คุณหมอภัทรดนัย

1928 คำ
เสียงไซเรนหวีดร้องดังนำมาตั้งแต่ด้านหน้าโรงพยาบาล ตามด้วยเสียงร้องคร่ำครวญเพราะความเจ็บปวดผสานเสียงเอะอะเอ็ดตะโรดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ความวุ่นวายคือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เมื่อผู้ปกครองเด็กหญิงอายุราวสิบห้าปีที่นอนร้องโอดครวญอยู่บนเตียงยืนยันจะตามลูกสาวเข้าไปในห้องฉุกเฉินให้ได้ “ญาติรบกวนรอข้างนอกก่อน เข้าไปไม่ได้นะคะ” พยาบาลที่เปิดประตูออกมารับคนไข้ชี้แจงกับญาติผู้ป่วยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม เลือดที่ไหลออกมาเปื้อนผ้าปูบนเตียง แม้ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่จากการประเมินเบื้องต้น คนป่วยควรได้รับความช่วยเหลืออย่างเร็วที่สุด แต่นั่นกลับไม่นำพา ญาติคนไข้ไม่ฟังแถมยังขึ้นเสียง วางอำนาจด้วยการอวดอ้างบารมีคับจังหวัดของครอบครัวตัวเองสารพัด “นี่พวกเธอไม่รู้หรือว่าฉันเป็นใคร สามีฉันเป็นผู้บริจาครายใหญ่สร้างตึกหลังนี้ แล้วทำไมจะเข้าไปไม่ได้” เสียงตวาดดังลั่นไปทั่วบริเวณด้านหน้า คำพูดจากปากญาติทำให้บรรดาพยาบาลซึ่งทำหน้าที่เป็นด่านหน้ามีสีหน้าไม่สู้ดีนัก เนื่องจากเพิ่งจบใหม่ประสบการณ์จึงยังไม่มากทั้งเรื่องการทำงานและการจัดการสถานการณ์เฉพาะหน้าโดยเฉพาะทางด้านอารมณ์ “แต่มันเป็นระเบียบของทางโรงพยาบาลนะคะ” หนึ่งในนั้นค้าน ขณะพยาบาลอีกคนผลุบหายเข้าไปในห้องเพื่อหาคนที่จะรับมือได้ดีกว่ามาช่วย “อย่ามาเรื่องมากให้มันมากนัก หรือจะให้ฉันโทรหาผู้อำนวยการ ลูกฉันเป็นหนักขนาดนี้ เกิดหมอตรวจไม่ดีทำอะไรพลาดลูกฉันตายขึ้นมาจะว่ายังไง” “ถ้าญาติอยากเข้าก็ให้เข้ามาครับ” เสียงเข้มที่ดังผ่านออกมาจากด้านหลังประตู ทำให้สถานการณ์วุ่นวายที่ดูท่าจะบานปลายไปมากหน้าห้องฉุกเฉินสงบลงชั่วครู่ แต่ก็เป็นแค่ครู่เดียวเท่านั้น!! “นี่ หมอ!! พอ พอ พอ!! แทนที่จะหาสาเหตุแล้วรีบรักษา มาถามอะไรแบบนี้ ลูกฉันเพิ่งอายุสิบห้า มีประจำเดือนมาได้ไม่ถึงปี มาถามคำถามน่าเกลียดแบบนี้กับเด็กได้ยังไง” คนถูกหาว่าหน้าอ่อนแถมบกพร่องในจรรยาบรรณตั้งแต่ผู้อุปการคุณอำนาจใหญ่คับฟ้าเดินเข้ามาเงยหน้าขึ้นมอง ภัทรดนัยมองสบเข้ากับสายตาเอาเรื่องของคุณแม่เจ้ากี้เจ้าการชัดๆ แต่ไม่รู้จะเพราะอารมณ์ขุ่นหรือความจริงจังที่ปรากฏในดวงตาคู่คม ทำให้ผู้ปกครองเด็กสาวต้องยอมสงบปากสงวนคำเสียเอง “ก็เพราะลูกคุณแม่เป็นสาว มีประจำเดือนแล้วไงครับ ผมถึงต้องถามว่าเคยมีเพศสัมพันธ์หรือยัง” นายแพทย์หนุ่มตอบตามตรงอย่างพยายามระงับอารมณ์ มันเป็นคำถามทั่วไปที่เมื่อเจอคนไข้อาการเสี่ยงแบบนี้แล้วแพทย์ต้องถาม แม้ตัวเด็กจะยังส่ายหน้าปฏิเสธว่า ‘ไม่เคยมีอะไร’ ก็ตาม คุณหมอหยิบไฟฉายขึ้นมาส่องตรวจเปลือกตาด้านใน ก่อนหันไปสั่งพยาบาลให้เก็บเลือด เก็บปัสสาวะ และนำตัวคนไข้ไปเตรียมทำอัลตราซาวด์ โดยไม่สนเสียงปรี๊ดแตกจากแม่ของเด็ก!! “ทำไมหมอถามเมื่อกี้ต้องโกหก” ผลการตรวจภายในและอัลตราซาวด์ในช่องท้องที่ปรากฏทำให้คุณหมอต้องหันไปถามคนไข้บนเตียงเสียงเข้ม “รู้หรือเปล่าว่าทำแบบนี้มันอันตรายแค่ไหน” จากการตรวจไม่เจอทารกแต่พบเพียงน้ำเลือดในช่องท้องเนื่องจากท่อนำไข่แตก ถือเป็นภาวะอันตรายซึ่งต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน “แต่หนูกลัวแม่รู้ แม่ต้องด่าหนูแน่ๆ คุณหมออย่าบอกแม่เลยนะ” เด็กสาวซึ่งตอนนี้ใบหน้าซีดเผือดไม่ต่างจากสีริมฝีปากละล่ำละลักบอกเสียงเครือ มือที่สั่นแม้ไม่มีแรงแต่ก็พยายามยกขึ้นประนมไหว้ ส่งสายตาอ้อนวอนขอความเห็นใจจากคุณหมอ ภัทรดนัยลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ สายตาของเด็กสาวต่อให้อ้อนวอนมากกว่านี้ก็ไม่ได้ทำให้เขานึกสงสาร ไม่รู้จะเห็นใจหรืออ่อนใจกับสังคมไทย เมื่อในชีวิตการเป็นแพทย์ของเขาแค่ไม่กี่ปีต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้นับครั้งไม่ถ้วน เมื่อเห็นคุณหมอหนุ่มไม่ฟังแถมยังลุกขึ้นยืนทำท่าจะหันหลังแล้วเดินออกไป เด็กสาวจึงพยายามใช้แรงที่พอมียันตัวลุกขึ้นมา แล้วเอื้อมมือไปรั้งแขนเขาไว้อย่างถือวิสาสะ “อย่าออกไปบอกแม่เลยนะหมอ ไม่งั้นหนูตายแน่ๆ หนูขอร้อง ฮือๆ ” เสียงแผ่วด้วยแรงสะอื้นร้อนรนบอกอีกครั้ง ก่อนปล่อยโฮออกมาอย่างหมดหนทาง เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่ได้รับความเห็นใจจากคุณหมอ มิหนำซ้ำยังพูดแทงใจดำตอบกลับมาซะคนร้องไห้ฟูมฟายต้องปิดปากเงียบ “โดนแม่ด่ามันไม่ตายหรอกน้อง แต่ถ้าท้องนอกมดลูกแล้วไม่ผ่าตัดออกให้เร็วที่สุด น้องได้ตายสมใจแน่” เหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นความชุลมุนไม่ต่างจากตอนเริ่มต้น เมื่อเขาออกไปแจ้งแม่เด็กว่าคนไข้ท้องนอกมดลูก มีภาวะครรภ์เป็นพิษรุนแรง เสียเลือดมาก และจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร็วที่สุด “หน้าอ่อนขนาดนี้ จบหมอมาถึงปีดีหรือเปล่า ตรวจมั่วๆ แล้วมากล่าวหาลูกสาวฉันให้เสื่อมเสียแบบนี้ได้ยังไง ลูกสาวฉันเป็นเด็กดีมาตลอด ต้องมาอับอายคนทั้งจังหวัดก็เพราะหมอ คอยดูเถอะฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” นายแพทย์หนุ่มมองกลับแววตาโกรธจัดของอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้ ท่ามกลางการสังเกตการณ์ของเหล่าพยาบาลและตกอยู่ในสายตาของผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาบริเวณนั้นไม่น้อย “ผมจะจบหมอมากี่ปีแต่ผมก็เป็นหมอ ต่อให้อายคนทั้งจังหวัดแต่ก็ต้องทนเพราะตอนนี้เด็กดีของคุณแม่ก็ท้องไปแล้วนะครับ ที่สำคัญท้องนอกมดลูกและจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดให้เร็วที่สุดไม่อย่างนั้นได้เสียเลือดตายแน่ ผมว่าแทนที่คุณแม่จะเสียเวลานั่งอาย ควรเอาเวลาเก็บไว้มาเซ็นยินยอมให้ลูกได้รับการผ่าตัดอย่างเร็วที่สุดดีกว่า” ชายหนุ่มพูดขณะยื่นมือไปรับเอกสารจากพยาบาลแล้วส่งต่อไปไว้ตรงหน้าญาติผู้ป่วยด้วยท่าทางไม่อ่อนโยนสมมาดคุณหมอตามที่ใครหลายคนวาดฝัน ที่พูดออกไปเขารู้ดีว่ามันรุนแรงและคงสะท้านแทงใจดำคนดังของจังหวัดให้โกรธจนตัวสั่น ยืนยันด้วยสายตาที่มองมาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเขาให้ได้ตอนนี้ แต่ในเมื่อวิธีการดีๆ มันใช้ไม่ได้ผล ให้พยาบาลออกมาพูดก็แล้ว เกลี้ยกล่อมก็แล้ว แต่พูดดีๆ ยังไงก็ไม่สำเร็จ เขาจึงต้องออกมาจัดการด้วยวิธีฮาร์ดคอร์ในแบบของตัวเอง “คอยดูนะถ้าลูกฉันเป็นอะไรไปแม้แต่ปลายเล็บ ฉันจะฟ้องผู้อำนวยการ จะเอาเรื่องให้ถึงสภาแพทย์!!” แม้สุดท้ายญาติผู้ป่วยจะยอมเซ็นยินยอม แต่ก็ไม่วายขู่กลับอย่างเอาเรื่อง สีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ เป็นตัวยืนยันได้อย่างดีว่าภัทรดนัยไม่ได้สะทกสะท้านกับคำขู่นั้น ความจริงเขาควรเอาเวลาไปเตรียมการผ่าตัดมากกว่า ไม่ใช่มาเสียเวลากับญาติคนไข้พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ “ถ้าอย่างนั้นก็จำชื่อผมไว้ ผมชื่อนายแพทย์ภัทรดนัย ส่วนคุณจะไปฟ้องใครก็เชิญ” สัญญาณการผ่าตัดสิ้นสุดลง พร้อมร่างสูงในชุดสีเขียวที่เดินออกมาแจ้งผลการรักษาแก่ญาติผู้ป่วย เมื่อลูกปลอดภัย มารดาของเด็กสาวก็ดูสงบลงมาก หลังจากโวยวาย ระยะเวลาที่ลูกอยู่ในห้องผ่าตัดคงพอทำให้คิดอะไรได้มากขึ้น คุณแม่แห่งชาติเลยเปลี่ยนมาเป็นร้องไห้เพราะกลัวลูกตัวเองตายแทน ภัทรดนัยเกือบยกมือขึ้นรับไหว้แทบไม่ทัน เมื่อผู้ทรงอิทธิพลของจังหวัดยกมือไหว้แล้วขอบคุณเขาเสียยกใหญ่ เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน “อีกสองตึกที่จะสร้าง ถ้าสปอนเซอร์รายใหญ่เขาไม่อำนวย ผอ. เอาเอ็งตายแน่ ได้ข่าวว่าเมื่อกี้เล่นคุณนายทองอร่ามงามฟ้าซะหงายหลังตึงเลยเหรอวะ” “แต่ถ้าลูกเขาตาย คนที่หงายหลังล้มตึงน่าจะเป็นข้าแทน” คำตอบรวนกลับจากคนที่เพิ่งเปิดประตูเดินดุ่มๆ เข้ามา เรียกเสียงหัวเราะครื้นจากทั้งหมอและพยาบาลในช่วงเวลาคลื่นลมกำลังสงบ แม้จะล่วงเข้าสู่เช้าวันใหม่ แต่ความเยินต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อเย็นจนถึงเที่ยงคืน ทำให้ตอนนี้เพิ่งจะเป็นเวลาพักกินข้าวของใครหลายคน “ได้สร้างเพิ่มอีกสองตึกมากกว่ามั้งหมอ” ปวีณา หัวหน้าพยาบาลซึ่งกำลังนั่งกินข้าวในห้องพักแพทย์บอกปริวัตรหลังจากทั้งห้องฉุกเฉินและแผนกสูตินรีเวชเพิ่งได้รับกระเช้าขอบคุณแบบด่วนทันใจกันมาเมื่อครู่ แล้วจึงหันกลับไปหยอกกลับคุณหมอผู้เป็นต้นเหตุของกระเช้าดิลิเวอรี่ “หน้ามึนขนาดนี้ กลับไปนอนดีกว่ามั้งหมอสอง ไม่มีอะไรแล้วนี่” “กำลังจะครับ ผมลืมโทรศัพท์เอาไว้” อุตส่าห์ตอบกลับดีๆ แต่ก็ไม่วายโดนมาอีกดอก คราวนี้เป็นจากบุรุษพยาบาลหน้าหยกประจำห้องฉุกเฉิน “จะนี่คือจะอะไรครับหมอ จะนอนหรือจะนวด” ตามด้วยลูกคู่ที่หลังจากมีคนเปิดประเด็นเข้าหน่อยก็กระหน่ำพร้อมรุมกันมาไม่ขาดสาย “ไปด้วยกันเลยไหมล่ะพี่” ชายหนุ่มได้ทีเลยรับมุขผสมโรงไปด้วย เรียกเสียงเฮครื้นขึ้นมาได้อีกรอบ ความสุขของคนในห้องฉุกเฉินในเวลาคลื่นลมสงบเป็นสิ่งที่เขารู้ดีว่าไม่ควรไปขวาง ถือเป็นการชดใช้ที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายวอร์ดสูติฯ ครองแชมป์โดนเรียกคอนเซาท์กันทีเป็นสิบเคสรวดทำเอาทั้งหมอรุ่นน้องทั้งพยาบาวิ่งวุ่นกันแทบขาจะขวิด ขนาดเขาที่ไม่ใช่แพทย์เวรวันนี้ยังต้องถูกตามตัวมาช่วย “คะ… คุณหมอเป็นพวกรสนิยมชอบพวกเดียวกันเหรอคะเนี่ย” ก่อนเสียงและท่าทางประกอบคำพูดที่แยกไม่ออกระหว่างความรับไม่ได้กับผิดหวังของน้องเล็กซึ่งเป็นพยาบาลจบใหม่ที่มองทางเขาทีสลับกับบุรุษพยาบาลหน้าหยกที จะทำให้หลายคนหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน เป็นเสียงของปริวัตรที่แทรกขึ้นมา “เลิกสนใจไอ้สองไปได้เลยน้องนุ่น มันเป็นไบ พี่นี่รู้ดีเพราะสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ใครจะคิดว่ากลางดึกสงัด จะเกือบต้องมาเสียตัวเพราะโดนไอ้สองปล้ำ เลิกสนใจมันเถอะ” “แล้วให้มาสนใจเอ็งแทนว่างั้น แค่คิดก็สยอง ปล้ำกับเอ็งข้าเมาแล้วไปนอนรวมกับหมาหน้าหอซะยังดีกว่า” ไม่คิดเลยว่าความผิดพลาดแค่ครั้งเดียวจะทำให้ปริวัติเอามาเป็นประเด็นหาเรื่องเขาได้จนถึงทุกวันนี้ แต่เมื่อคิดเอาเองว่ายิ่งเถียงกับเพื่อนที่รู้ไส้รู้พุงแทบจะทุกขดแล้วชักจะเลยเถิดไปกันใหญ่ คนถูกกัดจนเหวอะหวะไปทั้งตัวจึงหาทางเลี่ยงโดยการเดินออกมาเสียดื้อๆ “อ่าวๆ พอรับความจริง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม