การตามรุกหวังฟาดฟันระหว่างหลี่เซียวเหยาและเจินเจินยังคงดำเนินต่อไป
นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่หลี่เซียวเหยานึกอยากทำอะไรที่ขัดต่อศิลธรรมขึ้นมาอย่างจริงจัง
ด้วยสตรีตรงหน้าของเขาขณะนี้
นาง...
นาง...
เขามิรู้ได้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี
“หยุด!” เจินเจินตะโกนขึ้นพร้อมยกมือเรียวขาวทั้งสองข้างของตนขึ้นมาอยู่ตรงเบื้องหน้าของตนเอง เพื่อเป็นสัญญาณให้หลี่เซียวเหยาที่กำลังตามติดมาให้หยุดการไล่ฟาดฟัน
นางกำลังจะหมดความอดทนเต็มที
นางเป็นสาวงามถึงเพียงนี้
เขายังมิเคยได้เห็นเสน่ห์สูงสุดของนางด้วยซ้ำ
“ท่านจะฆ่าข้าได้ลงคอจริงๆรึ” หญิงสาวถามชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมดาบในมือ
หลี่เซียวเหยามิได้ตอบคำใด เขาเพียงหยุดตามคำของนางและจ้องมองนางนิ่งๆ ด้วยสายตาดำดิ่งคมกริบ
เจินเจินอาศัยจังหวะเพียงเสี้ยวเวลาใช้ความเร็วเข้าประชิดร่างสูงโปร่งงามสง่าตรงหน้า
เขารู้จักนางน้อยไปเสียแล้ว นางมิได้สวยอย่างเดียวหรอกนะ
หญิงสาวจู่โจมร่างของหลี่เซียวเหยาอย่างรวดเร็วจากด้านหน้าโดยปัดคมดาบให้เบี่ยงเฉียงออกไปเพียงเล็กน้อยก่อนใช้ลำตัวเบียดแทรกเข้าหาชายหนุ่ม ก่อนจะใช้สองแขนของตนรวบลำคอของเขาเอาไว้ แล้วสะกิดเท้าออกเพียงนิดให้ดาบหลุดจากมือของเขาไป ก่อนจะจูบเขาเสียเลย
หลี่เซียวเหยาถึงกับตกตะลึงตัวแข็งทื่อเมื่อรับรู้ได้ถึงกลีบปากนุ่มนิ่มที่ประกบเข้ามาที่ริมฝีปากของเขาพร้อมด้วยหน้าอกอวบนูนเบียดเสียดอยู่ตรงแผงอกอย่างจงใจ
ชายหนุ่มพยายามเบี่ยงหน้าเพื่อหลบการกระทำอันแสนจะทารุณจิตใจ ทั้งยังพยายามใช้มือของตนบีบไหล่ของหญิงสาวให้ออกห่างอย่างสุดกำลัง
ถึงแม้ว่ากำลังวังชาของเขาจะมีมากด้วยความเป็นบุรุษเพศ
แต่เจอเข้าอย่างนี้
จู่โจมแบบนี้
มัน...
สักพักเจินเจินจึงยอมถอนริมฝีปากออกแต่ยังคงรวบลำคอของเขาอยู่อย่างนั้น
“เจ้า!” หลี่เซียวเหยาเอ่ยเสียงรอดไรฟัน ดวงตาเบิกโต ใบหูแดงก่ำ
“ทำไม ทำไม” เจินเจินยิ้มพรายใส่หน้าของชายหนุ่มด้วยดวงตาเป็นประกายมิได้รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด ก็นางชอบบุรุษผู้นี้
“ปล่อย!” เขาดุใส่
“ไม่ปล่อย” นางยิ้มตอบ
“เจ้า!”
“ทำไม”
“ข้าเกลียดเจ้า”
“ข้าชอบท่าน”
“ข้าไม่มีวันชอบเจ้า”
“ข้าก็คิดเช่นนั้น”
“ข้าไม่แต่งกับเจ้า”
“ข้าก็เหมือนกัน”
“...”
หลี่เซียวเหยาเริ่มงง
พิศมองนางฉงน
“ท่านรู้อะไรหรือไม่”
“อะไร”
“ข้าไม่ได้คิดจะผูกมัดท่าน และไม่คิดจะผูกมัดตนเองเช่นกัน” เจินเจินเอ่ยเรื่อยๆดวงตามองหน้าเขานิ่งๆในระยะประชิดท่าเดิม
หญิงสาวยังคงเอ่ยต่อ “เป็นท่านที่ผูกมัดตนเอง”
ประโยคนั้นทำหลี่เซียวเหยาชะงักงัน
“ข้ายอมรับว่ามาที่นี่เพื่อต้องการหาบุรุษไว้แนบกาย และข้าก็เลือกท่าน แต่ถ้าท่านมิได้ต้องการ ข้าย่อมไม่บังคับ ข้าไม่จำเป็นต้องบังคับผู้ใด” เจินเจินยกมือขึ้นเพียงนิดใช้นิ้วเรียวสวยของตนไล้ไรผมบริเวณหน้าผากของหลี่เซียวเหยาขณะยังคงเอ่ยต่อเนิบนาบ
“ข้ามิได้เหมือนดั่งสตรีเมืองหลวง ข้าไม่ต้องพึ่งพาบุรุษ ข้าแค่อยากช่วยท่าน”
“เจ้า...” หลี่เซียวเหยาเอ่ยได้แค่นั้นเขาทำได้เพียงยืนตัวแข็งทื่อรู้สึกแปลกๆกับประโยคของหญิงสาวที่กำลังเข้าประชิดร่างของตนในขณะนี้ และรู้สึกร้อนวูบวาบกับมือเรียวงามดั่งหยกเกลี้ยงเกลาของนางที่กำลังสัมผัสเรือนร่างของเขาอยู่
“ท่านมีเสน่ห์มาก ท่านรู้หรือไม่” หญิงสาวยังคงเอ่ยต่ออย่างไม่นึกละอาย “และข้าเองก็สวยสดงดงามเช่นกัน”
“....”
ชายหนุ่มเอ่ยสิ่งใดไม่ออกกับคำพูดหลงตัวเองนั่น
“เราต่างมีทางเลือกของตนเอง แล้วท่านจะเสียใจ”
“เจ้า...”
“อยากฆ่าข้าหรือ” เจินเจินเอ่ยเสียงเข้มขึ้นดวงตาหรี่ลงไม่มีแววล้อเล่นดั่งคราแรก “ไม่ง่ายนักหรอก”
หลี่เซียวเหยายืนจ้องหน้าหญิงสาวนิ่งงันเนิ่นนานไร้คำพูดไร้วาจาใดๆ แววตาดำคมของเขาคล้ายสั่นไหวเล็กน้อย
แต่ก็ยัง...
ไม่ยอมจำนน!
เจินเจินใช้ปลายเท้าของตนสะกิดดาบที่อยู่ไม่ไกลให้กระเด็นออกไปก่อนเอ่ย “อย่าใช้ของมีคมเลย เดี๋ยวผิวจะเสีย มา!”
จบคำหญิงสาวกระโดดถอยออกห่างจากร่างของหลี่เซียวเหยาเพื่อตั้งท่าพร้อมรับการต่อสู้
ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงตั้งท่าเช่นกัน
ทั้งสองจึงพุ่งตัวเข้าใส่กันพร้อมฟาดพลังไม่ยั้งขณะประมือกันด้วยฝ่ามือเปล่าเปลือยไร้อาวุธไปมา
หลี่เซียวเหยากระโจนประชิดร่างของเจินเจินด้วยท่วงท่าองอาจฝีมือสูงส่ง เจินเจินม้วนตัวหลบอย่างสวยงามก่อนตอบโต้กลับด้วยฝีมือทัดเทียม
ชายหนุ่มหญิงสาวยังคงจู่โจมใส่กันไม่ยั้ง ผลัดกันรับผลัดกันรุกอยู่อย่างนั้น ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร
“เจ้าคิดว่าใครจะชนะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นหลังพุ่มไม้
“ข้าคิดว่าเจินเจินนะ” อีกเสียงหนึ่งเอ่ยตอบ
“แต่ข้าว่าองค์ชายสี่นะ” เสียงที่สามเอ่ยขัด
เจ้าของเสียงทั้งสามคือ หยางเจียน เว่ยฟาง และหลิวฉวนหยู่ร์ ตามลำดับ
พวกนางได้รับคำสั่งจากหงฮองเฮาให้มาคอยสังเกตการณ์ระหว่างเจินเจินกับหลี่เซียวเหยา เพื่อคอยห้ามทัพมิให้ทั้งสองทำร้ายกัน
แต่ดูเหมือนว่าทั้งสามนั้นไม่ได้คิดจะเข้าไปห้ามปรามแต่อย่างใด ด้วยเกรงว่าจะเป็นการขัดจังหวะเสียมากกว่า
จึงทำได้เพียงแอบดูอยู่หลังพุ่มไม้เพียงเท่านั้น
และข่าวการขอสมรสพระราชทานนั้นก็สร้างแรงกดดันให้สตรีอีกนางหนึ่งอยู่ไม่น้อยเช่นกัน นางคือเซียงอวี๋ น้องสาวของอดีตชายาของหลี่เซียวเหยา
เซียงอวี๋นั้นแอบชอบหลี่เซียวเหยามาเนิ่นนานนับตั้งแต่ หลี่เซียวเหยาได้แต่งงานกับพี่สาวของนาง
นางได้แต่มองหลี่เซียวเหยาอยู่ไกลๆ
ต่อมานางพยายามทำทุกอย่างทำทุกๆทางให้หลี่เซียวเหยาและพี่สาวของนางแตกหัก
นางพยายามหลอกล่อให้พี่สาวของนางและองครักษ์ประจำตัวของหลี่เซียวเหยาได้มีโอกาสพบเจอกันบ่อยครั้ง
นางสร้างสถานการณ์ต่างๆให้พี่สาวกับองครักษ์นั่นได้สานสัมพันธ์กัน
และมันก็ได้ผล
มันสำเร็จ
นางทำมันลุล่วง
ห้าปีมานี้นางพยายามที่จะเข้าใกล้หลี่เซียวเหยาโดยใช้เหตุผลที่ว่าทำไปเพื่อชดใช้ความผิดแทนพี่สาว
และถึงแม้ว่านางจะถูกเขาปฏิเสธ ถูกเขาไล่อย่างไร นางก็ไม่ยอม นางยังคงติดตามหลี่เซียวเหยา
นางอยากเป็นสาวใช้อุ่นเตียง
แม้เป็นเพียงแค่นางกำนัลนางก็ยอม แต่...
แต่...
สตรีไร้ยางอายนั่น!
กับสตรีไร้ยางอายนางนั้น!
นางกำลังจะได้แต่งงานกับหลี่เซียวเหยา
ไม่มีทาง
นางไม่ยอม
นางไม่มีวันยอม
อา...
นางจะต้องหาบุรุษสักคนหนึ่ง
ให้มาเป็นชายชู้กับสตรีไร้ยางอายนี่
มันไม่ใช่เรื่องยาก
ดูๆแล้ว
ง่ายกว่าเมื่อครั้งพี่สาวของนางเสียอีก
หึหึหึ!
เซียงอวี๋แสยะยิ้มที่มุมปากอย่างหมายมั่นอยู่ในใจ ขณะกำลังทำงานในตำแหน่งนางกำนัลประจำตำหนักของหลี่เซียวเหยา
หญิงสาวอยากจะขึ้นเตียงของหลี่เซียวเหยามาหลายครั้งแล้ว แต่ทำได้เพียงเป็นนางกำนัลประจำตำหนักเพียงเท่านั้น
ต่อไปนางจะรุกฆาตบ้าง
นางจะทำตัวไร้ยางอายบ้าง
สตรีนางนั้นทำได้ นางก็ทำได้เช่นกัน...