ตอนที่ 21 ชัยชนะ

2146 คำ
ในขณะเดียวกัน เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจที่ชัยชนะตกเป็นของต้าฮั่นดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ทั้งชินอ๋อง เจิ้งหู่รวมไปถึงลั่วจิ้งที่อยู่ในร่างของไทจื่อแห่งต้าฮั่นเต็มไปด้วยความดีใจอย่างยิ่งยวด ท่ามกลางเสียงตะโกนเรียกเทพสงครามดังเอ็ดอึงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งแผ่นดิน “ในที่สุดต้าฮั่นก็มีชัยเหนือไท่หยวนเพราะบุรุษอาภรณ์ดำจริงๆ ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เหมือนความฝันไม่มีผิด เป็นการรบที่น่าสะพรึงกลัวและน่าหวั่นเกรงเป็นยิ่งนัก หากเป็นคนธรรมดาจะต้องไม่สามารถเอาชนะอู๋ฮ่าวเทียนได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ข้าเชื่อแล้วว่าบุรุษอาภรณ์ดำคือเทพสงครามจริงๆ”ชินอ๋องรับสั่งออกมาจากความรู้สึกของพระองค์พร้อมกับยอมรับเทพสงครามที่กำลังเห็นตัวเป็นๆ อยู่ในขณะนี้อย่างไร้ข้อกังขา ในขณะที่เจิ้งหู่ก็มีความรู้สึกไม่แตกต่างกัน “ในที่สุดเทพสงครามก็บังเกิดขึ้นจริงๆ ต้าฮั่นช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือจนได้รับชัยชนะ ทั้งๆ ที่โอกาสแทบไม่มีเอาเสียเลย อีกทั้งอาจต้องเสียแผ่นดินให้แก่ไท่หยวนเสียด้วยซ้ำ” เจิ้งหู่กล่าวออกมาด้วยความดีใจอย่างยิ่งยวดและภาคภูมิใจต่อเทพสงครามตรงหน้าที่กำลังโอบอุ้มร่างของเจ้าแคว้นคนงามอยู่ในอ้อมแขนขณะนั้น พร้อมสุรเสียงของชินอ๋องตะโกนก้องขึ้น “เฟิงหยาง! ตอนนี้อู๋ฮ่าวเทียนก็จบชีวิตลงแล้ว รีบจัดการกับแคว้นไท่หยวนต่อไปได้เถิด หลังกำแพงยักษ์นี้เต็มไปด้วยความมั่งคั่งและทรัพย์สินมีค่าจนล้นพระคลังหลวงของซางเป่ย อีกทั้งผู้คนภายในแคว้นไท่หยวนล้วนแข็งแรง โดยเฉพาะบุรุษมีแต่กำยำ บึกบึนทั้งสิ้นเหมาะยิ่งนักที่จะนำมาเป็นทาสใช้แรงงาน สตรีก็ไม่ต่างกันแข็งแรงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าบุรุษ” รับสั่งของชินอ๋องทำให้ราชาปีศาจซึ่งกำลังนั่งทอดพระเนตรเจ้าแคว้นหน้าสวยอยู่ในขณะนั้น เงยหน้าขึ้นทอดพระเนตรกำแพงยักษ์ของแคว้นไท่หยวนทันใด แอด!!! ประตูเมืองขนาดมหึมากำลังถูกเปิดออกอย่างช้าๆ พร้อมร่างของบรรดาแม่ทัพน้อยใหญ่รวมไปถึงชาวเมืองไท่หยวนต่างพากันวิ่งออกมาจากประตูเมือง ตรงมาหาเจ้าแคว้นที่อยู่ในอ้อมกอดของผู้บัญชาการทัพต้าฮั่นโดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว ที่ไม่สามารถรบจนนำชัยชนะเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ก็เพราะอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นราชาปีศาจผู้ยิ่งใหญ่จากดินแดนปีศาจนั่นเอง ทันทีที่บรรดาแม่ทัพรวมไปถึงชาวเมืองไท่หยวนประมาณเกือบหนึ่งร้อยคนวิ่งมาถึงกลางสนามรบที่เพิ่งผ่านพ้นไป ทั้งหมดต่างทรุดกายลงนั่งคุกเข่าลงกับพื้นทันทีเพื่ออ้อนวอนบุรุษอาภรณ์ดำที่กำลังนั่งมองเหล่ามนุษย์อยู่ในขณะนั้น “ได้โปรดคืนเจ้าแคว้นให้กับไท่หยวนด้วยเถิดขอรับ อย่านำพระศพของฝ่าบาทไปแขวนประจานในฐานะผู้พ่ายแพ้สงคราม ข้าน้อยคือแม่ทัพใหญ่ของไท่หยวนขอแลกหัวของตัวเอง เพื่อที่จะนำพระศพของฝ่าบาทกลับคืนไปจัดการตามประเพณี ขอท่านแม่ทัพได้โปรดส่งคืนฝ่าบาทให้แก่พวกเราด้วย!” แม่ทัพซือโฉวกล่าวพร้อมก้มศีรษะโขกกับพื้นดินติดต่อกันอย่างไม่หยุดพร้อมเสียงแม่ทัพคนอื่นๆ ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกันรวมไปถึงเสียงร่ำไห้ของชาวเมือง “ได้ดปรดคืนเจ้าแคว้นให้พวกข้าน้อยด้วยเถิด! คืนเจ้าแคว้นให้พวกเราด้วย อย่าทำพระองค์เลย”ชาวเมืองไท่หยวนต่างพากันพูดขอร้องอย่างน่าสงสาร พร้อมก้มศีรษะโขกพื้นดินติดต่อกันพร้อมเพรียง เล่นเอากองทัพต้าฮั่นถึงกับนิ่งงันไปตามๆ กัน ที่เห็นบรรดาทหารและชาวเมืองไท่หยวนต่างรักและเทิดทูนเจ้าแคว้นของพวกตนมากมายถึงเพียงนี้ “ไม่คิดเลยว่าอู๋ฮ่าวเทียนจะครองใจพสกนิกรของตัวเองและกุมหัวใจบรรดาแม่ทัพและทหารเอาไว้ทั้งหมด ช่างน่ายกย่องยิ่งนัก”เจิ้งหู่ถึงกับออกปากชื่นชมด้วยความรู้สึกที่ออกมาจากใจ “จะอย่างไรก็แล้วแต่ขึ้นชื่อว่าแพ้สงครามก็ต้องทำตามคำสั่งของผู้ที่สามารถเข้ายึดครอง อย่ามาเสียเวลาอ้อนวอนอีกต่อไปเลย หาไม่แล้วจะมีสภาพไม่แตกต่างไปจากเจ้าแคว้นของพวกเจ้า!”เสียงของลั่วจิ้งในร่างของไท่จื่อแห่งต้าฮั่นพูดสวนขึ้นมาหลังจากที่นิ่งเงียบอยู่เป็นนาน แม้ว่าดวงจิตของลั่วจิ้งเทพนอกรีตจากเผ่าหงส์จะหลุดมาติดอยู่ในร่างของหลิวจินซานรัชทายาทของต้าฮั่นก็ตามที แต่ถึงอย่างไรความรู้สึกและความนึกคิดจากร่างดังกล่าวจะแทรกขึ้นมาอยู่เป็นระยะๆ ในช่วงแรก ซึ่งเป็นนิสัยดั้งเดิมของหลิวจินซานที่ไม่เคยใส่ใจกับความรู้สึกของผู้ใดทั้งสิ้นจนกว่าเวลาจะผ่านพ้นไป 180 วัน ความเป็นตัวตนของลั่วจิ้งจึงจะเข้ามาแทนที่ และคำกล่าวที่ออกจากปากองค์ไทจื่อเช่นนั้น ทำให้ชินอ๋องและเจิ้งหู่ ต่างหันกลับไปมองรัชทายาทแห่งต้าฮั่นด้วยความแปลกใจเมื่อได้ยินถ้อยคำที่บ่งบอกความเป็นตัวตนดั้งเดิมของหลิวจินซาน “ความจำของจินเอ๋อกลับคืนมาแล้วอย่างนั้นเหรอ”ชินอ๋องเอ่ยออกมาทันทีพร้อมหันกลับไปทอดพระเนตรเจิ้งหู่ ในขณะที่อีกฝ่ายส่ายหน้าไปมาติดต่อกัน “กระหม่อมก็ไม่ล่วงรู้เช่นกันพ่ะย่ะค่ะ คงต้องรอผู้บัญชาการตรวจดูอาการ”เสนาบดีใหญ่ตอบกลับไป ในขณะที่คำกล่าวของไทจื่อแห่งต้าฮั่นที่พูดสวนออกไปนั้น ทำให้บรรดาแม่ทัพและชาวเมืองของไท่หยวนต่างพากันหยุดชะงักทันทีก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองบุรุษอาภรณ์ดำ “ทะ..ท่าน”คำพูดที่อยากจะเอ่ยขอร้องออกมาพลันต้องหยุดชะงักลงทันใด เมื่อทุกสายตาต่างสบประสานพระเนตรกับราชาปีศาจซึ่งกำลังทอดพระเนตรเหล่ามนุษย์ที่กำลังขอร้องพระองค์อยู่ในขณะนั้นเช่นกัน “เจ้าแคว้นของพวกเจ้ายังไม่ตายสบายใจเถิด บาดแผลที่ได้รับข้าจะรักษาให้เอง”จอมมารรับสั่งตอบกลับไป พระองค์กระชับร่างของเจ้าแคว้นคนงามไว้ในอ้อมกอดก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ท่ามกลางความดีใจของบรรดาแม่ทัพและชาวเมืองไท่หยวน “ขอบพระคุณขอรับ! ขอบพระคุณท่านแม่ทัพ”เสียงกล่าวขอบคุณดังแทรกขึ้นจนฝ่ายกองทัพของต้าฮั่นได้ยิน “พวกไท่หยวนต่างพากันดีใจอะไรกันเหรอ โขกศีรษะคำนับกันยกใหญ่”ลั่วจิ้งเอ่ยขึ้นด้วยความแปลกใจ แต่ยังไม่ทันจะมีผู้ใดตอบกลับมาเสียงของจอมมารเฟิงหยางดังกระหึ่มขึ้นมาทันที “ข้า! คือผู้บัญชาการทัพแห่งต้าฮั่น แม้ไท่หยวนจะพ่ายแพ้สงคราม แต่ต้าฮั่นจะปฏิบัติต่อไท่หยวนดั่งเมืองพี่เมืองน้อง ให้ได้รับความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการเกณฑ์ไพร่พลชายหญิงเป็นเชลยศึก ไม่มีการริบทรัพย์สินในท้องพระคลังของวังหลวงและ ประชาชนของไท่หยวนจะยังคงอยู่อย่างสงบเช่นเดิม ภายใต้การปกครองของต้าฮั่นตลอดไป หากผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของข้าให้ประหารทันที!”จอมมารรับสั่งสุรเสียงกึกก้องได้ยินไปทั่วทั้งกองทัพ “อาจารย์!”เสียงของลั่วจิ้งดังแทรกขึ้นมาทันใด “หุบปาก!!!”จอมมารตวาดกร้าวสวนกลับทันควันพร้อมหันพระวรกายกลับไปทอดพระเนตร ลั่วจิ้งที่อยู่ในร่างของหลิวจินซาน “ข้าไม่ได้อนุญาตให้เจ้าออกความเห็นใดๆ ทั้งสิ้น จงหุบปากของเจ้าเดี๋ยวนี้! คำสั่งของข้าคือประกาศิต ผู้ใดกล้าคัดค้านจงก้าวออกมา!”จอมมารรับสั่งพร้อมกวาดสายตาไปทั่วบริเวณกองทัพ ซึ่งทหารทุกคน แม่ทัพทุกกองพลรวมไปถึงชินอ๋อง เจิ้งหู่และแม้กระทั่งลั่วจิ้งต่างพากันรีบก้มหน้ามองพื้นหลบสายพระเนตรของจอมมารอย่างรวดเร็ว “ถ้าเช่นนั้นจงปฏิบัติตามที่ข้าสั่ง ให้กองทัพต้าฮั่นที่ล้อมแคว้นไท่หยวนเคลื่อนพลกลับไปพักผ่อนที่ค่าย ส่วนกำลังพลที่ตั้งทัพอยู่หน้าประตูเมืองในขณะนี้ให้พากันแยกย้ายตั้งค่ายพักผ่อนเอาแรง เมื่อถึงวันรุ่งขึ้นรอรับคำสั่งจากข้าอีกครั้ง หลิวหมิ่น! เจิ้งหู่! จินซานและแม่ทัพนายกองคนอื่นๆ ตามข้าเข้าวังหลวงซางเป่ย!”จอมมารทรงมีพระบัญชาได้ยินไปทั่วทั้งกองทัพ ท่ามกลางความเงียบงันของเหล่าทหารที่ไม่มีผู้ใดกล้าคัดค้านแม้แต่น้อย จอมมารหันกลับไปทอดพระเนตรชาวเมืองและเหล่าแม่ทัพของไท่หยวนพร้อมมีรับสั่ง “ในเมื่อพวกเจ้าได้ยินในถ้อยคำที่ข้ากล่าวมาจนหมดสิ้นแล้ว ด้วยถ้อยสัตย์สัญญาจากข้าที่ได้ลั่นวาจาออกไป แคว้นไท่หยวนก็ควรจะล่วงรู้ว่าในฐานะที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงครามต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง จึงจะได้รับสิทธิที่ข้าจะมอบให้แก่พวกเจ้า จงเปิดประตูเมืองของพวกเจ้าเดี๋ยวนี้!!!”จอมมารมีพระบัญชาออกไปทันที เหล่าแม่ทัพไท่หยวนต่างค่อยๆ ลุกขึ้นยืนจากพื้นพร้อมประสานมือเข้าหากันอย่างพร้อมเพรียง “ชาวไท่หยวนจะทำตามสัญญากับฝ่ายต้าฮั่นตามที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้ ไม่มีบิดพลิ้วอย่างแน่นอนขอท่านแม่ทัพได้โปรดวางใจ และขอให้ท่านโปรดช่วยรักษาพระอาการฝ่าบาทของพวกเราด้วย ”ซือโฉวกล่าวแทนชาวไท่หยวนทุกคนที่อยู่ตรงพระพักตร์จอมมาร “ข้ารับปากว่าจะรักษาเจ้าแคว้นของพวกเจ้าอย่างแน่นอน”จอมมารรับสั่งพร้อมยกยิ้มตรงมุมปาก เมื่อพระองค์สามารถจัดการให้เจ้าแคว้นคนงามอยู่ภายใต้กำมือและได้รับการดูแลเอาใจใส่จากราชาปีศาจจอมวางแผน เพื่อนำหินสามภพส่วนที่เป็นหัวใจออกจากร่างของสตรีมนุษย์ในคราบบุรุษ กลับคืนมาดั่งเดิม พระวรกายสูงทะมึนของจอมมารกระชับร่างอรชรเอาไว้ในอ้อมแขนอยู่ตลอดเวลา จอมมารเฟิงหยางก้าวเดินนำหน้าเหล่าแม่ทัพและชาวเมืองไท่หยวน ตรงเข้าไปยังประตูยักษ์ที่กำลังค่อยๆ เปิดออกกว้างเพื่อให้กองทัพต้าฮั่นเข้าไปภายในเมืองหลวงหลังจากที่ไม่ได้เปิดมานานกว่าสามปี ภายในอ้อมแขนของของพระองค์ร่างอรชรของเจ้าแคว้นไท่หยวนในคราบของบุรุษกำลังถูกหินสามภพรักษาอยู่ในขณะนั้น และมีเพียงราชาปีศาจเท่านั้นทรงล่วงรู้ว่าเมื่อรุ่งอรุณของเช้าวันใหม่มาเยือน ร่างที่อยู่ในอ้อมแขนของพระองค์จะกลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยเพราะอำนาจของหินสามภพและหัวใจของพระองค์ที่สถิตอยู่ภายในกายของเจ้าแคว้นผู้นี้ และดูท่าจอมมารจะต้องทรงตั้งรับกับเจ้าแคว้นคนงามที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวดั่งเช่นบุรุษและดูเหมือนว่าจะมีมากเสียยิ่งกว่า ทว่าอู๋ฮ่าวเทียนหรืออู๋อี้เฟยไม่สามารถหนีราชาปีศาจได้อีกต่อไปแล้ว ในเมื่อพระองค์กำลังเปลี่ยนเป้าหมายจากรัชทายาทแห่งต้าฮั่นมาที่เจ้าแคว้นคนงามซึ่งเป็นผู้ครอบครองหินสามภพส่วนที่เป็นหัวใจของพระองค์และมีพลังเวทย์ด้วยกันถึงเก้าส่วน ขึ้นชื่อว่าราชาแห่งปีศาจทั้งปวง ประมุขผู้ครอบครองแผ่นดินปีศาจเอาไว้ทั้งหมด ณ ดินแดนซือไฮปาฮวงมีหรือจะทรงไม่ได้เปรียบทั้งสองฝ่าย ในเมื่อจอมมารเฟิงหยางเลื่องชื่อยิ่งนักบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ถึงความเจ้าเล่ห์เต็มไปด้วยเพทุบายและฉลาดปราดเปรื่อง แต่เต็มไปด้วยคุณธรรมจนได้รับการยกย่อง แม้กระทั่งจักรพรรดิสวรรค์ยังต้องยอมรับกับความเก่งกาจของพระองค์ในข้อนี้ แล้วมนุษย์เล่าจะทำให้ราชาปีศาจพลาดท่าเสียทีได้อย่างไร ทั้งต้าฮั่นและไท่หยวนต่างตกอยู่ในกำมือภายใต้อำนาจของราชาปีศาจโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอยู่ในคราบของผู้บัญชาการทัพแห่งต้าฮั่นที่มีชัยเหนือไท่หยวนโดยใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วยามเท่านั้นเอง และเป็นครึ่งชั่วยามที่เต็มไปด้วยเหตุการณ์ซึ่งถูกบันทึกอย่างละเอียดจากเจิ้งหู่ ผู้เห็นเหตุการณ์ในครั้งนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ สงครามที่ไม่ใช้กำลังทหารแม้แต่ผู้เดียว มีเพียงผู้บัญชาการทัพนามว่าโจวเฟิงหยางเท่านั้นที่ลงมือจัดการไท่หยวนตามลำพัง และเป็นที่มาของสมญานาม เทพสงคราม นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม