พรึบ! ดวงตาสีเลือดลุกโชนขึ้นมาโดยพลันพร้อมรอยยิ้มเย็นยะเยือกฉาบอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา
เฮือก!!! โฉมสะคราญสะดุ้งจนสุดตัวครั้นได้เห็นดวงตาสีเลือดคู่นั้นปรากฏอยู่และไม่เลือนหายแต่อย่างใด ยังคงจับจ้องนางเขม็งอยู่เช่นนั้น
ดวงตาปีศาจ!”อู๋อี้เฟยพูดออกมาโดยไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อย ท่ามกลางเสียงหัวเราะต่ำๆอยู่ในลำคอของอีกฝ่าย
“เก่ง! สมดั่งคำร่ำลือไปทั่วหล้า อีกทั้งไม่ตื่นตระหนกและหวาดกลัวที่เห็นดวงตาปีศาจแม้แต่น้อย”
ถ้อยประโยคดังกล่าวทำให้อู๋อี้เฟยเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างขบขันครั้นได้ยินเช่นนั้น
ข้าเกิดมาไม่เคยกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ข้าไม่เกรงกลัวทั้งสิ้น และชีวิตของเจ้ามีเพียงข้าเท่านั้นที่จับจอง! เจ้าจะต้องตายด้วยน้ำมือของข้า!”อดีตเจ้าแคว้นไท่หยวนคำรามลั่น
ฉับพลันเสียงหัวเราะของอีกฝ่ายแผดออกมาอย่างกึกก้องจนพื้นแผ่นดินสั่นสะเทือนไปทั่วหล้า ในขณะที่ร่างงามอรชรของอดีตเจ้าแคว้นไท่หยวนถูกจอมมารร่ายเวทย์ตรึงร่างเอาไว้ ยังคงต้องยืนเผชิญหน้ากับราชาปีศาจจากแดนสวรรค์อยู่เช่นนั้นท่ามกลางแผ่นดินที่กำลังสั่นสะเทือน
เสียงหัวเราะของอีกฝ่ายร่างสูงใหญ่ที่ยืนซ้อนทับนางอยู่ด้านหลังในขณะนั้น ก้าวเดินออกมาอย่างช้าๆ ก่อนจะมาหยุดยืนเผชิญหน้ากับนาง ชุดเกราะสีดำทะมึนของเทพสงครามจากต้าฮั่นที่สวมอยู่บนร่าง ช่างขับกับใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพสวรรค์เป็นยิ่งนัก งดงาม คมเข้ม ดุดันเป็นที่น่าหวั่นเกรงอย่างยิ่งยวด
“พูดได้ดี!”จอมมารพูดพลางแสยะยิ้มเหยียดออกมาบางๆ
ร่างใหญ่สูงตระหง่านก้าวเดินมาประชิดอยู่ตรงหน้า ดวงตาสีเลือดจับจ้องดวงหน้างามของอีกฝ่ายชนิดที่เรียกได้ว่าหากสามารถกลืนลงท้องได้คงขย้ำนางไปนานแล้ว วรกายใหญ่โน้มตัวลงต่ำในขณะที่อีกฝ่ายเห็นท่าไม่ดีว่ากำลังมีบางอย่างเกิดขึ้นกับนาง
“เจ้าจะทำอะไร!”อู๋อี้เฟยตวาดถามกลับไป
หากแต่จอมมารหนุ่มกลับไม่ยอมเอ่ยถ้อยเจรจาแต่อย่างใด ดวงตาสีเลือดยังคงจับจ้องอยู่แต่โฉมงามตรงหน้าที่ไม่อาจขยับเขยื้อนร่างกายของนางได้แม้แต่น้อย ก่อนจะมาหยุดมองที่ริมฝีปากอวบอิ่มน่าสัมผัสจุมพิตอย่างยิ่งยวด
“ข้าก็แค่...”เอ่ยเพียงเท่านั้น มือใหญ่หากแต่เรียวสวยสอดไปที่ท้ายทอยประคองต้นคอขาวผ่องเอาไว้ทันที
“ต้องการจุมพิตเจ้าก็เท่านั้น”
ห๊ะ! เสียงอุทานดังออกมาจากปากของคนงามและพลันเงียบงันลงไปทันที
เมื่อเรียวปากอวบอิ่มถูกราชาปีศาจประกบจุมพิตบดเบียดลงมาอย่างรวดเร็ว จูบนั้นช่างเร่าร้อนดูดดื่มแต่กลับแสนหวานยิ่งนักโฉมสะคราญถูกบดเบียดกลีบปากบางแทบละเอียดแหลกลาญไปกับจูบแรกในชีวิตที่ได้รับในครั้งนี้ พร้อมเสียงกระซิบแนบชิดริมหู
“จดจำข้าเอาไว้ให้ดี บุรุษเดียวที่จุมพิตเจ้าได้มีเพียงข้าเท่านั้น...คิดจะสวมรอยเข้าอภิเษกกับบุรุษอื่นที่ไม่ใช่ข้า อย่าหวังว่าจะกระทำได้ เจ้าคิดผิดเสียแล้วเฟยเฟย!!!”เสียงกระซิบแผ่วหากแต่เย็นยะเยียบแกมขู่แฝงคำตัดพ้อต่อว่าด้วยความน้อยใจอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด
และถ้อยคำดังกล่าวทำให้ดวงตากลมโตของคนงามเบิกกว้างขึ้นมาทันที เหตุใดแม่ทัพต้าฮั่นผู้นี้จึงล่วงรู้แผนการของนางอีกทั้งยังเรียกชื่อเล่นสตรีซึ่งมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ล่วงรู้ได้อย่างถูกต้องเสีย
“มันเรื่องของข้า!!!!”แม่ทัพสาวตวาดกลับไป
หมับ!!! พระหัตถ์ใหญ่ของราชาปีศาจตรงเข้าขย้ำลำคอระหงเพียงข้างเดียวก็สามารถรวบเอาไว้ทั้งหมดพลันแค่ออกแรงบีบกระดูกต้นคอของนางต้องแหลกละเอียดเป็นผุยผงเพียงชั่วพริบตา
“เรื่องของเจ้าก็คือเรื่องของข้าเช่นกัน! พระสวามีของเจ้าจะต้องเป็นข้าเท่านั้น! จำเอาไว้”จอมมารขี้โมโหคำรามลั่น
ด้วยเพราะพระอารมณ์หึงหวงสตรีสาวตรงหน้าปะทุขึ้นมาโดยพลัน พระเนตรสีเลือดลุกโชนวาววับเป็นที่พรั่นพรึงยิ่งนักยามเมื่อพิโรธมิคลาดครา
อู๋อี้เฟยแน่ใจขึ้นมาทันใดว่าบุรุษตรงหน้านางในคราบของเทพสงครามแห่งต้าฮั่น แท้จริงแล้วหาใช่มนุษย์
“เจ้าไม่ใช่เทพสงครามแห่งต้าฮั่นแต่เป็นปีศาจที่ไม่ใช่คน! เป็นตัวอะไรกันแน่! แฝงเร้นตัวตนที่แท้จริงอยู่ภายในร่างของมนุษย์เช่นนี้มุ่งหวังสิ่งใด!”อู๋อี้เฟยถามสวนกลับไป
ทันทีที่จอมมารเฟิงหยางได้ยินสตรีของพระองค์ถามกลับมาเช่นนั้น พระพักตร์หล่อเหลาคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย พระเนตรสีเลือดทอดพระเนตรใบหน้างามเย้ายวนใจของสตรีมนุษย์คนแรกที่กุมหัวใจของพระองค์เอาไว้ได้
“สิ่งที่ข้ามุ่งหวังก็คือเจ้า!”คำตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความทำให้อีกฝ่ายยืนนิ่งงัน
“แต่ข้าไม่ใช่ของเจ้า!”อู๋อี้เฟยตวาดกลับไปทันที
“เจ้าเป็นของข้า! เป็นสตรีต้องห้ามที่ชายใดมิอาจแตะต้องได้อดีตเป็นเชลย ในยามนี้ก็ยังคงเป็นเชลยของข้าเช่นเดิม ในเมื่อข้าตามติดเจ้าไปทุกหนทุกแห่งมีหรือที่จะรอดพ้นจากสายตาของข้าได้ แม้ไม่ได้ถูกคุมขังแต่ก็เป็นเชลยของข้าไปตลอดกาล! ไม่มีทางที่เจ้าจะหนีข้าพ้นอู๋อี้เฟย!!!”จอมมารรับสั่งชื่อเต็มของโฉมสะคราญออกมาทันที
และถ้อยรับสั่งดังกล่าวเป็นเหตุให้อดีตเจ้าผู้ครองแคว้นแห่งไท่หยวนตกตะลึงไปโดยพลัน เหตุใดแม่ทัพผู้นี้จึงล่วงรู้ตัวตนจริงของนางได้ดีถึงเพียงนี้ด้วยเล่า
“เจ้าล่วงรู้ฐานะที่แท้จริงของข้าได้อย่างไง มีตาทิพย์อย่างนั้นเหรอ จึงสามารถสอดส่องเห็นข้าไปทุกหนทุกแห่งและล่วงรู้ไปเสียทุกเรื่องเจ้าปีศาจ!!!”รัชทายาทคนงามถามกลับไป
และนั่นทำให้จอมมารหนุ่มส่งยิ้มแย้มเยือนกลับไปให้อีกฝ่ายครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น
“อยากรู้มากอย่างนั้นเหรอว่าเพราะเหตุใดข้าจึงล่วงรู้ตัวตนของเจ้า และสามารถตามติดไปทุกหนทุกแห่งดั่งเช่นเงาตามตัว”รับสั่งถามกลับไป
ในขณะที่อดีตรัชทายาทโฉมงามยังคงยืนจ้องใบหน้าหล่อเหลาของจอมมารเขม็งตาไม่กะพริบอยู่ในขณะนั้น
“ข้าก็แค่อยากรู้ว่าเจ้าใช้เล่ห์กลอำพรางใดจึงสามารถล่วงรู้ความลับของข้ามาได้!”กล่าวพร้อมใช้สายตาสำรวจตั้งแต่พระเศียรของจอมมารจรดพระบาทอย่างถี่ถ้วน
“ดูท่าเจ้าอาศัยที่ตัวตนนั้นรูปงามดั่งเทพสวรรค์จึงหลอกล่อสตรีที่ใกล้ชิดข้าที่สุดจึงล่วงรู้มาอย่างนั้นสิ หาไม่แล้วมีหรือจะล่วงรู้ความเป็นไปต่างๆ เช่นนี้”เจ้าแคว้นโฉมงามถามตามความคาดเดา
“ออ..เจ้าคิดเช่นนั้นเหรอ!”รับสั่งพร้อมก้าวประชิดร่างงามพลางก้มพระวรกายลงต่ำซึ่งความสูงของอีกฝ่ายอยู่เพียงแค่ระดับหน้าอกของพระองค์เท่านั้น
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ลองดูให้เต็มตาว่าเพราะอะไรข้าจึงล่วงรู้และติดตามเจ้าไปได้ทุกหนทุกแห่ง”รับสั่งพร้อมดีดนิ้วพระหัตถ์เรียวสวยร่ายเวทย์สำแดงร่างจริงของพระองค์ออกมาโดยพลัน
เพียงชั่วพริบตาชุดเกราะของแม่ทัพแห่งต้าฮั่นเลือนหายไปโดยพลัน แปรเปลี่ยนเป็นฉลองพระองค์สีดำทะมึนของจอมมารเข้ามาแทนที่ บริเวณกลางหน้าผากปรากฏสัญลักษณ์ของราชาปีศาจ รูปร่างดั่งเปลวไฟลุกวาววับทอแสงสีเพลิงลามเลียไปทั่วและเขางอกยาวโผล่ขึ้นมาจากขมับทั้งสองข้าง ด้วยเพราะราชาปีศาจร่างเดิมคือมังกรดำนั่นเอง
“จดจำข้าในขณะนี้เอาไว้ให้ดีว่าเป็นอย่างไร เจ้าคือเชลยของข้าคิดหรือว่าจะหนีพ้น!!!”