EP.2 ชายหน้าบาก
สามครั้งแล้วที่งานวิวาห์ของเขาล่มลงอย่างไม่เป็นท่า เพียงเพราะเจ้าสาวที่ถูกคัดสรรเพื่อเป็นชีคคาและให้กำเนิดทายาทได้เห็นใบหน้าอัปลักษณ์ราวกับอสูรของเขาในวันแต่งงาน พวกเธอก็พร้อมใจกันหนีหาย ปล่อยให้เขาเป็นเจ้าบ่าวที่ปราศจากเจ้าสาว สร้างความอับอายและตอกย้ำให้เขาจำฝังใจ ว่าเขาเป็นชีคอสูรอัปลักษณ์ที่น่ารังเกียจ!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์ เขาไม่ได้หันกลับไปหรือเอ่ยถามว่าใครที่กล้ามาขัดจังหวะการพักผ่อนของเขา ด้วยรู้ดีว่าคนที่กล้าเคาะประตูห้องนี้มีเพียงสองคนเท่านั้น นั่นก็คืออาเหม็ด บอดีการ์ดคนสนิท และดาริม พ่อบ้านคนเก่าคนแก่ที่อยู่ด้วยกันมานาน
“เข้ามา”
ชายวัยห้าสิบปีเดินเข้ามาด้วยท่าทางนอบน้อม ดาริมคืออดีตพ่อบ้านที่คฤหาสน์ของนาฟาซัส จอมวายร้ายที่สร้างบาดแผลให้เจ้านายน้อยของเขาอย่างยากจะลบเลือน เมื่อเจ้านายเก่าอย่างนาฟาซัสเสียชีวิตลง อีกทั้งคฤหาสน์และทรัพย์สินต่างๆ ถูกทางการยึดไปจนหมด ‘หมด’ ในที่นี้คือส่วนที่จับต้องและเข้ายึดได้ แต่ส่วนที่ถูกฝังเก็บไว้ในห้องใต้ดินอย่างมิดชิดนั้นถูกจัดสรรปันส่วนออกเป็นสี่ส่วนเท่าๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นเงินสด ทองคำแท่ง เครื่องเพชรเลอค่า รวมมูลค่ากว่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์
ฮัยฟาอ์ ซอบีเราะห์ ทารีฟ และบาลาซาน ทั้งสี่คนได้รับส่วนแบ่งเท่ากัน ซึ่งคนที่จัดการทุกอย่างอย่างยุติธรรมก็คือฮัยฟาอ์ พี่ใหญ่ของน้องๆ นั่นเอง น้องที่เติบโตร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน ก่อเกิดเป็นความรักความผูกพันประหนึ่งร่วมสายเลือด เมื่อแพแตก ดาริมตัดสินใจเดินเข้าหาฮัยฟาอ์ ขอติดตามเขาซึ่งถือเป็นผู้นำคนต่อไป ข้าเก่าแทบทั้งหมดของนาฟาซัสจึงตามฮัยฟาอ์มาอย่างจงรักภักดี
เปล่าเลย...เขาไม่เคยภักดีต่อนาฟาซัส คนโฉด โหดเหี้ยม เต็มไปด้วยความเลวทรามอย่างนาฟาซัสไม่สมควรได้รับความภักดี ใครๆ ต่างก็เกลียดชังนาฟาซัส แต่ทุกคนหวาดกลัวอำนาจจึงไม่มีใครกล้าขัดคำสั่ง หรือแม้แต่จะถอยห่างออกมาแม้เพียงก้าวเดียว เพราะการถอยออกมาเท่ากับการก้าวสู่ความตายนั่นเอง
แตกต่างจากฮัยฟาอ์ ชายหนุ่มเด็ดขาด ยุติธรรม ดังนั้นเขาจึงขอฝากชีวิตไว้กับเจ้านายคนใหม่อย่างไม่ลังเล
แน่นอนว่าความจงรักภักดีที่เขามีให้ฮัยฟาอ์นั้นทำให้เขามิอาจนิ่งนอนใจต่อข่าวคราวที่เพิ่งได้รับจากบอดีการ์ดอาเหม็ดไปได้
“ท่านชีค...”
“ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกฉันแบบนั้น...”
“เห็นทีผมคงต้องขอขัดคำสั่ง การที่พวกเราและชาวบ้านเรียกท่านว่า ‘ท่านชีค’ ก็ด้วยความรักและความเคารพในตัวท่านผู้นำของเรา โปรดน้อมรับความเคารพจากผมและชาวบ้านด้วยเถอะครับ” ดาริมเป็นชายวัยกลางคนที่นอกจากจะภักดีกับเจ้านายอย่างสุดหัวใจแล้ว เขายังมีความดื้อดึงและยึดมั่นในความเชื่อของตนเองสูงอีกด้วย
“อยากเรียกอะไรก็ตามใจ เพราะฉันรู้ดีว่าฉันก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง” เจ้าของสายตาปวดร้าวมองออกไปยังนอกหน้าต่าง ไกลออกไป...พ้นจากกำแพงสูงสีอิฐที่ล้อมรอบคฤหาสน์ของเขาเอาไว้คือหมู่บ้านขนาดใหญ่ ‘หมู่บ้านเจมิน’
ที่นี่เป็นดินแดนเล็กๆ ซึ่งอยู่ระหว่างรอยต่อของประเทศฟาอิกสถาน ซึ่งมีทั้งหมดหกรัฐอยู่ภายใต้การปกครองของชีค มีรัฐบาลกลางบริหารประเทศทั้งหมด กับประเทศเตอร์ฮาน ซึ่งปกครองโดยสุลต่านเชอร์กี สุไลมาน วาจดาห์
ฮัยฟาอ์เข้ามาตั้งรกรากอยู่ที่นี่ ช่วยดูแลชาวบ้าน จากเดิมที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ในเบตชารา ซึ่งเป็นเต็นท์ที่ทำจากขนแพะ และบารัสตี หรือกระท่อมใบปาล์ม ก็เริ่มมีงาน มีอาชีพ นำมาซึ่งรายได้ เมื่อหมู่บ้านเจริญขึ้น ชาวบ้านสร้างบ้านด้วยอิฐและปูน อีกทั้งยังมีโรงเรียน โรงพยาบาล และสาธารณูปโภคต่างๆ มากมาย ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันยกย่องให้ฮัยฟาอ์เป็นชีคปกครองพวกตนนับตั้งแต่นั้นมา และด้วยอำนาจของเขาทำให้ประเทศฟาอิกสถานและประเทศเตอร์ฮานไม่คิดเข้ามาก้าวก่าย ด้วยไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง เพราะปัจจุบันยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าหมู่บ้านเจมินเป็นเขตพื้นที่ของประเทศใดกันแน่
อีกทั้งผู้ปกครองทั้งสองประเทศมองว่าความสัมพันธ์ของบ้านพี่เมืองนอกมีมาอย่างยาวนาน ไม่ควรต้องมีข้อพิพาทขัดเคืองใจกันจนอาจก่อให้เกิดสงครามด้วยเรื่องนี้ จึงทำให้หมู่บ้านเจมินรอดพ้นจากการรุกราน และปกครองดูแลตนเองได้อย่างสงบสุขเรื่อยมา
“ว่าแต่เข้ามาหาฉันมีอะไรหรือ”
“เอ่อ...”
ดาริมลอบถอนหายใจ ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามออกไปว่า “ท่านชีคเป็นอย่างไรบ้างครับ ผมได้ข่าวจากอาเหม็ดว่า...” พ่อบ้านคนสนิทเอ่ยถามด้วยท่าทางหวาดหวั่น จะพูดออกไปตรงๆ ก็ไม่กล้า จะอ้อมค้อมก็รู้ว่าเจ้านายไม่ชอบให้ชักแม่น้ำทั้งห้าให้มากความ เพราะชีคฮัยฟาอ์เป็นคนเด็ดขาด ชอบความชัดเจนตรงไปตรงมา
“ร่างกายฉันยังครบสามสิบสอง นายดูสิว่ามีตรงไหนในร่างกายฉันบุบสลายหรือเปล่า” เจ้าของรอยบากบนใบหน้าหันกลับมา เพื่อให้พ่อบ้านคนสนิทมองได้อย่างเต็มตา
“ขอเถอะนะครับท่านชีค อย่าทำแบบนี้อีกเลย” ดาริมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ออกมาเสียให้ได้ แค่คิดว่าหากระเบิดลูกนั้นไม่พลาดเป้า เจ้านายของเขาก็คงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ คงไปเข้าเฝ้าองค์อัลเลาะห์เรียบร้อยแล้ว
“ฉันทำอะไรหรือดาริม นายก็เห็นนี่ว่าฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันใช้ชีวิตอย่างปกติที่สุดแล้ว ฉันพยายามเลี่ยงการปะทะเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคือผู้ให้กำเนิด แต่ดูสิ่งที่ฉันได้รับสิ นายคิดว่าฉันจะรอดชีวิตแบบนี้ไปได้อีกสักกี่ครั้งกัน” ชีคฮัยฟาอ์ยิ้มเยาะโชคชะตา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโดนลอบสังหาร เมื่อสองเดือนก่อนเขาถูกดักซุ่มยิง แต่พวกมันพลาด บอดีการ์ดคนสนิทของเขาเคราะห์ร้ายรับกระสุนแทน ครั้งที่สองรถของเขาโดนตัดสายเบรกจนเกือบพลิกคว่ำ และล่าสุดรถของเขาโดนระเบิดทั้งคัน!
เขารู้ว่านี่คือการเตือน คนอย่างสุลต่านเชอร์กี หากจะสั่งฆ่าใครสักคนคงไม่พลาดถึงสามครั้งแบบนี้แน่ น่าขันสิ้นดี คนเป็นพ่อต้อนรับลูกชายที่ถูกขโมยไปตั้งแต่อายุสามขวบด้วยการสั่งคนมาฆ่าอย่างนั้นหรือ เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ เขาทำอะไรผิดนักหนา หากเกลียดชังเขานัก เหตุใดจึงทำให้เขาเกิดขึ้นมา
ใครเลยจะรู้ว่ามันเจ็บปวดสักเพียงไรที่ต้องมีชีวิตอยู่โดยที่ไม่มีใครต้องการ!