"เป็นไงบ้าง เมื่อคืนหลับสบายไหมลูก"
ทันทีที่หอบหิ้วกระเป๋าสัมภาระจากบ้านใต้หลังคามาที่บ้านหลังใหญ่ ป้าขจีที่นั่งจิบชากับแม่ฉันก็ถามขึ้น
"หลับลึกเลยค่ะ" ถึงแม้จะนอนกระสับกระส่ายเพราะแปลกที่ก็เถอะ
"ทำไมไม่เรียกคนใช้ล่ะ" ป้าขจีมองมาที่กระเป๋าเดินทางที่ฉันลากมา
"แค่นี้เองค่ะ เจ้าจันทร์เกรงใจ" ก็แค่กระเป๋าลากสองใบ ใหญ่มากหนึ่งกับขนาดกลางหนึ่ง
"มานั่งนี่ลูก" ผู้เป็นแม่เริ่มมีบทบาทเลยตบโซฟาข้าง ๆให้ฉันไปนั่ง
"เอาน้ำส้มไหม" ป้าขจีถามขึ้น
"เจ้าจันทร์ขอเป็นกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลแทนได้ไหมคะ" ดูทุกคนตกใจกับสิ่งที่ฉันร้องขอนะ
"ปกติอยู่ที่นู่นหนูทานแบบนี้ประจำเหรอ" น้ำเสียงเป็นห่วงปนดุกราย ๆ ของแม่ดังขึ้น
"มันติดไปแล้วนี่คะ" ใช้น้ำเสียงในเชิงออดอ้อนเพื่อไม่ให้โดนดุ
การติดกาแฟดำนี้เพิ่งเกิดขึ้นตอนที่ฉันไปเรียนเมืองนอกน่ะ อาจจะเพราะไปช่วงหน้าหนาวเลยหาอะไรอุ่น ๆ ทานดันกลายเป็นติดไปซะได้
"เรานี่นะ" แม่ไม่ดุแต่มองค้อนแทน ถือว่าได้ผลนิดนึงล่ะนะ
"อีกสักพักค่อยทานมื้อเช้ากันนะ รอสองหนุ่มก่อน" ป้าขจีพูดขึ้นและเป็นเวลาเดียวกับคนใช้ยกกาแฟดำมาให้ตามคำขอ
สองหนุ่มที่ป้าขจีพูดหมายถึงใคร?
"นั่นไง มาพอดีเลย" แม่พยักพเยิดหน้าไปทางประตูด้านข้างบ้านที่เป็นสวนหย่อม
ผู้ชายสองคนที่ใบหน้าละม้ายคล้ายกันต่างแค่วัยเดินตามกันมาติด ๆ
คนหนึ่งมีอายุแล้วและท่านน่าจะเพิ่งกลับมาจากประชุมด่วนเมื่อคืน ส่วนอีกคนเป็นวัยกลางคนเข้าเลขสามที่เมื่อคืนบอกฉันว่าจะไปนอนสนามแข่งแต่กลับอยู่ที่บ้านตัวเองตอนเช้าตรู่แบบนี้
"ออกกำลังกายเสร็จแล้วเหรอสองพ่อลูก" ป้าขจีถามคนที่เพิ่งเดินเข้ามา
ฉันแอบมองไปที่ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง กล้ามเป็นมัด ๆ สวมชุดสปอร์ตสำหรับออกกำลังกายสีน้ำเงิน เสื้อที่เขาสวมอยู่เปียกเหงื่อเล็กน้อยทำให้เนื้อผ้าแนบลำตัวมองเห็นซิกซ์แพ็กเป็นคลื่นลอนบางตา
คนอะไรเซ็กซี่ที่สุด!!
นี่ขนาดเห็นไม่ชัดยังรู้เลยว่าเนื้อตรงนั้นต้องแน่นแน่ ๆ อูยยยย เกิดอยากสัมผัสลูบลอนนั้นเล่นเบา ๆ จัง
"วันนี้ลูกชายคุณนึกครึ้มอะไรมาชวนผมไปวิ่งแต่เช้าตรู่ ปกติพ่อขอร้องแทบตายก็ไม่ยอม" ลุงจอมศักดิ์ทำหน้าเหมือนอยากรู้ใส่ลูกชายเขาที่เมื่อกี้เหมือนจะมองมาที่ฉัน
สายตาแบบนั้นอย่าบอกนะว่ารู้ว่าฉันคิดไม่ดีกับบอดี้สุดแสนจะเพอร์เฟกต์นั่นของเขา
"ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ" คนที่ถูกพ่อเขาหลอกถามหลอกแซวไม่ตอบอะไร รีบพูดรีบก้มหัวเล็กน้อยตามมารยาทแล้วก็เดินขึ้นชั้นสองไป
เขาเลือกไปที่ห้องส่วนตัวชั้นบนแทนการไปที่บ้านพักด้านหลัง คงรังเกียจการอยู่ร่วมกันของฉันมากนั่นแหละ
"คุณเองก็รีบไปอาบน้ำเถอะค่ะ จะได้ลงมาทานข้าวพร้อมกัน เดี๋ยวหนูเจ้าจันทร์จะหิว"
"ไม่เป็นไรค่ะ คุณลุงเชิญตามสบายเลยนะคะ ปกติเจ้าจันทร์ก็ไม่ค่อยทานมื้อเช้าอยู่แล้ว" รีบแทรกขึ้นทันทีที่ป้าขจีพูดแบบนั้นออกไป
ฉันเป็นเด็กนะ แถมนี่ก็บ้านเขาใครจะกล้าให้เจ้าของบ้านมาเร่งรีบทำนู่นทำนี่เพียงเพราะเกรงใจตัวเอง
"กลัวอ้วนหรือไง" ลุงจอมศักดิ์กล่าวติดแซว
"กินเข้าไปเถอะลูก ตั้งแต่เด็กจนตอนนี้ ป้ายังไม่เห็นเราจะอ้วนขึ้นเลย หุ่นได้แม่มาแบบนี้ ไม่ต้องกลัวจะไม่สวยเลย"
"เธอนี่ก็ช่างพูด แม่สวยลูกเลยสวยสินะ"
แล้วทั้งสามคนที่มีวุฒิภาวะสูงก็พากันหัวเราะอย่างชอบใจ
"งั้นผมขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ ถ้าหิวก็ทานกันก่อนได้เลย หนูเจ้าจันทร์ด้วยนะลูก ข้าวเช้าสำคัญ ต้องห้ามงดเด็ดขาด"
ได้แต่พยักหน้าฉีกยิ้มให้เจ้าของบ้านที่ตักเตือน
"เอาไงเรา" ป้าขจีมองหน้าแม่สลับฉัน
"เจ้าจันทร์รอได้ไหมลูก" จริง ๆ แม่กับป้าขจีสนิทกันขนาดนี้พวกท่านไม่ค่อยมีความเกรงใจเรื่องพวกนี้กันแล้ว แต่คงติดที่ฉันแหละแม่เลยถามมาแบบนั้น
"เจ้าจันทร์รอได้ค่ะ" ฉันยิ้มสำทับคำพูด ก่อนจะเสียมารยาท หยิบมือถือขึ้นมาเช็กโลกโซเชียลสักหน่อย
Kristin W. อยู่กับ JaoJaan S.
4 นาที •19.01 นาที •สาธารณะ •washington
I just feel so empty tonight.
อ่านจบถึงกับส่ายหัว คนอะไรขี้บ่นเป็นบ้า ฉันกลับมายังไม่ถึงเดือนก็แท็กมาบ่นว่าเหงาแล้ว
Me : so lonely? [เหงาขนาดนั้นเลย?]
เลือกเข้าแอปฯ แทนการตอบกลับหน้าไทม์ไลน์เขา
Kristin : Yeah!! Miss you.
หมอนี่ก็นะมาทำเป็นบอกคิดถึง สงสัยเหงาปากมากกว่า
Kristin : Call you?
ฉันมองไปทางผู้ใหญ่สองคนที่กำลังเมาท์กันอย่างเมามัน ก่อนจะเสียมารยาทขอตัวออกมาคุยกับเพื่อนตาสีน้ำข้าวข้างนอก
"ว่าไงพ่อหนุ่มจอมเหงา" ทันทีที่ฝั่งนั้นรับสายฉันก็รีบแซวทันที
[ไอจะบ้าตาย ไออยากไปแดนซ์ ไออยากเมา แต่ไม่มีเพื่อน] ถึงกับกลอกตามองบนเมื่อน้ำเสียงเหมือนเหลืออดเหลือใจอยากทำตามที่ว่าแต่ทำไม่ได้ถูกเปล่งออกมา
"เพื่อนยูที่นั่นเยอะแยะคริส ทั้งผู้หญิงผู้ชายนายอย่ามาเวอร์ใส่ฉัน" รู้ทันจึงบ่นกลับ
คริสตินเพื่อนเยอะจะตาย ยิ่งผู้หญิงนะยิ่งนับไม่ถ้วน ก็เขาทั้งหล่อทั้งรวยนี่เนอะ ถ้าอยากเมาอยากไปเที่ยวกลางคืนหิ้วปีกใครไปก็ได้ ไม่เห็นต้องมาโอดครวญกับฉันแบบนี้ให้วุ่นวาย
[ไม่มีใครรู้ใจไอเท่ายู] เสียงสลดปนออดอ้อนก็มา
"ไอพนันไหมไม่เกินครึ่งชั่วโมงยูจะต้องเช็กอินที่ผับใดผับหนึ่งแถวนั้น"
[อย่ารู้ทันสิ!]
เห็นไหมฉันบอกแล้วว่าหมอนี่น่ะเจ้าเล่ห์ ถ้าสถานะมากกว่าเพื่อนกัน ฉันคงต้องบอกเลิกเขาวันละสามเวลาตามมื้ออาหารแน่ ๆ
"เรื่องแกรนด์มานายเคลียร์แล้วใช่ไหม?" รู้สึกอยากตอกย้ำเรื่องแสบที่ตัวเองทิ้งไว้ขึ้นมาสะดื้อ ๆ
[กว่าไอจะอธิบายให้ท่านเข้าใจ หัวเข่านี่ปวดระบมไปหมด]
ได้ยินแล้วก็ทั้งขำทั้งสงสาร แต่สะใจมากกว่า ใครบอกอยากมาแกล้งฉันก่อนเอง
"คืนนี้ก็อย่ากลับดึกล่ะ ไม่งั้นไอจะส่งคลิปที่ยูหลีสาวไปให้ท่านดู" มีขู่เพื่อนเล็กน้อย
[โอ๊ย! นี่ยูมีความลับอะไรไอเก็บไว้บ้างเนี่ย โคตรเสียเปรียบเลย]
ทำเพื่อนหัวเสียได้เจ้าจันทร์ชอบค่ะ
"ช่วยไม่ได้ ยูก็ทำตัวดี ๆ กับไอแล้วกัน แค่นี้ก่อนนะคริส เดี๋ยวไอโทร.หาใหม่"
สายตาเหลือบไปเห็นคนที่ขึ้นไปอาบน้ำกำลังเดินลงมาจึงรีบบอกลาคริสตินแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง
"ทำไมทานน้อยจังลูก" ป้าขจีถามขึ้นตอนที่ท่านเห็นฉันรวบช้อนกับส้อมวางไว้ข้างจาน
"สงสัยเพราะกาแฟยังไม่ย่อยค่ะ"
ที่จริงเพราะสายตาคู่นั้นที่ชอบมองมาเหมือนเห็นฉันเป็นตัวอะไรสักอย่างมากกว่า
"กินแบบนี้กลัวอ้วนหรือเรา อย่าให้ผอมเกินไปนะเดี๋ยวหนุ่ม ๆ จะไม่ชอบ" ลุงจอมศักดิ์แซวขึ้นบ้าง ฉันได้แต่ยิ้มบาง ๆ กลับไปให้ท่าน
"อย่าไปฟังลุงมาก เจ้าจันทร์ของป้าสวยอยู่แล้ว มีแต่หนุ่ม ๆ ตามจีบทั้งนั้นแหละ เมื่อกี้ก็แอบหลบไปคุยกับแฟนมาหรือเปล่านะ"
รีบเหลือบสายตาไปมองอีกคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามทันทีเพราะกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดว่าฉันมีแฟนแล้ว
"แค่เพื่อนค่ะ" ตามด้วยการปฏิเสธออกไป
"ตอนนี้เพื่อน วันหน้าอาจพัฒนาเป็นแฟน แม่เห็นเราชอบอวดเพื่อนคนนี้ให้ฟังบ่อย ๆ จนอยากเห็นหน้าแล้วเนี่ย"
อย่างที่แม่พูดนั่นแหละ เวลาฉันโทร.มาหาท่านทีไรมักจะมีเรื่องของคริสตินเล่าให้ท่านฟังทุกครั้ง แต่ท่านไม่เคยเจอเพื่อนฉันคนนี้หรอกนะ เพราะห้าปีที่ผ่านมาฉันไม่เคยกลับมาเหยียบที่นี่เลยสักครั้งเดียว
"เพื่อนที่นู่นเหรอลูก ถ้าว่างก็ชวนเขาบินมาเที่ยวบ้านเราบ้างสิ เดี๋ยวป้าให้เที่ยวบินพิเศษ" ป้าขจีเหมือนจะสนใจคริสตินขึ้นมาอีกคน
"ไว้เจ้าจันทร์จะลองชวนดูนะคะ" ฉันตอบรับไปตามมารยาท
คนอย่างหมอนั่นไม่ต้องรอให้ชวนหรอก นับเวลาถอยหลังได้เลยไม่เกินสัปดาห์นี้เขาต้องมีเรื่องให้ทะเลาะกับย่าแล้วตัวเองก็หาเรื่องหนีมาปรับทุกข์กับฉันที่นี่ตามสเตป
ครูดดด...
เสียงขาเก้าอี้ครูดกับพื้นดังขึ้น พร้อมผู้ชายที่มีบอดี้สุดแสนจะเพอร์เฟกต์ที่สวมชุดเตรียมพร้อมออกไปข้างนอกลุกขึ้นจากเก้าอี้
"อ้าว อิ่มแล้วเหรอเรา" คนเป็นแม่เอ่ยถามลูกชายที่ไม่บอกไม่กล่าวใคร
"ครับ" เขาตอบเพียงแค่นั้นก็เดินออกไปจากโต๊ะอาหาร
"อย่าเพิ่งไปไหนนะ เรารับปากแม่แล้วจะไปส่งน้องกับคุณน้า" ป้าขจีตะโกนตามหลังลูกชายที่เดินออกไปทางสวนข้างบ้าน
"ไม่ได้ดั่งใจเลยจริง ๆ ลูกชายคนนี้" คนเป็นแม่บ่นกระปอดกระแปดก่อนจะชำเลืองสายตาไปมองคนที่นั่งหัวโต๊ะ
"อ้าว! ไหงมองผมแบบนั้นล่ะ" ลุงจอมศักดิ์โดนหางเลขไปอีกคน
"ก็นั่นลูกชายคุณนี่คะ" คนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวถึงกับถอนหายใจออกมาบาง ๆ
"ผู้หญิงนี่น้า เวลาไม่ได้ดั่งใจก็โยนลูกให้สามีคนเดียว"
น้ำเสียงคุณลุงไม่ได้จริงจังที่ว่ากล่าวให้ภรรยาท่าน ป้าขจีทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะหันมาคุยกับแม่ฉันไปด้วยทานข้าวต่อไปด้วย
"เจ้าจันทร์อิ่มแล้วก็ออกไปเดินย่อยเถอะลูก" แม่หันมาบอก ท่านคงเห็นท่าทางอึดอัดของฉัน
"งั้น ขอเสียมารยาทนะคะ"
"ตามสบายลูก ไม่ต้องเกรงใจ" ป้าขจีหันมายิ้มหวาน ฉันเลยขอตัวออกมาเดินย่อยที่ลานน้ำพุหน้าบ้าน