bc

สะดุดรักยัยกะล่อน

book_age12+
541
ติดตาม
1.5K
อ่าน
เศรษฐี
จบสุข
เย่อหยิ่ง
แบดเกิร์ล
ชายจีบหญิง
เบาสมอง
ลึกลับ
ใจถึง
ขี้แพ้
วิทยาลัย
เทพนิยาย
สงคราม
บุคลิกหลากหลาย
like
intro-logo
คำนิยม

เขาคือบุรุษรูปงามที่แสนเย็นชา นางคือสตรีใจกล้านิสัยไม่ดี

เจินเจิน

หญิงสาวจากฝ่ายอิทธิพลมืด(หรือพรรคมาร)

นางซึ่งเป็นสตรีแปลกประหลาดแบบคนละขั้วกับสตรีของเมืองหลวงทุกประการ

นางซึ่งแสดงออกอย่างชัดเจนว่ารัก แบบไม่มีปกปิดอาการใดๆ

นางคือผู้ที่เกิดตกหลุมรักเข้าอย่างจังกับหนุ่มเมืองหลวงที่เป็นถึงองค์ชาย

นามว่า หลี่เซียวเหยา

องค์ชายหลี่เซียวเหยา

ชายหนุ่มผู้เย็นชา

บุรุษผู้ซึ่งรังเกียจอิสตรี

โดยเฉพาะสตรีที่มีนามว่า เจินเจิน

“ท่านคงโดดเดี่ยวและเหน็บหนาวมาเนิ่นนาน

ท่านควรปล่อยวางอดีตที่ขมขื่นและมาเริ่มต้นใหม่อย่างเข้มข้นกับข้าเสีย”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
เจินเจิน&หลี่เซียวเหยา
ท่ามกลางสวนสวยที่แสนจะร่มรื่นรอบล้อมด้วยมวลพฤกษานานาพรรณภายในอุทยานของตำหนักหนึ่งแห่งแคว้นต้าหลี่  มีสตรีนางหนึ่งกำลังเดินไปหมุนตัวไปด้วยท่วงท่ารื่นเริงล้อเล่นอยู่กับหมู่ภมรอย่างอารมณ์ดี ด้วยภายในใจของนางกำลังคิดว่าตนเองนั้นสวยสดงดงามที่สุดในปฐพี นางมีนามว่า เจินเจิน “โอย...เหนื่อย! นั่งพักก่อนดีกว่า” เจินเจินบ่นออกมาเพียงนิดก่อนเคลื่อนกายเข้าไปนั่งยังศาลากลางสวนสวยที่อยู่ไม่ไกล หญิงสาวเดินเล่นทั้งวันแบบคนไม่มีอะไรจะทำแบบนี้มาหลายวันแล้วตั้งแต่ตัดสินใจเดินทางออกจากฝ่ายอิทธิพลมืดเพื่อติดตามหงเหม่ยหลงผู้ที่เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านประมุขผู้ยิ่งใหญ่ของฝ่ายอิทธิพลมืด เจินเจินนั้นเป็นสมาชิกระดับสูงของสำนักหมื่นโลกันต์ซึ่งเป็นกลุ่มอิทธิพลมืดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเป็นอันดับหนึ่งของยุทธภพ นางติดตามคณะของฮ่องเต้แคว้นต้าหลี่นามว่าหลี่ซื่อหมินและฮองเฮานามว่าหงเหม่ยหลงซึ่งเป็นเจ้านายสายตรงมาจากพรรคฝ่ายมาร ซึ่งเป็นฝ่ายของกลุ่มอิทธิพลมืดที่คอยหนุนหลังให้แคว้นต้าหลี่อยู่อย่างลับๆ  นางได้มาอาศัยอยู่ในแคว้นต้าหลี่ด้วยคิดว่าอยากจะหาบุรุษไว้อิงแอบแนบกาย แบบเป็นจริงเป็นจัง เป็นเรื่องเป็นราวสักคน ตัวของเจินเจินนั้นเป็นสตรีที่เติบโตและอาศัยอยู่ในสำนักหมื่นโลกันต์ตั้งแต่อายุแปดขวบปี นางได้รับการฝึกฝนวิชาการต่อสู้แขนงต่างๆมาเป็นอย่างดีจนมีฝีมือเก่งกาจไม่แพ้ใคร และตัวของนางมีลูกน้องในอาณัติอยู่ไม่น้อย ลูกน้องของนางแต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นบุรุษ แม้นางจะมีบุรุษที่เลี้ยงเอาไว้ที่สำนักหมื่นโลกันต์หลายคน แต่นั่นก็เป็นแค่การกระทำเพื่อเสริมสร้างบารมีของตนเพียงเท่านั้น นางไม่นิยมมีลูกน้องเป็นสตรี สำหรับนางต้องเป็นบุรุษเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์เป็นลูกน้องของนางได้ และที่สำคัญ!  นางยังไม่มีคู่ครอง... นางจึงเดินทางจากพรรคฝ่ายมารมายังเมืองหลวงด้วยความคิดที่ว่าบุรุษของเมืองหลวงน่าสนใจมากกว่าบุรุษของพรรคฝ่ายมาร นางเป็นสาวงามเชียวนะ จะน้อยหน้าได้อย่างไร แต่.... เอ.... แถวนี้ไม่มีบุรุษให้นางเกี้ยวเลย ไปไหนกันหมด บุรุษจ๋า.... คิดได้ดังนั้นนางจึงดีดตัวออกจากศาลากลางสวนเพื่อเดินไปตามทางเชื่อมต่อระหว่างสวนสวยของอุทยานพลางเมียงมองหาบุรุษที่นางพึงใจ หญิงสาวเดินมาตามทางเรื่อยๆ  จากตำหนักภายในวังหลังจนผ่านกำแพงของเขตวังหลัง  จนออกมาถึงอาณาเขตของตำหนักด้านหน้าภายในอาณาเขตของวังหลวง  ก่อนจะเดินตัวลอยออกมายังอาณาเขตเชื่อมต่อระหว่างพระราชวังกับตำหนักแห่งหนึ่งที่แยกตัวออกมาจากวังหลวงอีกหนึ่งชั้นแต่ยังคงตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกันเพียงมีกำแพงวังขวางกั้น  หญิงสาวยังคงทอดสายตาสอดส่ายเมียงมองไปถ้วนทั่วบริเวณเพื่อหาบุรุษที่นางพึงใจ และนางก็ได้เจอ... บุรุษผู้หนึ่งยืนตระหง่านด้วยท่วงท่าน่าเกรงขามวางมาดน่ายำเกรง แผ่กลิ่นอายสูงศักดิ์เหนือผู้ใด เขายืนอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ภายในอาณาบริเวณกว้างขวางล้อมรอบไปด้วยหมู่แมกไม้นานาพรรณ บุรุษผู้นั้นรูปร่างสง่างามหน้าตาหล่อเหลาคมคายสะอาดสะอ้านชวนมอง แต่งกายด้วยอาภรณ์เนื้อดีบ่งบอกฐานะและฐานันดรชัดเจน เขาผู้นั้นกำลังเดินเป็นวงกลมคล้ายกับการเดินจงกลมอยู่ตรงกลางสวนภายใต้ร่มไม้ท่ามกลางสายลมร่มรื่น เจินเจินถึงกับหยุดยืนเพื่อมองภาพนั้นอย่างสนใจก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นตื่นตะลึง  โอว... น่ากิน   เอ้ย! น่าทำความรู้จัก คิดได้ดังนั้น เจินเจินจึงรีบกระโดดม้วนตัวเข้าไปอย่างสวยงามตามแบบฉบับสาวพรรคมารก่อนจะหยุดนิ่งตรงหน้าบุรุษหนุ่มผู้นี้พร้อมเอ่ยเสียงอ่อนหวานนัยน์ตาหยาดเยิ้มทอประกาย “ถวายบังคมเพคะ องค์ชาย” ดูจากการแต่งกายของเขาแล้ว เขาเป็นองค์ชายอย่างแน่นอน เจินเจินคิด มั่นใจตนเองยิ่งนักว่าทักทายไม่ผิด เงียบ... “...” ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ หืม? เจินเจินที่ก้มหน้าทำความเคารพอย่างอ่อนช้อยถึงกับฉงนกับความเงียบที่ผิดปกติเกินไป จึงเงยหน้าขึ้นมองบุรุษตรงหน้า เห็นเขาเพียงก้มหน้ามองมาทางนางนิ่งๆ นิ่งมาก นิ่งเกินไป นิ่งเสียจน อะแฮ่ม! นี่คนหรือรูปปั้นกันล่ะนี่ เจินเจินกระแอมพลางคิดในใจขณะพิศมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพินิจพิจารณา ใบหน้าแม้รูปงามแต่บูดบึ้งนิ่งขึงคล้ายนักบวชที่สละแล้วซึ่งกิเลส บุคลิกลักษณะท่าทางช่างดูสงบนิ่งน่านับถือแฝงความน่ายำเกรงคล้ายมีเกราะกำบังบางอย่างแบบแน่นหนามิให้ผู้ใดอื่นได้เข้าใกล้ ดวงตาคล้ายสีนิลทอแสงสีดำสนิทดิ่งลึกไร้แววทอประกายใดๆ อืม... บุรุษทั่วไปเมื่อได้เจอนาง มักจะมองนางอย่างไม่วางตา เนื่องจากว่านางนั้นมีรูปร่างหน้าตาที่สวยสดงดงามทั้งยังมีรูปร่างที่อวบอิ่มเย้ายวนเป็นที่สุด แต่... หรือนางจะคิดไปเอง เจินเจินคิดอย่างหลงตัวเองอยู่อย่างนั้นขณะเหม่อมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างสงสัยใคร่รู้ เขาช่างเป็นบุรุษเพศที่น่าค้นหา เขาน่าสนใจและดึงดูดนางเป็นอย่างยิ่ง ทั้งท่วงท่า ทั้งดวงหน้า ทั้งดวงตา และมาดนิ่งขรึมขึงขังคล้ายเทพเซียนจำแลง น่าสนใจจริงๆ... ทั้งสองยืนจ้องหน้ากันพักใหญ่ โดยฝ่ายชายยังคงไว้ซึ่งท่าทางสงบนิ่งเรียบเฉยจ้องมองฝ่ายหญิงอย่างเย็นชา ไร้อารมณ์ ไร้ความรู้สึก ส่วนฝ่ายหญิงนั้นกำลังเหม่อมองด้วยสายตาระยิบระยับแสดงออกถึงความเสน่หาอย่างเปิดเผย ซักพักหญิงสาวจึงกระแอมเรียกสติตนเองอีกครั้งก่อนเอ่ยเสียงหวาน “ถวายบังคมเพคะ องค์ชาย” หญิงสาวทำความเคารพด้วยท่วงท่ายั่วยวนสุดชีวิต แต่... เหมือนจะไม่ได้ผล บุรุษตรงหน้าของนางนั้น ยังคงนิ่งงัน นิ่งมาก นิ่งเกินไป นิ่งเสียจน ฮึ่ม! จับกินเสียเลยเป็นไร เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงพุ่งตัวเข้าประชิดร่างสูงโปร่งงามสง่าของบุรุษตรงหน้าอย่างไม่คิดจะห้ามใจ หญิงสาวคิดเอาไว้แล้วเชียวว่าจะทำตัวให้ดูดีเสมือนดังเป็นสตรีทั่วไปของเมืองหลวง เนื่องจากที่นี่ย่อมแตกต่างจากสำนักหมื่นโลกันต์ของพรรคฝ่ายมาร ที่นั่นนางจะแสดงอิทธิฤทธิ์อย่างไรก็ได้ แต่ที่นี่มันต่างกัน สตรีของที่นี่แตกต่างจากนางโดยสิ้นเชิง พวกนางล้วนแล้วแต่ทำตัวสูงส่งงามสง่า หน้าเชิดคอตั้งตลอดเวลา เจินเจินจึงพยายามทำตัวให้กลมกลืน นางพยายามแล้วนะ แต่บุรุษตรงหน้านางขณะนี้ กำลัง... ทำนาง... ตบะแตก! กฎระเบียบใดๆของเมืองหลวง นางไม่เคยสนใจ ล่วงเกินองค์ชายรึ ใครกลัวกัน! อา... กลิ่นกายช่างหอมหวล แผงอกช่างบึกบึน เจินเจินลูบคลำบุรุษตรงหน้าอย่างเพลิดเพลินโดยไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าดำคล้ำมืดครึ้มของบุรุษที่นางกำลังลวนลามแต่อย่างใด เขาเป็นองค์ชายสี่ นามว่า หลี่เซียวเหยา เป็นพระอนุชาต่างมารดาของฮ่องเต้หลี่ซื่อหมินของแคว้นต้าหลี่แห่งนี้ หลี่เซียวเหยากับฮ่องเต้หลี่ซื่อหมินเป็นพี่น้องร่วมบิดา โดยบิดาของทั้งคู่เป็นองค์ฮ่องเต้แคว้นหลี่ ซึ่งต่อมาหลี่ซื่อหมินได้แยกตัวออกมาสร้างอาณาจักรเป็นของตนเองและสถาปนาอาณาจักรแห่งนี้ว่าแคว้นต้าหลี่ เดิมทีนั้นฮ่องเต้หลี่ซื่อหมินทรงต้องการแต่งตั้งให้หลี่เซียวเหยาเป็นชินอ๋องประจำแคว้นต้าหลี่แห่งนี้ แต่หลี่เซียวเหยายังคงปฏิเสธอยู่ เนื่องจากว่าหลี่เซียวเหยานั้นแค่เพียงต้องการมาช่วยงานราชกิจมิได้ต้องการอำนาจอันใดมากไปกว่านั้น เขาเป็นองค์ชายที่ชอบฝักใฝ่ในเรื่องของธรรมะธัมโม เขาไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับสตรีเพศ ตั้งแต่ชายาของเขาแอบคบชู้สู่ชายจนเขาจับได้และทำการสังหารนางกับชายชู้ด้วยมือของเขาเอง เขาก็หันหน้าเข้าหาพระพุทธพระธรรมโดยไม่คิดจะแต่งงานใหม่  แม้ว่าจะมีสตรีมากหน้าหลายตามาเสนอตัวแก่เขา แต่เขาก็หาได้สนใจไม่  เขารังเกียจเหลือเกินกับกลิ่นอายของอิสตรี พวกนางช่างน่ารังเกียจ น่ารังเกียจยิ่ง! ยัง... ยังไม่หยุด ยังจะลูบๆคลำๆ ยังจะล้วงเข้ามา บัดซบ! เจินเจินถึงกับชะงักกึก เมื่อรู้สึกได้ถึงมือหนาของบุรุษคนนี้ที่จับข้อมือของนางแล้วบีบก่อนจะบิดอย่างแรงคล้ายบันดาลโทสะ อาการนั้นทำหญิงสาวถึงกับหัวเราะคิก เขาตอบสนองแล้ว... “ถ้าไม่อยากตาย จงถอยออกไป” หลี่เซียวเหยาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกได้ว่า เขาจะทำอย่างนั้นจริงๆ แต่... เจินเจินหาได้เกรงกลัวไม่! ต้องอย่างนี้สิ ใช่เลย...   นางชอบ....    

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

มัดใจ'รุ่นพี่วิศวะตัวร้าย

read
6.9K
bc

ใต้ปีกเจ้าพ่อ

read
2.5K
bc

รักนอกพันธสัญญา

read
3.8K
bc

บอสคนนี้เป็นของเธอนะ

read
4.0K
bc

ชะตาต้องรัก

read
3.6K
bc

หัวใจของยมฑูตอบอุ่นมากนะ : Grim Reaper and The Warm Heart

read
1.0K
bc

แค้นรักวายุภักษ์

read
1.3K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook