ตอนที่ 7 SITH Vs JEDI

1708 คำ
ตอนที่ 7 SITH Vs JEDI “ทำหน้าแบบนี้ สงสัยล่ะสิว่าไคโตะพูดเรื่องอะไร” “หืม…หน้าฉันออกขนาดนั้นเลยเหรอคะ” เธอว่าเธอเก็บสีหน้าดีแล้วนะ ชัชพลจะรู้ได้ยังไงกัน เขาแทบไม่หันมามองเธอเสียด้วย ชัชพลรั้งฝีเท้า เอียงหน้ามองลูกทีมคนใหม่ ลักยิ้มบุ๋มบนใบหน้าคมชวนให้คนอยากชิดใกล้ ทำเอาเธียรธาราเผลอกลั้นหายใจโดยอัตโนมัติ หากว่าเสื้อผ้าดูดีกว่านี้อีกนิด ผมเผ้าหวีให้เป็นผู้เป็นคนเสียหน่อย ขาเธอคงแข็งจนก้าวตามไม่ทันแล้วแน่ๆ บริษัทนี้ใช้คนหล่อเปลืองไปหรือเปล่า? เธอคิดเล่นๆ “เธอคงตกใจไม่น้อยที่โผล่มาในสถานที่แปลกประหลาดแบบนี้ ขอโทษทีที่ไม่ได้แจ้งให้ครบ พอดีเป็นกฎการคัดเลือกคนในบริษัทน่ะ” ชัชพลเอ่ยขึ้น “กฎการคัดเลือก? ยังต้องคัดเลือกอีกหรือคะ?” “ปกติหากรับคนเข้าทำงานแล้ว ต้องให้เซ็นสัญญาก่อนไม่ใช่เหรอ อาร์ชอิมเมจินของเราค่อนข้างกวดขันเรื่องนี้ คนที่สามารถนำเอกสารเข้ามารายงานตัวได้ เราถึงจะรับเข้าทำงาน" เขาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ อมยิ้มเล็กน้อย "เธอเข้ามาไวกว่าเวลาเริ่มงาน น่าประทับใจจริงๆ” หัวหน้าทีมหนุ่มพาเธียรธาราลัดเลาะไปตามระเบียง เธอเข้าใจว่ามันคือระเบียง เพราะไม่เห็นห้องที่กั้นกระจกเหมือนที่ผ่านมา สายลมและกลิ่นที่สัมผัสได้ก็เหมือนจะเป็นของจริงเสียด้วยสิ เดินไปได้สักพัก ยังไม่ถึงจุดหมาย ความสงสัยในใจทำให้หญิงสาวหลุดคำถามออกมา “การเข้ามาในบริษัท เอ่อ…มันค่อนข้างแปลกประหลาด กลไกมันคืออะไรเหรอคะ” “ฉันลืมอธิบายโครงสร้างตึกของบริษัทไปได้ยังไงนะ” ชัชพลเหมือนพูดกับตัวเอง “มันค่อนข้างอธิบายลำบากนะ เป็นวิทยาศาสตร์ทางจิตที่ฉันเองก็อธิบายไม่ถูก หากเป็นภาษาชาวบ้านเขาอาจเรียกว่าพวกที่มีสัมผัสพิเศษละมั้งถึงจะมองเห็นทางเข้า ตึกนี้โครงสร้างเป็นกระจกชนิดพิเศษที่มีความหนาพอๆ กับอิฐบนกำแพงทั่วไป ตรงกลางเป็นแผงวงจรขนาดเล็กแทรกอยู่เป็นจำนวนมาก และทำการหักเหแสงเพื่อซ่อนรูปลักษณ์ของมันเอาไว้ ภาพที่คุณเห็นเป็นภาพเสมือน แต่เรื่องกลิ่นพิเศษที่เนียนขนาดนี้ เป็นสิ่งที่ได้การวิจัยของบริษัทในเครือเราเอง ส่วนระเบียงที่เพิ่งผ่านมา นั่นเป็นวิวทุ่งนาจริงๆ ที่อยู่นอกตึกเราครับ เห็นว่าตึกเราเป็นแบบนี้ก็ใช่ว่าทุกคนจะเข้ามาได้หรอกนะ เพราะเราเก็บบันทึกลายนิ้วมือของพนักงานทุกคนที่ผ่านการสัมภาษณ์ไว้ เวลาที่คุณสัมผัสกำแพงแก้ว มันจึงเปิดรับในทันที” “แต่ลายนิ้วมือ…ฉันรู้สึกว่าไม่ได้สแกนไว้นะคะ” เธียรธาราระลึกถึงเหตุการณ์วันสัมภาษณ์งาน เธอจำได้แม่นโดยเฉพาะตอนที่เข้าไปสัมภาษณ์ต่อหน้าหนุ่มหล่อสองคนน่ะ จะลืมได้ไง “เอ่อ…ก็…” ชัชพลอ้ำอึ้ง “อ๊า…ถึงแผนกเราแล้ว ทีมซิธ! เชิญครับวีนัส” แม้เขาจะเปลี่ยนเรื่อง ทว่าเธียรธาราเองเริ่มสัมผัสได้ถึงความไม่ปลอดภัยในความเป็นส่วนตัวของเธอแล้ว ทั้งเรื่องการแฮ็กจีพีเอสโทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่ลายนิ้วมือ “ดูเหมือนว่าอาร์ชอิมเมจินจะสนิทสนมกับรัฐ จนมีฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของประชาชนทั่วไปพอสมควรนะคะ” เธียรธาราพูดเสียงเรียบ ความไม่พอใจเริ่มก่อตัว ชัชพลรู้สึกเหมือนถูกเผยไต๋ สมองที่ยังเบลอๆ อยู่สั่งให้เขายิ้ม ยิ้มเท่านั้นที่ครองโลก แต่เธียรธารายังคงใช้สายตากดดันเขาอย่างไม่ลดละ แม้จะเข้ามาในห้องทำงานของทีมซิธแล้วเธอก็ไม่ยอมขยับไปไหนแม้แต่ครึ่งก้าว “ก็…เลขประจำตัวประชาชนของวีนัสไงครับ อย่าลืมสิว่าเอกสารตอนสมัครงานคุณให้ผมมาหนึ่งชุด แล้ว…บริษัทเราเป็นบริษัทใหญ่ แหม เรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่ได้ละครับ” กระทงแรกยกให้ก่อน แต่เรื่องโทรศัพท์มือถือของเธอล่ะ "พวกคุณคงไม่ได้รู้เลขอีมี่[1]โทรศัพท์ฉันใช่ไหมคะ” คราวนี้ชัชพลเปลี่ยนท่าที เขานั่งพิงโต๊ะทำงานตัวหนึ่ง อมยิ้มเจ้าเล่ห์ ในแววตาฉายความภูมิใจเล็กๆ “ก็…ผมได้รับหน้าที่ในการคัดเลือกคนรอบนี้ แถมผมยังสนใจสาวสวยแบบคุณ ทริคเล็กๆ น้อยๆ มันก็ทำได้หมดล่ะครับ” เขาขยิบตาให้เธอ ท่าทางเจ้าชู้ไม่ได้ทำให้เธียรธาราตกใจหรือหวาดผวาแต่อย่างใด ลางสังหรณ์บอกเธอว่าบริษัทนี้มันผิดปกติมากๆ แต่เธอกลับไม่รู้ว่าผิดปกติอย่างไร มองผิวเผินก็เหมือนบริษัทที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าทั่วไป แต่ตอนนี้หากเธอทู่ซี้ไปเรื่อยๆ อาจทำให้บรรยากาศในการเริ่มทำงานวันแรกแย่ลงก็ได้ บางทีโง่บ้างก็ได้ คนจะได้ไม่เบื่อ เธอฉีกยิ้ม เป็นรอยยิ้มกว้างครั้งแรกตั้งแต่ที่เธอย่างกรายเข้ามาในสถานที่พิสดารแห่งนี้ เธอละความสนใจจากเขา ดวงตาคู่งามกวาดมองรอบห้องของทีมซิธ พบว่าบรรยากาศค่อนข้างแตกต่างกับโซนแรกพอสมควร กลิ่นหอมของดอกไม้กับกลิ่นของแสงแดดยามเช้าล่องลอยในอากาศ บนเพดานเป็นวัสดุที่เปล่งแสงเหมือนหลอดนีออน เนื่องจากว่าแสดงจากธรรมชาติจะทำให้การแสดงผลในจอคอมพิวเตอร์ถูกสะท้อน สภาพภายในจึงไม่ใช่วิวทุ่งนาอย่างที่เห็นในโถงทางเดินอีกต่อไป ห้องทำงานเป็นห้องสี่เหลี่ยม โต๊ะทำงานทุกโต๊ะหันเข้ากำแพงสีขาว แต่ละโต๊ะประกอบด้วยจอมอนิเตอร์อย่างน้อยสามจอ เก้าอี้เสริมสุขภาพ หูฟัง ผ้าห่มผืนเล็ก มีชั้นสำหรับวางเอกสารและแก้วน้ำโดยเฉพาะ สังเกตได้ว่าทุกโต๊ะเป็นระเบียบเรียบร้อยคล้ายกับไม่มีใครแตะต้องมันเลยแม้แต่น้อย กลางห้องทำงานเป็นโต๊ะกลมขนาดใหญ่ พื้นโต๊ะต่างระดับกันเล็กน้อยจนดูเหมือนโดนัท และมีหูฟังประจำเก้าอี้ทุกตัว “รอบห้องเป็นโต๊ะทำงาน อ่า…ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมมันสะอาด คือปกติแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนี้หรอก แต่พอคนในทีมรู้ว่าจะมีสาวสวยมาร่วมทีม พวกมันก็เลยสร้างภาพกันเล็กน้อย เดี๋ยวก็กลับมาเละเหมือนเดิม” ชัชพลหัวเราะ “ตรงกลางคือโต๊ะประชุม ส่วนตรงนั้น” ชัชพลชี้ไปที่ประตูสองบานที่อยู่ด้านในสุด “ห้องพักพนักงาน ช่วงไหนถ้าต้องลากงานยาว พวกเราจะนอนในนั้น เดี๋ยวผมจะพาวีนัสไปดูห้อง” “แต่ฉันคิดว่าฉันไปกลับได้สบายมากนะคะ” “คุณมีรถเหรอ” ไม่มี… เธียรธาราหน้าจ๋อยไปเล็กน้อย เธอไม่ค่อยชอบการอยู่ร่วมกับคนอื่นนี่นา “ไม่ต้องห่วงนะครับ ห้องนอนของพวกเราแบ่งโซนชายหญิง ที่สำคัญแยกเป็นห้องนอนเล็กๆ ให้ รับรองว่าสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านเลยล่ะ แต่จะลำบากตรงที่ไม่มีแม่บ้านไปทำความสะอาดให้นะ พวกเราต้องทำกันเอง สาเหตุหนึ่งก็เพราะโครงการบางโครงการข้อมูลจะรั่วไหลไม่ได้ หวังว่าคุณคงเข้าใจ” เมื่อเห็นเธอพยักหน้ารับ ชัชพลจึงยิ้มอีกครั้ง “เอาล่ะ ผมจะพาคุณไปดูห้องพัก แล้วเราค่อยมาคุยเรื่องโครงสร้างทีมอีกที” โครม! ผลัวะ! ประตูฝั่งหนึ่งของห้องพักเปิดออก มนุษย์เพศชายจำนวนหนึ่งก็หน้าคะมำลงบนพื้น เธียรธาราตกใจแต่ก็ไม่ได้แสดงออกมากนัก เป็นชัชพลเสียอีกที่ช็อกไปครู่หนึ่ง ก่อนจะโวยวายเสียงดัง “พวกแกเอะอะอะไรกัน!” “อ้วก!!!” หนุ่มคนหนึ่งทำท่าโก่งคอ หญิงสาวเพียงคนเดียวตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เธอเบิกตากว้างมองความโกลาหลตรงหน้า ชัชพลโวยวายเป็นคำรบสอง “ไอ้เชี่ย! พวกมึงยังไม่สร่างเมาอีกเหรอ” “เปล่า ได้ยินหัวหน้าเก๊กเสียงหล่อแล้วมันคันคอ” ชายหนุ่มอีกคนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พูดไปหาวไป “Wow! Beautiful girl” เธียรธาราหัวเราะแห้งๆ อยากหยิกตัวเองสักทีว่าเธอกำลังฝันไปหรือเปล่า คล้ายกับมีคนเอาค้อนปอนด์มาทุบตู้กระจกในอาบอบนวด ภาพลักษณ์อันน่านับถือและทรงเสน่ห์ของชัชพลพังทลายไม่เป็นท่า เธอถึงขั้นต้องถอดแว่นออกแล้วนวดหว่างคิ้วเพื่อคลายความตึงเครียด นี่มันบ้าอะไรกัน! “ทำไมเสียงดังกันแต่เช้าล่ะชัช” เสียงของผู้มาใหม่ดังขึ้นพร้อมกับฝีเท้าที่ใกล้เข้ามา เรียกความสนใจจนทุกคนต้องหันไปมอง เขาตัวสูง ทุกย่างก้าวมั่นคงเป็นจังหวะ ไหล่ผึ่งผาย การแต่งกายภูมิฐาน ที่สำคัญคือเสียงนุ่มหูน่าฟัง เธียรธารามองหน้าของคนที่อยู่ในห้องทีมซิธ ดูจากสภาพของแต่ละคน ชายหนุ่มผู้มาใหม่เรียกได้ว่าเป็นผู้เป็นคนที่สุดแล้ว พอไม่มีแว่นโลกทั้งใบก็พร่ามัว เธอหรี่ตามองผู้มาใหม่ หวังว่าจะได้เห็นใบหน้าอันชัดเจนโดยที่ไม่ต้องใส่แว่นบ้าง ทว่าร่างสูงกลับเคลื่อนเข้าใกล้ แว่นในมือถูกเขาชิงไป เธองุนงง ไม่รู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร กระทั่งเขาค้อมตัวลงเล็กน้อยแล้วสวมแว่นคืนให้เธอ ใบหน้าหนึ่งปรากฏชัดในครรลองสายตา แววตามีแววประหลาดใจเล็กน้อยและสงบนิ่งอย่างรวดเร็ว กลีบปากได้รูปยกยิ้ม ดวงตาคมโค้งจนกลายเป็นสระอิ กลิ่นหอมจากเรือนกายสูงตรงหน้าลอยเข้าจมูก กลิ่นของธรรมชาติ “อืม…นี่คงเป็นสาวน้อยเพียงหนึ่งเดียวในทีมเราสินะ สวัสดีครับ ผม…อิรา” [1] IMEI หรือ International Mobile Equipment Identity เป็นตัวเลขบนสมาร์ตโฟนที่มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งเปรียบเสมือนหมายเลขประจำตัวของโทรศัพท์รุ่นนั้นๆ ที่สามารถบอกข้อมูลได้หลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น แหล่งผลิต, ระยะเวลาการรับประกัน และอื่นๆ อีกมากมาย IMEI จะประกอบด้วยตัวเลขทั้งหมด 15 หลักด้วยกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม