"มายืนทำอะไรมืด ๆ ตรงนี้คนเดียว"
รีบยกมือปาดน้ำตาออกลวก ๆ เมื่อมีคนมา
"เฮียราชย์ไม่อยู่ เจ้าจันทร์หาไม่เจอค่ะ งั้นเดี๋ยวเค้กนี้เจ้าจันทร์ขอนะคะ" พูดยาวเหยียดเพื่อไม่ให้ตัวเองเศร้าหมอง ก่อนจะลงมือตักเค้กในมือกินแล้วหันหลังให้เจ๊แยมโรลเพื่อปกปิดน้ำตาที่กำลังไหลลงมา
"ยังตัดใจไม่ได้ก็แค่เดินหน้าต่อ"
คำปลอบประโลมนี้ไม่ได้ช่วยให้ฉันรู้สึกดีขึ้นสักนิด
"ไอ้เฮียมันบ้า จมปรักอยู่แต่กับอดีต สองคนนั้นเลิกกันเพราะผู้หญิงทำตัวไม่ดีไม่เกี่ยวกับเจ้าจันทร์เลยสักนิด"
เรื่องที่ฉันแอบชอบเฮียราชย์มีเพียงเจ๊แยมโรลที่รู้ และฉันขอให้เธอเก็บไว้เป็นความลับตลอดเวลาเกือบสิบปีที่ผ่านมา
"เพราะเจ้าจันทร์ ยังไงเรื่องทั้งหมดก็เกิดเพราะเจ้าจันทร์ค่ะ" แม้จะบอกว่าตัวเองเป็นคนเข้มแข็ง แต่เรื่องบางเรื่องมันบั่นทอนจิตใจฉันมากเกินจะรับได้
"ไม่ร้องนะคนเก่ง เจ๊เชื่อว่าสักวันไอ้เฮียจะต้องตาสว่าง"
'แม้เขาจะรอเธอคนนั้นมาตลอดเหรอคะ?' ได้แต่ถามคำถามนี้ในใจ
ฉันรู้ว่าในสายตาเฮียราชย์ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนเลย เพราะหัวใจเขารอแต่เธอคนนั้น รอเพียงแค่ผู้หญิงที่ทำหัวใจเขาสั่นไหวได้
"กลับเข้าไปในงานกันเถอะ น้าจันทร์เพ็ญเรียกหาแล้ว"
ฝ่ามือบางโอบกอดฉันเบา ๆ ถ้าญาติเธออบอุ่นได้ครึ่งหนึ่งของเธอก็คงจะดี
"ค่ะ" ฉันปาดน้ำตาทิ้งอีกครั้ง
ร้องไห้ได้แต่ไม่ใช่ว่าจะร้องไปตลอด เขาไม่รักวันนี้ ฉันก็จะตื๊อเขาจนกว่าจะหมดกำลังใจ
"ต้องแบบนี้สิ เราสวย เราเลือกได้ เชิดไปเลย เชิดใส่ไอ้คนที่ไม่มีหัวใจคนนั้นไปเลย" เห็นรอยยิ้มสดใสของคนข้าง ๆ แล้วก็เผลอยิ้มตาม
ก็น่ารักแบบนี้ไง เฮียกิเลนถึงปล่อยไปไหนห่างกายไม่ได้
"ไปแดนซ์กันดีกว่าค่ะ" ก็อย่างที่เจ๊แยมโรลบอกนั่นแหละ
ฉันสวย ฉันสามารถเลือกได้ ฉันจะต้องไม่มาฟูมฟายเพียงแค่เขาเย็นชาใส่ แต่ฉันจะค่อย ๆ ทะลายความเย็นชานั้นออกไปทีละน้อย ๆ แล้วเข้าไปอยู่ในหัวใจเขาให้ได้... ในสักวัน!
"เด็ก ๆ คนแก่เริ่มตาจะปิดแล้ว สนุกกันไปเลยนะลูก เดี๋ยว ส.ว. (สูงวัย) ทั้งสองจะไปนอนก่อน" เสียงป้าขจีดังขึ้น
นี่ก็ดึกมากแล้วการมานั่งตากน้ำค้างนาน ๆ มันก็ไม่ดีต่อสุขภาพพวกท่านจริง ๆ นั่นแหละ
"เดี๋ยวเจ้าจันทร์พาไปค่ะ" วันนี้ป้าขจีไม่ยอมให้พวกเรากลับบ้านด้วยแหละ บอกอยากนอนคุยกับแม่ฉันทั้งคืน
พอลุงจอมศักดิ์ไม่อยู่เพราะต้องบินไปประชุมที่เชียงใหม่กะทันหันก็ทำตัวกิ๊กกันเชียวนะสองคนนี้
"ไม่เป็นไรลูก เดี๋ยวแม่ไปกันเองได้ ใช่ไหมขจี" ป้าขจียิ้มและพยักหน้าให้ฉัน เลยต้องปล่อยเลยตามเลยให้เจ้าของวันเกิดและเจ้าของบ้านกลับขึ้นห้องไปกันสองคน
"ลองไวน์แดงดูไหม" เจ๊แยมโรลสะกิดถาม
"ก็ดีค่ะ" ฉันอยู่ที่นู่นถูกคริสตินชวนเข้าบาร์แทบทุกคืน ไม่ว่าจะเหล้านอกเหล้าในประเทศ ไวน์หรืออะไรก็ตามฉันถูกหมอนั่นให้ลองจนแทบจะเชี่ยวชาญด้านแอลกอฮอล์อยู่แล้ว
"คอแข็งใช้ได้" เฮียกิเลนที่วันนี้มาร่วมงานด้วยเอ่ยขึ้น
"..." ฉันได้แค่ยิ้มกลับไป
"คนแก่ไม่อยู่ เราไปแดนซ์กันดีกว่า" เจ๊แยมโรลกระทุ้งข้อศอกเรียก
ฉันมองซ้ายมองขวา ตอนนี้ก็เหลือแต่กลุ่มพวกฉันสี่ห้าคนแล้วแถมมีแต่คนกันเอง คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เต้นพอประมาณอย่าเกินงามก็คงได้
"อยู่นี่เต้นได้ แต่ถ้าห่างสายตาเมื่อไหร่ เจอดีแน่" คนชวนแดนซ์ถูกสามีดุซะแล้ว
"อย่ามาทำขู่"
"ฉันเคยขู่?"
วันนี้จะได้แดนซ์ไหมเนี่ย คู่สามีภรรยากำลังมองตากันจนเกิดประกายไฟเปรี้ยะ ๆ แล้ว
"ไปเถอะเจ้าจันทร์ ไม่แดนซ์แล้ว แต่เราแยกไปนั่งกันตามประสาผู้หญิงกันดีกว่า" เจ๊แยมโรลเปลี่ยนใจไวมาก
เฮ้อ! เสียดายเลย ว่าจะปลดปล่อยความเครียดสักหน่อย
"ไปอยู่ที่นู่นตั้งหลายปีไม่มีหนุ่มตาสีฟ้ามาจีบบ้างเลยเหรอ" เจ๊แยมโรลชวนคุย
"มีบ้างค่ะ" ฉันตอบไปตามความจริง
"แล้วไม่คลิกใครเลย?" ฉันได้แค่ยิ้มกลับไป
"เจ๊ถามจริงนะ" เธอเขยิบเข้ามาใกล้ฉัน มองซ้ายมองขวาก่อนจะกระซิบถาม
"ยังคิดจะจีบไอ้เฮียต่ออีกเหรอ" เป็นคำถามที่รู้อยู่แล้วว่าต้องเจอ แต่พอเจอจริง ๆ กลับตอบยากมาก
"ถ้าเจ้าจันทร์ทำแบบนั้น จะดูหน้าด้านไหมคะ" ถูกปฏิเสธมาก็ตั้งหลายหนแต่ยังจะดื้อด้านตามตื๊อต่อ ไม่รู้จะถูกมองว่าเป็นคนแบบไหน
"ช่างปะไร ใครจะมองว่ายังไงก็ช่างคนอื่น เขาไม่ได้มาช่วยให้เราสมหวังสักหน่อย" ฉันไม่ได้หมายถึงคนอื่นจะมองยังไง แต่ฉันหมายถึงคนที่ฉันจะตามตื๊อเขามากกว่า
"แล้ว... เขาไม่มีใครเลยเหรอคะ" ฉันเลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อ
แม้จะหลบมาคุยกันมุมมืดกันสองคนแล้วแต่ฉันก็ต้องซอฟต์ตัวเองไว้ด้วยเพราะเรื่องนี้เป็นความลับสุดยอด
"เย็นชาแบบนั้นใครจะกล้าเข้าใกล้"
ก็จริงอย่างที่เจ๊แยมโรลพูด ขนาดฉันที่เคยเจอหน้าตั้งแต่เด็ก ๆ ยังรับความเย็นชานั้นไม่ไหว
นี่ถ้าไม่รักจริงฉันคงไม่บ้าตามตื๊อคนแบบนี้แน่
"ถามแบบนั้นแสดงว่าเรายังแอบรอคอยไอ้เฮียอยู่สินะ" ฉันได้แต่ยิ้มบาง ๆ
อยากจะบอกว่าทั้งหัวใจมีแต่คนเย็นชาคนนั้นคนเดียวใจแทบขาด
"งั้นเอาแบบนี้ไหม เจ๊ช่วยอีกแรง"
"ช่วยแบบไหนคะ" พอได้ยินแบบนี้ก็ห้ามที่จะไม่ถามไม่ได้เลยจริง ๆ
"ตอนนี้ยังไม่รู้ แต่ถ้ามีโอกาสเจ๊จะเป็นเจ๊ดันให้เอง"
ตอนแรกก็หลงดีใจ แต่อย่างน้อยก็เหมือนไม่ได้ตัวคนเดียวในการตามตื๊อผู้ชายคนนี้แล้วละนะ
"เจ้าจันทร์คงต้องฝากตัวด้วยนะคะ"
อะไรที่อยากได้ ฉันจะต้องได้ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ฉันก็ต้องพึ่งคาถาและคนใกล้ตัวแบบนี้แทน
"จัดให้จ้ะ" คนสวยตรงหน้าขยิบตาให้ก่อนที่เราสองคนจะชนแก้วกัน
ฉันนั่งมองบรรยากาศรอบ ๆ บ้านทวีทรัพย์ไพศาลด้วยความรู้สึกหลากหลาย
ทั้งคิดถึงและเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน
Rachan's part
"ตาราชย์มานั่งทำอะไรตรงนี้ลูก" แม่เดินเข้ามาพร้อมเพื่อนสนิทของท่าน
"ข้างนอกเสียงดัง" คิดอะไรไม่ทันก็ตอบเอาตอนหูได้ยินเสียงเพลงที่เปิดดังขึ้นเมื่อคนที่อาวุโสทั้งหลายไม่อยู่
"ปกติขลุกอยู่ที่สนามแข่งเสียงดังกว่านี้นี่" แม่รู้จักนิสัยผมดีท่านเลยย้อนคืน
"ดึกแล้ว พาน้าจันทร์เพ็ญขึ้นไปพักผ่อนเถอะครับ" ผมเลี่ยงที่จะต่อปากต่อคำกับแม่ตัวเอง
"งั้นแม่ฝากดูแลแขกด้วยนะ" ผมรู้ว่าแม่กำลังบอกความนัยให้ผม แม่กำลังย้ำว่าแขกที่ว่าคือใคร
"เดี๋ยวผมจะไปนอนที่คอนโด"
"ดึกแล้วนอนบ้านนี่แหละ ออกไปคอนโดเราก็หนีไปอยู่สนามแข่งอยู่ดี แม่ขอแค่วันนี้วันเดียว ดูแลหนูเจ้าจันทร์ด้วย ให้น้องนอนที่ห้อองใต้หลังคาแล้วเราก็นอนที่นี่!"
คำสั่งของคุณหญิงขจี คุณนายของบ้านหลังนี้ถือเป็นที่สิ้นสุด
จะกลับมาให้คนอื่นเดือดร้อนทำไมก็ไม่รู้
"น้าฝากน้องหน่อยนะลูก แค่คืนเดียว" เสียงน้าจันทร์เพ็ญขอร้องขึ้น
ผมได้แต่พยักหน้าสบตาท่านไม่กี่วินาทีก็เสมองไปทางอื่น
สองคนนี้เหมือนกันมาก แม้น้าขจีจะอายุเยอะแล้วแต่เค้าโครงความสวยของท่านยังไม่ถูกตัวเลขที่สูงขึ้นบดบัง ทำให้เวลาผมมองหน้าท่านมักซ้อนทับกับผู้หญิงอีกคนขึ้นมา
"งั้นแม่กับน้าเพ็ญไปนอนก่อนนะ" แม่บอกลาผมเท่านั้นก็เดินขึ้นชั้นบนไปกับเพื่อนของท่าน
เฮ้อ! ได้แต่กรอกเหล้าเข้าปากให้เมาพร้อมถอนหายใจ
ยัยนั้นโตแล้ว เธอโตขึ้นมาก และยอมรับว่าสวยขึ้น แต่แค่สวยอย่างเดียวไม่สามารถทำผมหวั่นไหวได้
ใช่ ที่ผมพูดแบบนี้เพราะผมรู้ว่าทั้งแม่ผมและแม่เธอต่างก็กำลังจับคู่เราสองคน
ตบมือข้างเดียวไปเถอะ เพราะชาตินี้ทั้งชาติ ผมก็ไม่เหลือที่ว่างของหัวใจให้ใครอีกแล้ว
"เมื่อไหร่จะลืมเธอได้สักที" พึมพำไปก็เท่านั้น
ในเมื่อปากบอกอยากลืม แต่หัวใจผมกลับจำ..
จำแต่ความรู้สึกดี ๆ ของผมกับผู้หญิงใจร้ายคนนั้น ห้าปีไม่ได้ช่วยให้ผมลืมเธอได้เลยแม้สักวินาทีเดียว
[End part]
"ให้เจ้าจันทร์นอนที่นี่ได้เหรอคะ"
ตอนนี้งานเลี้ยงจบลงแล้ว ฉันเลยถูกเจ๊แยมโรลกับสามีเธอและพ่วงมาด้วยผู้ชายใบหน้านิ่งเรียบจนดูเย็นชาอีกหนึ่งคนพามาที่บ้านหลังเดิม หลังที่มีห้องใต้หลังคา
"ถ้าคิดว่าไม่อยากรบกวนแล้วจะมาทำไมตั้งแต่แรก"
อึก! คำถามของฉันมันมีอะไรผิดพลาดถึงได้ถูกตอกกลับมาด้วยถ้อยคำรุนแรงแบบนั้น
"จะยืนบื้ออยู่ทำไม รีบ ๆ เข้าไปสิ คนอื่นจะได้กลับไปพักผ่อน"
น้ำเสียงกึ่งสั่งกึ่งรำคาญดังขึ้นต่อหน้าคู่รักที่ยืนมองมาที่เราสองคน
"หัดพูดกับน้องเขาดี ๆ บ้างก็ได้นะไอ้เฮีย" เฮียกิเลนที่ยืนประคองเจ๊แยมโรลที่เมาหนักกว่าใครว่าให้เพื่อนในกลุ่มเขา
"ปากหมาแบบนี้ระวังจะไม่มีใครเอานะเฮีย" ถึงแม้จะบอกว่าเธอเมากว่าคนอื่น แต่เจ๊แยมโรลก็ดูมีสติอยู่บ้างถึงได้พูดออกมาแบบนั้น
"ใครสน รีบ ๆ พาเมียมึงกลับบ้านไปเลย"
น้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่ฟังยังไงก็ไม่เย็นชาเท่าเวลาคุยกับฉันสักนิด
"เออ ๆ พรุ่งนี้เจอกัน มีแข่งนี่?" ผู้ชายสองคนยืนคุยกันต่อสักพักก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับไป
"เมี้ยววววว"
จังหวะที่หมุนตัวเตรียมจะเดินเข้าห้องที่เปิดประตูอ้าไว้ไร้ร่างสูงใหญ่เพราะเขาเดินเข้าไปก่อนเสียงแมวก็ดังขึ้นอยู่มุมหนึ่งของบ้าน
"เจ้าแคท" เห็นหางสีขาวปุย ๆ ของมันกระดิกโผล่ออกมาอยู่ตรงมุมข้างบ้าน
"มาทำอะไรตรงนี้เรา" ฉันเดินมาหาเจ้าแมวขนปุกปุยสีขาวสะอาดสะอ้านก่อนจะค่อย ๆ นั่งยอง ๆ ลูบหัวมันเล่น
"เมี้ยววว" เหมือนเจ้าแคทจะทักทายหรือตอบคำถามฉันเลย
"ลีลา!" เสียงทุ้มดังขึ้นอยู่ด้านหลัง
พอมองกลับไปจึงเห็นว่าเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองเสื้อยืดคอเต่าแขนยาวสีดำทั้งชุด
หล่อ เท่ ดูดี แต่เย็นชา
"ฉันอนุญาตให้เธอใช้ได้แค่ห้องใต้หลังคา ถ้าอยากเข้าห้องน้ำก็รักษาความสะอาด อย่าทำอะไรพัง" หางเสียงเหมือนกระแซะว่าฉันมันตัวหายนะยังไงไม่รู้
"เฮียราชย์จะไปไหนคะ"
ในใจอยากถามว่า เขาไม่ค้างที่นี่เหรอ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนใจเมื่อนึกถึงคำตอบที่น่าจะทำลายล้างหัวใจขั้นรุนแรง
"เป็นแม่ฉันอีกคนหรือไง"
โอเค แม้จะเปลี่ยนคำถามให้ดูธรรมดาแล้วแต่ก็ยังเจ็บกระดองใจอยู่ดี
"ขอโทษที่จุ้นจ้านค่ะ เผื่อป้าขจีถามหา เจ้าจันทร์จะได้ตอบถูก" ไม่ได้ประชดกลับเลยจริง ๆ แต่เผลอลากเสียงสูงท้ายประโยคแค่นั้นเอง
"บอกแม่ฉัน ถ้าอยากรู้ก็โทรมาตามเอง เพราะนั่นไม่ใช่กงการอะไรที่ฉันต้องฝากฝังไว้กับเธอ"
ฟังแล้วเหมือนเป็นประโยคธรรมดา แต่ถ้าเห็นสายตาที่เขามองเหมือนรังเกียจฉันจะรู้เลยว่ามันบาดลึกหัวใจดวงนี้ยิ่งนัก
"ค่ะ ไว้เจ้าจันทร์จะเรียนคุณป้าให้ครบทุกคำไม่ขาดตกแม้คำเดียว"
ฉันบูชาความรัก ฉันรักเขาหมดหัวใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะอ่อนแอให้เขาพูดจาแบบไหนกับตัวเองก็ได้
แรงมาแรงกลับไม่โกงบอกเลย!
"เมี๊ยวววว!"
"เจ้านายแกน่ะปากร้าย ไม่รู้เจ้าจันทร์แอบชอบคนแบบนั้นไปได้ยังไง"
ไม่มีเพื่อนให้คุยให้ปรับทุกข์คุยกับแมวแทนก็ได้
"แง้ววววว"
เหมือนเจ้าแคทจะเห็นด้วยกับฉันนะดูสิ ร้องแล้วก็เอาหัวมาถูใต้คางฉันใหญ่เลย
"คืนนี้มานอนเป็นเพื่อนเจ้าจันทร์นะ"
นอนคนเดียวก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่อึดอัดกับสายตาเย็นชาคู่นั้นเวลาจะทำอะไร แต่ทำไมลึก ๆ แล้ว ไอ้อกข้างซ้ายถึงได้หน่วง ๆ แบบนี้กันนะเรา