บทที่ 7

1083 คำ
แก้วกานดาตื่นเช้ากว่าทุกวันเพราะวันนี้เธอมีเรื่องมากมายที่ต้องสะสางให้เสร็จ หญิงสาวใช้เวลาจัดการตัวเองร่วมชั่วโมงก่อนจะเดินมารวมตัวกับคนอื่นๆ ที่ล็อบบี้หน้ารีสอร์ทเพื่อที่จะเดินเท้าไปดูความเสียหายของรีสอร์ทพร้อมกัน ก่อนที่จะหาทางแก้ปัญหาทีหลัง            “ทุกคนมาครบรึยังคะ”   หญิงสาวถามขึ้นเมื่อมาถึงที่หมาย            “ยังขาดคุณปานค่ะ เห็นว่าลืมเอกสารสำคัญก็เลยขอตัวกลับไปเอา คุณแก้วจะล่วงหน้าไปก่อนเลยไหมคะ” หนึ่งในวิศวกรสาวอนาคตใกล้เอ่ยตอบพร้อมจ้องมองนายจ้างอย่างชื่นชม อายุของเธอน่าจะพอๆ กันแต่ความรับผิดชอบของแก้วกานดาที่แสดงออกมาให้ได้เห็นนั้นกลับน่าชื่นชมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากเจ้านายสาวจะไม่ถือตัวเลยนั้นยังลงแรงช่วยเหลือทุกๆ คนในการแก้ไขปัญหาเป็นอย่างดี แตกต่างจากนายจ้างคนก่อนๆที่มักจะแค่คอยชี้นิ้วสั่งเท่านั้น            “ถ้าอย่างงั้นเรารอคุณปานก่อนก็ได้ค่ะจะได้ไปพร้อมกันทีเดียว”  แก้วกานดาเอ่ยตอบกลับไปก่อนที่อีกฝ่ายนั้นจะถามบางสิ่ง            “เห็นคุณปานบอกว่าคุณแก้วกำลังท้องอยู่ ไม่ทราบว่ากี่เดือนแล้วเหรอคะ” วรนุช วิศวกรสาวยังคงหาเรื่องชวนเจ้านายเจ้าคุยต่อ อาจเป็นเพราะเริ่มรู้สึกรู้ชะตากับอีกฝ่านยเลยทำให้เธอลืมเว้นระยะห่างไป  กระนั้นแก้วกานดาก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรกับคำถามนั้น            “เกือบๆ สองเดือนแล้วค่ะ”            “แล้วสามีของคุณแก้วล่ะคะอยู่ที่ไหน” คำถามนั้นไม่เพียงแต่แก้วกานดาเท่านั้นที่ชะงักรอยยิ้ม แต่เป็นใครบางคนที่กำลังเดินตรงมาหาหญิงสาวเองก็ด้วย  ที่หยุดเดินเพื่อรอฟังคำตอบไปด้วยอีกคน            “เขาตายไปแล้วค่ะ” ตายไปจากใจของเธอกับลูกไปนานแล้ว            “นุชเสียใจด้วยนะคะ นุชไม่น่าถามอะไรแบบนี้เลย” แก้วกานดายิ้มรับอย่างไม่คิดถือสาติดใจเอาความใดๆ หญิงสาวเอ่ยบอกกับทุกคนว่าจะขอเดินล่วงหน้าไปก่อนก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาตามลำพังด้วยกลัวว่าหากอยู่ต่อไปคงได้ร้องไห้เผยความอ่อนแอให้ใครต่อใครได้เห็นเป็นแน่ และเธอไม่อยากให้มันเป็นเช่นนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เธอไม่ได้อยากเผยมุมอ่อนแอให้ใครได้เห็นมัน            ทว่าเดินออกมาได้ไม่เท่าไหร่ต้นแขนของหญิงสาวกลับถูกกระชากเบาๆ แต่ก็มากพอที่จะทำให้เธอหันกลับไปเผชิญหน้ากับใครบางคนที่ออกเดินตามหลังกันมาติดๆ ได้ไม่ยากเย็นเท่าไหร่…            “พะ…พี่เหนือ!” หญิงสาวตกใจจนแทบสิ้นสติเมื่อพบว่าคนที่กระชากเธอเอาไว้นั้นเขาดันคือคนที่เธอกำลังคิดถึงอยู่ในขณะนี้ไปได้            “เธอกล้าดียังไงแก้วกานดาที่เที่ยวไปบอกใครต่อใครว่าพ่อของเด็กตายไปแล้วทั้งๆ ที่ความจริงแล้วไอ้บ้านั่นมันยืนหัวโด่อยู่นี่!” แก้วกานดาไม่ได้ตอบอะไรในทันทีเพราะยังตกใจการปรากฏตัวของเขาอยู่ คนที่เธอพยายามที่จะลบลืมเขาไปจากหัวใจมาโดยตลอดสองเดือนที่ผ่านมา แต่ไม่ว่าจะพยายามสักแค่ไหน ตลอดระยะเวลาแค่สองเดือนมันคงไม่อาจทำให้เธอเลิกรักเขาไปได้อย่างที่ใจต้องการ มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยสักนิด            “พี่เหนือพูดอะไรคะแก้วไม่เข้าใจ” หญิงสาวตอบหลังจากเรียกสติให้กับตัวเอง เธอแสร้งถามทำเหมือนไม่เข้าใจต่อคำถามของเขาทั้งๆ ที่ความจริงหัวใจเธอกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรงจากสายตาที่มองมา สายตาของเขาที่อัดแน่นไปด้วยความเกลียดชังไม่เคยเปลี่ยน            “ก็เรื่องลูกในท้องเธอนี่ไง! หรือเธอจะปฏิเสธว่าไอ้มารหัวขนนี่มันไม่ใช่ลูกฉัน!” เพราะความโมโหหรืออะไรก็ก็ไม่อาจทราบได้ทำให้เหนือตะวันสติหลุดพลั้งปากพูดบางสิ่งออกมา คำพูดนั้นมันรุนแรงจนคนฟังแน่นิ่งไป  ภาพหญิงสาวที่กำลังร้องไห้ทำเขาชะงักไปชั่วครู่            “พี่เหนือไม่มีสิทธิมาเรียกจิกลูกของแก้วแบบนี้นะคะ! และที่สำคัญเขาไม่ใช่ลูกของพี่เหนือแต่แกเป็นลูกแก้ว   ของแก้วคนเดียว!”            “เธอคนเดียวทำลูกเองได้รึไง อย่าปฏิเสธในสิ่งที่หลักฐานมันก็ฟ้องอยู่ หรือที่ทำแบบนี้เพราะอยากจะเรียกร้องความสนใจจากฉัน!” แก้วกานดาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะตกหลุมรักผู้ชายปากร้ายคนนี้ได้ หญิงสาวจ้องมองเขาทั้งน้ำตาก่อนจะพยายามขืนตัวเองถอยห่าง ไม่อยากพาตัวเองไปใกล้เขาเหมือนอย่างที่ผ่านๆ มา            “แก้วไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำอะไรแบบนั้นเลยสักนิด ถ้าพี่เหนือมาเพื่อจะพูดแค่นี้ก็กลับไปซะเถอะค่ะ แก้วมีงานต้องทำ ขอตัวก่อนนะคะ” เหนือตะวันไม่ยอมมันทุกอย่างลงเอยเช่นนั้น เขาไม่ได้นั่งเครื่องด่วนถ่อมาถึงที่นี่เพียงเพื่อจะมายืนมองแม่ตัวดีเดินหนีกันไป คิดเช่นนั้นชายหนุ่มจึงเดินตามหลังเธอไปติดๆ ไม่สนเลยสักนิดว่าคนถูกตามจะรู้สึกยังไงที่เขามาปรากฏตัวหลังจากหายหน้าไปสองเดือน            เหนือตะวันคงไม่มีทางรู้หรอกว่าเขาไม่ได้หายไปเฉยๆ แต่ยังไปพร้อมกับความสุขในชีวิตของเธอความสุขที่คงไม่มีวันหวนกลับมา  ไม่ว่าจะพยายามไขว่คว้าให้ตายแค่ไหน สุดท้ายแล้วหัวใจของเธอก็บอบช้ำเกินกว่าจะเข้มแข็งได้อย่างที่แสดงออก แก้วกานดาคิดในใจในขณะที่สองเท้าก็ยังคงเดินตรงไปเบื้องหน้าโดยไม่คิดที่จะหันไปมองคนใจร้ายที่กระทั่งตอนนี้ก็ยังเดินตามหลังกันไม่ห่างอีกเลย            “นั่นเธอคิดจะไปไหน!” กระทั่งเมื่อถึงที่หมายหญิงสาวก็ทำท่าจะก้าวเดินตามคนอื่นๆ ที่เพิ่งจะเดินมาสมทบเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทว่าแค่เพียงขยับต้นแขนกลับถูกอีกคนกระชากเอาไว้ก่อน            “ก็จะเข้าไปดูความเสียหายใกล้ๆ ไงคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม