เมื่อสามีกลับบ้าน

1817 คำ
พอออกจากห้องน้ำเสร็จ รินลดาเดินไปที่โต๊ะทำงานของเธอ หัวหน้าหนุ่มยืนรออยู่นานแล้ว ในมือเขาถือแฟ้มบางอย่าง “สวัสดีครับคุณหลิน เมื่อคืนหลับสบายไหมครับ” “สวัสดีค่ะบอส” หญิงสาวตอบ “เมื่อคืนคุณหลินเป็นอย่างไรบ้างครับ” “ไม่เป็นไรค่ะ แต่คุณปกรณ์คะ หลินว่าเราไม่ควรพูดถึงเรื่องเมื่อคืนกันอีกนะคะ เดี๋ยวพนักงานคนอื่น ๆ ได้ยินแล้วจะเอาไปนินทาได้นะคะ” “งั้นคุณชงกาแฟไปให้ผมที่ห้องแก้วหนึ่งนะ” “ได้ค่ะ” เลขาสาวรับคำ ก๊อก ก๊อก ก๊อก “เข้ามาได้” “กาแฟได้แล้วค่ะ” เลขาสาววางแก้วกาแฟ อุ่น ๆ ตรงหน้าเขา ชายหนุ่มยิ้ม ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินอ้อมเข้ามาโอบเอวหญิงสาวทางด้านหลัง จากนั้นซุกไซร้ซอกคอ ติ่งหู อารมณ์เสียวซ่านเมื่อคืน มันได้ติดขึ้นมาอีกหนึ่งรอบ ทั้งเขาและเธอนั้นก็ต่างมีความต้องการซึ่งกันและกัน หญิงสาวปล่อยให้เขาทำอย่างนั้นอยู่พักใหญ่ เพราะเหน็ดเหนื่อยจากที่อยู่บนรถเมล์มา หล่อนเลยไม่อยากออกแรง ปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายกระทำอยู่เพียงข้างเดียว เมื่อชายหนุ่มพอใจแล้วจึงปล่อยเลขาสาวให้เป็นอิสระ “ผมคิดถึงคุณครับหลิน เมื่อคืนผมนอนไม่หลับเลย” หัวหน้าหนุ่ม บอกความในใจกับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ปกรณ์พาหล่อนมานั่งที่โซฟาตรงข้ามกับโต๊ะทำงานเขา “วันนี้หลินไม่ใส่ถุงน่องมาเหรอครับ” ชายหนุ่มมองเรียวขาของเธอ แล้วเอ่ยถาม “วันนี้หลินลืมค่ะ ก็บอสแหละทำให้หลินตื่นสาย รีบมากเลยลืมใส่” หญิงสาวต่อว่า “คุณยอมรับแล้วสิ ว่าเมื่อคืนคุณก็นอนไม่หลับเหมือนผม” “บอสจะไม่ทานกาแฟก่อนหรือคะ” เมื่อเห็นว่าเขาไม่หยุด เลยหาทางให้เขากินกาแฟแทน ก่อนที่ชายหนุ่มจะกินเธอตรงนี้ “ผมไม่กิน ผมอยากกินหลินมากกว่า” “วันนี้ไม่ได้นะคะ สามีหลินกลับบ้าน แล้ววันนี้หลินต้องรีบกลับบ้านไปเอาผ้าปูที่นอน และผ้าห่มไปซักค่ะ เพราะเมื่อคืนเลยฝีมือบอส ล้วน ๆ” “วันนี้ ตัวหลินหอมจัง ใช้น้ำหอมยี่ห้อไหนเหรอ” “ไม่ใช้ค่ะกลิ่นตัวของหลิน ล้วนๆ” แท้จริงแล้วหล่อนเพิ่งพรมน้ำหอมในห้องน้ำเมื่อกี้ เพราะดับกลิ่นสาปชายโรคจิตที่เจอบนรถเมล์ “ล้อเล่นค่ะ ผู้หญิงกับน้ำหอมเป็นของคู่กันนี่คะ ถ้าบอสอยากรู้ก็ต้องพิสูจน์สิคะ” ว่าแล้วชายหนุ่มก็ก้มหน้าไปตามกลิ่นน้ำหอมที่มาจากตัวเธอ ทั้งเนินอก ซอกคอ ติ่งหู เขาดมมันไปทั่วทุกจุด “หลินต่อไปนี้ คุณให้ผมไปรับมาทำงานดีมั้ยครับ” หัวหน้าหนุ่มพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วงไม่อยากเห็นรินลดาต้องลำบากขึ้นรถเมล์มาทำงานแบบนี้ เขาอยากทะนุถนอมเก็บเธอไว้ให้เป็นของเขาเพียงคนเดียว “อย่าเลยค่ะ ลำบากบอสเปล่า ๆ บอสไม่กลัวพนักงานจะสงสัยหรือคะ” “ไม่เห็นเป็นไรเลย” เขาหยักไหล่ท่าทางกวนโทสะที่สุด “หลินไม่ใช่คนโสดนะคะ บอสนั่นแหละจะดูไม่ดีเอา พนักงานคนอื่น ๆ จะเอาบอสไปนินทาได้” ชายหนุ่มถอนหายใจแล้วก็เดินไปที่โต๊ะทำงาน เขาไปนั่งลงที่เก้าอี้ ยกกาแฟที่เย็นชืดขึ้นมาจิบ แล้วเอ่ยกับเลขาสาวว่า “งั้นวันนี้ผมชวนคุณไปกินมื้อกลางวันได้ไหม” “บอสคะ หลินมีนัดทานข้าวกับจอยแล้ว ถ้าบอสจะมานั่งด้วยก็ไม่เป็นไรนี่คะ” “ผมหมายถึง ร้านอาหารข้างนอกไง” ชายหนุ่มตอบ “แต่วันนี้บอสมีนัดกับกลุ่มผู้ลงทุนที่จะมาเจรจาตอนบ่ายโมงนะคะ” เลขาสาวพูดขึ้นเพื่อเตือนหัวหน้าของเธอ “ถ้าออกไปกินข้างนอก หลินว่าบอสกลับมาประชุมไม่ทันแน่ ๆ” ชายหนุ่มยิ้มขึ้นแล้วเดินมาที่หญิงสาว “งั้นหลินขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” หล่อนพูดขึ้นเพื่อมาตัดบท ไม่อยากหายมาอยู่ห้องเจ้านาย นานๆ พูดจบหัวหน้าหนุ่มก็ขโมยจูบหล่อนทันที วันนี้ทุกอย่างราบรื่นดี ทั้งที่ประชุมแผนรับรองลูกค้า กลุ่มผู้ลงทุน เลขาของเขาทำงานได้อย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง “เลขาคุณปกรณ์นี่ ทั้งสวยและเก่งนะครับ” ผู้ร่วมลงทุนท่านหนึ่งเอ่ยขึ้น “ขอบคุณครับ เธอเพิ่งจะเข้ามาเป็นเลขาฯ ผม ได้ไม่นานครับ คงต้องปรับตัวอีกเยอะ เมื่อถึงพักกลางวัน รินลดาก็ลงมาทานข้าวกับจอย หลังทานอาหารเสร็จแล้ว เพื่อนสาวก็เอ่ยขึ้น “วันนี้ดูหลินเพลีย ๆ ไม่ค่อยสดชื่นเลย นอนไม่หลับเหรอ” “เปล่าหรอก” รินลดาตอบเพื่อนสาว “เออ...แล้วเมื่อคืนละ? หลินกลับบ้านดึกมั้ย” “ก็รอฝนหยุดแหละแต่รถเมล์ไม่มาสักที บอสเขาเลยอาสาไปส่งหลินที่บ้าน” “นี่หลิน จอยมีเรื่องจะเตือน เมื่อก่อนนะ เลขาคนเก่าคุณปกรณ์ ที่โดนไล่ออกไป ก็เพราะตามจีบคุณปกรณ์เนี่ยแหละ ท่านประธานไม่ชอบ เพราะเขาจองไว้ให้ลูกสาวของตัวเอง” “หลินยังไม่เคยเห็นท่านประธานสินะ” “คุณศรีสุภางค์” นึกชื่อขึ้นได้ หญิงสาวเลยรีบตอบเพื่อน “ใช่เลยนั่นแหละ หลิน” แต่ก่อนคุณพ่อคุณปกรณ์ ท่านเป็นประธานบริษัท พอท่านเสีย ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ๆ เทขายหุ้นให้คุณศรีสุภางค์กันหมด จะเหลือแต่หุ้นของคุณปกรณ์กับคุณแม่คุณปกรณ์เท่านั้น คุณศรีสุภางค์เลยได้เป็นประธานบริษัทเพราะท่านมีหุ้นเยอะที่สุด ส่วนคุณปกรณ์ก็เป็น CEO “คุณศรีสุภางค์เองแหละที่ให้จอยคัดเลือก เลขาฯ ที่มีครอบครัวแล้วเท่านั้นให้คุณปกรณ์เลือก จอยเป็นคน ส่งใบสมัครของหลินให้คุณปกรณ์เองกับมือเลย” หัวหน้าฝ่ายบุคคลกล่าว เพราะในใบประวัติของรินลดาระบุไว้ว่าเธอมีครอบครัว มีลูกแล้ว คุณศรีสุภางค์เลยเลือกให้เธอเป็นเลขาฯ ของคุณปกรณ์ “ตอนนี้คุณ ศรีสุภางค์ ท่านไปดูงานที่ญี่ปุ่น สักพักหลินคงได้เห็นเขาบ่อย ๆ แหละ” หลังจากคุยกันเสร็จ ทั้งสองสาวก็แยกย้ายกันไปทำงาน เสียงโทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะดังขึ้น เลขาสาวหยิบขึ้นมาดู เบอร์ปลายสายที่โทรเข้ามาคือสามีของหล่อน “สวัสดีค่ะพี่แบงค์” เสียง เรียบ ๆ ของหญิงสาวพูดขึ้นเมื่อกดรับโทรศัพท์ “หลินจ๊ะ วันนี้พี่มีเพื่อนร่วมงานจะไปสังสรรค์ต่อที่บ้านเรา หลินสะดวกมั้ย” “อืม.......ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบช้าเพราะไม่อยากให้ใครมาอยู่ที่บ้านนานๆ “แล้ววันนี้พี่แบงค์จะให้หลิน ทำกับข้าวไหมคะ” “ไม่ต้องก็ได้จ๊ะหลิน เดี๋ยวพี่จะซื้อเข้าไปเอง” “งั้นแล้วแต่พี่แบงค์เลยค่ะ แต่ถ้าเพื่อนพี่อยู่ดึกเกินหลินต้องขอตัวนะคะ” “ได้สิจ๊ะ” สามีเธอตอบอย่างดีใจ “โอเค ได้จ้ะ ถ้างั้นเดี๋ยวเย็นเจอนะ” สิ้นเสียง รินลดาวางโทรศัพท์ลงแล้วถอนหายใจ ครุ่นคิดว่าวันนี้สามีแปลกๆ หล่อนไม่ค่อยเห็นเขาพาใครมาที่บ้าน หลังเลิกงานรินลดาก็รอรถเมล์กลับบ้าน วันนี้ต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนทั้งผ้าห่ม แล้วก็เอาไปซัก สามีจะกลับบ้าน เขาคงต้องค้างกับเธอแน่ ๆ ปกติแล้ว สามีจะกลับไปนอนบ้านแม่เขาตลอด จะแวะมาหาเธอบ้าง กินข้าวสักพักแล้วก็กลับ เพราะแม่สามีจะโทรตาม แม่สามีไม่ค่อยชอบตัวเธอ เนื่องจากหล่อนเคยมีสามีมาแล้วแถมยังมีลูกติดอีก กลัวว่าจะมาเกาะลูกชายเธอ ทุกวันนี้หล่อนก็ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสามีเลย ปริ๊น..ปริ๊น..ปริ๊น เสียงแตรรถดังที่หน้าบ้าน สงสัยรถสามีหล่อนมาถึงแล้ว หญิงสาวเหลือบไปดูนาฬิกา เกือบจะสามทุ่มได้ เธออาบแต่งตัวรอสามี เธอสวมชุดลำลอง ไม่ใส่ชุดนอนเพราะจะมีแขกมาที่บ้าน "มาแล้วค่ะ ๆ" รินลดารีบตะโกนบอก เธอรีบเลื่อนประตูออก เมื่อรถเข้ามาจอดสนิทแล้ว ทั้งหมดจึงรถมาจากรถ “สวัสดีครับ คุณรินลดาใช่มั้ยครับ” ชายรูปร่างสูงวัย ดูภูมิฐานคนหนึ่งทักหล่อนขึ้นมาก่อน อีกสองคนกำลังไปเปิดท้ายรถเพื่อเอาของที่เตรียมมาลงจากรถ “สวัสดีค่ะ” รินลดายิ้มด้วยความจริงใจออกมา “หลิน นี่พี่สุธีย์ หรือเรียกว่าเฮียอ๋าก็ได้ เจ้านายพี่เอง” “เรียกว่า เฮียอ๋า จะดีกว่าครับคุณหลิน” เขาส่งยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้า “แบงค์เขาพูดถึงหลินให้ฟังอยู่บ่อยๆ นะครับ” ชายสูงวัยกล่าว “อีกสองคนข้างหลัง คือ พี่เหลิม กับ พี่จ็อต เป็นลูกน้องของเฮียอ๋าเขาอีกที” สามีหล่อนก็พูดขึ้น สวัสดีครับคุณหลิน ผมจ๊อตครับ ชายหนุ่มที่ดูอายุน้อยสุดเดินมาทักรินลดา “สวัสดีครับผมเหลิมนะครับ” คนนี้ท่าทางลุกลี้ลุกลน ใส่หมวกปิดบังใบหน้า ไม่ค่อยกล้าสบตาหญิงสาวในมือถือของบางอย่าง เขายืนอยู่ห่างจากหล่อนมากเขาตะโกนทักทายมา หญิงสาวพยายามนึกใบหน้า มันคุ้น ๆ คล้ายกับโรคจิตที่หล่อนเจอบนรถเมล์ "สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ" หญิงสาวตะโกนทักตอบตามมารยาท เมื่อแนะนำตัวกันเสร็จ สามีก็พาไปยังห้องรับแขก “เหนื่อยมั้ยพี่แบงค์” ภรรยาสาวเอ่ยถามสามีเมื่ออยู่กันสองคน “ไม่เท่าไหร่จ๊ะ ขับรถไกล ๆ พี่ชินแล้ว” "พี่แบงค์จะอาบน้ำเลยมั้ย เดี๋ยวหลินเตรียมให้" “อ่อ...ยังจ๊ะ เดี๋ยวพี่คุยงานกับหัวหน้าก่อน พอดีพี่มีงานต้องเคลียร์ต่อ” “หลินละ อาบน้ำหรือยัง” สามีถามขึ้นหลังจากเดินมาในห้องครัวเพื่อเตรียมชงเหล้าที่ซื้อมาให้เพื่อนร่วมงาน “หลินอาบแล้วค่ะ” “อาบน้ำแล้วทำไมไม่ใส่ชุดนอนละจ๊ะ” “พี่แบงค์จะให้หลินใส่ชุดนอนเนี่ยนะ?” ภรรยาสาวเลิกคิ้วมองหน้าสามี “จะเป็นไรไปละจ๊ะ” “ก็พี่มีแขก หลินคงใส่แบบนั้นไม่ได้หรอก โป๊ตายเลย” “ทำไมจะใส่ไม่ได้ ก็เมียพี่สวยนี่น่า” “แล้วทำไมพี่แบงค์จะต้องอวดใครด้วยละ” ภรรยาสาวมองค้อนชายหนุ่ม หลังจากทั้งคู่ช่วยกันชงเหล้าเสร็จก็ยกมาเสิร์ฟให้แขกที่นั่งรอกันอยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม