เม็ดขนุนยิ้มมองดูคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทานข้าว ท่าทางคงจะหิวเอามากเอามาย เงียบไปเลยกับข้าวหมูทอดกระเทียม ยูถกาเงยหน้ามายิ้มให้เมื่อเห็นเม็ดขนุนจ้องมองอยู่ และกำลังรินน้ำใส่แก้วยื่นให้
“มาตั้งนาน ไม่ทานอะไรรองท้องก่อน เด่นฟ้องตั้งแต่มาถึงแล้ว”
“รอกินข้าว ฝีมือ เม็ดหนุนไง” ยูถกายิ้ม
“อือ น่าปลื้มเนอะ กินเอา กินเอา ไม่เรียกกันเลย” เม็ดขนุนพูดขึ้น
“อ้าว นึกว่า ไม่หิว” ยูถกาตักข้าวป้อนให้เม็ดขนุน เพราะรู้ดีว่า คนที่นั่งอยู่ข้างๆ กำลังออกอาการอ้อน
“เป็นห่วงเราได้นะ ไม่ว่า แต่ต้องหาอะไรทานด้วย เดี๋ยวไม่สบาย”
“ลืมหิวอะดิ ตอนนั้น แต่พอได้กลิ่นข้าวหมูกระเทียม ก็หิวเลย”
“กินง่ายเหมือนกันนะ” เม็ดขนุนบอก
“ยูว์ ดูเรื่องมากหรือ” ยูถกาถาม
“ก็มีบ้างนะ ดูไฮโซ ไม่ค่อยติดดิน” เม็ดขนุนบอกสิ่งที่ตัวเองคิด
“ยังไง คือ ติดดิน ต้องใส่เสื้อเก่าๆ แบบนี้หรือเปล่า” ยูถกาแกล้งดึงคอเสื้อเม็ดขนุนแล้วแอบชำเลืองมองไปที่เนินอกจนเห็นรอยสัก
“ลวนลามด้วยสายตา เดี๋ยวแจ้งตำรวจมาจับเลย” เม็ดขนุนหัวเราะคิกคัก และยิ้มทะเล้นให้ยูถกา
“เม็ดขนุน เป็นคนที่ทำให้ยูว์รู้สึกกับคำว่า คนมีเสน่ห์ อยากอยู่ใกล้ๆ ห่วงใยความรู้สึก ยูว์ไม่รู้นะ ว่าทำไม ไม่มีคำตอบ แต่แบบโคตรแคร์เลย คนบ้าอะไรไม่รู้ เหมือนจู่โจมเข้าสู่หัวใจได้เร็วมาก แถมยังทำให้ยูว์ทำอะไรแปลกๆ ด้วยการจูบเม็ดขนุนก่อน เรียกได้ว่า อยากยั่ว เลยเหอะ” ยูถกาถอนใจแล้วยิ้มอายๆ กับสายตาที่อ่อนหวานของเม็ดขนุน
“พูดจริงหรือเปล่า เชื่อได้แค่ไหนกัน” เม็ดขนุนพูดแหย่ยูถกา
“พูดจริงดิ ไม่โกหก ถ้าไม่จำเป็น”
“ยังอยากดูรอยสักที่หลังอยู่หรือเปล่า” เม็ดขนุนยิ้มให้กับคนที่ทำท่าครุ่นคิด แต่ก็ยิ้มมีเลศนัย
“แค่ดูนะ”
“แน่ใจนะ ว่าแค่ดู” เม็ดขนุนยิ้มทะเล้น ถอดเสื้อยืดตัวนอกออกเหลือเพียงเสื้อกล้ามรัดรูป ซึ่งเมื่อถอดเสื้อออก จึงเผยให้เห็นรอยสักที่ไหล่จนไปถึงเนินอก ยูถกายิ้มๆ จ้องมองไปที่รอยสักรูปขนนกของเม็ดขนุน
“ชักไม่แน่ใจ ห้ามใส่เสื้อกล้ามแบบนี้ ตอนอยู่กับคนอื่นนะ เข้าใจ๋”
“สัญญา” เม็ดขนุนชูมือขึ้นสามนิ้ว เหมือนเวลาลูกเสือสาบานตน
“ขอบคุณนะ” ยูถกาขยับเข้าใกล้ และจูบเม็ดขนุนที่ยิ้มน้อยๆ ค่อยๆ จูบตอบด้วยความรู้สึกดีๆ ที่มีอยู่ในหัวใจ เด่นคุณยิ้ม เมื่อมองเห็นเงาของทั้งสองคนซึ่งอยู่ชั้นบน จึงส่งข้อความบอกเม็ดขนุนว่า จะไปพักกับเพื่อนคืนนี้
“สงสัย ต้องหาห้องเช่าแล้วมั้งตรู” เด่นคุณพูดยิ้มๆ ดีใจที่เม็ดขนุนซึ่งเป็นทั้งพี่สาว ทั้งเจ้านายจะได้มีคนคอยดูแลกับเขาเสียที
เม็ดขนุนยังคงกอดยูถกาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เหลือบดูนาฬิการู้สึกเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน แต่คนที่ถูกกอดอยู่ไม่ได้ว่าอะไร
“ดึกแล้ว ที่บ้านจะเป็นห่วงนะ” เม็ดขนุนบอก ทั้งๆ ที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยว กับที่บ้านของยูถกา
“เบื่อที่จะกอด ยูว์ แล้วอะดิ” ยูถกายิ้มทะเล้นให้
“เป็นห่วง ขับรถดึกๆ” เม็ดขนุนพูดเสียงเข้มแกมดุ
“ขอบคุณค่ะ” ยูถกายิ้ม ไม่มีอะไรเกินเลยนอกจากจูบ และอ้อมกอดของเม็ดขนุนที่ทำให้รู้สึกสุขใจ อุ่นใจและปลอดภัย อันที่จริง
ถ้าเม็ดขนุนคิดจะเกินเลย ยูถกาคงยอมโอนอ่อนผ่อนตาม แต่คนที่ยิ้มๆ กอดเธออยู่นั้น ไม่ได้คิดที่จะล่วงเกินแต่อย่างใด เป็นตัวเธอเองเสียอีกที่ชอบยั่วเย้า แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้าหากเม็ดขนุนรุกเร้าจะเป็นอย่างไร ด้วยความที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน ยูถกาไม่เคยรู้สึกดีกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน เมื่อก่อนไม่เข้าใจว่า ทำไมพุทธชาดถึงได้บอกอยู่ตลอดเวลาว่า รักผู้หญิงที่ชื่อ รักษา และคบหาดูแลกันมาหลายปี พุทธชาดไม่เคยบ่น หรือพูดว่าเบื่อ หรือไม่รักเลยสักครั้ง แถมยังรักกันมากขึ้นเสียอีก หลังจากที่เคยเล่าว่า ไม่ค่อยเข้าใจกันนักในตอนแรก จนมาประสบกับตัวเอง อ้อมกอดของผู้หญิงด้วยกัน ก็สามารถทำให้รู้สึกอบอุ่น และปลอดภัยได้เหมือนกัน ยูถกายิ้ม
“ยิ้มอะไร” เม็ดขนุนถาม
“นึกถึง คุณพุดกับคุณรัก”
“แล้วไงคะ”
“ไม่บอก ปล่อยได้แล้ว จะกลับบ้านแล้ว” ยูถกายิ้ม
“ไม่เข้าใจ ความรักของสองคนนั้นใช่ไหมล่ะ” เม็ดขนุนพูดขึ้น
“ตัวเองเข้าใจหรือ” ยูถกามองสบตากับเม็ดขนุน
“เข้าใจสิ เพื่อนรักใคร เรารักด้วยอยู่แล้ว มีคนเคยถามเรานะว่า ชอบผู้ชายหรือผู้หญิง” เม็ดขนุนยิ้มๆ เมื่อนึกถึงคำถามที่มีคนเคยถามเอาไว้
“แล้วตอบไปว่า” ยูถกาเอง อยากรู้เช่นกัน ว่าเม็ดขนุนรู้สึกอย่างไรกับผู้หญิงด้วยกัน แต่ท่าทางก่อนหน้าที่มีสาวมาคลอเคลียอยู่นั้นก็พอจะดูออก
“ไม่รู้เหมือนกัน ว่าชอบผู้หญิง หรือผู้ชาย เราเอาความรู้สึกเป็นที่ตั้ง ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เคยชอบรุ่นพี่นะ ผู้ชาย แต่ไม่ได้อะไรมากมาย จนมาเมื่อไม่กี่ปีก่อน ชอบผู้หญิงคนหนึ่ง อยากบอกเค้า เลยไปจูบเค้าก่อน ปรากฏว่า เค้ามีแฟนแล้ว โดนพี่ๆ ที่เคารพนับถือ รุมด่า เสียจ๋อยเลยล่ะ เพราะว่า ไปทำให้เขาทะเลาะกัน โดยมีเราเป็นต้นเหตุ” เม็ดขนุนเล่ายิ้มๆ รู้สึกมีความสุขที่ได้นึกถึงคนที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตอนนั้น ซึ่งก็คือ พระพายกับพิมพ์พลอย
“เสียใจมากไหม” ยูถกาถาม
“ไม่หรอก เพิ่งเริ่ม อยากบอกคนที่เรารู้สึกดีๆ ด้วย แต่ผิดเวลา ช้าไป” เม็ดขนุนยิ้มมองสบตากับยูถกาที่ยิ้มกว้างขึ้น
“ดีแล้ว ไม่งั้นก็อดดูรอยสักดิ ถ้าเจอผู้หญิงคนนั้นนะ จะบอกขอบคุณที่ไม่สนใจไอ้คุณเม็ดหนุน” ยูถกาหัวเราะคิกคัก ไม่รู้ว่าเม็ดขนุนเสียใจหรือเปล่ากับเรื่องที่เล่ามา บางทีอาจจะไม่อยากบอกก็ได้ แต่จากแววตาและรอยยิ้มดูไม่น่าเป็นห่วงสักเท่าไร
“แล้ว ยูว์ล่ะ” เม็ดขนุนถาม
“เคยมีแฟนผู้ชาย ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เป็นรุ่นพี่ แต่พี่เขาเจอคนที่ดีกว่า ยูว์ เลยแยกย้าย” ยูถกายิ้มจางๆ มองสบตากับเม็ดขนุน
“ดีกว่า ถ้าเจอคนที่ดีกว่า เราจะต้องเปลี่ยนคนรักกันไปเรื่อยๆ ไหม” เม็ดขนุนพูดขึ้น
“ไม่รู้สิ อาจจะเพราะ ยูว์ ดูแลเอาใจใส่พี่เขาไม่ดีก็ได้นะ เพราะมาเลิกกันตอนที่ทำงานได้สองปี ยูถกาบ้างาน เลยจ๋อย” ยูถกายิ้มให้เม็ดขนุนที่ขมวดคิ้วเหมือนคิดอะไรอยู่
“คิดว่า จะชอบผู้หญิงได้ไหม” เม็ดขนุนถาม
“ชอบอะได้ แต่จะรักหรือเปล่านั้น ยังไม่รับปาก” ยูถกาพูดจบก็จูบเม็ดขนุนที่นึกขำกับความฉลาดของคนที่พูดเอาตัวรอดไปจนได้
“ถ้าอย่างนั้น เราก็มีโอกาสสินะ” เม็ดขนุนยิ้มทะเล้นให้คนที่คลายอ้อมกอดออกเดินไปหยิบกระเป๋าถือ
“ใครให้โอกาส คิดไปเองหรือเปล่า”
“อย่ามาหลงรักเข้าล่ะ” เม็ดขนุนพูดยิ้มๆ
“ก็กล้าพูดนะ ไอ้เม็ดหนุน เสื้อน่ะ ซื้อมาให้ กรุณาใส่ด้วย อาจจะไม่ได้แพงเท่าเสื้อผ้าที่พี่ภัทให้ แต่ยูว์เลือกให้อย่างดีเลยนะ” ยูถกาบอก
“นึกว่าชอบแบบ ไม่ใส่เสื้อเสียอีก”
“ไม่ต้องนึก ชอบอยู่” ยูถกาหัวเราะ รีบวิ่งลงบันไดไปก่อน เม็ดขนุนยิ้มมองตามคนที่พอลงไปถึงชั้นล่างยังหันมาแลบลิ้นให้
“แสบนะ แต่โคตรน่ารักเลย” เม็ดขนุนรำพึงออกมาเบาๆ ส่ายหน้ากับ คนที่ไปยืนยิ้มรออยู่ที่หน้าประตูร้านแล้ว
“ขับดีๆ อย่าซิ่งนักนะจ๊ะ” เม็ดขนุนยิ้มให้คนที่นั่งพร้อมอยู่หลังพวง มาลัยรถยนต์ของตัวเองเรียบร้อย
“ขับช้า ไม่ค่อยเป็น” ยูถกายิ้มทะเล้นให้
“เราจริงจังนะ ยูว์” เม็ดขนุนพูดเสียงเข้ม
“รู้แล้ว ว่าเป็นห่วง เดี๋ยวถึงบ้านแล้ว จะโทรฯ มาบอกนะ ยิ้มได้แล้ว” ยูถกายิ้มกว้างขึ้นมองสบตากับคนที่ส่ายหน้าและยิ้มสวยๆ โบกมือให้
“ขอบคุณ จุ๊บๆ” เม็ดขนุนนึกขำตัวเองที่พูดออกไปอย่างนั้น ทำเอายูถกาขำออกมาเสียงดังลั่นก่อนที่จะอมยิ้มและเคลื่อนรถออกไป