"รอแป๊บนะคะ จะจัดให้อย่างงามเลย"
ได้เวลาเดินทัวร์เอ็กซ์ซี้ดสตรีทแห่งนี้แล้วเรา
"นี่น่าจะได้นะ"
เอื้อมมือไปหยิบ Jose Cuervo Especial หนึ่งในเตกิลาที่น่ากลัวสำหรับสายแข็งที่มักจะส่งผลในการเมาค้างหลังตื่นในเช้าวันใหม่
"หวังว่าเฮียลัคกี้จะชอบนะ" ดูน่าจะดับอาการหัวร้อนของเจาลงไปได้
"ว้าว ๆ เล่นของแรงเลยเหรอครับคนสวย"
เดินวนมาอีกด้านหวังจะหาขนมกับกลับแกล้มติดมือไปด้วยก็เจอผู้ชายคนหนึ่ง ไถผมออกข้างหนึ่งจนเกรียน ส่วนอีกข้างไว้ยาวประมาณสองสามนิ้วได้ ท่าทางไม่น่าคบ ทั้งคิ้วและรูจมูกถูกเจาะด้วยจิวกลม ๆ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่
"ขอทางหน่อยค่ะ" คือจะเดินกลับไปทางเดิมก็ไม่ได้ไงมีผู้ชายอีกกลุ่มกำลังเลือกเครื่องดื่มอยู่ มันเต็มพื้นที่หมดแล้ว
"ขอทางคงไม่ให้ แต่ถ้าขอใจพี่ให้ไปทั้งดวง"
เอ่อ... นี่คือกำลังจีบฉันอยู่ใช่ไหม
"ขอโทษนะคะ เจ้าจันทร์รีบ" รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยหากยังยืนอยู่ตรงนี้นาน ๆ
"รีบเข้ามาอยู่ในใจพี่หรือไงคนสวย"
"ฮิ้ว~"
เสียงโห่แซวอย่างชอบใจดังขึ้นทั่วบริเวณโซนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
คงไม่ใช่ว่าคนพวกนี้คือพวกของหมอนี่หรอกนะ พวกเขามีไม่ต่ำกว่าสิบคน มีผู้หญิงรวมอยู่ประปราย
หมับ!!
"ปล่อย!" ฉันสะบัดแขนออกเมื่อคนตรงหน้ายื่นมือมาจับแขนฉันอย่างหน้าด้าน ๆ
"หวงตัวซะด้วย" เขามองไปยังด้านหลังเหมือนกำลังส่งซิกอะไรสักอย่าง
"อ้ะ! ปล่อยนะ!" จู่ ๆ ก็ถูกรวบด้วยสองมือใหญ่จากด้านหลัง โชคดีในความโชคร้ายที่เขาจับต้นแขนไม่ได้โอบกอด
"ช่วยด้วยค่ะ" มีคนเดินผ่านมาทางนี้พอดีเลยร้องให้ช่วย แต่เหมือนเขาจะลังเล ตอนแรกเหมือนจะเข้ามาช่วยแต่พอคนที่คุยกับฉันหันไปมอง ผู้ชายคนนั้นก็รีบเดินหนีไปอีกทาง
อะไรของเขา แต่ดูจากสีหน้าพลเมือง(เกือบ)ดีคนนั้นที่แสดงออกว่าหวาดกลัวคนตรงหน้าฉันมาก เลยพอจะเดาได้อย่างเดียวว่าคนที่ยืนล้อมหน้าล้อมหลังฉันอยู่ต้องมีอิทธิพลระดับหนึ่ง
"ไม่มีใครกล้าช่วยหรอกคนสวย เนี่ย! น้องเจ้าของสนามเชียวนะ"
คนที่จับฉันไว้เอ่ยบอก
น้องเจ้าของสนาม?
หมายถึงน้องเฮียเบิ้มเนี่ยนะ ดูเค้าโครงหน้าไม่น่าจะใช่ ไม่มีเค้าส่วนตรงไหนที่เหมือนหรือคล้ายกันสักนิดเดียว
"แอบอ้างหรือเปล่า เจ้าจันทร์ไม่เคยได้ยินเฮียเบิ้มเล่าให้ฟังว่ามีน้องชายมาก่อน"
ควบคุมสติให้เข้มแข็งเข้าไว้
"พูดเหมือนรู้จักเจ้าของสนามงั้นแหละ"
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังยืนนัวเนียกับผู้ชายที่คาดว่าน่าจะอยู่กลุ่มเดียวกันพูดขึ้นมา น้ำเสียงบ่งบอกว่าหมั่นไส้และไม่ถูกชะตาอย่างมาก
"เพิ่งออกมาจากอู่เฮียเบิ้ม คนรู้จักเป็นหุ้นส่วนของที่นี่ แฟนเพื่อนของคนรู้จักเป็นพี่สาวเจ้าจันทร์ แค่นี้พอไหม"
ฉันร่ายยาวแบบให้พวกนี้คิดชื่อตามว่าใครเป็นใครเอง
"ขี้โม้ ถ้าเธอสนิทกับพวกเฮียเบิ้มขนาดนั้นทำไมพวกเราไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน"
ผู้หญิงคนเดิมตะโกนถาม
น่าแปลก เจ้าของร้านหรือแม้แต่พนักงานร้านนี้ไม่มีใครเห็นหรือยังไงว่าลูกค้ากำลังจะมีเรื่องกันทำไมไม่เข้ามาห้าม
ก็อย่างว่า คนไทยถ้าเรื่องไหนจะทำตัวเองเดือดร้อนคงเลี่ยงกันหมด นี่หมายถึงคนที่เป็นแบบนี้จริง ๆ ไม่ได้เหมารวมคนไทยทุกคนนะคะอย่าเพิ่งมองเจ้าจันทร์แบบนั้น
"เดี๋ยวก็รู้ว่าจริงหรือมั่ว"
"โอ๊ย! ปล่อยนะ ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย!"
นี่ขนาดตะโกนปาว ๆ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ยังยืนนิ่งแถมยังถอยห่างไม่ยอมยื่นมือมาช่วยอีก "ขอโทษนะ ไม่มีใครกล้ายุ่งกับคนพวกนี้หรอก"
ตอนที่เดินผ่านผู้หญิงคนหนึ่งน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน เธอพูดเบา ๆ แล้วทำสีหน้าเหมือนรู้สึกผิด
ว่าแล้วคนกลุ่มนี้มีอิทธิพลระดับหนึ่งจริง ๆ แล้วแบบนี้ฉันจะรอดไปได้ยังไง
Rachan's part
"ทำไมเจ้าจันทร์ไปนานจัง"
"นานที่ไหนเพิ่งออกไปได้ไม่กี่สิบนาทีเอง"
"อย่ามาเถียงนะกิล ฉันจับเวลาอยู่"
"แต่ฉันจับอย่างอื่นแทนเวลา"
"ไอ้บ้ากิล!!"
ผมกำลังช่วยพวกเด็ก ๆ ดูช่วงล่างรถอยู่ว่าโอเคหรือยัง เสียงสองผัวเมียซึ่งหนึ่งคือญาติผู้น้อง และหนึ่งคือเพื่อนในกลุ่มก็ดังโหวกเหวกเข้ามาในหูจนประสาทจะกินหัว
เคร้ง!!
รำคาญบวกกับผมเช็กความเรียบร้อยเสร็จแล้วเลยโยนประแจลงถังเสียงดัง
"เป็นห่าอะไรครับคุณเสือยิ้มยาก ขี้ไม่ออกหรือไงเห็นหน้าบอกบุญไม่รับตั้งแต่กลับมาแล้ว"
เฮียเบิ้มที่ดูดซิกก้าอยู่อีกโซนตะโกนถามอย่างกวนอารมณ์
"ถ้าเป็นห่วงมากวันหลังอย่าพามา" ผมไม่สนใจหุ้นส่วนรายใหญ่ของสนามแข่งแห่งนี้ แต่เดินไปหยิบเสื้อแจ็กเก็ตที่วางพาดไว้ใกล้ ๆ กับคู่สองคนผัวเมียที่กำลังเถียงกัน ซึ่งอีกคนกลับกำลังฟินเพราะมันโรคจิตที่เมียด่า
"ทำไมเฮียพูดแบบนั้นอะ ถ้าเกิดเจ้าจันทร์มาได้ยินจะเสียใจแค่ไหนวะ"
นี่ญาติหรือแม่ ชอบขึ้นเสียงใส่ตลอด
"แล้วใครแคร์" ยัยนั่นจะรู้สึกยังไงเกี่ยวอะไรกับผม
เวลาห้าปีที่เธอไม่อยู่ที่นี่ผมโคตรจะดีใจที่ไม่ต้องเห็นหน้าคนที่ทำลายความรักผมแบบนี้
"เฮียแม่งพาลว่ะ!"
แยมโรลลุกจากตักไอ้กิเลน เธอเดินตรงดิ่งทำหน้ายักษ์มาทางผม
"เฮียแม่งก็รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เฮียกับยัยนั่นเลิกกันคืออะไร"
"พอ! ฉันรู้ดีว่าเพราะใคร และจำไม่มีวันลืม"
"เฮียแม่งโคตรรั้นเลยว่ะ เจ้าจันทร์ไม่ได้ผิดสักหน่อย"
"อย่ามาทำเป็นออกตัวแทน"
"ก็เด็กมันไม่ผิด เฮียแม่งก็ดีแต่โท...ษ"
"พอได้แล้ว ฉันจะไม่รื้อฟื้นเรื่องนี้อีก"
ผมใช้น้ำเสียงเด็ดขาดโพล่งออกไป ก่อนจะใช้สายตามองไอ้กิเลนให้มันมาเก็บเมียมันกลับไปที่เดิม
"เฮียเบิ้ม เฮียเบิ้ม แย่แล้ว!!"
เสียงใครไม่รู้ตะโกนเรียกเจ้าของสนามดังมาแต่ไกล
"มีอะไรวะ หอบแดกเลยนะมึง"
เจ้าของชื่อเรียกลุกจากเก้าอี้เดินอุ้ยอ้ายออกมาหาคนที่เพิ่งวิ่งหนีอะไรมา
"ไอ้พวก ไอ้...พวก"
"หายใจก่อนไอ้ห่า เดี๋ยวได้ขาดออกซิเจนตาย"
ผมก็คิดเหมือนเฮียแก
พอคิดได้ว่าคนมาใหม่ไม่ได้มาหาตัวเอง ผมเลยไม่ใส่ใจเตรียมจะเดินออกจากเต็นท์ไปอาบน้ำที่ห้องทำงานส่วนตัวอีกตึก
"พวกแก๊งตีแหล็ก พวกนั้นมันจับผู้หญิงไป"
นึกว่าเรื่องร้ายแรงอะไร เรื่องรกสมองของพวกแก๊งเด็กอมมือที่เรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ที่ไม่รักนี่เอง
"คงจะเป็นผู้หญิงที่เสียเดิมพันหรือเปล่า"
"ไม่ใช่เฮีย หน้าตาสวยเหมือนลูกครึ่งแบบนั้นคงไม่มีใครกล้าเอามาเดิมพัน"
จะสวยสักแค่ไหนเชียววะ ผมละชักอยากเห็นหน้าจริง ๆ
"แล้วตอนนี้พวกนั้นพาไปที่ไหนวะ"
"มันลากออกจากร้านค้าไปทางป่าด้านหลังสนามแล้ว"
"ร้านค้า! ผู้หญิงที่ว่าผมสีอะไร?" แยมโรลรีบโพล่งถามเสียงหลง
"สะ สี สีชมพูออกม่วง ๆ น่ะ"
"เจ้าจันทร์!"
เป็นเรื่องจนได้ เก่งดีนัก เอาตัวรอดได้ เป็นไงล่ะ เจอพวกนั้นเข้าไปไม่เห็นจะเก่งอย่างปากว่าเลย
"กิล! รีบไปช่วยเจ้าจันทร์เร็วเข้า!"
"เฮียเบิ้ม รวมพลด่วนเลย" เสียงไอ้กิเลนดูตกใจไม่แพ้เมียมัน
"เฮียราชย์เร็วสิ เจ้าจันทร์กำลังมีอันตรายนะ!" ญาติผมวิ่งมาเขย่าแขนให้ผมไปช่วยอีกแรง
"ก็เห็นบอกเก่ง เอาตัวรอดได้นี่" จริง ๆ อยากพูดคำนี้ต่อหน้าตัวปัญหามากกว่า
"เฮีย! เออ ไม่ไปก็ไม่ต้องไป จำไปจนตายเลยนะไอ้อดีตที่มันแย่ ๆ นะ โทษแล้วพาลมันเข้าไปเลย!"
มาตะคอกปาว ๆ ใส่หน้าราวกับผมอายุน้อยกว่าเธอ แบบนี้น่าเสี้ยมไอ้กิเลนให้สั่งสอนหนัก ๆ
"แล้วนั่นจะไปไหน" นึกว่าไม่มีใครอยู่
"คิดว่าไงล่ะ?" ผมเอียงคอหันไปตอบไอ้ลัคกี้ที่ยังหน้าบูดเพราะถูกพวกผมไปลากจากเมียมา
"คิดอยู่สองอย่าง" เสียงมันราบเรียบ แต่ค่อนออกไปทางลองเชิงผมดู
"ไปข้างหน้า หรือไม่ก็เลี้ยวซ้าย"
ผมไม่ใส่ใจที่จะตอบคำถามนั้น ในเมื่อเลี้ยวซ้ายหรือไปข้างหน้าของมันจุดหมายก็คือ 'ป่า' ที่ยัยนั่นถูกจับตัวไปอยู่ดี
[End part]