ตลอดเวลาที่นายช่างเข้ามาปรับปรุงร้านเสื้อผ้าของเธอตั้งแต่วันแรกนั้นไป๋เฟิ่งจื่อก็เริ่มรับคนงานเข้ามาซึ่งตอนนี้มีด้วยกันทั้งหมด 5 คน โดยเธอวางแผนไว้ว่าจะแบ่งเป็นสองส่วน คือคนงานที่ร้านค้าและคนงานร้านเสื้อผ้า และในตอนนี้เธอก็เริ่มสั่งทำไม้แขวนผ้า รวมทั้งหุ่นไม้ที่จะใช้ตั้งโชว์หน้าร้านสามตัวด้วยกัน คาดว่าก่อนที่ร้านจะปรับปรุงเสร็จ ทั้งหุ่นและไม้แขวนเสื้อหน้าจะเสร็จทันใช้
” เถ้าแก่จะให้พี่ตัดตามแบบนี้เลยใช่ไหมคะ ” หวังกุ้ยตานเอ่ยถามพร้อมทั้งชี้ไปยังแบบร่างของเสื้อผ้าที่ไป๋เฟิ่งจื่อร่างแบบเอาไว้ให้
” ใช่ค่ะ ตามแบบนั้นเลยนะคะ อีกอย่างพี่อย่าเรียกฉันว่าเถ้าแก่เลยค่ะ มันดูแก่เกินไป เรียกฉันเฟิ่งจื่อก็ได้ค่ะ ” เธอเอ่ยบอก เพราะคนงานตัดเย็บในร้านนั้นแต่ละคนอายุมากกว่าเธอหลายปี ซึ่งคนที่อายุมากที่สุดก็คือคุณน้าช่างอิน ที่ปีนี้อายุ 35 ปีแล้ว รองลงมาก็เป็นพี่เฮ่อเหมย ที่อายุ 21 ปีแล้ว ส่วนพี่กุ้ยตานก็ 18 ปี
” ได้ค่ะ ” หวังกุ้ยตานเอ่ยรับคำอย่างยิ้มๆ กับเจ้านายที่ใจดีและอายุน้อยคนนี้ ในตอนที่เธอรู้อายุของเจ้านายนั้นก็อดที่จะตกใจไม่ได้ ไม่คิดว่าเด็กสาวอายุเพียง 16 ปีคนนี้จะเป็นเจ้าของร้านค้าและร้านเสื้อผ้าที่กำลังจะเปิดอีกไม่นานนี้แล้ว
ก่อนหน้านี้หวังกุ้ยตานทำงานอยู่ในโรงงานตัดเย็บมาก่อน แต่เพราะเงินเดือนที่น้อยมาก สามีของเธอจึงให้เธอออกมาหางานใหม่ โชคดที่เธอได้ทำงานที่ร้านนี้ เดือนเดือนก็ได้ตั้ง 20 หยวน มากกว่าที่โรงงาน 5 หยวน อีกทั้งเธอไม่ต้องทำงานหนักๆด้วย
” พี่เฮ่อเหมยกระโปรงแบบที่พี่ตัดอยู่ฉันขอสีละ 10 ตัวนะคะ “
” ค่ะ พี่จะจัดการให้นะคะ ” เฮ่อเหมยรับคำแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานในส่วนของตนเองต่อไป มีบ้างที่หยุดงานในมือเพราะรู้สึกปวดเมื่อย ซึ่งเจ้านายก็ใจดีให้หยุดพักเป็นช่วงๆ ไม่ได้ทำงานอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนที่อื่น ๆที่เธอเคยทำงานมา อีกทั้งยังมีของกินเล่นมาให้พวกเธอได้กินแก้หิวกันบ้างในบางวัน
ตัวของเฮ่อเหมยเองเพิ่งจะแต่งงานกับคนรักเมื่อปีก่อน หลังจากที่เขาไว้ทุกข์ให้แม่ของเขาครบสามปีตามที่พ่อของเขาขอ ทั้งคู่จึงได้แต่งงานกันตอนที่อายุย่างเข้า 20 ปีแล้ว ตอนนี้ทั้งคู่จึงไม่พร้อมที่จะมีลูกเนื่องจากกังวลว่าจะไม่มีเงินเลี้ยงลูกๆ ที่จะเกิดมา …
” เฟิ่งจื่อ ชุดกระโปรงตามแบบนี้ต้องการเท่าไหร่จ้ะ ” ช่างอินเอ่ยถามความต้องการของเจ้านาย
” เอาสีละ 5 ชุดก็พอค่ะ ฉันต้องลองวางขายดูก่อนว่าลูกค้าสนใจมากน้อยแค่ไหนค่ะ ” ไป๋เฟิ่งจื่อเอ่ยตอบ เพราะแบบชุดที่เธอให้น้าช่างอินตัดเย็บนั้นเธอใช้ตัวอย่างจาดชุดเดรสในยุคเก่าของตนเอง จึงไม่แน่ใจว่า ที่นี่จะนิยมเหมือนกันหรือเปล่า
”ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ” ช่างอิน
” วันนี้ไม่ต้องทำงานจนเย็นมากนะคะ ” เธอเอ่ยบอกทั้งสามสาวที่ชอบอยู่ทำงานจนมืดค่ำ ทั้งสามจึงหัวเราะออกมานั่นเพราะพวกเธอทำงานได้อย่างสบายใจและไม่ต้องกังวลและเร่งรีบในการตัดเย็บชุดพวกนี้มากนัก แต่เน้นให้มีความเรียบร้อยและสวยงามที่สุด
” จ้ะ วันนี้ฉันเองก็อยู่ค่ำไม่ได้ ลูกชายกลับมาเยี่ยมพอดีจ้ะ ” ช่างอินเอ่ยบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเพราะลูกชายที่เรียนมัธยมอยู่ที่บ้านเดิมต่างเมืองจะมาที่บ้าน
” พี่เฮ่อเหมยละคะ วันนี้เป็นยังไงบ้าง ” หวังกุ้ยตานเอ่ยถาม
“. สามีของพี่กลับไปบ้านเดิมค่ะ พ่อสามีไม่ค่อยสบาย ฉันก็เลยต้องนอนคนเดียวที่บ้านเช่าค่ะ “
“ ถ้าที่บ้านไม่มีอะไรหน้าเป็นห่วงก็ค้างที่ร้านได้นะคะ พี่กุ้ยตานเองก็อยู่ที่ร้านลำพัง “ ไป๋เฟิ่งจื่อเอ่ยบอกอย่างเป็นห่วง เพราะเธอเคยไปหาเฮ่อเหมยที่บ้านเช่ามาแล้ว มันดูไม่ค่อยหน้าอยู่สักเท่าไหร่ในความคิดของเธอ
“ ขอบคุณค่ะ แต่ฉันเกรงว่าเขาจะกลับมาแล้วไม่เจอ “ เธอเอ่ยปฏิเสธออกไปเพราะกลัวว่าหากเขากลับมาแล้วไม่เจออาจจะโมโหได้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรช่วงนี้สามีของเธอจึงได้อารมณ์ร้อนขึ้นมากผิดปกติ
“ ค่ะ งั้นพี่ต้องดูแลตัวเองดีๆนะคะ “ หลังจากที่เอ่ยบอกกับคนงานเรียบร้อยแล้ว เธอก็ออกจากร้านไปตามนัดที่ได้นัดหมายกับชายหนุ่มเอาไว้ ซึ่งเขาชวนเธอไปกินอาหารเย็นด้วยกันที่ร้านอาหารของรัฐ หลังจากที่กลับมาจากการประชุมที่เซี่ยงไฮ้เมื่อสามวันก่อน และตอนนี้ทั้งคู่ก็ตกลงที่จะคบหากันแล้วด้วย แม้ว่าในใจของเธอจะกังวลไม่น้อย แต่เธอคิดว่าอย่างน้อยถ้าหากวันหน้าจะต้องเลิกรากันไป เธอก็ขอทำวันนี้ให้ดีที่สุดโดยที่ไม่ต้องมานึกเสียดายภายหลัง
เมื่อมาถึงก็เห็นว่าเขานั่งรออยู่ก่อนแล้ว จึงรีบเดินเข้าไปทักทายเขา
“ มารอนานหรือยังคะ “
“ ผมเพิ่งมาถึงเมื่อครู่ครับ “ หลี่ซื่อหมิงเอ่ยตอบพร้อมกับส่งยิ้มไปให้หล่อนด้วย
“ สั่งอะไรหรือยังคะเนี่ย “
“ ผมสั่งไปบ้างแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าคุณจะชอบอาหารที่ผมสั่งมาหรือเปล่า “
“ ไม่ต้องกังวลค่ะ ฉันกินง่ายๆอะไรก็ได้ถ้าอร่อยค่ะ “
“ ถ้างั้นผมก็สบายใจแล้วครับเพราะอาหารที่นี่อร่อยมากๆ “ รอไม่นานอาหารที่เขาสั่งมาแล้ว เขาคีบอาหารใส่ถ้วยให้เธอหลายอย่าง และเธอก็คีบมันกินอย่างอร่อย และรู้สึกดีกับการเอาใจใส่ของเขาไม่น้อย
“ คุณเองก็กินเยอะๆค่ะ อย่ามัวแต่คีบให้ฉัน “ เธอเอ่ยบอกพร้อมกับคีบอาหารใส่ถ้วยให้เขาบ้าง
“ อร่อยใช่ไหมครับ “ เขาเอ่ยถามหลังจากที่ทั้งคู่กินอิ่มแล้ว จึงได้ชวนกันไปเดินเล่นเพื่อให้อาหารย่อยเสียก่อน
“ ค่ะ อร่อยถูกปากมากค่ะ “
” ผมดีใจที่คุณชอบ ไว้เรามากินด้วยกันอีกนะครับ “