คนนอนคุย

1145 คำ
          พิธานที่กำลังนอนเอกเขนกกดรีโมทเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ไปเรื่อยเปื่อยรีบลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นพี่ชายเดินเข้ามา           “ อ้าวพี่ มีอะไรเหรอครับ มาหาผมถึงห้องเลย ”           ผู้เป็นพี่ชายทรุดลงนั่งข้าง ๆ ก่อนจะจ้องหน้าน้องชายอย่างจริงจังจนผู้เป็นน้องต้องหัวเราะออกมา           “ อะไรกันเนี่ยพี่ มานั่งจ้องหน้าผมทำไมครับ มีอะไรก็พูดมา ”           “ แกจะชอบเด็กมีนนั่นไม่ได้นะพิธาน เธอมีแฟนแล้ว แถมอยู่ด้วยกันอีก พี่ไม่อยากให้แกเสียใจเหมือนที่ผ่านมา ” ผู้เป็นน้องชายรีบเอ่ยปฏิเสธพัลวัน           “ อะไรกันพี่ มาถึงก็ใส่ใหญ่เลย ชอบมีนอะไร คิดไปเรื่อยแล้วพี่น่ะ ”           “ อย่างแก พี่แค่มองหน้าก็รู้เรื่องทะลุลำไส้ใหญ่แล้ว ”           “ เว่อร์แล้วพี่ ”           “ แล้วแกยิ้มอะไร หน้าระรื่นแบบนี้ คล้ายกับตอนที่หลงรักอันดาไม่มีผิด เล่ามาเดี๋ยวนี้ ”           “ ก็ไม่มีอะไร มีนไม่ยอมมาทำงานเลยตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง วันนี้ผมเลยตัดสินใจไปหาเธอที่มหาวิทยาลัย เคลียร์กันแล้ว ทุกอย่างโอเค เข้าใจกัน เรากลับมาเป็นเจ้านายและลูกน้องกันเหมือนเดิม ผมเลยสบายใจ แค่นั้นเอง ” หมอพิรัชเลิกคิ้ว แล้วลากเสียงถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ           “ เหรอ แค่นั้นเหรอ ” พิธานหัวเราะ           “ แค่นั้นสิครับพี่ จะให้แค่ไหนอีกเนี่ย ” คุณหมอหนุ่มขยับเข้าไปใกล้น้องชายก่อนจะยกมือขึ้นตบที่ไหล่แกร่งหนัก ๆ           “ พิธาน พี่เป็นพี่ชายแก แกเป็นน้องที่พี่รักมาก น้องคิดอะไรยังไงทำไมพี่จะไม่รู้ พี่เป็นห่วงแกนะ เวลาเห็นแกเจ็บปวดพี่ก็เจ็บไม่น้อยกว่าแก พี่ไม่อยากให้แกเสียใจอีก อย่าไปรักคนที่เขามีเจ้าของอีกเลยนะ เชื่อพี่ ” พิธานสบตาพี่ชาย           “ แล้วถ้าเจ้าของเขาดูแลไม่ดีล่ะพี่ เรามีสิทธิ์ที่จะยื่นมือเข้าไปช่วย ด้วยความหวังดีได้ไหม ” หมอพิรัชส่ายศีรษะ           “ พิธาน ผู้ชายกับผู้หญิงถ้าลองได้อยู่ด้วยกันฉันท์ผัวเมียขนาดนั้น  จะชั่วจะเลวร้ายอะไรยังไง มันก็ผัวเมียกันอยู่ดี ไอ้เรามันคนนอก คนนั่งคุยมันไม่มีภาษีเท่าคนนอนคุย แกเห็นไอ้ปราบกับอันดาไหม ปราบมันร้ายจะตาย แต่อันดาก็ยังรัก พี่ไม่อยากให้แกต้องเจ็บซ้ำสอง ” พิธานยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะเอ่ยตอบพี่ชายไป           “ ครับผม ผมขอบคุณมากนะครับที่พี่เป็นห่วงผม ผมโตแล้วนะ สัญญาจะดูแลตัวและหัวใจของตัวเองอย่างดี ไม่ต้องห่วงนะครับ ” หมอพิรัชพยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืน           “ ดีแล้ว ตัดไฟเสียแต่ต้นลมนะพิธาน อย่าให้พลาดซ้ำอีก ”           “ ครับพี่ ”           พิธานมองตามร่างสูงใหญ่ของพี่ชายที่เดินออกจากห้องพร้อมประตูที่ปิดลง ทันทีที่อยู่คนเดียว ใบหน้าหล่อเหลาก็ยิ้มพราวระยับพร้อมพึมพำอยู่คนเดียว           “ คนนั่งคุยมันไม่มีภาษีเท่าคนนอนคุย แบบนี้ ไอ้พิธานก็มาวินสิวะเพราะไป ‘นอนคุย’ มาแล้ว ไอ้หมอนั่นมันแค่นั่งคุย ขอบคุณครับพี่ที่ช่วยให้น้องตัดสินใจได้ไวขึ้น ”           ***           “ เจ้านายนี่ล้อหล่อเนอะ เพื่อน ๆ ก็ดูดีทุกคนเลย ” เสียงหนึ่งในนักศึกษาที่มาทำงานพิเศษเอ่ยขึ้น หลังจากที่พักเที่ยงพิธานพาเพื่อนวิศวกรที่ทำงานอีกสี่ห้าคนมารับประทานอาหารข้างนอก แล้วแวะมาดื่มกาแฟและขนมที่ร้านของเขา           “ เออจริง ดูดีทุกคน แต่เจ้านายของเราดูดีสุด ว่าป่ะ ” อีกเสียงสนับสนุนขึ้น           “ ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งชาติตระกูลดี แบบนี้ใครได้ไปเป็นผัวโชคดีไปทั้งชาติเลยว่ะ ”           “ นี่ พูดอะไรกันระวังปากหน่อยสิ นั่นเจ้านายนะแก ” มีนาที่กำลังง่วนอยู่หน้าเค้าน์เตอร์เงยหน้าขึ้นมาปรามสองสาวที่เม้าท์เจ้านายระยะเผาขนอย่างสนุกปาก หนึ่งในสองเอ่ยแซว           “ โถ ให้เค้าเพ้อหน่อยเหอะ เค้าไม่มีแฟนหล่อน่ากินระดับ  เดือนวิศวะ อย่างใครบางคนอะนะ ”           “ ช่าย อิจฉาคนมีแฟนหล่อเว้ย ”           มีนาได้แต่ยิ้ม ๆ แต่ในใจนั้นแห้งเฉาเหลือเกิน นี่กรก็หายไปสามวันแล้ว เขาแค่โทรศัพท์มาหาเธอวันละสองสามครั้ง ครั้งละนาทีหรือสองนาที เพียงเท่านั้น ไม่เคยห่วงใย ไม่เคยมาดูแลเลย           “ เจ้านายหุ่นดีเนอะ สูงใหญ่ แบบนี้เวลากอดคงจะอุ่นน่าดู ”           “ หน้าแกก็แอบแบ๊ด ๆ นะ คงดุน่าดูเวลาอยู่บนเตียง ”           สองสาวยังคงแอบเม้าท์เจ้านายพลางหัวเราะคิกคัก แต่อีกคนที่ยืนฟังอยู่กลับร้อนผ่าวไปทั้งตัว             ..คงดุน่าดูเวลาอยู่บนเตียง..           ดุสิ ดุมากด้วย ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นแม้เธอจะพยายามลืมแต่มันช่างยากเหลือเกิน ทุกสัมผัส ทุกลมหายใจร้อนเร่า ยังคงตราตรึงอยู่บนผิวเนื้อ เพียงแค่นึกถึงก็ราวกับมีประจุไฟฟ้าแล่นซ่านอยู่ทั่ว ความจัดเจนดุดันเล่นเอาเธอหายใจหายคอไม่ทัน แทบละลายไปกับมือไม้และลมหายใจของเขาไปแล้ว           “ มีน ! ” มีนาสะดุ้งเฮือกเมื่อเพื่อนพนักงานด้วยกันส่งเสียงเรียกดังมาก แถมยังฟาดมือลงบนต้นแขนเธออีกด้วย           “ อะไรติ๊ก ตกใจหมด เสียงดังทำไมเนี่ย ”           “ แหม เสียงดังทำไม เจ้านายเรียกตั้งสามสี่ครั้งแล้วยังก้มหน้านิ่งอยู่ได้ มัวใจลอยคิดถึงพี่กรอยู่หรือไงจ๊ะ ”           เพื่อนส่งเสียงแซวมาก่อนจะไปรับออเดอร์ลูกค้า มีนาเงยหน้ามองร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอฝืด ๆ ช่างมาได้ตรงจังหวะเหลือเกิน ยิ่งเห็นหน้าเขาหัวใจก็ยิ่งเต้นระรัว ไม่ได้ เธอต้องรู้จักหักห้ามความคิดสกปรกเหล่านั้น ประเดี๋ยวเจ้านายรู้ว่าเธอยังถวิลหาสัมผัสเหล่านั้นที่เขาได้ทำกับเธอไว้ เขาคงจะรังเกียจสิ้นดี     มันเกิดขึ้นเพราะเขาไม่มีสติ และคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เขารัก           มีนาจึงฝืนยิ้มและเอ่ยถามเขาออกไปเบา ๆ           “ เจ้านายเรียกมีนเหรอคะ ขอโทษด้วยนะคะ มีนมัวคิดเรื่องรายงานอยู่เลยไม่ได้ยิน ” เขาพยักหน้าพร้อมส่งยิ้มมาให้ ก่อนคิ้วเข้มจะขมวดมุ่นเข้าหากัน           “ มีนไม่สบายหรือเปล่า ทำไมหน้าแดง ๆ ไหนดูซิครับ ”มือใหญ่ยกขึ้นเอื้อมข้ามเคาน์เตอร์ไป ก่อนจะใช้หลังมือแตะหน้าผากหญิงสาวอย่างแผ่วเบา แต่คนโดนแตะกลับตัวชาวาบ รีบถอยหลังหลบสัมผัสนั้นด่วนจี๋           “ ปละ..เปล่าค่ะ ไม่ได้เป็นไร ” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม