ใครแน่กว่ากัน

1396 คำ
การตามรุกหวังฟาดฟันระหว่างหลี่เซียวเหยาและเจินเจินยังคงดำเนินต่อไป นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่หลี่เซียวเหยานึกอยากทำอะไรที่ขัดต่อศิลธรรมขึ้นมาอย่างจริงจัง ด้วยสตรีตรงหน้าของเขาขณะนี้ นาง... นาง... เขามิรู้ได้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี “หยุด!” เจินเจินตะโกนขึ้นพร้อมยกมือเรียวขาวทั้งสองข้างของตนขึ้นมาอยู่ตรงเบื้องหน้าของตนเอง เพื่อเป็นสัญญาณให้หลี่เซียวเหยาที่กำลังตามติดมาให้หยุดการไล่ฟาดฟัน นางกำลังจะหมดความอดทนเต็มที นางเป็นสาวงามถึงเพียงนี้ เขายังมิเคยได้เห็นเสน่ห์สูงสุดของนางด้วยซ้ำ “ท่านจะฆ่าข้าได้ลงคอจริงๆรึ” หญิงสาวถามชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมดาบในมือ หลี่เซียวเหยามิได้ตอบคำใด เขาเพียงหยุดตามคำของนางและจ้องมองนางนิ่งๆ ด้วยสายตาดำดิ่งคมกริบ เจินเจินอาศัยจังหวะเพียงเสี้ยวเวลาใช้ความเร็วเข้าประชิดร่างสูงโปร่งงามสง่าตรงหน้า เขารู้จักนางน้อยไปเสียแล้ว นางมิได้สวยอย่างเดียวหรอกนะ หญิงสาวจู่โจมร่างของหลี่เซียวเหยาอย่างรวดเร็วจากด้านหน้าโดยปัดคมดาบให้เบี่ยงเฉียงออกไปเพียงเล็กน้อยก่อนใช้ลำตัวเบียดแทรกเข้าหาชายหนุ่ม ก่อนจะใช้สองแขนของตนรวบลำคอของเขาเอาไว้ แล้วสะกิดเท้าออกเพียงนิดให้ดาบหลุดจากมือของเขาไป ก่อนจะจูบเขาเสียเลย หลี่เซียวเหยาถึงกับตกตะลึงตัวแข็งทื่อเมื่อรับรู้ได้ถึงกลีบปากนุ่มนิ่มที่ประกบเข้ามาที่ริมฝีปากของเขาพร้อมด้วยหน้าอกอวบนูนเบียดเสียดอยู่ตรงแผงอกอย่างจงใจ ชายหนุ่มพยายามเบี่ยงหน้าเพื่อหลบการกระทำอันแสนจะทารุณจิตใจ ทั้งยังพยายามใช้มือของตนบีบไหล่ของหญิงสาวให้ออกห่างอย่างสุดกำลัง ถึงแม้ว่ากำลังวังชาของเขาจะมีมากด้วยความเป็นบุรุษเพศ แต่เจอเข้าอย่างนี้ จู่โจมแบบนี้ มัน... สักพักเจินเจินจึงยอมถอนริมฝีปากออกแต่ยังคงรวบลำคอของเขาอยู่อย่างนั้น “เจ้า!” หลี่เซียวเหยาเอ่ยเสียงรอดไรฟัน ดวงตาเบิกโต ใบหูแดงก่ำ “ทำไม ทำไม” เจินเจินยิ้มพรายใส่หน้าของชายหนุ่มด้วยดวงตาเป็นประกายมิได้รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด ก็นางชอบบุรุษผู้นี้ “ปล่อย!” เขาดุใส่ “ไม่ปล่อย” นางยิ้มตอบ “เจ้า!” “ทำไม” “ข้าเกลียดเจ้า” “ข้าชอบท่าน” “ข้าไม่มีวันชอบเจ้า” “ข้าก็คิดเช่นนั้น” “ข้าไม่แต่งกับเจ้า” “ข้าก็เหมือนกัน” “...” หลี่เซียวเหยาเริ่มงง พิศมองนางฉงน “ท่านรู้อะไรหรือไม่” “อะไร” “ข้าไม่ได้คิดจะผูกมัดท่าน และไม่คิดจะผูกมัดตนเองเช่นกัน” เจินเจินเอ่ยเรื่อยๆดวงตามองหน้าเขานิ่งๆในระยะประชิดท่าเดิม หญิงสาวยังคงเอ่ยต่อ “เป็นท่านที่ผูกมัดตนเอง” ประโยคนั้นทำหลี่เซียวเหยาชะงักงัน “ข้ายอมรับว่ามาที่นี่เพื่อต้องการหาบุรุษไว้แนบกาย และข้าก็เลือกท่าน แต่ถ้าท่านมิได้ต้องการ ข้าย่อมไม่บังคับ ข้าไม่จำเป็นต้องบังคับผู้ใด” เจินเจินยกมือขึ้นเพียงนิดใช้นิ้วเรียวสวยของตนไล้ไรผมบริเวณหน้าผากของหลี่เซียวเหยาขณะยังคงเอ่ยต่อเนิบนาบ “ข้ามิได้เหมือนดั่งสตรีเมืองหลวง ข้าไม่ต้องพึ่งพาบุรุษ ข้าแค่อยากช่วยท่าน” “เจ้า...” หลี่เซียวเหยาเอ่ยได้แค่นั้นเขาทำได้เพียงยืนตัวแข็งทื่อรู้สึกแปลกๆกับประโยคของหญิงสาวที่กำลังเข้าประชิดร่างของตนในขณะนี้ และรู้สึกร้อนวูบวาบกับมือเรียวงามดั่งหยกเกลี้ยงเกลาของนางที่กำลังสัมผัสเรือนร่างของเขาอยู่ “ท่านมีเสน่ห์มาก ท่านรู้หรือไม่” หญิงสาวยังคงเอ่ยต่ออย่างไม่นึกละอาย “และข้าเองก็สวยสดงดงามเช่นกัน” “....” ชายหนุ่มเอ่ยสิ่งใดไม่ออกกับคำพูดหลงตัวเองนั่น “เราต่างมีทางเลือกของตนเอง แล้วท่านจะเสียใจ” “เจ้า...” “อยากฆ่าข้าหรือ” เจินเจินเอ่ยเสียงเข้มขึ้นดวงตาหรี่ลงไม่มีแววล้อเล่นดั่งคราแรก “ไม่ง่ายนักหรอก” หลี่เซียวเหยายืนจ้องหน้าหญิงสาวนิ่งงันเนิ่นนานไร้คำพูดไร้วาจาใดๆ แววตาดำคมของเขาคล้ายสั่นไหวเล็กน้อย แต่ก็ยัง... ไม่ยอมจำนน! เจินเจินใช้ปลายเท้าของตนสะกิดดาบที่อยู่ไม่ไกลให้กระเด็นออกไปก่อนเอ่ย “อย่าใช้ของมีคมเลย เดี๋ยวผิวจะเสีย มา!” จบคำหญิงสาวกระโดดถอยออกห่างจากร่างของหลี่เซียวเหยาเพื่อตั้งท่าพร้อมรับการต่อสู้ ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงตั้งท่าเช่นกัน ทั้งสองจึงพุ่งตัวเข้าใส่กันพร้อมฟาดพลังไม่ยั้งขณะประมือกันด้วยฝ่ามือเปล่าเปลือยไร้อาวุธไปมา หลี่เซียวเหยากระโจนประชิดร่างของเจินเจินด้วยท่วงท่าองอาจฝีมือสูงส่ง เจินเจินม้วนตัวหลบอย่างสวยงามก่อนตอบโต้กลับด้วยฝีมือทัดเทียม ชายหนุ่มหญิงสาวยังคงจู่โจมใส่กันไม่ยั้ง ผลัดกันรับผลัดกันรุกอยู่อย่างนั้น ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร “เจ้าคิดว่าใครจะชนะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นหลังพุ่มไม้ “ข้าคิดว่าเจินเจินนะ” อีกเสียงหนึ่งเอ่ยตอบ “แต่ข้าว่าองค์ชายสี่นะ” เสียงที่สามเอ่ยขัด เจ้าของเสียงทั้งสามคือ หยางเจียน เว่ยฟาง และหลิวฉวนหยู่ร์ ตามลำดับ พวกนางได้รับคำสั่งจากหงฮองเฮาให้มาคอยสังเกตการณ์ระหว่างเจินเจินกับหลี่เซียวเหยา เพื่อคอยห้ามทัพมิให้ทั้งสองทำร้ายกัน แต่ดูเหมือนว่าทั้งสามนั้นไม่ได้คิดจะเข้าไปห้ามปรามแต่อย่างใด ด้วยเกรงว่าจะเป็นการขัดจังหวะเสียมากกว่า จึงทำได้เพียงแอบดูอยู่หลังพุ่มไม้เพียงเท่านั้น และข่าวการขอสมรสพระราชทานนั้นก็สร้างแรงกดดันให้สตรีอีกนางหนึ่งอยู่ไม่น้อยเช่นกัน นางคือเซียงอวี๋ น้องสาวของอดีตชายาของหลี่เซียวเหยา เซียงอวี๋นั้นแอบชอบหลี่เซียวเหยามาเนิ่นนานนับตั้งแต่ หลี่เซียวเหยาได้แต่งงานกับพี่สาวของนาง นางได้แต่มองหลี่เซียวเหยาอยู่ไกลๆ ต่อมานางพยายามทำทุกอย่างทำทุกๆทางให้หลี่เซียวเหยาและพี่สาวของนางแตกหัก นางพยายามหลอกล่อให้พี่สาวของนางและองครักษ์ประจำตัวของหลี่เซียวเหยาได้มีโอกาสพบเจอกันบ่อยครั้ง นางสร้างสถานการณ์ต่างๆให้พี่สาวกับองครักษ์นั่นได้สานสัมพันธ์กัน และมันก็ได้ผล มันสำเร็จ นางทำมันลุล่วง ห้าปีมานี้นางพยายามที่จะเข้าใกล้หลี่เซียวเหยาโดยใช้เหตุผลที่ว่าทำไปเพื่อชดใช้ความผิดแทนพี่สาว และถึงแม้ว่านางจะถูกเขาปฏิเสธ ถูกเขาไล่อย่างไร นางก็ไม่ยอม นางยังคงติดตามหลี่เซียวเหยา นางอยากเป็นสาวใช้อุ่นเตียง แม้เป็นเพียงแค่นางกำนัลนางก็ยอม แต่... แต่... สตรีไร้ยางอายนั่น! กับสตรีไร้ยางอายนางนั้น! นางกำลังจะได้แต่งงานกับหลี่เซียวเหยา ไม่มีทาง นางไม่ยอม นางไม่มีวันยอม อา... นางจะต้องหาบุรุษสักคนหนึ่ง ให้มาเป็นชายชู้กับสตรีไร้ยางอายนี่ มันไม่ใช่เรื่องยาก ดูๆแล้ว ง่ายกว่าเมื่อครั้งพี่สาวของนางเสียอีก หึหึหึ! เซียงอวี๋แสยะยิ้มที่มุมปากอย่างหมายมั่นอยู่ในใจ ขณะกำลังทำงานในตำแหน่งนางกำนัลประจำตำหนักของหลี่เซียวเหยา หญิงสาวอยากจะขึ้นเตียงของหลี่เซียวเหยามาหลายครั้งแล้ว แต่ทำได้เพียงเป็นนางกำนัลประจำตำหนักเพียงเท่านั้น ต่อไปนางจะรุกฆาตบ้าง นางจะทำตัวไร้ยางอายบ้าง สตรีนางนั้นทำได้ นางก็ทำได้เช่นกัน...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม