ตอนที่4 ทางเลือก
“คุณ เป็นคนเลือกให้ฉันมาเหรอคะ”
เมษาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจสิ่งที่มาเฟียหนุ่มจะสื่อ
แทนไทมองร่างเล็กที่นั่งตัวขดติดกับหัวเตียงด้วยความหวาดระแวงเขา
“เธอร้อนเงินใช่มั้ย”
หญิงสาวขมวดคิ้วสงสัย เมื่อชายหนุ่มเอ่ยถามเธอแบบนั้นอย่างไม่เข้าใจ และไม่รู้ว่าแทนไทรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้เธอกำลังต้องการเงิน
“คุณ รู้ได้ยังไงคะ”
“ต้องการเท่าไหร่ล่ะ ฉันมีให้เธอนะ”
“..ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่อยากเป็นหนี้นอกระบบ”
“ฮึ” แทนไทถึงขั้นหลุดขำออกมาเล็กน้อย เมื่อเธอรู้ว่าเขานั้นเป็นคนปล่อยเงินกู้นอกระบบ เพราะเมษาได้ยินสิ่งที่เขาพูดกับ ******อชาเมื่อคืน แม้จะได้ยินไม่ค่อยชัด แต่ก็พอจับใจความได้บ้าง
“ฉันไม่ได้จะให้กู้เงินสักหน่อย...”
มาเฟียหนุ่มเอ่ยบอกเสียงราบเรียบ พลางส่งสายตาจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“หมายความว่ายังไงคะ”
เมษาถามอย่างงุนงง แต่เธอก็ยังไม่ให้ความไว้ใจเขา
“ฉันมีทางเลือกให้เธอ ฉันจะให้เงินเธอสองล้าน โดยที่ไม่ต้องคืนสักบาทเดียว แต่มีข้อแม้ว่า เธอต้องมานอนกับฉันทุกคืน”
แทนไทเอ่ยบอกด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดาความคิดและอารมณ์ของเขาในตอนนี้ได้
“ข้อแม้บ้าบออะไรของคุณน่ะ นี่มันบ้าชัดๆ”
เมษาตวาดเสียงใส่เขาอย่างไม่พอใจกับข้อเสนอของมาเฟียหนุ่ม ทั้งที่เงินจำนวนมากมายขนาดนั้นเธอก็ไม่รู้จะไปหามาจากไหน
“ทำไมล่ะ หรือเธอไม่อยากได้ไปรักษาน้องสาวเธอ”
“คุณรู้ได้ยังไง ว่าฉันต้องการเงินไปรักษาน้องสาวฉัน”
เมษาชักสีหน้าไม่พอใจและเกิดความสงสัย เพราะเรื่องของน้องสาวเธอไม่เคยบอกกับใครมาก่อน นอกจากเพื่อนที่สนิทเท่านั้น และทำไมแทนไทถึงรู้เรื่องของเธอกับน้องได้
ถึงเขาจะเคยไปส่งเธอที่โรงพยาบาลเมื่อคืนก็เถอะ
“เอาเป็นว่าฉันรู้ก็แล้วกัน”
ชายหนุ่มเอ่ยบอกเสียงนิ่ง แววตาคมกริบยังคงมองเธออย่างไม่ละสายตา
เมษาจ้องมองนัยน์ตาคมเข้มนั้นราวกับกำลังครุ่นคิดและเกิดความสับสนในใจ เมื่อนึกถึงจำนวนเงินที่แทนไทเสนอมา มันมากพอที่จะเป็นค่ารักษาให้กับน้องสาวเธอ
หญิงสาวเงียบไปครู่หนึ่ง ขณะเดียวกันแทนไทก็ใช้สายตาสำรวจมองใบหน้าหวานไปด้วย
“ถ้าเธอตกลง ฉันยินดีดูแลค่ารักษาให้น้องสาวเธอทุกอย่าง โดยที่เธอไม่ต้องคืนฉันสักบาทเดียว เพียงแค่เธอยอมทำตามที่ฉันบอก”
มาเฟียหนุ่มยังคงบอกข้อเสนอให้หญิงสาวคิดทบทวนอีกครั้ง
เมษากำมือแน่น เมื่อรู้สึกว่าตัวเองอับจนหมดหนทางที่จะหาเงินมากมายขนาดนั้นมาได้ แต่ถ้าหากเธอยอมเสียศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อรักษาชีวิตน้องเอาไว้ มันก็คงจะเป็นหนทางเดียวที่เธอจะสามารถทำได้ในตอนนี้
หญิงสาวนั่งครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนที่เธอนั้นจะเงยหน้าตอบชายหนุ่ม
“ก็ได้ค่ะ ฉันยินยอมทำตามที่คุณบอก แต่ว่า คุณจะช่วยค่ารักษาน้องสาวฉันจริงๆ ใช่มั้ยคะ”
“ใช่ เพียงแค่เธอยอมทำตามที่ฉันบอกอย่างว่าง่าย”
“...แล้ว ฉันต้องนอนกับคุณทุกคืนจริงๆ เหรอคะ”
“ทำไม..”
“เอ่อ คือฉัน...ยังไม่เคย”
เมษามีท่าทีที่ประหม่าเมื่อพูดถึงเรื่องอย่างว่า แต่แทนไทมองท่าทางของเธอเขาก็ดูออกว่าเธอนั้นยังไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน
“เดี๋ยวเธอก็จะค่อยๆ ชินไปเอง เอาเป็นว่าฉันจะให้คนไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายน้องเธอให้ ส่วนพรุ่งนี้เธอต้องมาหาฉันที่นี่แทน”
แทนไทบอกพร้อมกับหยิบนามบัตรในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตออกมายื่นให้หญิงสาว
เมษารับเอาไว้ เธอมองชื่อและรายละเอียดที่อยู่และเบอร์โทรในนามบัตรอย่างไม่คุ้นเคย
“ที่นี่เหรอคะ”
เมษาเอ่ยถาม ขณะที่เธอนั้นมองชื่อบริษัทบนนามบัตรไปด้วย
“ใช่ ก่อนจะมาหาฉัน ก็โทรมาก่อน”
มาเฟียหนุ่มบอก ก่อนจะลุกขึ้นยืน เมษาเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างมีความสงสัยในใจ แต่ก็เลือกที่จะไม่เอ่ยถามอะไร
แทนไทกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนที่เขานั้นจะเดินออกไปจากห้อง
หญิงสาวมองตามร่างสูงที่เดินหายออกไปจากห้อง แล้วเลื่อนสายตากลับมามองชื่อบริษัทในนามบัตรอีกครั้ง บริษัท TRI
วันต่อมา
บ้านของเมษา
หญิงสาวยืนมองตัวเองผ่านกระจกโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ภายในห้องนอนส่วนตัวของเธอ เมษาอยู่ในชุดนักศึกษาพอดีตัว ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อย
ภายในบ้านของหญิงสาวนั้นถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ เธอกลับมาอยู่ที่บ้านคนเดียว โดยที่ปล่อยให้ปลายนอนพักที่โรงพยาบาล
หญิงสาวยืนครุ่นคิดเรื่องเมื่อคืนนี้ไปด้วย ข้อเสนอของแทนไททำให้เธอมีความหวังเรื่องค่ารักษาของน้องสาวมากขึ้น แม้ว่าเธอจะต้องเสียศักดิ์ศรีของตัวเองก็ตาม
เมษาหยิบนามบัตรในกระเป๋าสะพายข้างออกมาดูอีกครั้ง แม้ว่าภายในใจจะรู้สึกว้าวุ่นมากแค่ไหน แต่เพื่อคนที่เธอรัก เธอก็ยอมทำได้
“ก็แค่เสียตัว”
เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง เพื่อไปเรียนช่วงเช้า
@มหาลัย (คณะแพทยศาสตร์)
“เมษา น้องสาวแกเป็นยังไงบ้าง” ข้าวปั้นเพื่อนสนิทของเมษาเอ่ยถาม ขณะที่หญิงสาวกำลังนั่งทำงานอยู่บนโต๊ะหินอ่อนข้างต้นไม้ใหญ่
“ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ ปลายจะได้ผ่าตัดเร็วๆ นี้แล้ว”
เมษาเอ่ยบอกอย่างอารมณ์ดีน้อยๆ ปกติเวลาที่ข้าวปั้นพูดหรือถามไถ่เรื่องน้องสาวเธอ เมษาจะรู้สึกเครียดและเป็นกังวล
แต่วันนี้ดูเหมือนเธอไม่ค่อยคิดมากเท่าไหร่ ทำให้ข้าวปั้นเกิดความสงสัย
“ผ่าตัด? แล้วแกมีเงินผ่าตัดแล้วเหรอ ผ่าตัดหัวใจมันไม่ได้ใช้เงินน้อยๆ นะ”
“...อือ ฉันหาได้แล้วล่ะ”
เมษาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าตอบเพื่อน
“แล้วแกไปเอาเงินมาจากไหนอ่ะเมย์ เงินมันไม่ได้น้อยๆ เลยนะ หรือว่าแกไปกู้เงินนอกระบบมา เฮ้ยเมย์ ถ้าไปกู้มามันดอกเบี้ยแพงนะเว้ย”
ข้าวปั้นพูดเองเออเองไปหมด ด้วยเพราะเข้าใจและเป็นห่วงเมษาไปด้วย แต่ก็ไม่อยากให้เพื่อนเป็นหนี้นอกระบบอะไรพวกนั้นเท่าไหร่
“เปล่า ฉันไม่ได้ไปกู้เงินนอกระบบอะไรที่แกบอกหรอก”
เมษารีบทักท้วงเอาไว้ ก่อนที่เธอนั้นจะปั้นคำโกหกให้ข้าวปั้นฟัง และจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเธอ
“คือ มีพี่คนนึงเขาให้ฉันยืมเงินก่อนอ่ะ เป็นพี่ที่ทำงานในผับด้วยกัน เขาบอกว่ามีเมื่อไหร่ก็ค่อยไปคืน”
“อ๋อ พี่คนนั้นคงรวยมากเลยนะเนี่ย ถึงกล้ายอมให้แกยืมเงินเยอะขนาดนั้นไปผ่าตัดน้องสาวแก”
ข้าวปั้นพูดไปพยักหน้าไปด้วย อย่างไม่คิดว่าจะมีคนใจดีช่วยเหลือกันง่ายๆ แบบนี้ โดยที่ไม่ได้หวังอะไร
“อือ พี่เขารวยมาก แกไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”
“โถ่ เพื่อนฉัน แกคงเหนื่อยมากเลยสินะ ที่ยอมทำงานหลายอย่างขนาดนี้เพื่อหาเงินไปรักษาน้องแก ถ้าฉันมีเงินมากขนาดนั้นนะ ฉันจะช่วยแกโดยที่ไม่ขอคืนสักบาทเลยเพื่อน”
“ไม่เป็นไรหรอกข้าวปั้น แกก็เป็นเพื่อนที่ดีของฉันแบบนี้แหละพอแล้ว ขอบคุณนะ”
เมษาพูดจบ ข้าวปั้นก็เบะปากทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ก่อนจะสวมกอดเธอเอาไว้ เพื่อเป็นการให้กำลังใจเมษา
“ถ้าแกมีอะไรให้ฉันช่วย แกบอกฉันได้เลยนะ ฉันยินดีช่วย”
“อือ ขอบคุณนะ...ว่าแต่ ฉันมีเรื่องอยากจะถามแก”
“เรื่อง?” ข้าวปั้นผละตัวออกห่างจากเพื่อนทันที พลางจ้องหน้าเมษาไปด้วย
“เรื่องที่น้องสาวฉันป่วย มีแค่แกคนเดียวที่ฉันบอก แล้วทำไมพี่บาสแฟนเก่าฉันเขาถึงรู้เรื่องของน้องฉันได้ล่ะ”
เมษาเอ่ยถามพร้อมกับมองข้าวปั้นอย่างคาดโทษ เพราะเธอกำชับเอาไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับบาสอีก เพราะเธอกับเขาจบกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่
เมษาจึงบอกข้าวปั้นว่าห้ามให้เขามายุ่งเรื่องของเธอเด็ดขาด
“เอ่อ ฉันเป็นคนบอกเองแหละ” ข้าวปั้นเอ่ยบอกด้วยสายตาที่รู้สึกผิด
“ข้าวปั้น! แกไปบอกเขาทำไม”
“ก็ พี่บาสเขาทักมาถามเรื่องแกอยู่บ่อยๆ อ่ะ ฉันเลยบอกไปว่าน้องสาวแกไม่สบายแค่นั้นเอง แต่พี่บาสเขาก็ขอที่อยู่โรงบาล ฉันก็ปฏิเสธไปแล้ว แต่พี่เขาไม่ยอม ฉันก็เลย..”
“...”
เมษาจ้องหน้าเพื่อนที่ตอนนี้เธออยากจะฆ่าให้ตายเสียจริง ทั้งที่เธอพยายามที่จะหลบหน้าเขาและไม่ได้สนใจอะไรบาสอีกแล้ว แต่ข้าวปั้นกลับทำให้เธอกับแฟนเก่ามาเจอกัน
“ฉันขอโทษ ทำไมเหรอ พี่บาสเขาไปหาแกที่โรงพยาบาลเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ แกก็รู้ว่าฉันไม่อยากเจอหน้าเขาแล้ว ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย”
เมษาชักหน้าบูดบึ้งใส่เพื่อนรัก
“ฮือ ฉันขอโทษนะ ไว้ฉันจะบอกให้พี่เขาออกห่างจากแกเอง หรือให้ฉันไล่พี่เขาไปไกลๆ เลยดีมั้ย เดี๋ยวฉันจัดการให้”
“ไม่ต้องหรอก ปล่อยเขาแบบนั้นแหละ ฉันคงทำอะไรไม่ได้หรอก ยังไงก็คงทำเป็นไม่สนใจเขาเหมือนเดิม”
เมษาบอกพร้อมกับเปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งเรียบ เนื่องจากเธอนึกไปถึงเรื่องราวในอดีตที่เธอกับบาสคบหากัน แต่ด้วยเพราะฐานะทางบ้านเธอและครอบครัวของบาสนั้นแตกต่างกันมาก ทำให้พ่อแม่ของบาสไม่ชอบเธอและบอกให้เมษาเลิกยุ่งกับลูกชายของเขา
และได้มาล่วงรู้ทีหลังว่าบาสมีคู่หมั้นแล้ว และเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมสมกับฐานะของบาสและครอบครัวของเขาก็ดูจะชอบเธอมากเช่นกัน
และนั่นคือเหตุผลที่เมษาเลิกรากับบาสไป แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมจบความสัมพันธ์ เขายังคงคอยทักถามทั้งโทรหาเธออยู่เป็นประจำ ไม่ก็ติดต่อเพื่อนเธอแทน
“ฉันรู้ว่าแกกับพี่เขาจบกันไม่ดีเท่าไหร่ งั้นฉันจะช่วยแกให้หนีห่างจากเขาเอง ขอโทษนะ”
“อือ ไม่เป็นไร มา! ทำงานต่อเถอะ”
เมษาเปลี่ยนเรื่องคุย ก่อนที่เธอนั้นจะจดงานบนโต๊ะต่อ
@บริษัท TRI
ภายในห้องทำงานส่วนตัวของมาเฟียหนุ่ม เต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่คละคลุ้ง ชายหนุ่มดูดควันบุหรี่เข้าเสียเต็มปอดก่อนจะพ่นควันขาวออกมา
ท่าทางนิ่งขรึมดูสุขขุมของเขาดูน่าเกรงขามอย่างมาก ใบหน้านิ่งเรียบไร้ความรู้สึกใดๆ ทำให้ผู้คนอ่านความคิดของเขาได้ยาก
แทนไทนั่งมองหน้าของลูกหนี้ ที่ติดหนี้การพนันในเครือกาสิโนของเขาแล้วคิดหนี และลูกหนี้ที่กู้ยืมเงินเขาไปไม่ต่ำกว่าหลักล้าน
สายตาเย็นชาจับจ้องมองด้วยท่าทีนิ่งเงียบ มาเฟียหนุ่มเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกมา แต่มันกลับทำให้ลูกหนี้ของเขาทั้งสามคนที่นั่งคลุกเข่าอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานชายหนุ่มต่างรู้สึกหวาดกลัวไปตามๆ กัน
“ผะ ผมขอเวลาหน่อยนะครับ ผมจะรีบหามาคืนให้เร็วที่สุดครับ”
“ใช่ครับ คุณแทนไทอย่าทำอะไรพวกผมเลยนะครับ”
“ปล่อยพวกผมไปเถอะนะครับ ผมขอร้อง”
น้ำเสียงอ้อนวอนร้องขอของพวกเขา มันทำให้มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากและแค่นหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ ทั้งที่แทนไทเคยให้โอกาสมาหลายครั้งแล้ว แต่พวกเขากลับไม่ยอมจ่ายคืนสักบาท และยังคิดที่จะหนีหนี้ด้วยซ้ำ
มาเฟียหนุ่มส่งสายตามองลูกน้องสองคนที่ยืนคุมพวกมันเอาไว้อยู่ด้านหลัง ก่อนที่พวกเขาทั้งสามคนจะถูกพาตัวออกไปด้านนอก พร้อมกับเสียงตะโกนโวยวายร้องขอความเห็นใจ
แทนไทไม่แม้แต่จะมองตามคนเหล่านั้น เขากลับนั่งสูบบุหรี่ต่ออย่างสบายใจ ก่อนที่ลูกน้องคนสนิทของเขาจะเดินเข้ามา
“นายครับ ผมจัดการเรื่องที่นายสั่งเรียบร้อยแล้วนะครับ”
เซน ลูกน้องมือขวาคนสนิทของชายหนุ่มเอ่ยรายงาน
“อือ”
แทนไทพยักหน้าเข้าใจ โดยที่ไม่ถามด้วยซ้ำว่าเงินทั้งหมดในการเป็นค่ารักษาน้องสาวของเมษาเท่าไหร่
“ว่าแต่...นายทำแบบนี้ไปทำไมครับ ยอมช่วยเหลือเธอเป็นล้านเลยเหรอครับ”
เซนเอ่ยถามคนเป็นนายอย่างไม่เข้าใจสิ่งที่แทนไททำ เพราะเงินจำนวนมากมายขนาดนั้น ไม่มีใครยอมให้ฟรีๆ แน่
แทนไทยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนที่เขานั้นจะทิ้งก้นบุหรี่ลงกับพื้น แล้วใช้เท้าเหยียบ เขาหันกลับมามองหน้าลูกน้องด้วยแววตานิ่งเฉย
“ก็แค่...ของเล่นกูเท่านั้นแหละ”