ฝนเป็นใจ
ท่ามกลางเมืองกรุงเมื่อประมาณเดือนเศษที่ผ่านมา รินลดาเธอได้ย้ายที่ทำงานใหม่ เป็นบริษัทนำเข้าและส่งออกอาหารทะเลแช่แข็ง เธอได้ทำงานในตำแหน่งเลขานุการ
ซึ่งทำงานหน้าที่เลขาจะต้องใกล้ชิดกับเจ้านายโดยตรง หัวหน้าของหญิงสาวเป็นคนมีอัธยาศัยดี พูดคุยเก่งเป็นกันเองจึงเป็นคนที่ลูกน้องต่างให้ความเคารพนับถือ
รินลดาเหลือบมองนาฬิกาเป็นเวลา 19.39 น.ในขณะที่ฝนกำลังฝนตกหนักมาก พนักงานคนอื่น ๆ ต่างทยอย กลับบ้านกันหมดแล้ว จะคงเหลือแต่เลขาอย่างเธอที่ยังเคลียร์งานและเขียนแผนการประชุมยังไม่เรียบร้อย
“ไปก่อนนะหลิน เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกัน แล้วอย่ากลับดึกล่ะ เราเป็นห่วง”
เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกก่อนที่ตัวเองจะเดินออกประตูไป
“จ้าจอย แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะจ๊ะ”
รินลดาตอบจอย เพื่อนที่ชอบไปนั่งทานข้าวกลางวันกัน ซึ่งก่อนหน้านี้จอยเป็นคนอาสาพาเธอรู้จักกับสถานที่ต่าง ๆ ในบริษัทอย่างเป็นกันเอง นับว่าเธอเป็นเพื่อนคนแรกของรินลดาในที่ทำงานใหม่
ริลดาเห็นว่าจอยเป็นคนคุยสนุก เข้ากับคนได้ง่ายเลยค่อนข้างสนิทสนมกับเธอมากกว่าคนอื่นในบริษัท แต่จะว่าจอยเป็นคนแรกที่เธอรู้จักก็คงจะไม่ถูกนักเพราะจริง ๆ แล้วคนแรกที่หญิงสาวได้รู้จักก็คงจะเป็นเจ้านาย เพราะเขาเป็นคนสัมภาษณ์งานเธอด้วยตนเอง
“บอสยังไม่กลับหรือคะ” รินลดาเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามันเลยเวลาเลิกงานมานานแล้ว
“อ๋อ..ยังครับคุณหลิน ผมมีงานต้องเคลียร์ต่ออีกนิด”
หัวหน้าหนุ่มเอ่ยตอบในขณะที่ตาก็จ้องไปยังแฟ้มเอกสารตรงหน้า
ริลดาเหลือบดูนาฬิกาอีกรอบ การเป็นเลขาบางครั้งก็ต้องกลับบ้านพร้อมกับเจ้านาย แต่เธอจำได้ดีว่าคุณปกรณ์เคยพูดกับเธอไว้ตั้งแต่วันแรกที่มาทำงานว่าไม่ต้องรอกลับพร้อมกับเขาทุกครั้ง เพราะตัวเองนั้นเป็นคนที่มักจะทำงานเพลินจนลืมเวลา
“งั้นหลินกับก่อนนะคะบอส”
“ได้เลยครับ” เขาตอบพร้อมเงยหน้าขึ้นมามองเลขาเป็นเชิงอนุญาต
พอเดินออกมานอกตึกได้เพียงนิดหน่อยฝนที่ตกปรอย ๆ อยู่เมื่อครู่ก็เหมือนจะตกหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอออกมายืนรอรถเมล์สายนี้เป็นประจำเพราะเป็นทางผ่านบ้านของเธอ
ฝนตกหนักมาก ชายหนุ่มแอบมองเห็นรินลดาเปียกปอน จากหน้าต่างห้องทำงาน ซึ่งเขามักแอบมองเธอแบบนี้เป็นประจำตั้งแต่วันแรกที่หญิงสาวเข้ามาทำงานที่นี่
ปกรณ์เห็นว่าเธอยืนรออยู่ตรงนั้นนานแล้ว และฝนก็ตกหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ เจ้านายใจดีอย่างเขาจึงเดินลงมาจากบริษัท ตรงเข้ามาหายังบริเวณที่หญิงสาวยืนอยู่ พร้อมกับร่มสีน้ำเงินคันใหญ่
พอเดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่มก็อยากจะอุ้มริลดาออกไปจากตรงนี้ เพราะชุดฟอร์มทำงานเสื้อสีขาวพอดีตัวที่เธอสวมอยู่นั้น มันแนบไปกับทุกส่วนของร่างกายหล่อน เมื่อโดนเม็ดฝน หน้าอกอันอวบอิ่มที่ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อตัวบาง มองเห็นอย่างเด่นชัดไปถึงบราด้านในที่สวมอยู่
“คุณหลินครับ ผมว่ารอฝนเบากว่านี้ก่อนมั้ยครับ ยืนตากฝนรอแบบนี้เดี๋ยวคุณจะไม่สบายเอานะครับผมเป็นห่วง” ชายหนุ่มพยายามบอกเธอ และเข้าไปยืนกางร่มให้ สองคนแนบชิดในร่มคันเดียว
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรถเมล์ก็คงมา”
“แต่ผมเห็นคุณยืนรอนานแล้วนะครับ”
“นั่นสิคะ ปกติเวลานี้รถจะยังวิ่งอยู่เพราะหลินนั่งประจำ แต่ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้รถถึงมาช้าจัง แต่ก็อย่างว่าล่ะค่ะ ฝนตกรถติด มันเป็นของคู่กัน”
“ผมว่าเรากลับเข้าไปรอข้างในตึกก่อนเถอะครับฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว”
“บอสยังไม่กลับเหรอคะ? เหรอว่า..แค่จะรอเป็นเพื่อนหลิน” รินลดาแกล้งแหย่ถามหัวหน้าหนุ่ม
“ยังครับ ผมเป็นห่วงคุณหลินนะครับ เห็นคุณมารอรถเมล์คนเดียว มืด ๆ แบบนี้ มันอันตรายนะครับ” เขาพยายามบอกหญิงสาว
“ก็ได้ค่ะ รอฝนเบากว่านี้เดี๋ยวหลินออกมาอีกที” รินลดาเชื่อที่เขาบอก เธอจึงเดินตามชายหนุ่มกลับเข้าไปยังที่ทำงานอีกครั้ง ซึ่งระยะทางมันก็แค่สองช่วงคูหาตึก ระหว่างทางเดินปกรณ์ก็ชวนคุย พอขึ้นมาถึงบริษัท ชายหนุ่มก็เดินกลับเข้าไปยังห้องทำงานของเขา ส่วนรินลดาก็นั่งลงบนโต๊ะที่ทำงานของตัวเอง ซึ่งอยู่หน้าห้องเจ้านายหนุ่ม
เวลาผ่านไปสักพักเธอก็เห็นเขาเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วในมือ
“คุณหลินลองจิบชา อุ่น ๆ ก่อนดีมั้ยครับร่างกายจะได้อบอุ่น”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงกล่าวขอบคุณ เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับการบริการแบบนี้จากเจ้านาย เพราะในเวลาปกติแล้วคนที่ทำหน้าที่นี่ก็คงจะเป็นตัวเองเสียมากกว่า
“คุณขึ้นรถเมล์แบบนี้ทุกวันหรือครับ” เขาเอ่ยถามทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วเพราะแอบมองหล่อนอยู่ทุกวัน
“ใช่ค่ะ หลินไปกลับด้วยรถเมล์ มันสะดวกแล้วก็ประหยัดด้วยค่ะ” หญิงสาวตอบพร้อมกับยกชาขึ้นมาจิบคลายหนาว
“ถ้างั้นวันนี้ให้ผมไปส่งที่บ้านดีไหมครับ งานผมเสร็จแล้ว อีกอย่างตอนนี้ดึกมากแล้วด้วย มันอันตรายครับ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น เขาพยายามโน้มน้าวรินลดา ในขณะที่ยกนาฬิกาขึ้นมาดูสลับกับมองหน้าเลขาสาว
“แต่หลินก็ไปกลับแบบนี้เป็นประจำนะคะ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย บางวันคนขึ้นเยอะก็เบียดหน่อย” เธอพยาบามบอกเหตุผล
เพราะใจจริงแล้วก็ไม่อยากอยู่ตามลำพังกับเขานานกว่านี้ เดี๋ยวจะดูไม่ดี เธอไม่อยากเป็นขี้ปากเพื่อนร่วมงาน จะโดนว่าเอาได้ว่าเพิ่งเข้ามาอยู่ก็จะจับเจ้านายเสียแล้ว
เธอจิบชาไป ระหว่างนั้นเขาก็ชวนคุยไปเรื่อย ๆ แต่มีบางครั้งที่หล่อนแอบเห็นว่าเจ้านายนั้นชำเลืองตา มองหน้าอกของเธออยู่บ่อยครั้ง คงเพราะตอนนี้ชุดของเธอเปียกมาก มันเลยทำให้เสื้อสีขาวที่ใส่อยู่มันแนบเนื้อ หน้าอกหญิงสาวเลยเด่นชัดกว่าทุกวันคุยกันได้สักพักปกรณ์ก็พูดขึ้นว่า
“คุณหลินเปลี่ยนชุดเถอะครับ เดี๋ยวคุณจะไม่สบาย พอดีผมมีเสื้อยืดครับเดี๋ยวผมหยิบให้” ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินกลับเข้าไปในห้องทำงาน เลื่อนลิ้นชักใต้โต๊ะทำงานออก หยิบเสื้อยืดออกมาจากนั้นก็เดินเอามาให้กับหญิงสาวที่หน้าห้อง
“ไม่ต้องรังเกียจนะครับ เสื้อตัวนี้ผมซื้อมายังไม่ได้ใส่เลยสักครั้ง กะว่าจะเอาไว้ใส่ไปเล่นฟิตเนสกับเพื่อนครับ แต่มันไม่ว่างสักทีเลย” หญิงสาวมองดูแล้วเป็นเสื้อยืดที่จะรัดรูปไปหน่อย แต่หัวหน้าหล่อนตัวใหญ่ คิดในใจว่าคงใส่ได้พอดี
“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม