ปาลินยืนรอรับว่าที่คู่หมั้นอยู่หน้าร้านตัดชุดวิวาห์หรูหราคู่กับสาวมั่นที่เป็นหนึ่งในทีมจัดงาน มองไปยังกระบะแล่นเข้ามาจอดกึกหน้าร้าน ไม่นานวิวรรญาก็ก้าวลงมา
อีกฝั่งเป็นลินที่ยืนอยู่แค่ประตูเพราะไม่รู้จะไปรอตรงไหนได้ ข้างนอกก็แดดร้อน ด้านในก็ไม่กล้า วิวรรญาเองก็ไม่กล้าชวนให้เข้าไปด้วยกัน เลยตัดสินใจแก้ปัญหา
“นั่งรอฉันอยู่ในรถก็ได้”
“ให้นายลินเข้ามารอข้างในด้วยกันก็ได้นะครับคุณแจม แดดร้อน เผื่อต้องแก้ชุดอีกคงจะต้องรอนานหน่อย”
วิวรรญาหันไปยิ้มให้ปาลินที่มีน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อคนโนเนมอย่างนายลิน ผิดกับพ่อของตัวเองที่แทบจะทุกครั้งเวลามีลินห้อยไปบ้านด้วย ไม่เคยชายตามอง ไม่เคยเอ่ยปากให้คนในบ้าน
หาข้าวหาน้ำไปให้ หรือบอกให้ลินไปรอหลังบ้านเลยสักครั้ง ถ้าให้เดาพ่อคงจะไม่ชอบตั้งแต่แรกที่รู้ว่าลินเป็นลูกจ้างมาทำสวนนั่นเอง ลินนั่งอยู่กับชุดรับแขกห่างออกไปจากว่าที่บ่าวสาวอย่างคนรู้ฐานะตัวเองดี
ใบหน้าหล่อเหลาคอยมองด้วยหางตาว่าเมื่อไหร่ผู้หญิงที่ได้หัวใจเขาไปครองจะสวมใส่ชุดสวยหรูออกมาให้ดูเป็นขวัญตาบ้าง และไม่นานเกินรอนักเขาก็ได้เงยขึ้นไปจ้องมองร่างอรชร
ผอมสูงตามมาตรฐานหญิงไทยเดินออกมาจากห้องแต่งตัว ในชุดไทยจักรีประยุกต์สีชมพูโอรสสวยงามแม้เพียงแค่วันมาลองครั้งแรกเท่านั้น เขาจ้องมองตาแทบไม่กะพริบ กับชุดสวยด้วยงานเดรปเส้นสลับสามสี
ดวงตาไล่มองลงไปตามชายสไบพลิ้วหวานที่ทิ้งไปข้างหลังอย่างสวยงาม ไม่บอกก็รู้ว่าดีไซเนอร์คงจะตั้งใจสรรค์สร้างมันออกมาตามราคาค่าจ้างของเจ้าบ่าวผู้ร่ำรวย
“ชุดนี้เป็นแบบโบราณในยุคพระสุริโยทัยนะคะ ออกแบบลวดลายได้ดีมาก ดูสิคะปักสีเทาเงินโทนสว่างสองมิติ เหมาะกับคุณแจมมากค่ะ รับรองวันหมั้นคุณแจมจะเป็นว่าที่เจ้าสาวสวยหวาน เรียบหรูดูเป็นผู้ดีและทันสมัยไม่ตกเทรนด์แน่นอนค่ะ”
คนจัดงานออกปากชมตามปกติวิสัยที่ไม่เคยตำหนิลูกค้ากระเป๋าหนักให้ได้ยินเข้าหูสักราย
“แต่ตรงอกกับเอวหลวมไปหน่อย แสดงว่าผอมลงนะคะ เดี๋ยวพี่ขอเอาเข้านิดหนึ่ง รบกวนรอลองเลยได้หรือเปล่าคะ ไม่น่าเกินชั่วโมง จะได้ไม่ต้องกลับมาอีก เห็นว่าน้องแจมอยู่ตั้งบ้านบึงใช่หรือเปล่าคะ”
แต่ช่างก็บอกออกไปตรงๆ ซึ่งวิวรรญาก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง แต่สำหรับปาลินแล้ว เวลาเขามีแค่นั้น เพราะจะต้องเข้าประชุมสำคัญต่ออีก
“คุณซีไปก่อนก็ได้ค่ะ แจมจะรอเอง เสร็จแล้วจะกลับเลยนะคะ ต้องรีบไปช่วยป้ากับลุงต่อค่ะ”
วิวรรญาเลยรีบเสนอเมื่อเห็นเขามีท่าทีอึดอัดหลังจากชุดของตัวเองไม่ต้องแก้อะไรเลย ลินเดินมานั่งใกล้กว่าเดิม เมื่อว่าที่เจ้าบ่าวออกรถไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีพิเศษอะไรมากมายนัก
เพราะคนจัดงานยังอยู่เป็นเพื่อนว่าที่เจ้าสาวต่อ พอเสร็จวิวรรญาปฏิเสธที่จะกินมื้อเที่ยงด้วยเมื่อคนจัดงานเอ่ยชวนตามมารยาทเท่านั้น
กระบะมุ่งหน้ากลับทันที มื้อเที่ยงของทั้งสองเป็นไก่ทอดที่แวะซื้อตอนเติมน้ำมันเท่านั้น เพราะอยากจะกลับไปช่วยเก็บผักมัดเตรียมไว้ให้ลุงป้า ที่ต้องมีไว้เยอะๆ สำหรับเทศกาลกินเจ
ลินค่อยๆ จับมือนุ่มที่ถือไก่ยื่นมาป้อนให้ขณะขับรถจะได้ไม่เปื้อนจมูกเหมือนหลายคำก่อน และมีหอมมือแถมไปด้วยอย่างคนอดใจไม่อยู่ทำเอาวิวรรญายิ้มออกมาด้วยความขำระคนค้อนนิดๆ
ก่อนจะยื่นไก่เข้าปากตัวเองบ้าง ยิ่งได้อยู่ใกล้ๆ กันยิ่งนับวันที่ตระหนักดีว่ารักเขามากมายนัก มากจนไม่อยากให้วันที่จะต้องจากกันเดินทางมาถึง แต่เวลาก็ไม่เคยปราณีใครเลย
หนึ่งอาทิตย์ก่อนจะถึงวันหมั้น และสองอาทิตย์ก่อนจะถึงวันแต่ง เมื่อใดก็ตามที่มีความสุข วันเวลามันมักจะก้าวเดินไปรวดเร็วเสมอๆ เฉกเช่นกับวันนี้ที่นั่งทำงานนานหลายชั่วโมง
มื้อเย็นเป็นข้าวราดแกงคนละจานแล้วหันหน้ามัดผักต่อจนเย็นย่ำค่ำมืด สองหนุ่มสาวก็ไม่เหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด ผิดกับสองลุงป้าที่เปลี่ยนท่านั่งแล้วเปลี่ยนท่านั่งอีก
“ลุงกับป้าขึ้นไปอาบน้ำนอนดีกว่านะคะ ที่เหลือแจมกับลินจะทำต่อเองค่ะ”
จนหลานสาวสงสารเลยต้องออกปากบอก โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องที่ว่าจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองสักนิด แต่เพียงผู้ใหญ่ทั้งสองคล้อยหลังไปไม่นาน กายกำยำที่นั่งอยู่คนละฝั่งก็ค่อยๆ ขยับมาเรื่อยๆ
จนเกือบจะชิด ก่อนจะขโมยหอมแก้มนุ่มที่เขาคิดถึงเหลือกำลัง เจ้าของแก้มมองค้อนๆ แล้วขยับออกห่างเพราะไม่อยากให้ลุงหรือป้าลงมาเห็น
เผื่อโชคจะไม่เข้าข้างเหมือนหลายครั้งที่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันอันน้อยนิด ก็มักจะถูกขโมยกอดขโมยหอมจากอีกฝ่ายอยู่ร่ำไป แต่ก็ยังไม่เคยถูกจับได้
“คุณแจมขึ้นไปนอนก่อนเถอะครับ ผมจะเก็บเอง พรุ่งนี้ต้องไปทำงานด้วย”
สุดท้ายลินก็จำต้องดึงตัวเองออกห่างหลานเจ้านาย เมื่องานเสร็จและเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มจะเหนื่อยล้าแล้ว วิวรรญาเองก็ยอมทำตาม เพราะไม่อยากอยู่ตามลำพังกับเขานานนัก
เมื่อมีลุงกับป้าอยู่ร่วมชายคาบ้านด้วย จึงขึ้นชั้นบนอาบน้ำแล้วเข้าทันทีเพราะเหนื่อย จึงทำให้หลับยาวแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย
กระทั่งถึงตีสามกว่าๆ รู้สึกเหมือนมีอะไรมาชนที่แก้มทั้งสองข้าง มันเหมือนกับกำลังฝันว่าเดินไปไหนสักแห่งเคียงคู่คนสวนหนุ่ม แล้วถูกกอดถูกหอมแก้มซ้ายขวาหลายต่อหลายครั้ง และความรู้สึกเหมือนจริงเหลือเกินจนสะดุ้งตื่น
“นายลิน!!! นายเข้ามาได้ยังไง”
แล้วต้องตกใจจนตาแทบสว่างเมื่อมีร่างบึกบึนอิงแอบแนบชิดอยู่
“ผมใช้กุญแจไขเข้ามาครับ เพราะคิดถึงคุณแจม สัญญาว่าผมจะไม่ทำอะไรมากไปกว่ากอดกับหอมแก้มแบบนี้ คุณแจมนอนต่อเถอะนะครับ อีกหลายชั่วโมงกว่าจะเช้า”
เขารีบบอกและใช้แขนกอดร่างที่กำลังจะผุดลุกขึ้น แล้วส่งน้ำเสียงเว้าวอนไปหาพร้อมสัญญาลูกผู้ชายที่วิวรรญาอยากจะปักใจเชื่อ
“นายแน่ใจเหรอว่าจะทำแบบนั้นได้”
แต่ก็อยากจะได้คำยืนยันอีกครั้ง ลินเลยยกสามนิ้วขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม
“ด้วยเกียรติของเลือดราชนาวีครับ”
วิวรรญาอดยิ้มออกมาด้วยความขำไม่ได้ ก่อนจะถูกแขนแข็งแรงโอบกอดไว้ แล้วเบียดไปใกล้ๆ ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ต่างฝ่ายจะค่อยๆ หลับใหลไปเพราะความง่วงและเหนื่อยไม่แพ้กัน
อีกทั้งต่างฝ่ายต่างก็พยายามควบคุมไม่ให้ความใกล้ชิดเกินเลยขอบเขตที่วิวรรญาตั้งเอาไว้ได้อย่างแน่นเหนียว