ตอนที่ 14

1216 คำ
14 น้ำเสียงของท่านหญิงหลัวเนี่ยเจินทำให้ใครบางคนถึงกับต้องเดินตามเสียงนั้นมา จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียงจากจะเป็นหยางจงหมิง อดีตแม่ทัพที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งกลางคัน เขาไม่ได้กรุ่นโกรธ และทราบดีว่าเขานั้นบาดเจ็บไม่อาจจะรั้งตำแหน่งแม่ทัพเอาไว้ได้ ยามนี้เขารู้สึกถึงคุณค่าของอดีตภรรยา เมื่อดวงตาของเขากลับมาหายดีแล้ว วันนี้จึงได้เดินทางมาเพื่อซื้อของขวัญหมายว่าจะมอบให้นางหากได้พบอีกครั้ง ด้วยเพราะสืบทราบมาว่านางพักอยู่ในตำหนักของวังหลัง ตำหนักของไทเฮา ด้วยเพราะองค์ชายรองเฉิงเหวินโจว มาเล่าให้ฟังอยู่บ่อยครั้ง คล้ายว่ามาเยาะเย้ยเขากระมัง สองเท้าหนาแกร่งมากับพ่อบ้านฉาง เขาไม่รู้ว่าจะเลือกอันใดให้นางกัน รูปร่างหน้าตานางเป็นเช่นไรไม่รู้จัก อีกทั้งได้ยินเพียงแค่เสียงเล็ก ๆ หวาน ๆ ของนางเท่านั้น เมื่อได้ยินน้ำเสียงอันคุ้นหูจึงได้เดินเข้ามา เพียงแค่พบหน้าเขาอดที่จะตกตะลึงในความงดงามของนางไม่ได้ และมั่นใจว่าใช่อดีตภรรยาของตนอย่างแน่นอน “ฮูหยิน” เสียงทุ้มอันหนักแน่นกล่าวขึ้นมายังหญิงสาวอุ้มเด็กเอาไว้ในอ้อมกอดของนาง ซึ่งเขาอดแปลกใจไม่ได้ ข้างกายของนางเป็นชินอ๋องแดนเหนืออีกด้วย “คารวะท่านอ๋อง” สองมือยื่นประสานโค้งศีรษะลงเล็กน้อยอย่างนอบน้อมถ่อมตน หลัวเนี่ยเจินช้อนสายตามองไปยังชายหนุ่มที่เรียกนางว่าฮูหยิน นางแค่นหัวเราะเล็กน้อย อาชุนนึกโมโหแค้นเคืองนัก นางก้าวเข้ามาขวางด้านหน้า แต่ถูกท่านหญิงยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ “ใครเป็นฮูหยินของท่านกัน จำคนผิดแล้วกระมัง” น้ำเสียงของหญิงสาวกล่าวขึ้น อย่างไม่ใส่ใจชายหนุ่มคนนี้อีก “เอ่อ...” ชินอ๋อง เฉิงจื่อหยางชำเลืองมองอีกฝ่าย นั่นคือหยางจงหมิง กำลังทอดสายตามองสตรีเบื้องหน้าอย่างลึกซึ้ง แต่ทว่ากลับถูกเฉิงจื่อรุ่ยชี้หน้าทันใด “อย่ามายุ่งกับท่านแม่ของข้า” เจ้าเด็กตัวแสบทำท่าหวงก้างเข้าให้ พานพบคนถูกใจอยากให้เป็นมารดา แต่ทว่ามีชายคนนี้กลับมาเรียกท่านแม่ของเขาว่าเป็นฮูหยิน พอได้ฟังก็นึกโมโหนัก หากท่านแม่ปล่อยให้เขายืนละก็ รับรองว่าเขาจะจัดการอีกฝ่ายอย่างแน่นอน “ท่านแม่” หยางจงหมิงงุนงงไปหมด นางจากเขาไปไม่ถึงเดือนเสียด้วยซ้ำมีลูกได้อย่างไรกัน อีกทั้งยังยืนขนาบข้างกับชินอ๋องอีกด้วย หรือว่าพวกเขากำลังจะมีข่าวดีในไม่ช้านี้ “ใช่ท่านแม่ของข้า” เจ้าเด็กน้อยตัวแสบพยักหน้า ท่าทางไม่ยอมฟังความใครทั้งนั้น กลับยอมเพียงแค่สตรีที่โอบอุ้มตนเองเอาไว้ในตอนนี้ ซานอี๋เหนียง หวาดกลัวจึงไม่กล้าเอ่ยพูดอันใดให้ขัดหูหรือขัดใจท่านอ๋องน้อยอีกเลย เพราะว่ารู้ดีหากไปยังพระตำหนักไทเฮาแล้ว หัวของนางจะอยู่บนบ่าอีกหรือไม่ “จื่อรุ่ยอย่าเสียมารยาท” ชินอ๋องดุเจ้าตัวแสบก่อเรื่องเล็กน้อย รู้สึกเหมือนว่า หยางจงหมิงกับสตรีคนนี้มีความหลังด้วยกันมาก่อน และยังเรียกสตรีผู้นี้ว่าเป็นฮูหยินของตน เช่นนั้นข่าวลือที่ว่า เขาหย่าร้างภรรยารอง แต่เอาญาติของตนเป็นฮูหยินเอกก็คงจะจริง “ข้าไม่ชอบเขา ท่านแม่เราไปกันเถอะ” ใช่ เขาไม่ชอบใจผู้ชายคนนี้ เห็นแล้วไม่ถูกชะตานัก อยากจะเตะเจ้าคนนี้ไปให้ไกล ๆ มารดาของตน เนี่ยเจิน หรืออดีตภรรยาของหยางจงหมิง ยามนี้ได้กลายเป็นท่านหญิงแห่งตระกูลหลัว พระราชทานมาให้ใหม่เป็นหลัวเนี่ยเจิน มีตำแหน่งเป็นท่านหญิง หลานสาวที่ไทเฮาโปรดปรานมากที่สุด “ก็ได้ไปก็ไป แต่จะไปไหนเล่า” นางกล่าวย้อนถามเด็กน้อยที่ถูกอุ้มอยู่ เขาซบใบหน้าลงมาแล้วกระซิบเบา ๆ ว่า “ข้าอยากกินขนมขอรับ” ปกติเขามักไม่พูดจากับใคร ยิ่งเป็นคนแปลกหน้าก็ยิ่งไม่ต้องคิดเลยว่าจะเข้าใกล้เขาได้อีกด้วย เป็นเด็กที่ถือตัวยิ่งนัก หากไม่ถูกใจใครก็ทำได้เพียงแค่ส่งสายตาบึ้งตึงไปให้ “ได้สิ เดี๋ยวจะพาไปซื้อนะ” นางคลี่ยิ้มหวาน พลันทำให้ทั้งท่านอ๋องและหยางจงหมิงเหม่อมองหญิงสาว น่างช่างดูน่ารักและสดใสนัก จงหมิงอดนึกสมเพชตนเองเสียจริง ที่มองนางเพียงแค่เปลือกนอก นางงดงามเหลือเกิน เป็นสตรีที่ไม่เคยพานพบมาก่อน นึกว่านางหน้าตาอัปลักษณ์เสียอีก เพราะไม่เคยเห็นนางมาก่อน มักจะพบเพียงแค่คุณหนูใหญ่เท่านั้น และในร้านน้ำชาก็ได้ยินเรื่องของน้องสาวของไป๋เหม่ยจูว่าเป็นเด็กจิตใจหยาบช้า มักกลั่นแกล้งพี่สาว ถูกบิดาดุด่าเพียงเพราะทำให้น้องสาวร้องไห้ เขาเห็นว่านางเป็นสตรีอ่อนหวานเรียบร้อย จึงนึกชมชอบนาง หมายปองอยากครอบครองเป็นภรรยาของตน แต่นึกไม่ถึงว่าจะถูกเปลี่ยนตัวจากสตรีที่ได้พานพบ กลับกลายเป็นสตรีที่เขาเคยช่วยนางพลัดตกน้ำ นึกไม่ถึงว่านางจะเป็นโฉมสะคราญและยังเป็นคนทำให้เขาหายจากดวงตามืดบอดอีกด้วย “ฮูหยินเดี๋ยวก่อน ข้ามีของจะมอบให้” หยางจงหมิงเห็นว่านางกำลังจะจากไป นึกขึ้นได้ว่าเขาได้ซื้อของขวัญเพื่อมอบให้นาง ตอบแทนน้ำใจที่รักษาดวงตาของเขาจนหายดี เฉิงจื่อหยาง หรือชินอ๋อง ไม่พอใจนัก เห็นอดีตแม่ทัพผู้นี้กำลังดื้อดึงคิดยื้อสตรีผู้นี้จนออกนอกหน้า ยามมีอยู่ไม่รู้จักดูแล ยามจากไปกลับโหยหาเรียกร้อง เกิดมาเพิ่งจะพานพบ “ก็นางบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่าไม่ใช่ฮูหยินของเจ้า ต่อไปต้องเรียกนางว่าท่านหญิง” น้ำเสียงเหี้ยมกล่าวขึ้นมา พระพักตร์เรียบเฉยแม้แต่เหล่าทหารหรือองครักษ์ยังรู้เลยว่า บัดนี้นั้นท่านอ๋องไม่พอพระทัยอย่างยิ่ง ฝ่าพระหัตถ์ยื่นมือไปโอบอุ้มลูกชายไว้ด้วยตนเองข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งถือวิสาสะสวมจับมือของนางเอาไว้ วางท่าเป็นเจ้าของนางอย่างจงใจ นั่นจะมีเหตุอันใดได้นอกเสียจากว่า ลูกชายหมายตาสตรีนางนี้มาเป็นมารดา ด้วยเพราะเจ้าตัวปัญหามักเอาแต่ใจ ไม่ยอมพูดคุยกระทั่งรับอาหารยังเมินเฉย ยังทำลายตำหนักจนพังพินาศเพียงเพราะความไม่พอใจ ยามนี้ลูกชายดุจดั่งตัวแทนความรักของเขาที่มีต่อพระชายา เอ่ยเรียกสตรีแปลกหน้าว่าท่านแม่ และพูดจาเป็นประโยค หลังจากที่ไม่เอ่ยปากพูดมานานนับปี มีหรือบิดาผู้นี้จะปล่อยให้นางหลุดมือ กลับไปคืนดีกับอดีตสามีผู้ไม่รักหยกอันแสนล้ำค่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม