4

1221 คำ
4 “แม่มาวันนี้เพื่อขอบคุณเจ้าที่ยินดีแต่งงานแทนพี่สาว ” พลันนางกระทุ้งแขนลูกสาว ที่เห็นว่ายืนอมพะนำไม่ยอมเอ่ยอันใดออกจากปาก เหม่ยจูได้สติตื่นจากภวังค์ “ใช่ พี่ใหญ่ขอบใจน้องรองมาก ๆ ที่ยื่นมือช่วยเหลือครั้งนี้ หากมีโอกาสคราวหน้าพี่จะตอบแทนเจ้าอย่างงาม” มันจะไม่มีโอกาสนั้นแน่นอน “ในห้องของข้ามันอับ เกรงว่าทำให้ท่านแม่และพี่ใหญ่จะทนเหม็นไม่ไหว ดังนั้นพวกเราไปนั่งข้างนอกจะดีกว่านะเจ้าคะ” เพียงเพราะกลัวความลับที่ปกปิดมาสิบปีจะมาแตกก่อนวันแต่งงานไม่ได้ คนพวกนี้นางไม่ไว้ใจสักนิด กระทั่งอาหารก่อนจะกินยังต้องตรวจหาพิษเสียก่อน การตายของมารดายังคงติดค้างคาใจ ท่านแม่ของนางหาใช่สตรีอ่อนหวานน่ารักเพียบพร้อมไม่ ยามเมื่อฟังคำพูดของท่านยาย นางยังค้างคาใจการตายของมารดา ตลอดระยะเวลาที่อยู่จวนนี้สิบแปดปี คนพวกนี้ทำดีกับนางก็มาก ตอนแรกเพราะเป็นเด็กใสซื่อไร้เดียงสามองแผนร้ายไม่ออก แต่ยามนี้นางเติบโตและมีท่านยายแอบมาดูแล ยังมีท่านน้าอาชุนอยู่ข้างกายอีกด้วย “น้องรองวันแต่งงานเจ้าต้องงดงามที่สุด ท่านพ่อได้เตรียมช่างมาตัดชุดให้เจ้าแล้ว ส่วนเครื่องประดับไม่ต้องกังวลข้าก็ได้เตรียมเอาไว้ให้เป็นของขวัญ” เหม่ยจูประคองแขนน้องสาว คล้ายว่ารักกันอย่างเอ็นดูเหมือนพี่สาว น้องสาวเกิดจากมารดาเดียวกัน “แม่ได้เตรียมสินเดิมเอาไว้ให้แล้ว เมื่อก่อนจวนเราประสบปัญหาการเงิน ดังนั้นสินเดิมของแม่เจ้าจึงได้ถูกขายไปเกินครึ่งหนึ่ง” นางตีหน้าเศร้า แสร้งบีบน้ำตา เหม่ยเจินมีหรือเดาไม่ออก “ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ มีแค่ไหนก็เอาแค่นั้น” นางก็แสร้งกล่าวเช่นเดียวกัน ก่อนที่นางจะย้ายออกจากเรือนหลังนี้ สินเดิมของมารดานางจะต้องกลับมาให้ครบ นางไม่มีทางยอมให้คนพวกนี้เสวยสุขบนสมบัติของมารดานางหลอก ตระกูลหลัวหาใช่ยากจนข้นแค้น แต่กลับร่ำรวยมั่งคั่ง มิหนำซ้ำยังรักกันมาก่อนฮูหยินเอกเสียด้วยซ้ำไป แต่ไม่รู้ไปทำอิท่าไหน บิดาของนางจึงแต่งงานกับอสรพิษแซ่กวนเป็นฮูหยินเอก ส่วนมารดาของนางเป็นฮูหยินรอง ช่างน่าขบขันนัก ท่านยายไม่เห็นด้วยตั้วแต่ทีแรก เพราะท่านแม่ดื้อดึงในรักจึงมีจุดจบเช่นนี้ ผู้ที่รู้ดีที่สุดคืออาชุน ไม่ปริปากพูดอะไรเป็นการใส่ร้ายอีกฝ่าย จนกว่าจะหาหลักฐานได้ “แต่เกรงว่าท่านยายจะมาดูสินเดิมของท่านแม่เจ้าค่ะ เมื่อวานลูกได้รับจดหมายพร้อมคำขู่หากสินเดิมของท่านแม่อยู่ไม่ครบเกรงว่าที่จวนราชครูจะรับไม่ไหว ท่านแม่ก็รู้ท่านยายเป็นใครกัน เป็นถึงพระญาติของไทเฮา แม้จะเป็นญาติผู้น้องก็ตาม” เหม่ยเจินข่มขู่อีกฝ่าย จนทำให้กวนซื่อหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด ซ้ำยังกล่าวอีกว่า “ท่านแม่ลูกเข้าใจเป็นอย่างดี แต่ลูกไม่อาจขัดคำสั่งของท่านยายได้ ไม่แน่หากพรุ่งนี้ท่านยายนำนางกำนัลของไทเฮามาด้วยจะทำเช่นไรเล่าเจ้าคะ หากเป็นแบบนี้ท่านพ่อมีหวังถูกไทเฮาตำหนิ ลดขั้นขุนนางมาจะทำอย่างไร” กวนซื่อหน้าซีดหนักกว่าเดิม ไม่ใช่เพราะคำขู่ของเด็กสาว แต่รู้ถึงความร้ายกาจของไทเฮาดี ยามนั้นนางแต่งเป็นฮูหยินเอกเข้ามา มีนางกำนัลของไทเฮาตำหนินางทางสายตามากมาย และยังเขี่ยคนรักของท่านราชครูเป็นเพียงแค่ฮูหยินรอง ยามนั้นไทเฮากริ้วมาก นางเกือบเอาชีวิตไม่รอดโชคดีที่หลัวเนี่ยซูมีจิตใจดี นางจึงรอดพ้นมาได้ “แม่จะพยายามก็แล้วกันนะ เช่นนั้นแม่กลับก่อนไม่อยู่รบกวนเจ้าแล้ว” กวนซื่อรีบเดินหันหลังกลับ พลางแย้มยิ้มแต่ทว่าคิ้วของนางกระตุกราวกับว่าสร้างความกรุ่นโกรธให้นางเกือบจะชักสีหน้าใส่เด็กสาว แม้ว่าจะทำดีเพื่อให้อีกฝ่ายตายใจ ตั้งแต่เจ้าเด็กตัวปัญหาฟื้นขึ้นมาก็ดูแปลกประหลาดไปทุกครั้ง “ท่านแม่นี่นางกำลังขู่เราอยู่หรือไม่” เหม่ยจูกล่าวขึ้น พลางเดินตามแผ่นหลังของมารดา สีหน้านั้นดูครุ่นคิดจนคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากัน สาวใช้ของฮูหยินเอกจึงได้กล่าวขึ้นมาว่า “ช่วงนี้คุณหนูรองไม่ค่อยออกจากห้อง อาหารที่นำเอาไปให้ส่วนมากก็มักจะไม่กิน หรือว่านางกำลังสงสัย” “เหลวไหล นางนะโง่จะตาย” เหม่ยจูเอือมระอากลอกกลิ้งตาไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าฉลาดกว่านางตั้งเยอะเห็นหรือไม่ ข้ายังไม่ต้องแต่งงานกับคนตาบอดอีกด้วย หากฉลาดจริงก็ต้องร้องไห้กับท่านพ่อแล้ว ดูก็รู้ว่าใครโง่หรือฉลาดกันแน่” เขามักจะบอกว่าคนโง่เป็นเหยื่อของคนฉลาด เหม่ยจูเป็นเช่นนั้น หารู้ไม่ว่าที่เหม่ยเจินอยากแต่งงานกับเขาเพราะอันใด หนึ่งเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยชีวิตนางเอาไว้ และสองนางแอบรักเขา แม้จะผิดหวังที่ว่าเขาเป็นว่าที่สามีของพี่สาว แต่คราวนี้เปลี่ยนตัวเจ้าสาวมาเป็นนาง นางมีหรือจะไม่ยินดี แม้ว่าตาบอดมองไม่เห็นเหม่ยเจินคนนี้จะยอมหาทุกวิถีทางรักษาดวงตาของเขาให้ได้ เมื่อสองแม่ลูกจากมา เหม่ยเจินร้องเพลงเบา ๆ อยู่ข้างหน้าต่างไม้บานหนึ่งที่เปิดรับลมเย็น ๆ สีหน้าของนางช่างดูมีความสุขยิ่งนัก “คุณหนู อีกไม่กี่วันก็แต่งงานแล้ว หากสินเดิมฮูหยินเอก หามาคืนไม่ครบจะทำอย่างไรเจ้าคะ” อาชุนกล่าวขึ้น มือของนางยังคงเขี่ยถ่านที่เพิ่งจะมอดไปเมื่อครู่ พลางเคี่ยวสมุนไพรให้ข้น ๆ เพราะคุณหนูจะนำมาปั้นเป็นเม็ดเอาไว้ให้คนป่วย “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า อย่างไรท่านแม่ก็ต้องหามาคืนให้จงได้ คิดว่าคงไม่ครบ แต่ไม่เป็นไรข้าจะตามหามาให้ครบเอง” ดวงตาคู่งามทอดมองข้างนอก “สิบปีมานี้ข้าไม่เคยออกไปข้างนอกจวนเลยสักครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นเช่นไรบ้าง” น้ำเสียงแม้จะดูเศร้าลงมาบ้าง แต่นางก็ยังคงฝืนยิ้มเอาไว้ ซ่อนความขมขื่นที่มีมานานหลายปี “คุณหนูหากท่านแม่ทัพถูกถอดตำแหน่งจะทำอย่างไร” อาชุนย่อมเป็นห่วงนัก นางกลัดกลุ้มใจเพราะเรื่องนี้ คุณหนูแต่งงานทั้งทีก็แต่งงานกับคนพิการ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน จะออกงานสังคมชนชั้นสูงก็เกรงว่าจะเป็นหัวเราะนินทาสนุกปาก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม