ในคืนพระจันทร์เต็มคุ้งน้ำ ฉันกับพี่ชลาและพี่ธาลา เตรียมที่จะขึ้นไปยังโลกมนุนย์ และเป็นโชคดีของฉันที่องค์คีตะไม่อยู่พอดี
“ท่านหญิงเจ้าคะ ท่านหญิงเพียงแต่จับมือหม่อมฉันไว้ก็พอนะเจ้าคะ”พี่ชลาบอกฉันพร้อมทำหน้าตาเป็นกังวล
“ให้ฉันแค่จับมือพวกพี่แค่นี้แล้วก็หายตัวไปถึงที่ท่านนาคาพาหุรัดอยู่เลยใช่ไหม ทำไมพวกพี่บอกว่ามันยากล่ะ”ฉันถาม เพราะฉันสงสัยทำไมบอกว่ายากหนักหนา
“ท่านหญิงเจ้าคะ ที่ยากไม่ใช่ตอนจับมือเจ้าค่ะ แต่ ตอนที่เราจะบอกนาคยามที่เฝ้าประตูวังอย่างไรนี้สิเจ้าค่ะ เพราะหม่อมฉันเป็นแค่นาครับใช้มิบังอาจจะเจรจาได้ และในเมืองนาคก็มุสาไม่ได้นะสิเจ้าค่ะ”
ธาลาเอ่ยขึ้นพร้อมหน้าตาดูหมดหวัง
“เอาน่า เดวฉันจะลองคุยดู แค่ผ่านหน้าประตูไปได้ทางก็สะดวกแล้วใช่ไหม”ที่ฉันพูดแบบนี้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่กลัวนะ ฉันกลัวมาก ว่าจะผ่านประตูไปไม่ได้ แต่เมื่อเห็นแววตาสีหน้า ของสองพี่เลี้ยงแล้วก็อดที่จะสงสาร ไม่ได้เป็นเพราะพวกนางอยากช่วยฉันแท้ๆ
“ใช่เจ้าค่ะ ถ้าผ่านประตูวังไปได้ เราก็จะแปลงกาย เป็นกายทิพย์ นาคีของตนได้แล้วเจ้าค่ะ”ชลาเอ่ยขึ้น
“งั้นก็ไปกันเลย”ฉันก็จับมือของสองพี่เลี้ยงไว้ เหตุที่ต้องจับมือพวกนางเพราะร่างกายที่เป็นมนุษย์ของนารินทร์ทิพย์ ยังเดินได้ไม่แข็งแรงอาจเป็นเพราะฉันที่มาอยู่ในร่างของนางก็ได้
“ธาลา ทำไมวันนี้นาคยามไม่เฝ้าประตูวังเลย ชักแปลกพิกล แล้วองค์ท่านคีตะก็ไม่อยู่”ชลา นางเอ่ยขึ้น เพราะสงสัย
“ก็ดีแล้วหนิ เราจะได้พาท่านหญิง ไปพบท่านนาคาพาหุรัดได้เร็วขึ้น”ธาลา นางเอ่ยขึ้นพร้อมจับมือฉันแน่น
“ท่านหญิงเราออกจากประตูวังมาได้แล้วนะเจ้าค่ะ เพียงแค่ท่านหญิงแตะพื้นน้ำเบื้องหน้า ก็จะกลายร่างเป็นร่างทิพย์นาคีได้แล้วนะเจ้าค่ะแล้วว่ายตามหม่อมฉันขึ้นมานะเจ้าคะ”ธาลาบอกฉันพร้อมกุมมือฉันเหมือนส่งกำลังใจให้ฉัน
ฉันทำตามที่พวกนางบอกฉันแตะพื้นน้ำด้านหน้า น้ำนี้มีลักษณะเหมือนดินทรายที่ละเอียด แล้วมีสีที่เป็นสีทอง เหมือนไม่ใช่น้ำ พอฉันแตะเข้าไปมีความรู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบตัวฉันมันเล็กลงไปหมด โอ้แม่เจ้า ฉันเห็นพนานาค แต่ทำไมนาคสีเขียวสองตัวนี้ทำไมตัวเล็กจัง นาคต้องตัวใหญ่หนิ ที่ไหนได้ฉันก็เป็นนาคเหมือนกัน ซึ่งนาคีสีเขียวสองตัวไม่ได้หนึ่งส่วนของขนาดตัวฉันเลย ฉันได้ยิน เสียงของพี่ธาลาบอกฉันว่า ให้ท่านหญิง นึกถึงงง..
แล้วภาพตัดฉันลืมตาขึ้นมาและจับมือพี่เลี้ยงสองคน เห็นหน้าถ้ำ ถ้ำหนึ่ง มีรูปปั้นพยานาคสีทองมีทั้งหมด9เศียร และเครื่องสักการะมากมาย แต่แปลกที่ไม่มีใครสักคน แต่รู้สึกว่าอากาศเย็นมาก และเป็นคืนเดือนหงาย พระจันทร์โตสว่างสวยมาก ฉันอยากกลับไปเป็นมนุษย์เหมือนเดิมจัง
“ท่านหญิงเจ้าคะ นี้คือถ้ำเวียงนาคานะเจ้าคะ วันนี้ฟ้าเปิด พระจันทร์สาดส่องประตูถ้ำก็เปิด สงสัยองค์นาคาพาหุรัดท่านคงทราบแล้วล่ะเจ้าค่ะว่าท่านหญิงจะมาเข้าพบท่าน เชิญท่านหญิงเข้าไปได้เลยนะเจ้าคะ”ชลาบอกฉัน พร้อมกับผายมือไปทางปากถ้ำที่มีแสงสว่างสีทองส่องรอดออกมา
“พวกพี่ทำไมไม่เข้ามากับฉันล่ะ”ฉันก็แอบกลัวอยู่นะ เพราะถึงจะเป็นนาคมีพลังวิเศษ แต่ก็ไม่เคยคุยกับนาคอื่นเลย
“พวกหม่อมฉันเข้าไปไม่ได้เจ้าค่ะ นาคชนชั้นสูงเยี่ยงท่านหญิงเท่านั้นถึงจะได้รับอนุญาตเจ้าค่ะ”ธาลากล่าวบอกฉัน
ฉันเลยตัดสินใจเดินเข้าไป ฉันกลั่นหายใจพร้อมหลับตาแต่..
“อ้าว นารินทร์ทิพย์ เจ้ากลับมาแล้วรึ หลับไหลไปนานเลยนะ กลับมายังจำเรื่องราวเดิมของตนเองได้หรือเปล่า” ชายหนุ่ม รูปร่างสูง ผิวขาว หน้าตาหล่อเหล่าอย่างกะเทพบุตร พร้อมใส่ชฏาสวมที่ศีรษะ แต่งตัวเหมือนกษัตริย์ในยุคกรุงศรีอยุธยา แต่แปลกที่ท่านนั่งอยู่บนดอกบัวสูงที่ตั่งตระหง่านงาม ในที่นี้มีกลิ่นอายเย็นที่เมื่อได้กลิ่นช่างสงบใจยิ่งหนัก
“คือว่า ท่านหมายความว่ายังไงคะที่ยังจำเรื่องราวเดิมของตนเองได้หรือเปล่า”ฉันเอ่ยถามท่าน
“งั้นเจ้าอยากจะรู้เรื่องอะไร”องค์นาคาเอ่ยถาม แต่สีหน้าของท่านยังนิ่งเฉยและยังนั่งสมาธิสงบอยู่เช่นเดิม
“ไหนๆ ท่านก็เป็นผู้ที่หยั่งรู้แล้วฉันขอถามได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี้”ฉันถามท่านออกไปแต่ฉันเพียงแค่นั่งมองหน้าท่านเฉยๆนะ ยังไม่ได้ขยับปากเลย
“ชะตาของเจ้าต้องได้กลับมาที่นี้ ที่ที่เจ้าเคยจากไป แล้วเจ้าจะต้องได้กลับไปใช้กรรมเก่าของเจ้าอีกรอบเมื่อจันทร์สาดส่องเต็มดวงเช่นเคย”องค์นาคาพาหุรัดกล่าวจบฉันก็รู้สึกวูบลงทันที