“แม่ก็ไม่ได้กังวลเรื่องนั้นหรอก แม่รู้ว่าคุณหมอเก่ง แต่ว่า...แม่กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ตอนนี้เราไม่ได้มีเงินมากมายอย่างแต่ก่อน ครินต์เองรับได้ใช่ไหมที่ตอนนี้ครอบครัวของเบลประสบปัญหาธุรกิจง่อนแง่น พวกเรากำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย”
“ทราบครับ”
“เราอาจำทำให้ครินต์ไม่สบายใจ พ่อครินต์รักลูกสาวแม่จริง ๆ เหรอจ๊ะ”
“ครับ...ผมรักเบลจริงๆ” เขาตอบแน่วแน่แต่ความรู้สึกเริ่มไม่มั่นคง ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามบอกตัวเองว่าภัทรญาไม่เคยมีความจริงใจ เธอคบกับเขา แล้วจู่ ๆ ก็หายหน้าไป เธออาจคบผู้ชายคนใหม่ แต่พอครอบครัวมีปัญหากลับจะให้เขาช่วย เขาเองก็แน่วแน่แล้วว่าจะเอาคืนภัทรญาให้ถึงที่สุด จะทำให้เธอเจ็บแสบ เจ็บจำจนวันตายเลยทีเดียว ทว่าครินต์ก็บิดปากเป็นรอยยิ้มกับลัคณา
“ผมรักเบล ไม่ได้หวังว่าเบลต้องมีสมบัติหรือมีเงินทองมากมาย รักก็คือรักครับคุณแม่”
“แม่ดีใจที่ครินต์รักลูกสาวแม่จริงๆ”
บทที่ 4
“ครับ...แล้วที่คุณแม่บอกว่าผมเป็นแฟนคนแรกของเบลนี่เป็นความจริงเหรอครับ”
“ก็จริงสิจ๊ะ แม่ไม่เคยเห็นเบลคบใครนะ”
แอบคบล่ะไม่ว่า...ครินต์นึกค้านในใจ ขนาดคบกับเขาภัทรญายังไม่เคยคิดจะพามาให้คนที่บ้านรู้จัก ถึงตอนนี้เขาก็ไม่รู้เลยว่า แฟนเก่า ของเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ ที่มาครั้งนี้ก็ได้เห็นว่าครอบครัวของเธอเป็นยังไง เขาแค่แสดงความเห็นใจ แต่หลังจากนี้ก็คือเวลาเอาคืนผู้หญิงที่มีลับลมคมนัยและไม่เคยแสดงความจริงใจกับเขา ขณะนั้นลัคณาก็ยิ้มขื่น ๆ และเอ่ยว่า
“ขอบใจนะพ่อครินต์ ขอบใจที่รักลูกสาวของแม่”
“ครับ...ผมรักเบลครับ รักมากด้วย”
หลังจัดการเรื่องการรักษาให้พ่อและคุยกับแม่เป็นที่เข้าใจภัทรญาก็จำต้องกลับมายังบ้านของครินต์ตามความต้องการของเขา พอมาถึงเธอก็ตั้งคำถามว่า
“คุณจะให้ฉันทำอะไรต่อหลังจากนี้” เธอถามเมื่อเขาพาเข้าไปในห้องหนังสือ ห้องที่เขาบอกว่าหวงนักหวงหนา ไม่ชอบให้ใครเข้ามารบกวนแม้แต่คนสนิท เธอไม่ได้ดีใจที่เขาพามาในห้องหวงห้าม ตรงข้ามยิ่งไม่สบายใจเพราะเหมือนถูกกักขังยังไงก็ไม่รู้ แถมเขายังตามติดและทำให้เธอเริ่มลำบากใจ ก่อนกลับจากโรงพยาบาลเธอคุยกับมารดาและบอกว่า
“แม่คะ...เรื่องค่ารักษาพ่อไม่ต้องกังวลนะคะ เบลจะรับผิดชอบหมดทุกอย่าง แต่หลังจากนี้เบลอาจไม่ได้มาเยี่ยมคุณพ่อบ่อยนัก”
“เบลจะไปไหนเหรอลูก”
“เบลรับงานเพื่อนที่ต่างประเทศค่ะ”
“งานอะไร แล้วเบลต้องไปอยู่ต่างประเทศเหรอ”
“งานเซลขายยาค่ะ เบลต้องตามเพื่อนไปทำงานต่างประเทศ ได้เงินดีมาก เจ้านายใจดีมากค่ะ แต่แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เบลจะส่งข่าวเป็นระยะ และจะพยายามจัดการเวลามาเยี่ยมพ่อ”
“แล้วครินต์ล่ะ...ลูกต้องไปทำงานต่างประเทศน่ะ เขาจะว่ายังไง”
“เขาโอเคค่ะ ครินต์ใจดี ไม่เรื่องมากค่ะแม่”
ใช่...เขาไม่มากเรื่องหรอก แต่ตอนนี้เขากำลังจะเป็นเจ้าชีวิตของเธอ ภัทรญาเริ่มจิตตกแปลกๆ เธอคิดว่าที่ตัดสินใจไปมันก็น่าจะถูกแล้ว เธอช่วยชีวิตพ่อด้วยเงินที่แลกมากับเรื่องที่หมิ่นเหม่ต่อศีลธรรม แต่...เธอไม่ได้ขายตัว เธอไม่ใช่อาชญากร แค่รับงานจากคนนักเก่าที่ถึงตอนนี้ดูเหมือนเขาเก็บงำอะไรบางอย่าง ภัทรญาปลอบใจตัวเอง เธอต้องเข้มแข็ง เธอรู้จักเขาดี ครินต์ คาร์ลินเบิร์ก อย่างน้อยเธอก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนใจดำอำมหิตมากเกินไป และ...ครั้งหนึ่งเขาเคยรักเธอ
“คุณต้องอยู่ที่นี่” ครินต์เอ่ยขึ้นในความเงียบ
“ฉันรู้ค่ะ แต่หมายถึงกระบวนการ...ที่เกี่ยวกับตัวฉัน”
“คุณต้องตรวจสภาพร่างกาย ต้องปฏิบัติตัวตามที่หมอสั่ง แต่ก่อนอื่นเราต้องจดทะเบียนสมรสกันก่อน”
“หลังจากนั้นเราก็จะหย่ากันใช่ไหมคะ?”
“ไม่ต้องห่วงหรอกนะเบล คุณคงไม่ต้องทนอยู่กับผมนาน ๆ พอกระบวนการทุกอย่างสิ้นสุด คุณคลอดลูก ลูกเป็นของผม เราจะหย่ากันอย่างถูกต้อง ไม่ต้องมีภาระผูกพันอะไรกันอีกต่อไป”
“ฉันจะมีเวลาเลี้ยงลูกไหมคะ”
“อาจเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ผมไม่อยากให้ลูกติดคุณ” เขากล่าวเสียงราบเรียบ แต่กระตุกความรู้สึกคนฟัง และแม้แต่ตัวเขาเองก็เถอะ ครินต์รู้ตัวว่าเขาพูดอะไรแต่กลับไม่ค่อยแน่ใจความรู้สึกของตัวเอง ภัทรญาอาจไม่รู้ว่าเขามีความประหม่าเล็ก ๆ ภายใต้ท่าทีเหมือนไม่ยี่หระ ท่าทีสบาย ๆ แต่ในใจของเขาเริ่มถูกรุมเร้าด้วยอะไรบางอย่าง เขาไม่อยากเรียกมันว่าสายใยผูกพัน ในเมื่อคนที่สะบั้นมันเมื่อวันก่อนนั้นคือภัทรญา เธออาจไม่ใส่ใจ ขนาดยอมอุ้มท้องแลกกับเงินห้าสิบล้านก็ยังทำได้ ถึงตอนนี้เธอจะมาลังเลใจอะไรเรื่อง ลูก
“พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปจดทะเบียนสมรส เสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะพาคุณไปพบกับทีมแพทย์ที่จะเริ่มกระบวนการเด็กหลอดแก้ว คิดเสียว่าผมให้เวลาคุณเตรียมตัวเตรียมใจคืนนี้”
แค่นาทีเดียวเธอก็อัดอั้นจะแย่ ภัทรญาพยักหน้า และต้องทำตามความต้องการของเขาเหมือนหุ่นยนต์ไม่มีผิด ครินต์ให้เธอพักอยู่ที่ห้องภายในคฤหาสน์ร้อยล้านของเขา ถึงอยู่ใต้ชายคาเดียวกันแต่ ภัทรญาก็ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในห้องของเธอ ส่วนเขากลับไปที่ห้องซึ่งมันอยู่อีกฟากฝั่งของตึก และคืนนั้นเธอก็นอนไม่หลับ กระสับกระส่ายคิดไปสารพัดว่าต้องพบกับอะไรบ้าง