เริ่มแรกจากงานวิวาห์

Episode 5

“อื้อ…” กุลธิดาทุบกำปั้นเข้ากับบ่ากว้างของเขาทันทีที่รู้สึกเหมือนเขากำลังจะสูบพลังของเธอออกไปเสียจนหมดสิ้น ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเธอกำลังจะขาดห้วง

และเหมือนญานิศราจะรู้ว่าเธอกำลังต้องการอากาศหายใจ... 

เขาผละออกจากใบหน้าที่แสนจะน่าหลงใหลนั้นเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากกระจับสวยของตัวเองไล่ลงมาอยู่ที่รำคอระหงส์ของคนตรงหน้าอย่างหลงใหล

“อ่ะ...อื้อ” สัมผัสวาบหวามที่เขากำลังส่งมอบให้กุลธิดากำลังทำให้เธอแทบจะมอดไหม้ เขาร้อนแรงเสียจนเธอนึกหวาดหวั่นว่าตัวเองอาจจะขาดอากาศหายใจไปเสียก่อนจะได้สุขสม

ริมฝีปากกระจับสวยยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เขาขบเม้มลำคอของเธออย่างแผ่วเบา มือซ้ายก็ยังคงสารวนกับการลูบไล้คนตรงหน้าไปมาอย่างเสน่ห์หา ก่อนที่มือซุกซนจะเลิกสาบเสื้อของใครอีกคนขึ้นมาและหลุบหายเข้าไปสัมผัสส่วนลับภายในร่างกายของเธออย่างปรารถนา

“อ้ะ...” ปากยังทำหน้าที่ขบเม้มลำคอหอมหวานที่เขานั้นหลงใหลอย่างไม่ขาดสาย ส่วนมือข้างขวาก็บีบเคล้นหน้าอกหน้าใจของคนตรงหน้าอย่างไม่รีบร้อน ส่วนมือซ้ายก็เคล้นคลึงสะโพกงามของกุลธิดาด้วยความอ่อนโยนที่สุดเพราะกลัวเธอจะบุบสลายหายไปเสียก่อน

ญานิศราเลื่อนริมฝีปากไล่ลงมาขบเม้มอยู่ที่หน้าอกหน้าใจของกุลธิดาผ่านเสื้อยืดสีขาวตัวบางที่เธอนั้นสวมใส่ มันกำลังเปียกชื้นไปด้วยน้ำลายของยีนส์ที่ยังคงนึกสนุกเล่นมันผ่านเสื้อตัวบาง ๆ ตัวนั้น

กุลธิดาที่ทนต่อความต้องการของตัวเองไม่ไหว เธอกำลังคลั่งไคล้กับสัมผัสวาบหวามที่เขานั้นมอบให้ เธอผลักหน้าเขาออกเล็กน้อยให้ยีนส์มีสีหน้าสงสัย แต่ความสงสัยนั้นก็หายไปแทบจะทันทีเมื่อเธอตัดสินใจเป็นคนถอดเสื้อตัวบางของเธอนั้นออกด้วยตัวเอง

ญานิศรานั่งนิ่งมองคนหน้าแดงเพราะสัมผัสที่เขานั้นมอบให้กำลังปลดเปลื้องอาภรณ์ด้านบนของตัวเองอย่างใจเย็น ยีนส์มองกุลธิดาด้วยความหลงใหล สายตาที่แพรวพราวของเขากำลังทำให้กุลธิดากำลังจะเป็นบ้า

“ยะ...อย่ามองแบบนั้นสิคะ” กุลธิดาที่พึ่งถอดเสื้อยืดสีขาวตัวบางของเธอออกจากร่างกายแทบอยากจะมุดหน้าหนีเขาเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป

นอกจากจะไม่ช่วยเธอแล้วยังมาส่งสายตาแพรวพราวให้เธอหวั่นไหวอีก!

“ฉันชอบ...” ญานิศรายกยิ้มก่อนจะเอื้อมมือข้างขวาของตัวเองอ้อมไปทางด้านหลังของกุลธิดาโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว “ฉันชอบให้เธอแก้ผ้าต่อหน้าฉัน” ว่าจบเขาก็จัดการปลดตะขอบราของเธอออก ก่อนจะลูบไล้ไหล่ขาวเนียนของเธอและจัดการโยนบราตัวนั้นทิ้งไปให้พ้นทาง

ญานิศราโน้มริมฝีปากสวยนั้นเข้าหาลำคอระหงส์ที่แสนหอมหวานนั้นอีกครั้ง ก่อนจะลากลิ้นเปียกชื้นของตัวเองไล่ลงมาโลมเลียไหปลาร้าที่ขึ้นนูนอย่างคนหุ่นสวย และงับเข้าไปเบา ๆ ที่ยอดสีชมพูอ่อนอย่างนึกหยอกล้อ

“อ่ะ...อ้ะ!” สัมผัสแปลกใหม่ที่คนตรงหน้ามอบให้เธอมันกำลังทำให้เธอแทบจะหลอมละลายลงไปกองกับพื้น มันทั้งเสียว มันทั้งรู้สึกดีจนไม่สามารถจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

มือซุกซนของยีนส์ก็ยังทำหน้าที่ได้อยากไม่ขาดตกบกพร่อง เขาสลับซ้ายทีขวาทีกับหน้าอกของเธออย่างคนเอาแต่ใจ จนตอนนี้ปลายยอดนั้นตั้งชันชี้หน้าของคนเอาแต่ใจเสียแล้ว

“เรียกชื่อฉัน...” ออกคำสั่งทั้งยังซุกซนอยู่ที่หน้าอกของเธอไม่ห่าง

ถึงตอนนี้อารมณ์ของเธอกำลังจะทำให้เธอนั้นแทบจะมอดไหม้แต่ความเขินอายของเธอก็ยังคงมีต่อคนตรงหน้า ทำให้เกวได้แต่หอบหายใจแฮก ๆ แทนชื่อของอีกคนที่กำลังสารวนอยู่กับหน้าอกหน้าใจของเธอ

“โปรดเรียกฉัน...” เขาอ้อนวอนก่อนจะไล่ลิ้นลงมาโลมเลียอยู่ที่สะดือของเธออย่างคนเอาแต่ใจไม่หยุดหย่อน ลิ้นเปียกของเขาทำหน้าที่ได้ดีเสียจนเธออยากจะละลายหายไปจากตรงนั้น

“คะ...คุณยีนส์คะ อ้ะ” กุลธิดาสะดุ้งโหยงกับสัมผัสแปลกใหม่ที่คนตรงหน้ามอบให้เธอได้อย่างไม่ให้เธอได้พักหายใจ ถึงแม้ช่วงล่างของเธอยังมีทั้งกางเกงตัวยาวและชุดชั้นใน แต่เมื่อลิ้นร้อนของเขาลากผ่านไปยังจุดนั้นก็อดไม่ได้ที่จะทำให้เธอเสียววาบขึ้นมาจนต้องเปล่งเสียงน่าอายนี้ออกไป

“ฉันอยากให้เธอพูดแต่ชื่อของฉัน ฉันชอบที่จะได้ยินมัน” เขาว่าทั้ง ๆ ที่มือทั้งสองข้างกำลังปลดเปลื้องอาภรณ์ช่วงล่างของเธอออกอย่างไม่รีบร้อน

และทันทีที่เขาปลดปราการด่านสุดท้ายของเธอออกจนพ้นทาง เขากลับชันตัวขึ้นมามองหน้ากุลธิดาด้วยแววตาแห่งความเสน่หาที่แฝงไปด้วยไฟปรารถนาที่พร้อมจะแผดเผาเธอให้มอดไหม้

“คุณยีนส์...อย่ามองนานสิคะ” กุลธิดาที่พอเจอสายตาทรงเสน่ห์ของเขากำลังสำรวจร่างกายของเธอก็ทำให้เธออดจะเขินอายต่อสายตานั้นไม่ได้

“เธอสวยมากเลยนะรู้ตัวไหม...” เขาเอ่ยชมทั้ง ๆ ที่มือข้างขวาของเขากำลังลูบวนอยู่ที่จุดลับของเธอที่เปียกชื้นเพราะฝีมือของเขาเอง

“อ่ะ...อื้อ” เขากรีดนิ้วเรียวของเขาไปมาบนจุดอ่อนไหวของเธอ จนทำให้เกวสะดุ้งโหยง

ญานิศรามองหน้าคนที่เขาหลงใหลอีกครั้งก่อนเขาจะก้มใบหน้าลงไปเพื่อสัมผัสกับสิ่งที่มือของเขาสารวนอยู่ น้ำหวานของเธอไหลเยิ้มจนเขาอดใจไม่ไหวที่จะลงไปเชยชิมเหมือนผึ้งน้อยตามหาเกสรดอกไม้

“อ่า...อื้อ” กุลธิดาทนไม่ไหวกับสัมผัสที่เขานั้นกำลังมอบให้ เธอแทบจะละลายแล้ว...ลิ้นร้อนของเขาทำหน้าที่ได้ดีจนเธอเผลอขยับสะโพกเข้าหาลิ้นร้อนนั้นด้วยไฟเสน่หาที่กำลังแผดเผาตัวเอง

“เรียกชื่อฉันอีก...” เขาผละหน้าขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะออกคำสั่งและมุดหน้าเข้าหาน้ำหวานที่เขากำลังหลงใหลได้ปลื้มกับมัน

“คุณ...ยีนส์อ้ะ!” กุลธิดาใช้ข้อศอกข้างขวาดันตัวเองขึ้นมาเพื่อมองใบหน้าของใครอีกคน แต่ก็แทบอยากจะทิ้งตัวลงนอนทันทีเมื่อเห็นว่าเขาที่ลิ้นร้อนกำลังทำหน้าที่แต่สายตาของเขากลับจ้องมองเธออย่างไม่ลดละ

“อ้ะ! มะ...ไม่ไหว” เหมือนปลายทางมันใกล้เข้ามามากขึ้นทุกที เธอเผลอยกมืออีกข้างขึ้นไปขยุ้มผมของยีนส์ไว้อย่างลืมตัว ก่อนจะออกแรงดึงมันเบา ๆ ให้เข้ามาใกล้ชิดกับเธอให้มากยิ่งขึ้น

“อ้ะ กะ...ใกล้แล้ว” ปากก็ร้องแต่สะโพกของเธอเด้งรับกับลิ้นร้อนของเขาอย่างสุดจะทนไหว ญานิศราที่เมื่อได้ยินว่าอีกคนกำลังจะถึงฝั่งฝันก็เร่งจังหวะลิ้นร้อนให้ถี่และเร็วยิ่งขึ้นเพื่อหวังจะปลดปล่อยให้ใครอีกคนได้สุขสม

“อ้ะ...อ่าห์!” สิ้นเสียงสุดท้ายของกุลธิดาเธอก็ทิ้งตัวลงนอนอย่างคนหมดเรี่ยวแรงและปล่อยมือออกจากผมของเขาที่ยุ่งเหยิงเพราะฝีมือของเธอเอง

“พะ...พอแล้วค่ะ คุณยีนส์...อื้อ” น้ำหวานที่ไหลทะลักออกมาจากช่องทางรักของเธอมันกำลังทำให้ยีนส์แทบคลั่ง เขาโลมเลียทำความสะอาดช่องทางนั้นจนหมดจดไม่ให้เหลือน้ำหวานที่เขาชื่นชอบให้มันไหลไปอย่างเสียเปล่า

ไฟที่มอดไปกลับมาลุกไหม้อีกครั้งเพราะญานิศรายังไม่หยุดสร้างความรู้สึกนั้นให้เธอ เขายังคงใช้ลิ้นร้อนตวัดขึ้นลงไปมาอย่างคนเอาแต่ใจจนกุลธิดามีไฟปรารถนาขึ้นมาอีกครั้ง

“อ่ะ...อื้มม” เสียงครางหวานดังออกมาจากปากของเธออย่างไม่ขาดสาย

ญานิศราได้ยินดังนั้นจึงผุดกายลุกขึ้นมาคร่อมร่างของเธอไว้ แต่มือของเขายังทำหน้าที่กรีดกรายอยู่บนช่องทางรักของเธออย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

เขาขยับใบหน้าเข้ามาใกล้กับเธอมากขึ้นก่อนจะเลียริมฝีปากตัวเองเบา ๆ อย่างเชิญชวน คนใต้ร่างที่ได้รับสัมผัสที่วาบหวามของเขาอย่างไม่หยุดหย่อนก็ได้แต่เขินอายก่อนจะกลบเกลื่อนความเขินนั้นด้วยการส่งมือไปรั้งท้ายทอยของคนเจ้าเล่ห์ให้เข้ามาทาบทับกับริมฝีปากบางของเธอ

“อ้ะ...” ญานิศรารู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาที่ท้ายทอยของเขาทันทีที่เขาส่งนิ้วเรียวยาวของตัวเองเข้าไปสำรวจภายในร่างกายของเธอ ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด จำให้เขาจำเป็นต้องแช่นิ้วไว้อย่างนั้นเพื่อให้ช่องทางที่ตอดรัดนิ้วของเธอนั้นค่อย ๆ คลายตัว

“จะ...เจ็บ” เธอยังคงจิกเข้ามาที่ท้ายทอยของเขาอย่างหาที่ระบาย แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกดีที่เธอมอบความเจ็บปวดส่วนนึงในตัวของเธอมาให้

“ฉันสัญญาว่าเธอจะไม่เจ็บอีก” ยีนส์ปลอบประโลมคนใต้ร่างอย่างอ่อนโยน ก่อนจะส่งริมฝีปากของตัวเองจูบที่ขมับของคนใต้ร่างอย่างแผ่วเบา

สัมผัสที่เขานั้นมอบให้มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย และเมื่อยีนส์สัมผัสได้ว่าร่างกายของเธอพร้อมแล้วเขาจึงขยับข้อมือของตัวเองอย่างเชื่องช้าเพื่อให้ร่างกายของเธอได้ปรับสภาพไปในตัว

“คะ...คุณยีนส์ อ้ะ!” ทันทีที่ร่างกายของเธอนั้นปรับสภาพได้ จากความเจ็บปวดเมื่อครู่ของเธอมันกำลังแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่าน

เธอเด้งสะโพกรับกับข้อมือของเขาอย่างลืมตัว เธอมองใบหน้าของเขาที่ดวงตาประกายแวววาวอย่างนึกขัดเขิน แต่การกระทำของเธอตอนนี้มันไม่ได้แสดงออกเลยสักนิดว่าเธอกำลังเขินอาย

กลุธิดาเอื้อมมือข้างซ้ายของตัวเองเลิกชายเสื้อกล้ามของคนบนร่างขึ้น ปรากฏลอนกล้ามหน้าท้องจาง ๆ ของคนสุขภาพดีขึ้นต่อสายตาเธอ เธอเอื้อมมือข้างขวาของตัวเองลูบวนที่กล้ามเนื้อนั้นอย่างหลงใหลในร่างกายของเขา

ญานิศราก้มมองคนเบื้องล่างที่ปากก็คราง สะโพกก็ขยับตามข้อมือของเขา ส่วนมือร้อนของเธอกำลังทำให้ร่างกายของยีนส์กำลังปั่นป่วน แววตาของเธอกำลังเคลิบเคลิ้ม แก้มสองข้างก็ขึ้นสีแดงฝาดอย่างน่าหลงใหล เม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นบนหน้าผากของเธอกำลังทำให้เขานั้นแทบขาดใจ

กุลธิดาลุกขึ้นนั่งก่อนจะถอดเสื้อกล้ามของเขาออกให้พ้นทาง ยีนส์เห็นแบบนั้นก็นิ่งอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะถอดถอนนิ้วเรียวยาวออกมาเพื่อให้เสื้อกล้ามของเขาหลุดพ้นไปจากร่างกาย

สปอร์ตบราของเขาก็ลงไปนอนกองกับเสื้อกล้ามไม่ต่างกัน เผยให้เห็นหน้าอกหน้าใจขนาดไม่ใหญ่มากของเขาต่อสายตาของเธอ กุลธิดาผลักอีกคนให้ลงไปนอนราบกับโซฟาก่อนจะเป็นเธอขึ้นมาทาบทับร่างของเขาไว้แทนที่

สะโพกของเธอถูไปมากับกล้ามหน้าท้องของเขาอย่างคนที่ถูกไฟปรารถนาครอบครอง น้ำหวานที่ไหลออกมาไม่ขาดสายของเธอกำลังเปียกแฉะไปทั่วหน้าท้องของเขาที่ช่องทางสวาทของเธอนั้นบดเบียดเสียดสี

กุลธิดาเอื้อมมือมาคว้ามือขวาของยีนส์ เธอจับมือของเขาให้มาลูบไล้ใบหน้าของเธอก่อนจะงับมันเข้าไปท่ามกลางสายตาที่เป็นประกายของญานิศรา

เธอเซ็กซี่เป็นบ้าให้ตายเถอะ!

แววตาของเธอเคลิบเคลิ้ม ริมฝีปากก็ยังทำหน้าที่ดูดดึงนิ้วเรียวของเขาอย่างไม่ลดละ สะโพกมนก็ยังทำหน้าที่ถูไถไปมาจนมันเปียกแฉะหน้าท้องแบนราบของเขาไปหมด

เมื่อดูดดุนนิ้วเรียวจนพอใจเธอก็ลากนิ้วที่เปียกชื้นของยีนส์ไล่ลงมาที่ลำคอระหงส์ ผ่านยอดที่ตั้งชูชันที่กำลังสั่นไหวไปมา ลงมาวนลูบที่สะดือของเธอราว ๆ สองวินาที และการกระทำต่อจากนี้ทำให้ยีนส์ได้แต่มองตามคนบนร่างของเขาด้วยแววตาแห่งความเสน่หาอย่างถึงขีดสุด

กุลธิดายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะส่งนิ้วเรียวยาวของเขาเข้าไปในร่างกายของเธอ เธอกัดปากตัวเองจนห้อเลือด ยีนส์ที่ทนไม่ไหวก็ผุดลุกขึ้นจากโซฟามาช่วยส่งให้เธอนั้นถึงฝั่งฝันโดยเร็ว

“อ้ะ...อ้ะ...ไม่ไหวแล้ว” กุลธิดากัดปากตัวเองแน่น ญานิศราได้แต่นิ่งอึ้งกับภาพตรงหน้า เธอเซ็กซี่มาก การกระทำทุกอย่างของเธอมันน่ามองไปหมด

ยีนส์ประคองหลังของอีกคนด้วยมือที่ว่างอยู่ ก่อนจะอัดนิ้วเรียวยาวของตัวให้ถี่และหนักหน่วงยิ่งขึ้นเพื่อต้องการจะปลดปล่อยให้อีกคนนั้นถึงเส้นชัย

“อ้ะ...ใกล้แล้ว คุณยีนส์” เสียงกรีดร้องของเธอมาพร้อมกับเล็บที่ฝังลงไปด้านหลังเนื้อของคนที่อยู่ตรงข้าม

“ซี๊ดดด!” ญานิศราซี๊ดปากเพื่อหวังจะปลดปล่อยความเจ็บปวดที่เธอนั้นมอบให้

มันเป็นความเจ็บที่เขานั้นรู้สึกดี... 

“เธอโคตรจะเซ็กซี่เลยรู้ตัวไหม?” เขาขบติ่งหูของเธอพร้อมทั้งกระซิบบอก

คนที่เสียวซ่านจนทนไม่ไหวแต่ไม่รู้จะปลดปล่อยยังไง จึงออกแรงจิกลงไปที่แผ่นหลังของใครอีกคนเพื่อหวังให้มันพอจะหายเสียวลงไปบ้าง

“อ้ะ...อ่าห์” สิ้นเสียงสุดท้ายของเธอใบหน้าของกุลธิดาก็ซบลงกับไหล่กว้างของคนด้านหน้าอย่างหมดเรี่ยวแรง

ทั้งเธอและเขาต่างกอดกันท่ามกลางเสียงหอบหายใจแฮก ๆ ที่ดังระงมไปทั่วห้อง แม้เครื่องปรับอากาศจะยังทำงานแต่เม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาตามไรผมของเธอและเขาไม่ได้ช่วยให้มันเย็นขึ้นเลยแม้แต่น้อย

“เธอเคยทำแบบนี้กับใครหรือเปล่า?” เอ่ยถามความสงสัยทันทีที่ศึกหนักเมื่อครู่นั้นจบลง

“มะ...ไม่เคยค่ะ” กุลธิดารีบส่ายหน้าปฏิเสธพัลวัน

เธอไม่ได้โกหกนะ! ที่ทำไปเมื่อครู่จำมาจากหนังที่รัตน์ลดาชอบส่งมาให้เธอดูเพื่อศึกษาต่างหาก!

“ถ้ามันเป็นเรื่องจริง...ครั้งแรกเธอเก่งมากเลยนะ” เขาผละหน้าออกแต่ยังคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง

ยีนส์ผละออกจากคนตรงหน้าก่อนที่ตัวเองจะลุกขึ้นมายืนมองคนตรงหน้าที่กำลังหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายมาปกปิดร่างกายที่เปลือยเปล่า

“ฉันชักจะอยากรู้แล้วสิว่าเธอไปศึกษาที่ไหนมา” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังฉายชัดในแววตาของเขา

ยีนส์รูดกางเกงขายาวพร้อมกับกางเกงในของตัวเองออกอย่างใจเย็น ส่งผลให้คนที่ก้มหน้าหลบตาเมื่อครู่ต้องเงยหน้าขึ้นมามองเนินสามเหลี่ยมไร้ขนที่อยู่ในระดับสายตาของเธอพอดิบพอดี

“บอกฉันได้ไหมว่าเธอไปศึกษาที่ไหนมา...หืม” เขายิ้มร้ายก่อนจะนาบแกนกลางของตัวเองที่เปียกแฉะเข้ามาทาบทับที่ส่วนเดียวกันกับของเธอ

“อืม...” เธอเผลอหลับตาพริ้มเพราะส่วนอุ่นของเรากำลังถูไถกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร

“ต่อจากนี้ไปเธอเป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียว” เขาว่าอย่างนั้นก่อนจะเริ่มบรรเลงบทเพลงรักอีกครั้งที่คราวนี้เป็นตัวเขาเองที่เป็นคนคุมเกมส์ทั้งหมด