ตอนที่3 ไม่เลือกงาน

1935 คำ
ตอนที่3 ไม่เลือกงาน วันต่อมา “พี่เมษา” เสียงแหบพร่าของปลายเอื้อนเอ่ยเบาๆ ขณะที่เมษาฟุบหน้าหลับอยู่ข้างเตียงของปลาย เสียงเรียกของน้องสาว ปลุกให้เมษารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทันที “ปลาย เป็นยังไงบ้าง” เมษาเอ่ยถามคนเป็นน้องด้วยความเป็นห่วงทันทีที่เห็นปลายลืมตามองเธออยู่ “หนูไม่เป็นไร พี่นั่นแหละ มาตั้งแต่เมื่อไหร่” “พี่มาตั้งนานแล้ว แล้วนี่หิวข้าวมั้ย เดี๋ยวพี่ออกไปซื้ออะไรมาให้” เมษาบอกพร้อมกับตั้งท่าจะลุกขึ้นออกไปซื้อของมาให้น้องสาวทาน “พี่เมย์...” “หือ อยากได้อะไรเหรอ” เมษาหันมาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม พลางจ้องมองใบหน้าที่ดูซีดเผือกของคนเป็นน้องที่ดูไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ ตั้งแต่ที่รู้ว่าปลายป่วยเป็นโรคหัวใจ น้องสาวเธอก็นอนอยู่แต่โรงพยาบาล อาการก็ไม่ค่อยดีเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ปลายดูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ เมษามองหน้าพลางลูบหัวน้องไปด้วย เธอรู้ว่าปลายสู้มาตลอดเวลาสามเดือน และทางเดียวที่จะสามารถทำให้ปลายหายป่วยได้นั้น คือการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ “พี่เหนื่อยมั้ยคะ” หญิงสาวนิ่งเงียบไปทันที เมื่อปลายเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา น้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงของน้องสาว ทำให้เมษากลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ได้ เธอปล่อยให้น้ำสีใสไหลลงมาอาบแก้มนวลทั้งสองข้าง “ไม่ พี่ไม่เหนื่อยเลย ปลายไม่ต้องเป็นห่วงพี่นะ พี่จะหาเงินมารักษาปลายให้ได้ เธอต้องหายนะปลาย” เมษายังคงบอกให้กำลังใจคนเป็นน้อง เพราะไม่อยากให้ปลายคิดมากเรื่องเธอ ตั้งแต่ที่พ่อแม่เสียไปนั้น พวกเธอก็เหลือกันอยู่แค่นี้ “พี่ไม่เป็นไรแน่นะ” “อือ เธอนอนพักเถอะนะ เดี๋ยวพี่ไปซื้อของอร่อยมาให้กินนะ” เมษาเอ่ยบอกเพียงแค่นั้นก่อนที่เธอจะเช็ดคราบน้ำตาออก แล้วตั้งท่าจะเดินออกไปจากห้อง ทว่าประตูห้องกลับถูกเปิดเข้ามาเสียก่อน พร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงในชุดนักศึกษาก้าวเดินเข้ามา “พี่บาส” เมษาเอ่ยเรียกเสียงแผ่วเบา เมื่อเห็นแฟนเก่าที่เธอเลิกรากันไปเมื่อปีก่อน และยังเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัยเดียวกันกับเธอ แต่คนละคณะเท่านั้นเอง “พี่มาเยี่ยมปลายน่ะ ขออนุญาตนะ” ชายหนุ่มเอ่ยบอก พร้อมกับเดินเข้าไปหาปลายที่นอนมองเขาอยู่ โดยที่มือทั้งสองข้างถือข้าวของที่เพิ่งซื้อเข้ามาด้วย “ปลาย พี่ซื้อของกินมาฝากเยอะแยะเลยนะ มีแต่ของอร่อยที่ปลายชอบทั้งนั้นเลย” “พี่บาส ขอบคุณมากนะคะ” “ครับ แล้วนี่ปลายเป็นยังไงบ้าง” บาสเอ่ยถามพร้อมกับนั่งลงเก้าอี้ที่วางไว้อยู่ข้างๆ เขาทำเหมือนว่ายังสนิทสนมอยู่กับเมษาและน้องสาวเธอ เมษายืนมองชายหนุ่มด้วยแววตาที่ว่างเปล่า ในขณะที่ปลายนั้นส่งยิ้มให้กับเขาอย่างรู้สึกดีที่เห็นเขามา “พี่บาสรู้ได้ยังไงคะ ว่าปลายป่วย” เมษาเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะเธอไม่ได้บอกใครว่าน้องสาวเธอป่วยนอกจากเพื่อนสนิทเท่านั้น และไม่มีเหตุผลที่เขาต้องมาที่นี่ด้วยซ้ำ “อ๋อ พอดีพี่ถามเพื่อนปลายน่ะ พอรู้ข่าวว่าน้องป่วย พี่เลยรีบมาเยี่ยม ขอโทษนะที่พี่ถือวิสาสะมาโดยที่ไม่ได้บอกอะไรเมษาก่อน” บาสหันมามองหน้าเธอด้วยแววตาที่มีความรู้สึกดีให้กับเธออยู่ แต่เมษากลับไม่ได้มีความรู้สึกเหล่านั้นกับเขาแล้ว “ดีออกค่ะ พี่บาสมาเยี่ยมปลายบ่อยๆ นะคะ ปลายเหงา พี่เมย์ก็ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่” ปลายออกปากชวนชายหนุ่ม ราวกับว่ายังคงสนิทสนมกับเขาอยู่เหมือนเดิม ทั้งที่เมษาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นสักนิด “ได้สิ แล้วนี่เราดีขึ้นรึยัง” “ดีขึ้นมากแล้วค่ะ” “แล้วนี่หิวมั้ย พี่ซื้อของกินมาเยอะเลย เดี๋ยวพี่แกะใส่จานให้นะ” “ขอบคุณนะคะ” บาสส่งยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งแกะอาหารใส่จานที่โซฟาสำหรับรับแขกที่มาเยี่ยมคนไข้ และยังมีถ้วยจานวางไว้ให้ใช้ส่วนตัว “คุณเมษาคะ” เสียงเรียกของพยาบาลสาว ทำให้เมษาหันไปมอง “คะ มีอะไรรึเปล่าคะ” “คุณหมอขอพบค่ะ” เมษาพยักหน้าให้ ก่อนที่พยาบาลคนนั้นจะเดินนำออกไป “เดี๋ยวพี่มานะปลาย” “ค่ะ” บาสมองตามหลังหญิงสาวที่เดินออกไปจากห้อง พลางแกะถุงกับข้าวไปด้วย เมษาเดินเข้ามาในห้องของคุณหมอที่เป็นคนดูแลรักษาน้องสาวเธอ ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ตรงข้าม “คุณหมอเรียกฉันมา มีอะไรรึเปล่าคะ” “คือ หมอมีเรื่องจะบอกเกี่ยวกับคนไข้ ถ้าหากไม่รีบผ่าตัดในเดือนนี้ อาการของน้องสาวคุณก็อาจจะแย่ลงนะครับ และนั่นอาจจะทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้” เมษาที่ได้ฟังอย่างนั้น เธอก็รู้สึกไม่ดีทันที เธอเงียบไปครู่หนึ่งอย่างใช้ความคิด “เอ่อ แล้ว...ค่าผ่าตัด ค่ารักษามันเท่าไหร่คะหมอ” “ค่าผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านนะครับ” “หนึ่งล้านเลยเหรอคะ” เมษาอึ้งกับจำนวนเงินเหล่านั้น เธอไม่มีกำลังมากพอที่จะหาเงินมากมายขนาดนั้นมาได้ แต่มันคือสิ่งที่จะต่อลมหายใจให้กับน้องสาวเธอ เมษาเปิดประตูออกมาจากห้องของคุณหมอ ใบหน้าของหญิงสาวมีความกังวลและครุ่นคิดเรื่องค่ารักษาของน้องสาว เธอค่อยๆ เดินมานั่งที่เก้าอี้ของโรงพยาบาล น้ำตาของความกังวลใจและสงสารน้องสาวก็ค่อยๆ ไหลลงมาอาบพวงแก้มอย่างสุดจะกลั้น เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี ไม่รู้จะไปพึ่งพาใครได้บ้าง ครืดด ครืดด เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เมษาล้วงหยิบมือถือในกระเป๋าสะพายข้างออกมากดรับสาย “ฮัลโหลค่ะพี่แก้ว” (เมษา คืนนี้ว่างมั้ย พอดีพี่มีงานให้ทำ เงินดีมากเลยนะ) “งานเหรอคะ งานอะไรคะ” (งานสบายๆ เงินดี ขอแค่เธอยอมทำตามที่บอก ก็ได้เงินไปใช้สบายๆแล้ว) “รับค่ะ ตอนนี้หนูร้อนเงิน งานอะไรหนูทำได้หมดค่ะ” เมษาตอบรับงานอย่างไม่คิด ในตอนนี้เธอยอมทำงานได้ทุกอย่าง ขอแค่มีเงินมารักษาน้องสาวก็พอ “โอเคจ๊ะ งั้นคืนนี้มาหาพี่นะ” “ค่ะ” เมษาวางสายไป พร้อมกับปาดคราบน้ำตาที่เลอะหน้าออกไปด้วย เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อให้ตัวเองผ่อนคลายไม่เครียดมากเกินไป ตกมาช่วงค่ำ เมษายืนมองตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่อยู่ภายในห้องแต่งตัวของเหล่าเด็กนั่งดริ้ง เธอมองดูความเรียบร้อยของตัวเอง เธออยู่ในชุดเดรสสั้นรัดรูปเกาะอกสีแดง ที่ทางผับเขาให้ใส่ หญิงสาวนั่งรอผู้จัดการผับมาหา เพื่อพาไปพบลูกค้าที่เธอต้องดูแลในคืนนี้ “เมษา” เสียงเรียกของผู้จัดการผับเอ่ย ทำให้เธอหันไปมองตามเสียงนั้นก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปหาแก้ว “ค่ะพี่แก้ว” “นี่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย” “ค่ะ” “งั้นตามพี่มา” แก้วเดินนำหญิงสาวไปยังชั้นสองของผับ ซึ่งเป็นลูกค้าแขกวีไอพีเท่านั้นที่อยู่บนนี้ ด้านบนมีแต่ห้องสำหรับลูกค้าวีไอพี ที่ต้องการห้องไว้สำหรับดื่มเบาๆ ไม่มีเสียงด้านล่างรบกวน แม้ว่าชั้นล่างจะเสียงดังกระหึ่มแค่ไหน แต่ด้านบนกลับปกคลุมไปด้วยความเงียบ แก้วพาเมษาเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่ง ที่อยู่โซนลึกสุดของโถงทางเดินด้านบน “ห้องนี้แหละ เธอก็ดูแลแขกคนสำคัญของที่นี่ดีๆ แล้วกันล่ะ พี่ฝากด้วยนะ” “ค่ะ” เมษาพยักหน้าเข้าใจ แม้ว่าภายในใจเธอจะรู้สึกหวาดกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้น แก้วส่งยิ้มให้ก่อนที่จะเดินออกไป ทิ้งให้เมษายืนนิ่งอยู่หน้าห้องคนเดียว หญิงสาวจำใจฝืนทนทำงานนี้เพื่อน้องสาวตัวเอง เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเคาะประตูห้องนั้นเบาๆ เป็นการขออนุญาตเสียก่อน เมษาค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปด้านในช้าๆ ทว่าด้านในห้องนั้นกลับมืดสนิท จนมองไม่เห็นอะไรเลย หญิงสาวหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่เธอนั้นจะค่อยๆ ก้าวเข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตู สองมือเล็กพยายามควานหาปุ่มสวิทไฟด้านข้างผนังห้อง แต่กลับไม่เจออะไรเลย ก่อนที่ร่างเล็กจะเดินไปชนกับอะไรบางอย่างเข้า เมษาสะดุ้งตกใจ เธอจึงรีบถอยห่างออกทันที รู้สึกได้ว่ามีคนอยู่ในห้องนี้กับเธอด้วย “เอ่อ ขอโทษนะคะ ช่วยเปิดไฟหน่อยได้มั้ยคะ” หญิงสาวรู้ว่าสิ่งที่เธอชนเมื่อครู่นี้ เป็นลูกค้าที่เธอต้องมาดูแลแน่ๆ แต่ทำไมเขากลับไม่เปิดไฟเลย “เธอทำงานขายตัวเหรอ” “คะ” เมษารู้สึกคุ้นเคยกับเสียงที่เอ่ยถามเมื่อครู่นี้อย่างมาก เธอไม่เข้าใจสิ่งที่ผู้ชายคนนี้พูดเท่าไหร่ “ว่าไง เธอมาขายตัวงั้นเหรอ” “เอ่อ เปล่านะคะ ฉันแค่มาดูแลลูกค้าตามที่พี่แก้วบอกค่ะ” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงใสซื่อ โดยที่ไม่รู้เลยว่างานที่แก้วให้เธอมาทำนั้น เป็นงานเกี่ยวกับอะไรกันแน่ แต่เธอเข้าใจตลอดว่าคงเป็นแค่การนั่งดูแลแขกเท่านั้น “ฮึ” เสียงแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ สร้างความหวาดระแวงให้กับเมษาอย่างมาก “เอ่อ ฉันคงเข้ามาผิดห้องเองค่ะ ขอ ขอตัวก่อนนะคะ” เมษารู้สึกไม่ดี เธอรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ จึงตั้งท่าจะเดินกลับออกไปจากห้องนี้ ทว่าเธอกลับถูกร่างสูงคว้าเอวขอดเอาไว้ แล้วอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาวด้วยความว่องไว “นี่ วางฉันลงนะ” เมษาพยายามดีดดิ้นสุดขีดด้วยความตกใจกับการกระทำของผู้ชายคนนี้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สะทกสะท้านกับเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอเลย มาเฟียหนุ่มพาร่างเล็กไปวางไว้บนเตียงนอนหนานุ่มที่มีอยู่ภายในห้อง สำหรับรับแขกวีไอพีทุกห้อง ทันทีที่เขาวางเธอลงกับเตียง เมษาก็รีบถดถอยออกห่างจากเขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะเปิด สวิทไฟข้างหัวเตียง ภายในห้องก็สว่างขึ้น ทำให้หญิงสาวมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน “คุณ! คุณแทนไท” เมษาเบิกตากว้าง เมื่อเห็นลูกค้าวีไอพีที่เธอนั้นต้องมาดูแลในคืนนี้ มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เขายืนมองหญิงสาวด้วยสายตาที่มีเลิศนัย ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวนั่งลงที่ขอบเตียงด้านข้าง โดยที่หญิงสาวมองเขาด้วยสายตาที่ไม่ค่อยไว้ใจ “ฉันเอง” แทนไทเอ่ยบอกเสียงราบเรียบ พลางจ้องมองใบหน้าเธอไปด้วย “เอ่อ...ฉันว่า ฉันคงเข้าห้องผิดค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” เมษาบอกพร้อมกับตั้งท่าจะก้าวลงจากเตียงไป “ไม่ผิดหรอก ฉันนี่แหละ เป็นคนสั่งให้เธอมาเอง” หญิงสาวหยุดชะงักไป เธอหันกลับมามองหน้าชายหนุ่มอีกครั้งอย่างหวาดระแวงอยู่ในใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม