่ก็ไม่ได้มีความคิดเลิกกับพ่อหนูตามที่ยัยคุณหญิงต้องการ พอเกิดเรื่องพ่อหนูก็พาแม่หนูเข้าไปอยู่ที่บ้าน ตอนนั้นปู่หนูยังอยู่ยัยคุณหญิงเลยไม่กล้าทำอะไรมากพอมีหนูไม่นานคุณปู่หนูก็เสียก็เลยไม่มีใครห้ามคุณหญิงวาริณีได้” คนพูดพูดไปก็กำหมัดไป นางในตอนนั้นช่วยอะไรไม่ได้เลยเพราะคำเดียวของคุณหญิงวาริณีที่บอกว่าเป็นเรื่องในครอบครัว คนนอกอย่ายุ่ง เนตรนลินที่ได้ฟังกำหมัดแน่น เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคุณย่าทำกับมารดาขนาดนั้น โกรธเกลียดมารดาถึงขึ้นที่ไม่ยอมปล่อย “ความจริงแล้วมีอีกเหตุผลนะที่ยัยคุณหญิงนั่นเกลียดเนื้อทอง ถึงเนื้อทองจะกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็กแต่ก็ไม่ใช่คนไม่มีอะไรเลย พ่อและแม่ของเนื้อทองก็เป็นคนมีฐานะ แต่พ่อของเธอเคยเป็นคู่หมั้นของคุณหญิงวาริณี คุณตาของหนูพบรักกับคุณยายก็เลยขอถอนหมั้น คนที่รักหน้าตาอย่างคุณหญิงวาริณีก็เลยเกลียดคุณยายหนูเข้าไส้เพราะต้องอับอายที่ถูกคุณตาถอนหมั้นไปแต่งงานกับคุณยายหนู แม่ของหนูน่ะเหมือนคุณยายมาก คุณหญิงวาริณีถึงได้จงเกลียดจงชังแม่หนูนัก” คุณหญิงประภาพรบอกเล่าก่อนจะลูบศีรษะลูกสะใภ้สาว “อย่าไปใส่ใจเลยนะหนูนา อีกไม่นานหรอกคุณหญิงวารุณีจะได้ชดใช้กรรมที่ทำไว้อย่างสาสม หนูรอดูอยู่เฉย ๆ ก็พอ” “นาไม่อยากบาปค่ะ แต่นาก็อยากจะแก้แค้นคุณอมรากับลูก” หญิงสาวเอ่ยบอก เธอเป็นคนหนึ่งที่ผูกใจเจ็บแค้นฝั่งหุ่นจากการปลูกฝังของมารี มารีเคยบอกเธอไม่ให้ยอมง่าย ๆ ใครทำอะไรไว้เธอจะสนองคืนให้สาสมและเธอก็อยากจะทำอย่างนั้นและเห็นด้วยกับมารี “ถ้าอย่างนั้นก็ให้พี่เขาช่วยสิ ไม่มีอะไรที่ดินทำให้หนูไม่ได้” คุณหญิงประภาพรเอ่ยก่อนที่หันสายตาไปที่ปฐพีซึ่งนั่งฟังอยู่เงียบ ๆ ไม่ได้ออกความเห็นอะไร “ถ้าเอาคืนเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้ผูกใจเจ็บจนอยากให้ตายฉันพร้อมจะทำให้เธอทุกอย่าง” “นาแค่อยากให้เขาเจ็บปวดบ้าง ไม่ถึงกับตายหรอกค่ะ นายังไม่ได้โหดเหี้ยมขนาดนั้น” หญิงสาวเอ่ยบอกแล้วก็ขยับมากอดแขนชายหนุ่ม “อันดับแรกก็น้องสาวผู้รักพี่สาวคนนี้เสียเหลือเกิน คุณดินพอจะหาเรื่องฉาวๆ ของสองคนนั้นให้นาได้ไหมคะ?” “ภากรน่าจะทำได้ ใช่ไหม” เขาบอกแล้วหันไปถามชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันที่ยืนนิ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ภากรเป็นคนสนิทของเขาและเป็นสามีของปีย์วราที่พี่สาวของเขากำลังโกรธจนไม่อยากจะมองหน้า “ได้สิ วางใจได้ครับเรื่องแค่นี้ไม่ยากหรอก” ภากรตอบรับและเหลือบมองปีย์วราว่าจะพอใจกับคำตอบของเขาหรือไม่ แต่คนเป็นภรรยาก็ยังคงมีสีหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอาการใด ๆ “หาดี ๆ ล่ะ ให้ได้เรื่องที่ฉาวจนคุณหญิงวาริณีกับคุณอมราเห็นแล้วลมจับไปเลยนะ” ปีย์วราเอ่ยลอย ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้น “ดาวขอไปดูหนูดาก่อนนะคะ” “ไปเถอะลูก กรก็ไปกับดาวสิไป” คุณหญิงประภาพรเอ่ยพร้อมกับทอดถอนใจกับความสัมพันธ์อันอึมครึมของปีย์วราและภากรก่อนจะบอกแก่ลูกชายและลูกสะใภ้หมาด ๆ ว่าจะเข้าครัวทำขนม เนตรนลินสงสัยท่าทีของคนทั้งสามแต่ก็ไม่ได้สอบถามอะไรออกไปก่อนจะถูกปฐพีจูงมืออกไปจากห้องนั่งเล่น “เราจะไปไหนคะ?” หญิงสาวถามขณะที่เดินตามแรงดึงของคนเลื่อนขั้นมาเป็นสามีตามกฎหมาย “ไปถึงก็รู้เองล่ะ” “ก็บอกก่อนสิ ไม่บอกนาไม่ไปนะ” หญิงสาวแย้งก่อนจะหยุดเดิน เธอไม่ใช่คนที่ยอมอะไรง่ายขนาดนั้นนะ “ดื้อ” เขาบ่นให้พร้อมกับยกมือกอดอกมองหญิงสาว “ค่ะนาดื้อ บอกนามาก่อนไม่งั้นไม่ไปหรอก” “ตามมา” “ไม่” เนตรนลินยืนยันเสียงแข็งก่อนจะกอดอกมองตอบอย่างไม่ยอมแพ้ ในเรื่องนี้ไม่เธอก็เขาล่ะที่ต้องยอมแพ้กันไปข้าง แน่นอนว่าเธอจะไม่ยอม ปฐพีไม่พูดอะไรเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะอุ้มหญิงสาวอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง “อะไรเนี่ย คุณดินปล่อย” “อยู่นิ่ง ๆ เดี๋ยวก็ตกหรอก” “คุณดินก็ปล่อยสิ” เนตรนลินเป็นอย่างนี้เสมอบางเรื่องก็ว่าง่ายแต่บางเรื่องก็ดื้อไม่ยอมง่าย ๆ ปฐพีประจักษ์แจ้งแล้วว่าเธอคนนี้ไม่ใช่ผู้หญิงในแบบที่เดินกันเกลื่อนทั่วไปแต่เป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใครและหาคนเหมือนยาก ขนาดมารียังเทียบไม่ติด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม