ด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ประดังประเดเข้ามา ทำให้เธอรู้สึกอ่อนแอ งานก็ไม่กล้าไปทำ หนำซ้ำแฟนยังช่วยใช้เงินอีก น้ำตาใสหลั่งไหลอาบแก้มเพื่อระบายความอัดอั้นที่ค้างอยู่ภายในใจ
พลันนั้นก็มีมืออุ่นมาแตะที่ไหล่ด้านขวาของเธอพร้อมน้ำเสียงทุ้มนุ่มอบอุ่นเอื้อนเอ่ยขึ้น
“ มีน ไหวหรือเปล่าครับ ”
หญิงสาวสะดุ้งเฮือก เงยหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาขึ้นมองเจ้าของเสียง เมื่อเห็นเต็มตาว่าเป็นร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นเจ้านาย เธอก็รีบใช้หลังมือปาดน้ำตาลวก ๆ
“ เจ้านาย”
“ ใช่ ผมเอง ”
“ เจ้านายมาทำไมคะ แล้วมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ”
“ พึ่งมาเมื่อกี้ เห็นมีนคุยกับแฟนอยู่เลยไม่อยากรบกวน แต่พอเห็นเขาเดินไปผมเลยเข้ามา พึ่งรู้ว่าคุณขาดงานตั้งหลายวัน ”
“ คือ มีนตั้งใจจะลาออกน่ะค่ะ ”
“ ลาออกทำไม มีนยังโกรธผม เกลียดผมอยู่ใช่ไหมที่ทำอย่างนั้นกับมีน ” เธอส่ายศีรษะดิก
“ ปละ..เปล่าค่ะ มีนจะมีสิทธิ์อะไรไปโกรธเกลียดเจ้านาย ในเมื่อมีนก็เป็นฝ่ายผิดด้วยเช่นกัน มีนขอตัวนะคะ ” พูดจบก็รีบเก็บข้าวของและหันหลังทำท่าจะเดินหนีไป แต่ร่างสูงใหญ่ก้าวมาขวางก่อน
“ มีน ฟังผมก่อนนะ ผมขอโทษ ขอโทษจากใจจริง ๆ มีนไม่ผิดอะไรเลย ผมรู้ว่าที่ผมทำมันมากเกินไป ผมบอกคุณแล้วว่ายินดีจะรับผิดชอบทุกอย่าง แต่คุณก็ทำท่าทางแบบนี้ คุณไม่ยอมให้อภัยผม ”
“ มีนเปล่านะคะ ”
“ ถ้าเปล่า มีนก็ต้องพิสูจน์ด้วยการกลับไปทำงานที่ร้าน นะครับ กลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ผมขอร้อง ถ้ามีนไม่กลับไปผมจะถือว่าคุณโกรธผม เกลียดผม ไม่ให้อภัยผม ”
เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา ตากลมโตสบตาคมที่ฉายแวววิงวอนออดอ้อน
“ นะครับ นะ ” เธอพยักหน้า ชายหนุ่มจึงยิ้มออกมาได้
“ ขอบคุณมากนะครับ เอ่อ แล้วนี่มีนจะไปไหนต่อครับ เลิกเรียนหรือยัง ”
“ เลิกแล้วค่ะ วันนี้อาจารย์วิชาที่สอนช่วงบ่ายไม่อยู่ ไปสัมมนา ”
“ แล้วมีนทานข้าวกลางวันหรือยัง ” เธอส่ายหน้า
“ งั้นไปทานข้าวด้วยกัน ผมเลี้ยงเอง ”
“ เอ่อ มีนว่า.. ”
“ ห้ามปฏิเสธ นี่คือคำสั่งของเจ้านาย อย่าลืมว่าคุณได้กลับเข้ามาเป็นลูกน้องผมเหมือนเดิมแล้ว ดังนั้น ต้องเชื่อฟังรู้ไหม ” เขาแกล้งทำเสียงดุ ทำให้เธอยิ้มออกมาได้
“ ไปรถผมนะ ”
“ ค่ะ คงต้องไปรถคุณเพราะมอเตอร์ไซค์มีนยางรั่ว ”
จริง ๆ เขารู้จากบทสนทนาระหว่างเธอกับแฟนหนุ่มแล้วแต่แสร้งทำเป็นว่าไม่รู้เรื่อง
“ อ้าว เหรอครับ แล้วซ่อมหรือยัง ”
“ มีนเอาไปจอดไว้ร้านปะยางก่อนมาเรียนแล้วค่ะ ”
“ โอเค งั้นไปทานข้าวกันนะครับ ” เขาช่วยเธอถือข้าวของ หญิงสาวปฏิเสธพัลวัน
“ เจ้านาย ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มีนถือเองได้ ”
“ ผมช่วย ไม่ได้หนักอะไรสักหน่อย ”
เมื่อเดินมาถึงรถ เขาเปิดประตูให้เธอเข้าไปนั่ง เขาอ้อมไปฝั่งคนขับแล้วขึ้นไปสตาร์ทรถ ก่อนที่จะเปิดกระเป๋าหยิบเงินออกมาจำนวนหนึ่ง
“ นี่คือค่าแรงล่วงหน้า เพราะผมอาจจะต้องไปดูงานที่ไซต์ต่างจังหวัดอีก จ่ายให้มีนก่อนเลยหนึ่งเดือน ” หญิงสาวทำหน้างง
“ อะไรกันคะ ไม่เห็นต้องจ่ายก่อนเลย ปกติเจ้านายก็ไม่เคยจ่ายค่าแรงเกินเวลาอยู่แล้วด้วย ”
“ เอาน่า ผมกลัวมีนเบี้ยวไม่ไปทำงานอีกนี่ รับไว้เถอะ ผมไม่ได้ให้ฟรี สักหน่อย รับเงินไปแล้วห้ามโดดงานอีก เข้าใจนะ ” เขาแกล้งทำเสียงดุตอนท้าย หญิงสาวจำต้องยกมือขึ้นไหว้แล้วรับเงินมาใส่กระเป๋าแบบงง ๆ
“ แล้วต่อไปนี้ก็ห้ามคิดมาก ห้ามหนีไปไหนอีก เรากลับมาเป็นเจ้านายลูกน้องกันเหมือนเดิม พูดจากันเหมือนปกติ นะครับ ”
“ ค่ะ เจ้านาย ”
และแล้วการเจรจาครั้งนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง อะไรที่มันอัดอั้นอยู่ภายในใจมีนาก็เหมือนถูกชำระล้างไปจนหมดสิ้น อีกทั้งเงินทองที่กำลังกังวลอยู่ว่าจะไม่ได้คืนจากคนรักมาชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มันถูกแก้ไขปัญหาแล้วจากเงินที่เจ้านายให้มาล่วงหน้า เธอสามารถกลับไปทำงานได้แล้วอย่างสบายใจ
จากนั้นทั้งคู่ก็สนทนากันเหมือนเช่นที่เคยเป็นมา ความอึดอัดทั้งหลายมลายไปเสียสิ้น หญิงสาวตาโตแก้มป่องผู้สดใสคนเดิมกลับมาอีกครั้ง
ชายหนุ่มขับรถไปลอบมองใบหน้าหวานนั้นไปแล้วแอบยิ้มอยู่คนเดียว เขาดีใจที่ได้คลายความตึงเครียดระหว่างเธอกับเขา ดีใจที่ได้ยื่นมือเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เธอไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งพาใคร ดีใจที่เธอกลับมาสดชื่นอีกครั้ง
ยิ่งมอง เธอก็ยิ่งดูน่ารักมากขึ้นกว่าทุกวัน คงเพราะไม่เคยมีโอกาสได้ใกล้ชิดและสนทนากันจริงจังสักทีกระมัง
แต่มันมีอีกความรู้สึกที่หลบเร้นซ่อนลึกอยู่ภายในใจ
…ไอ้หนุ่มนั่นมันไม่เคยล่วงเกินเธอ แม้แต่จูบก็ไม่เคย…
…เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้จูบ ได้กอด ได้เชยชม ถึงแม้จะยังไม่ได้ลึกซึ้งถึงขั้นนั้นก็ตามที…
คิดได้ดังนั้น เจ้านายหนุ่มก็แอบกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่คนเดียวโดยที่ลูกน้องสาวหน้าใสไม่รู้ตัวเลยสักนิด
***
“ ไปอารมณ์ดีอะไรมานักหนาวะ กินข้าวไปยิ้มไป กับข้าวอร่อยมากขนาดนั้นเลยเหรอ ”
คุณหมอพิรัชเอ่ยถามพี่ชายกลางโต๊ะอาหารขณะกำลังรับประทานมื้อเย็นกันอยู่ เนื่องด้วยเห็นความผิดปกติของน้องชายที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวจนอดรนทนไม่ไหวต้องเอ่ยถามขึ้น
หมอพิษณุผู้เป็นบิดาเลยพลอยมองบุตรชายคนเล็กตามไปด้วย
“ เออจริง พ่อก็ไม่ได้สังเกต เห็นหงอยเหงามาตั้งนานนม ตั้งแต่ที่ เอ่อ.. ”
ตั้งแต่ที่อกหักจากอันดา.. แต่คำพูดที่เหลือถูกกลืนหายไปในลำคอโดยอัตโนมัติ เพราะผู้เป็นบิดานึกได้ว่าไม่ควรเทแอลกอฮอล์ราดรดลงไปยังแผลสดกลางใจบุตรชาย
พิธานเงยหน้าขึ้นสบตาคนทั้งคู่ ก่อนจะเอ่ยตอบตะกุกตะกัก
“ ก็.. ไม่มีอะไรนี่ครับ คิดเรื่องที่ทำงานอยู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง พอดีมันมีเรื่องขำ ๆ เลยเผลอยิ้มออกมา ”
ผู้เป็นบิดาพยักหน้าแล้วลงมือก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารตรงหน้าต่อ แต่กิริยาแปลกประหลาดนั้นไม่สามารถรอดพ้นสายตาเหยี่ยวจากผู้เป็นพี่ชายได้ เมื่อมื้อเย็นเสร็จสิ้น ต่างคนต่างแยกย้ายกันเข้าห้องพักผ่อนตามอัธยาศัย คุณหมอพิรัชจึงเดินไปหาน้องชายที่ห้อง