บทที่4 อดีต

1492 คำ
บทที่4 อดีต ปฐพีใช้เวลากว่าครึ่งค่อนคืนในการเคลียร์งานเพราะในสุดสัปดาห์นี้เขาต้องเดินทางไปลาสเวกัสจึงจำเป็นต้องจัดการงานในไทยให้เรียบร้อยเสียก่อน ร่างสูงทรุดตัวลงนอนข้าง ๆ เนตรนลินโดยไม่มีเสียงเพราะไม่อยากรบกวนคนนอนหลับสนิทก่อนจะขยับผ้าห่มขึ้นมาห่มให้คนนอนหลับที่คล้ายเด็กน้อยกำลังนอนหลับเสียมากกว่าผู้หญิงวัยเบญจเพสแล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจเบา ๆ มารีนึกอย่างไรถึงได้หลงรักหลงเอ็นดูเนตรนลินจนกางปีกปกป้องในทุก ๆ เรื่องในตอนนี้เขาก็พอจะเข้าใจแล้ว เพราะเนตรนลินยังมีมุมที่เหมือนลูกแมวน้อยที่แม่ต้องปกป้องอยู่อย่างนี้นี่เอง ปฐพีใช้เวลาต่อจากนั้นนอนลงและจ้องมองพิจารณาหญิงสาวอย่างละเอียด เขารู้จักเนตรนลินตั้งแต่เธออายุ13ปี ตอนนั้นเธอเป็นเด็กสาวที่ตามติดมารีต้อย ๆ ไม่สิ...เป็นมารีที่ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนก็จะหนีบเธอไปด้วยเสมอ ตลอดเวลาหลายปีเขาได้เห็นพัฒนาการของเนตรนลิน เธอเติบโตขึ้นเป็นสาวสวยสะพรั่งที่ใคร ๆ มองก็ต้องเหลียวหลังแม้แต่เขายังรู้สึกว่าเธอสวย สวยตามแบบฉบับสาวไทย หรือนางในวรรรณคดี 5ปีมาแล้วที่เขาไม่ได้พบเจอกับเธอ หญิงสาวเปลี่ยนไปมากจากที่เป็นคนสวยหวานซ่อนเปรี้ยวกลายเป็นสาวมั่นดื้อรั้นและติดเขี้ยวเล็บ มองอย่างไรก็คล้ายถอดแบบนิสัยมารีมากว่าครึ่ง เธอเข้มแข็งขึ้นและไม่ยอมคน เพราะไม่มีมารีคอยปกป้องเนตรนลินจึงต้องเข้มแข็งเพื่อปกป้องตัวเอง นับว่าเธอโตขึ้นมาก โตขึ้นเสียจนลืมวันแรกที่ได้พบเธอ เนตรนลินอาจจะคิดว่าครั้งแรกที่เจอกันคือ12ปีก่อนแต่จริง ๆ แล้วเขาและเธอเคยเจอกันก่อนหน้านั้น ในวันที่หญิงสาวยังเป็นเพียงเด็กหญิงเนตรนลินที่เพิ่งสูญเสียมารดา วันแรกที่เขาเจอเธอเป็นวันที่คุณหญิงประภาพรพาเขา ปีย์วรา และท่านดนัยพ่อของเขาไปร่วมงานสวดอภิธรรมศพคุณน้าเนื้อทอง เขาจำได้ดีว่าในงานเขาได้พบกับเด็กหญิงวัย5ขวบที่นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ใกล้ ๆ โลงไม่ยอมไปไหน เด็กคนนั้นคือเนตรนลินและเขารู้สึกได้ถึงความเคว้งคว้างของเธอ เธอไม่มีใครเลยแม้แต่คนเป็นพ่อก็เป็นบ้าเป็นหลังเพราะสูญเสียภรรยาจนไม่ได้ปลุกปลอบ คนเป็นย่าก็ไม่ใส่ใจหน้าชื่นตาบานไม่มีวี่แววโศกเศร้าแม้แต่น้อย ไม่น่าเชื่อว่าเด็กคนนั้นจะเป็นคนเดียวกับไนน์ของมารีและไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนที่นอนอยู่ตรงนี้ เนตรนลินเข้มแข็งขึ้นมาก มากเสียจนเขานึกชื่นชม “หลับซะนะเด็กน้อย พรุ่งนี้จะไม่มีใครเข้ามาบังคับขู่เข็นเธอได้อีกแล้ว” เขากระซิบเบา ๆ ก่อนที่จะหลับตาลง ไม่ใช่เพียงเพราะรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงเพราะมารี แต่ที่เขาต้องการจะจดทะเบียนสมรสกับเธอก็เพราะเขาอยากจะปกป้องและดูแลเธอนอกเหนือจากคำขอของมารี เพราะเธอคือเด็กหญิงที่เคว้งคว้างคนนั้น คนที่ทำให้เขาผลักดันตัวเองให้เข้มแข็งและหยัดยืนมาได้ทุกวันนี้ 20ปีก่อน “ดิน รับปากพ่อนะ ว่าจะดูแลแม่กับดาว” เสียงกระท่อนกระแท่นหายใจลำบากของท่านดนัยเอ่ยขึ้นพร้อมกับจับมือของปฐพีในวัย15ปีไว้แน่น เด็กหนุ่มกลั้นสะอื้นตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ครับคุณพ่อ ผมจะดูแลคุณแม่กับดาว” “อย่า ให้ อย่าให้คีรีราชโภคินล้มนะลูก พ่อฝาก ด้วย” ท่านดนัยเอ่ยก่อนที่จะสิ้นใจไปในที่สุด มือที่กุมมือของบุตรชายตกลงไปพร้อม ๆ กับลมหายใจที่ดับไป เขาจากไปแล้ว จากไปต่อหน้าต่อตาลูก ๆ และภรรยา “พ่อครับ พ่อ คุณพ่อ” “คุณคะ คุณดนัย ไม่” เสียงร้องไห้ระงมจากคุณหญิงประภาพรและเด็กหญิงปีย์วราวัย15ปีทำให้สมองของปฐพีตื้อไปหมด เสาหลักของครอบครัวเขาจากไปแล้ว เหลือแต่แม่กับพี่สาวฝาแฝด และธุรกิจหลายอย่างที่กำลังจะล้มละลายเพราะถูกคนสนิทโกงไปจำนวนมหาศาลที่เขาจะต้องดูแล ชีวิตต่อจากนี้ไปจะเป็นยังไงเขายังไม่รู้และไม่อยากจะคิด หลังจากเสร็จงานฌาปนกิจหมายศาลฟ้องพิทักษ์ทรัพย์ก็ถูกส่งมาที่บ้าน คีรีราชโภคินถูกฟ้องล้มละลายเพราะไว้ใจคนผิดธุรกิจจึงล้มละลาย เพราะไว้ใจคนผิดท่านดนัยจึงตรอมใจล้มป่วยลงและจากไปก่อนเวลาอันควร การตัดสินใจต่อจากนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคุณหญิงประภาพร “ปล่อยให้ศาลฟ้องล้มละลายเถอะคุณพิทักษ์ ยังไงก็มีโรงแรมอยู่แห่งหนึ่งที่คุณดนัยโอนให้เป็นชื่อของดินกับดาว ฉันกับลูกคงไม่หมดตัวหรอก” “ครับคุณหญิง” ทนายความประจำตระกูลตอบรับด้วยความสงสารแต่ก็รู้ว่าในตอนนี้ทำอะไรไม่ได้เลย “ส่งดินกับดาวเรียนจนจบเราก็คงฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้าง ตอนนี้รับสภาพไปก่อน ยอมล้มแล้วลุกขึ้นไปผงาดใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ฉันเชื่อว่าคีรีราชโภคินจะกลับไปผงาดอยู่ระดับต้น ๆ ได้อีกครั้ง” คุณหญิงประภาพรเอ่ยเพียงเท่านั้นทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบสงบ เสียงสนทนาของคุณหญิงประภาพรและทนายประจำตระกูลดังในวันนั้นปฐพีได้ยินทุกคำและรู้สึกเคว้งคว้างเป็นอย่างมาก เขาเสียพ่อไปพร้อม ๆ กับเสียเกือบทุกอย่างที่สืบทอดมาจากรุ่นบรรพบุรุษ แล้วเขาจะดูแลแม่และพี่สาวไปรอดอย่างนั้นเหรอ ปฐพีเลือกจะเก็บตัวอยู่ภายในห้องไม่ออกมาพบใครด้วยอาการทดท้อ แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ฝันถึงเหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อนนั้น ภาพของน้องนาลูกสาวเพื่อนมารดาที่นั่งร้องไห้โดยไม่มีใครใส่ใจ เมื่อสะดุ้งตื่นเขาก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจ เขาจะอ่อนแอและยอมแพ้อย่างนั้นหรือ? แล้วเขาจะมานั่งเสียใจอยู่ทำไม เขาเสียบิดาไปตอนอายุ15แล้วแต่เด็กหญิงเสียมารดาตั้งแต่อายุ5ขวบ จิตใจของเด็กคนนั้นเคว้งคว้างกว่าเขาเสียอีก เขามีแม่ มีพี่สาวฝาแฝด แต่เธอไม่เหลือใครแม้แต่พ่อก็แต่งงานมีลูกใหม่ แล้วเขาจะมานั่งเสียใจอยู่เพื่ออะไรกัน เขาควรจะทำอะไรสักอย่างสิ จากวันนั้นมาปฐพีจึงหลุดออกจากความทดท้อเสียใจและลุกขึ้นสู้กับทุกปัญหา กลับไปเรียนต่อที่อเมริกาโดยรายได้จากกิจการโรงแรมและในขณะเดียวกันก็เลือกเข้าสู่เส้นทางมืดเพื่อที่จะให้แม่และพี่สาวอยู่รอด ใช้เงินเก็บลงทุนเปิดคาสิโนกับเพื่อนชาวอเมริกันที่เป็นลูกชายผู้มีอิทธิพล ใช้มันสมองทำกำไรให้คาสิโนและก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าแก็งมาเฟียด้วยแรงผลักดันของพ่อของเพื่อนสนิทตั้งแต่อายุ18 พลิกจากเด็กหนุ่มอายุ15ที่เสียเสาหลักและครอบครัวล้มละลายกลายเป็นเจ้าพ่อที่มีชื่อเสียงทั้งไทยและลาสเวกัส ปฐพีระลึกเสมอมาว่านอกจากสมบัติชิ้นสุดท้ายที่พ่อทิ้งไว้ให้และความช่วยเหลือจากเพื่อนรักชาวอเมริกันและพ่อของเขาแล้วอีกคนที่ทำให้เขาลุกขึ้นสู้และมายืนอยู่ในจุดที่สูงสุดของวงการธุรกิจไทยและเอเชียในวันนี้ก็คือน้องนา...หรือก็คือเนตรนลินคนนี้เอง ในตอนนั้นเขาสงสารและรู้สึกขัดใจที่เด็กหญิงไม่เข้มแข็ง ไม่ลุกขึ้นสู้เอาแต่นั่งร้องไห้และรู้สึกอยากจะปกป้องช่วยเหลือเธอ พอเกิดเรื่องกับตัวเองจึงนำความรู้สึกนั้นมาเป็นแรงผลักดันที่ว่า เขาจะไม่ยอมตกอยู่ในสภาพเดียวกับเด็กคนนั้นและถ้าล้มอยู่อย่างนี้จะช่วยเด็กหญิงได้อย่างไร เขาต้องสู้เพื่อวันข้างหน้าจะได้ช่วยเหลือเธอออกมาจากสถานที่แห่งนั้น ตอนนี้เขาเข้มแข็ง แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ แต่เนตรนลินยังเข้มแข็งได้ไม่พอ ไม่มีกำลังจะไปแข็งข้อกับคนในครอบครัว และเขาไม่เคยลืมว่าเคยอยากจะปกป้องและช่วยเหลือเธอ คำขอของมารีจึงถูกยกมาเป็นข้ออ้างปกปิดเจตนาจริง ๆ เอาไว้ เนตรนลินไม่จำเป็นต้องรับรู้ถึงเหตุผลแท้จริงอีกข้อนี้ที่เขาทำทุกอย่างให้เธอหลุดออกมาจากบ้านอินทรโยธา รู้เพียงว่าเขาทำเพื่อมารีก็พอแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม