(รอยราคี)
หลังจากเสือกลับเรือนรำเพยรีบทำตามความมุ่งมั่นเดิม แต่ก่อนจะปีนเข้าหาพี่ทองก้อนรำเพยต้องอาบน้ำชำระร่างกายให้หอมฟุ้งซะก่อน
วันนี้ออกไปตะลอนในตลาดบ้านมะแว้งจนเกิดเรื่อง เนื้อตัวยังสกปรกมอมแมมจากการถูกไอ้พวกกลุ่มอันธพาลฉุดกระชากลากถู โชคดีแค่ไหนยังมีคนเข้ามาช่วยไม่ถูกไอ้พวกคนเลวจับไปปู้ยี่ปู้ยำกระทำชำเรา
คอยดูเถอะไอ้พวกอันธพาลสันดานเลว เธอจะนำเรื่องนี้ไปฟ้องนายบ้านทัพ รายนั้นไม่ชอบให้ใครมารังแกคนของตน ถ้ารู้ว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น พวกมันคงไม่ได้ตายดีแน่ ดูอย่างคราวของนังฉกาสิ ตอนถูกไอ้พวกกลุ่มโจรบุกขึ้นไปปล้นแล้วหมายจะเอาชีวิต ไอ้คนพวกนั้นยังถูกนายบ้านสั่งสับซะเป็นชิ้นๆแล้วเอาไปโยนให้ฝูงสัตว์ในป่ากินจนไม่เหลือแม้กระดูก
คนชั่วมันต้องโดนแบบนี้มันถึงจะสมน้ำสมเนื้อ
รำเพยชักสีหน้าเดือดดาล เดินย้ำเท้าโครมๆกลับขึ้นเรือน รีบผลัดเปลี่ยนชุดสวยออกนุ่งเป็นกระโจมอกลงมาอาบน้ำยังบึงเล็กหลังบ้าน มีสะพานไม้ทอดยาวออกไปจนถึงสายน้ำ โดยรอบบึงยังเต็มไปด้วยพืชผลจากต้นผลไม้หลากหลายชนิดขึ้นกันอย่างหนาทึบ เพราะว่านายสุขผู้เป็นบิดาชอบเรื่องการปลูกไม้ผลเอาไว้เก็บกิน
ตรงนี้จึงปลอดสายตาคน รำเพยจึงไม่เคยนึกห่วงว่าใครจะมาแอบมอง อีกทั้งตอนนี้เธอก็หาใช่สาววัยรุ่นอายุกำลังจะเลยยี่สิบห้า ถือว่าเป็นสาวแก่เตรียมจะขึ้นคาน
รำเพยพาดผ้านุ่งไว้บนหลักราว ทรุดตัวนั่งลงบนแผ่นไม้สะพาน หย่อนเท้าทั้งสองข้างลงน้ำ ความเย็นทำให้รำเพยรู้สึกสดชื่น จัดการเอาขันจ้วงในสายน้ำตักขึ้นมาราดตัว ผ้าถุงที่สวมจึงแนบติดกับเรือนกายอรชร หยดน้ำเล็กเกาะพราวบนผิวขาวลออ ทำเอาคนแอบมองถึงกับตาลุกวาว เลือดลมในตัวร้อนฉ่า ลำดุ้นกึ่งกลางร่างกำยำสูงใหญ่ผยองพองตัวจนดันเนื้อผ้ากางเกงออกมาประจานความอัปรีย์
“สวย!แล้วก็น่าเอาฉิบหาย...”
เสียงพูดรำพันฟังกระหืดกระหอบ ความปรารถนาแล่นลิ่วคับเป้ากางเกง ชายหื่นหันมองซ้ายมองขวา ดูว่าจะมีใครโผล่มาขัดจังหวะความสุขหรือไม่ รู้ว่าไอ้สุขพ่อของอีรำเพยมันไม่อยู่เรือน พรุ่งนี้ถึงจะกลับ ส่วนเรือนไอ้ทองก้อนยังปิดประตูมิดชิดแสดงว่ามันก็ไม่อยู่เช่นกัน ทางสะดวกขนาดนี้ ไอ้บัวผันจะไม่มีวันยอมปล่อยให้หลุดมือเด็ดขาด
ชายเจ้าของใบหน้าเสี้ยมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ค่อยๆขยับเคลื่อนตัวออกมาจากจุดซ่อน สายตาหื่นกระหายยังคงจับจ้องไปยังเรือนร่างงดงาม รำเพยไม่รู้กำลังมีภัยร้ายใกล้เข้ามาแค่เอื้อม เจ้าตัวจึงยังคงมีความสุขกับการลดน้ำเย็นชำระร่างกาย น้ำเย็นทำให้หญิงสาวอารมณ์ดี ฝ่ามือน้อยคอยลูบไล้ฟองนุ่มของสบู่ถูไปทั่วตัว ถลกผ้าถุงขึ้นมาค้างไว้บนขาอ่อนลูบไล้ฟองสบู่แผ่วเบา
ไอ้บัวผันแลเห็นต้นขาขาวผ่องเป็นยองใย มันกลืนน้ำลาย ทำตาโต วันนี่แหละอีนังรำเพยคนสวยมึงจะต้องตกเป็นเมียของกู...
เสียงย้ำเศษใบไม้ลอยเข้าหูรำเพย หญิงสาวจึงหันขวับไปมอง ขันน้ำในหลุดร่วงลงในบึงน้ำทันทีเพราะว่าเธอถูกร่างหนากระโจนเข้าใส่
“ช่วย...” ยังไม่ทันจะหลุดเสียงร้องให้ช่วย ร่างงามก็ถูกรวบไปกอดฟัด ถูกผลักให้นอนราบบนแผ่นไม้กระดาน โดยมีร่างหนาหนักกดทับเอาไว้ ริมฝีปากอิ่มถูกปิดด้วยมือสกปรก รำเพยเบี่ยงใบหน้าหลบไม่ยอมให้ถูกปิดปาก
“อี๊!มึงเป็นใครไอ้สารเลว?”
รำเพยถูกปลุกปล้ำก็หาได้สมยอมไม่ ทั้งมือทั้งเท้าพร้อมใจกันยกขึ้นประเคนใส่ร่างหนา เธอรังเกียจสัมผัสหยาบโลนจากชายชั่ว รำเพยไม่รู้ว่ามันเป็นใคร เพราะว่าไม่เคยเห็นหน้าไอ้บัวผันมาก่อน ที่แน่ๆมันไม่ใช่คนบ้านสามโคก
ผิดกับที่บัวผัน มันเคยเห็นหน้าของรำเพยมาหลายครั้งในตลาดมะแว้ง มันเกิดนึกชอบถึงขั้นติดใจในความสวยและเรือนร่างอรชรของรำเพย อยากจะได้สาวเจ้ามาเป็นเครื่องระบายกำหนัดในเรือน เหมือนอย่างที่พ่อของมันมีเมียสาวๆเอาไว้คอยเอาอกเอาใจ
ทว่าบัวผันก็พอจะรู้ว่าอีนังคนนี้มันช่างเล่นตัว ไม่เคยเล่นหูเล่นตากับชายใด นอกจากไอ้หน้าเหี้ยมที่ปลูกเรือนติดกันนี้ ดูเหมือนมันทั้งคู่จะแอบได้เสียกันออกบ่อย ไอ้บัวผันไม่ถือสาออกมาทางชอบซะมากกว่า
เมื่อสายอีนังรำเพยก็เกือบจะถูกกลุ่มไอ้ห่าใบมันฉุดไปปลุกปล้ำ ตัวมันเองก็เตรียมจะเข้าร่วมวงสนุกนั้นด้วย ดีที่สายตาปะทะกับไอ้หน้าวอกเลยไหวตัวได้ทัน หากก็ไม่อยากเสียความตั้งใจเดิม ไอ้บัวผันจึงหมายจะเข้าหารำเพยใหม่อีกครั้ง
มันส่งคนมาสืบจนรู้ วันนี้ไอ้สุขพ่อของนังรำเพยไม่อยู่เรือน เป็นโอกาสงามทีเดียวถ้ามันจะลงมือ ตอนมันเดินทางมาถึงเรือนรำเพยก็เห็นสาวเจ้านุ่งกระโจมอกเดินลงมาจากเรือน คงจะไปอาบน้ำ ไอ้บัวผันจึงแอบย่องตามมา เลยได้เห็นของดี
“มึงนี่ฤทธิ์เยอะฉิบหาย...แต่กูก็ชอบ ดิ้นเข้าอีก ดิ้นให้มากๆ”
บัวผันกัดฟันกรอดสีหน้าเหี้ยมเกรียม แรงเสียดสีทำให้อารมณ์มันพลุกพล่านอยากส่งปลายดุ้น มันรวบเอาข้อมือน้อยกดลงกับพื้นไม้กระดาน รำเพยเจ็บจี๊ดทว่าก็ฝืนทนไม่ยอมแพ้ ชายชั่วดันหัวเข่าแนบสนิทกับหน้าขา ปล่อยให้ลำอวบกดคลึงแนบลงกับกึ่งกลางลำตัวสาวผ่านเนื้อผ้าตัวบาง
รำเพยกรีดเสียงร้องระงม ทั้งรังเกียจ ทั้งขยะแขยง พยายามเอี้ยวลำตัวหลบสัมผัสแนบสนิทที่ไม่พึงปรารถนา ไม่ยอมให้เรือนร่างนี้ของเธอเปื้อนคาวราคีจากชายอื่น
น้ำตาสาวไหลนองหน้า ยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งเข้าทางของไอ้ชายชั่ว แรงดิ้นขัดขืนจึงผ่อนปรนลงเรื่อยๆ มีเพียงสายตาเลื่อนลอยเท่านั้นยังคงเฝ้าอ้อนวอนต่อโชคชะตาขอให้พี่ทองก้อนได้ยินเสียงร้องของเธอด้วยเถิด
เธอไม่อยากตกเป็นเมียของชายอื่น ถ้าหากสุดท้ายแล้วเธอสู้ไม่ไหวก็จะขอฆ่าตัวตายให้สิ้นเรื่องสิ้นราว เอาไว้ชาติหน้าค่อยเกิดมาเคียงคู่กับชายที่ตัวเองรัก ชาตินี้คงหมดบุญสิ้นวาสนาต่อกัน
รำเพยจะไม่ยอมตกเป็นของใครทั้งนั้นถ้าหากชายคนนั้นไม่ใช่พี่ทองก้อน
“อ๊า...ผิวมึงนี่นุ่มลื่นมือกูดีฉิบหาย ลูบไล้ไปตรงไหนก็ทำให้ลำเอ็นกูแข็งกระโด๊ก” คำหยาบสัปดนถูกพ่นออกมาจากปากของชายกลัดมัน รำเพยได้ยินยิ่งทำให้สาวเจ้าถึงกับหมดเรี่ยวหมดแรงจะขัดขืน ร่างงามจึงนอนแน่นิ่ง ยอมปล่อยให้ไอ้ชายชั่วมันลวนลาม
หน้าอกสล้างถูกบีบเคล้นหนักๆ รำเพยไม่เกิดอารมณ์พิศวาสร่วมแต่อย่างใด มีเพียงความรู้สึกขยะแขยงจนอยากจะกลั้นใจตายให้รู้แล้วรู้รอด
ร่างงามจึงเกิดภาวะต่อต้าน แข็งทื่อจนไอ้บัวนึกขัดใจ
“ยอมตกเป็นเมียกูแล้วมึงจะสบาย...กูจะรับเลี้ยงดูมึงเป็นอย่างดี”
กลีบปากรำเพยสั่นระริกพยายามกัดเม้ม ใบหน้ายามส่ายไปมา ไม่ยอมให้ปลายลิ้นโสโครกสอดทะยานเข้ามาข้างใน และดูเหมือนว่าผ้าถุงผืนน้อยที่ยังปกคลุมเรือนร่างงดงามเอาไว้มันกำลังทำท่าจะถูกปลดออกจากตัวเธอบัดเดียวนี้
รำเพยน้ำตาไหลพราก เธอหลับตาลงอย่างคนหมดสิ้นแล้วทุกอย่าง
ปมผ้าถุงเกราะกำบังเพียงสิ่งเดียวกำลังถูกดึงกระชาก ด่านสุดท้ายที่ทำท่าจะหลุดลอยออกจากตัว แล้วทีนี้เธอคงหนีไปไหนไม่รอด...
“อย่า...ได้โปรด”
-------------------------------
อรัก!
หากเสียงราวกับของหนักตกกระทบพื้นทำให้รำเพยลืมตาขึ้นโพรง รีบถลันร่างสั่นสะท้านรวบเอาผ้าถุงมากุมไว้ปิดบังหน้าอกสล้าง แววตาตื่นตระหนกมองเจ้าของร่างสูงซึ่งบัดนี้กำลังยืนตระหง่านด้วยสีหน้าถมึงทึง
“พี่ทองก้อน...ช่วยฉันด้วย มันจะปล้ำฉันจ้ะ...”
รำเพยปาดน้ำตาปรอยๆ ในขณะพาร่างสั่นระริกมาหลบอยู่บนฝั่ง
เขาเห็นแล้วไอ้ชาติชั่วมันคิดจะทำอะไรรำเพย โชคดีแค่ไหนเขาซึ่งกำลังจะเดินขึ้นเรือนหันไปเห็นแผ่นหลังไวไวของไอ้ชาติชั่วนี้เข้าพอดีเลยรีบเดินมาดู
อีกอย่างเขาเคยเจอไอ้หมอนี่ตอนเดินทางไปขายเนื้อสัตว์ เลยพอจะรู้สันดานมันเป็นเช่นไร
“ไอ้เหี้ยเอ๊ย!มึงอย่ามีชีวิตให้หนักแผ่นดินต่อไปเลย...กูจะส่งมึงกลับบ้านเก่า”
เสียงคำรามดังเหี้ยมเกรียมจากทองก้อน ซึ่งมาพร้อมกับร่างหนาโถมเข้าใส่ร่างที่ลงไปนอนกองกับพื้นไม้กระดาน ไอ้บัวผันยังมึนงงจึงไม่อาจสู้เรี่ยวแรงมหาศาลจากชายหนุ่มที่มีรูปร่างพอๆกันไหว ไอ้ทองก้อนยกเท้ากระทืบลงบนกล่องดวงใจ ไอ้บัวผันถึงกับร้องจ๊ากรีบยกมือกุมเป้าตัวเองทันที
ทองก้อนยังคงไม่สะใจพอ ชายหนุ่มสะบัดปลายเท้าแตะเสยปลายคางก่อนจะจับไอ้บัวผันโยนลงในสระน้ำ แล้วตัวเองก็กระโจนตามลงไป ถวายหมัดเสยใต้คางไอ้ชายชั่วอย่างนับครั้งไม่ถ้วน จนใบหน้าบัวผันแตกยับ ปูดบวมและมีเลือดซิบ ตาทั้งสองข้างแทบปิด
“อูย...พอแล้วจ้า...ฉันกลัวแล้ว อย่าทำอะไรฉันเลย”
ไอ้บัวผันยกมือไหว้ขอร้องปรกๆ ไอ้ทองก้อนก็หาได้สนใจ ยังคงประเคนหมัดใส่ใบหน้าไอ้บัวผันไม่ยั้ง เดือดจัดเพราะทองก้อนทนเห็นไอ้หนุ่มจากหมูบ้านอื่นมาทำตัวระยำตำบอนในหมู่บ้านของตัวเองไม่ได้
ยิ่งมาทำกับหญิงสาวที่เขารักราวกับน้องสาว ทองก้อนยิ่งยอมไม่ได้เข้าไปกันใหญ่
เป็นรำเพยเองที่กรีดเสียงร้องห้ามปราม เพราะกลัวทองก้อนจะพลั้งมือเผลอฆ่าไอ้สารเลวนั่นตายที่บ้านของเธอ ถึงมันจะสมควรตายก็ช่างเถอะ แต่ทว่ารำเพยกลัวผีนี่นา...
“พี่ทองก้อนอย่าจ้ะ...แค่สั่งสอนมันให้หลาบจำก็พอแล้ว อย่าให้มันมานอนตายที่บ้านของรำเพยเลย...รำเพยกลัวผีน่ะจ้ะ”
เสียงสาวช่วยดึงสติให้ทองก้อนหยุดชะงัก เขากระชากร่างอ่อนปวกเปียกดึงมันขึ้นมานอนหายใจรวยรินบนฝั่ง แววตาแข็งกระด้างปรายมองหญิงสาว
กลัวผีหรือว่านึกติดใจลีลาของไอ้ชาติชั่วนี้กันแน่ ทองก้อนก้มหน้าถ่มน้ำลายใส่ไอ้ชาติชั่วก่อนจะเดินมารั้งร่างอรชรให้เดินมากับตัวเอง
“ไปอยู่เรือนข้าก่อน...”
ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้รู้สึกหงุดหงิดยามเห็นรำเพยถูกไอ้ชาติชั่วนั้นคลุกคลีแนบสนิท เกือบจะถูกมันเสียบเข้าด้วยกระมัง ถึงสาวเจ้าจะขัดขืนไม่ได้สมยอมแต่ทองก้อนก็ยังรู้สึกร้อนในโพรงอกแปลกๆ
“เอ็งไปให้ท่ามันรึ...ไอ้ห่านั่นมันถึงได้ตามเอ็งมาถึงที่นี่...”
“ฉันเปล่าสักหน่อย...มันเป็นใครฉันยังไม่รู้จักเลย หน้าตาก็ไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ แล้วฉันจะไปให้ท่ามันได้อย่างไร...” รำเพยส่ายหัวดิก ปฏิเสธพัลวัน
“แล้วอีกอย่างพี่ทองก้อนก็น่าจะรู้ดี คนที่ฉันจะให้ท่าในโลกใบนี้คงจะมีคนเดียวเท่านั้น...ก็คือตัวพี่เอง...”
เมื่อก่อนน่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าวันนี้เขาจะไม่เห็นท่าทีระหว่างรำเพยกับไอ้หนุ่มหน้าใสที่มีต่อกัน แน่นอนว่าเขาไม่ได้รู้สึกหึงหวงรำเพยแต่อย่างใด เพียงแค่รู้สึกวูบโหวงในโพรงอกจนหาคำอธิบายไม่ถูก
มันเป็นความรู้สึกทำให้เขาหงุดหงิด งุ่นง่าน
“เอ็งขึ้นไปอยู่บนเรือนข้าก่อน แล้วอย่าลืมลงกลอนประตูให้แน่นหนา ประเดี๋ยวข้าจะกลับไปลากไอ้สารเลวนั่นไปให้พี่ทัพจัดการต่อ เสร็จแล้วจะรีบกลับมา...”
ทองก้อนดันแผ่นหลังรำเพยให้เดินขึ้นเรือนตัวเอง โดยไม่ลืมกำชับให้ลงกลอนประตูให้ดีๆอย่าเปิดให้ใครจนกว่าเขาจะจัดการธุระกับไอ้บัวผันเสร็จ รำเพยรับคำโดยยังไม่ยอมก้าวขึ้นบันได ร่างเน่งน้อยหันกลับมาเผชิญหน้ากับชายในดวงใจ เขย่งปลายเท้าขึ้นสูงพร้อมกับฉกริมฝีปากอิ่มจูบปากหยักหนาอย่างไว ทองก้อนผงะถอยหลัง ดันตัวรำเพยออกห่างราวกับรังเกียจ พลางตวัดสายตาดุส่งไปให้สาวเจ้า
“เอ็งคิดจะทำบ้าอะไรวะ? หรือว่าอารมณ์ค้างมาจากไอ้ห่านั่น...”
รำเพยตกใจกับถ้อยคำของทองก้อน คนกำลังขวัญเสียอยู่แท้ๆจะพูดจาต่อกันให้มันดีๆสักหน่อยก็ไม่ได้ ไอ้พี่ทองก้อนบ้า...
“พี่พูดอะไร ฉันก็แค่อยากให้รางวัลพี่ที่ช่วยฉันเอาไว้แค่นั้นเอง”
“แต่ข้าไม่อยากได้รางวัลจากเอ็ง...หรือถ้าอยากนักก็รอแป๊บเดียว ข้าจะกลับมาสนองเอ็งให้อย่างเต็มคราบเลยดีไหม?”
ทองก้อนขึ้นเสียงเข้มถามแล้วเดินหัวเสียกลับมายังสระน้ำหลังเรือน โดยไม่สนใจว่าสาวเจ้าจะยังยืนอ้าปากค้างกับคำพูดประโยคเมื่อสักครู่นี้ ริมฝีปากอิ่มค่อยๆเผยออ้าออก...
“งั้นพี่ก็รีบกลับมาเร็วๆนะจ๊ะ...ฉันจะรอ”
----------------------------------
รำเพยนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่กลางห้องนอนของทองก้อน เจ้าตัวยังคงรู้สึกขยะแขยงต่อสัมผัสกักขฬะของไอ้สารเลวนั่นไม่เสื่อมหาย แม้นเพียรพยายามจะใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรอยราคีออกจนทั่วตัวก็แล้ว ทว่าเช็ดอย่างไรก็ไม่ยอมหมดสักที รำเพยยังรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากเรือนกายแสนสกปรกนั่นอยู่เลย
ผิวขาวราวน้ำนมมาบัดนี้กลายเป็นสีแดงระเรื่อ ครั้นพอไม่ได้ดั่งใจรำเพยก็โยนผ้าในมือทิ้งแล้วปล่อยเสียงโฮลั่น น้ำตาใสๆไหลออกมาเป็นทางยาว
หรือจะต้องเฉือนผิวหนังทิ้งเธอถึงจะกลับมาสะอาดได้เหมือนเดิม
เสียงประตูถูกผลักเข้ามา รำเพยที่กำลังเสียใจเงยหน้าจากหัวเข่าขึ้นมองเจ้าของเรือนหลังน้อย ยกมือปาดน้ำตาทิ้งปรอยๆราวกับเด็กน้อย
“เอ็งร้องไห้ทำไมอีกรำเพย...ใครมันบุกมาปล้ำเอ็งอีกกระนั้นหรือ?”
รำเพยไม่ตอบหากกลับถลันร่างอ่อนละมุนพุ่งกระโจนเข้ากอดร่างหนาไว้ด้วยสองลำแขน
“เฮ้ย!นังรำเพย...”
ทองก้อนที่ยังไม่ทันตั้งตัวตระหนกกับท่าทางของสาวเจ้า มันเป็นบ้าอะไรของมันอีล่ะเนี่ย จะบอกว่าถูกไอ้บัวผันปลุกปล้ำสำเร็จมันก็ไม่ใช่สักหน่อย เขาเห็นกับตานี่นาไอ้จ้อนของไอ้บัวผันยังนอนสงบเสงี่ยมอยู่ในกางเกง หรือว่ารำเพยมันจะนึกเสียดาย?
ทองก้อนขมวดคิ้ว เสียงสั่นปนสะอื้นก็ดังแทรกขึ้นมาอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงหรี่ตาลงมองร่างนุ่มนิ่ม ถ้าไม่อคติหรือมองตรงสันดาน ไอ้บัวผันก็จัดเป็นหนุ่มหล่อเหลาเอาการคนหนึ่ง รูปร่างหรือก็บึกบึนไม่น้อยหน้าใคร จะบอกว่าพอกันกับเขาก็ว่าได้ ถ้ารำเพยมันจะนึกเสียดายก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ไม่แน่หรอกว่าจะเป็นเพราะตัวเขาเองนี่แหละ ที่ดันเสือกยื่นมือเข้าไปขัดจังหวะพวกมันสองคน
“พี่ทองก้อน ต้องช่วยฉันนะ...ฮือๆ”
รำเพยงึมงำเสียงสั่นเครืออยู่แถวซอกคอแกร่ง มือไม้เริ่มดึงรั้งเสื้อผ้าของชายหนุ่มทิ้งพัลวัน แล้วขยับลงเบื้องล่างปุ๊บปั๊บ ก่อนจะกอบกุมพวงสวรรค์เอาไว้เต็มกำมือ ออกแรงบีบเคล้นหมายจะกระตุ้นแรงกำหนัดของทองก้อนให้โหมกระพือ
ไอ้ทองก้อนเองก็ถึงกับสะดุ้งเฮือก ใบหน้าครามคมแดงซ่าน
“อ๊า...รำเพย...หยุดก่อน...เอ็งเป็นบ้าอะไรของเอ็งอีกวะเนี่ย...มาจับไอ้จ้อนข้าไว้ทำไม?”
“พี่ต้องช่วยฉันนะ...ไม่เช่นนั้นฉันจะฆ่าตัวตาย”
รำเพยไม่ได้ขู่เจ้าตัวคิดไว้เช่นนั้นจริงๆ เธอจะต้องสลัดความรู้สึกขยะแขยงออกจากความรู้สึกนี้ให้หมดจงได้ สิ่งเดียวที่จะช่วยลบล้างรอยราคีจากชายชั่วออกจากหัวใจเธอ ก็เห็นมีแต่เพียงพี่ทองก้อน เขาต้องให้ความร่วมมือ
ดังนั้นผ้าถุงตัวงามจึงหลุดร่วงลงพื้น กลีบปากอิ่มวกกลับขึ้นมาจูบปากหยักหนา สอดปลายลิ้นให้ชายหนุ่มดูดดุนความหวาน เบียดบี้เนื้ออ่อนนุ่มจนน้ำลายไหลเยิ้มเปรอะมุมปาก
“อืม...อือ...”
ทองก้อนหัวมึนตึบไปหมดยิ่งพอมาถูกแรงเบียดเสียดจากเนื้อสาว ไหนจะหน้าอกสล้างอวบอิ่มทั้งสองเต้างาม ความยับยั้งชั่งใจก็เลยมลายหายสิ้นออกจากสามัญสำนึกส่วนดี สองมือหยาบจึงรวบรัดร่างงามมากอดไว้แนบอก บดผิวกายเข้ามาขยี้ผิวเนื้อนวลนุ่มแน่นขนัด แทบจะหลอมละลายกลายเป็นเนื้อเดียวกันเลยก็ว่าได้ รำเพยแอ่นสะโพกผาย กดเนินอูมถูไถไปตามความยาวของลำเอ็นแข็งกระโด๊ก บดเส้นขนหยักปะปนกันจนแยกไม่ออกของใครเป็นของใคร ไอ้ทองก้อนไล้ฝ่ามือบีบก้นงาม ก่อนจะเอ่ยปากถามเสียงสั่นสะท้าน
“รำเพยเอ็งเป็นอะไร?...”
“เอาฉันทีเถอะพี่...ฉันอยากถูกพี่ทำ จะได้ลืมร่องรอยของไอ้สารเลวนั่น”
-----------------------------------------