10. เหวินหนวนไม่สบาย

1154 คำ
เพราะช่วงนี้เธอค่อนข้างจะยุ่งกับการนำอาหารในมิติของตัวเองออกมาขาย จึงไม่ได้นึกถึงสองพี่น้องบ้านเหวินอีกเลย “ นี่เธอรู้หรือยังว่า เสี่ยวหนวนน่ะกำลังจะไปเป็นสะใภ้บ้านรองกู้แล้วนะ “ นางจงซื่อเอ่ยขึ้นในกลุ่มเพื่อนบ้าน “ แบบนั้นก็ดี เสี่ยวหนวนน่ะ เป็นเด็กดี ขยัน ได้แต่งเข้าบ้านรองกู้ก็ถือว่าดีแล้วล่ะ “ หวังซื่อเอ่ยขึ้นอย่างยินดีด้วย เพราะหล่อนเห็นเหวินหนวนกับน้องสาวมานานแล้ว ทั้งคู่นิสัยใจคอเป็นอย่างไรชาวบ้านรู้กันดี แต่นั่นก่อนที่จะรู้ว่าหวังเจียวมี่ลูกสาวของตนเองมีใจให้กับกู้ชวน ไป๋เฟิ่งจื่อที่ยืนฟังอยู่ด้วยก็ยกยิ้มขึ้นมา อีกไม่นานเด็กน้อยคนนั้นก็จะได้แต่งงานมีครอบครัวแล้ว เธอนึกยินดีด้วยจริงๆ และตั้งใจว่าจะให้ผ้านวมผืนใหม่เป็นของขวัญการแต่งงานของหล่อนด้วย “ จริงสิ บ้านรองกู้ไม่ออกมาซื้อของกันหรอ “ “ นั่นสิ วันนี้ไม่ออกมานะ ปกติบ้านรองกู้มักจะมารอซื้อของก่อนคนอื่นนี่น่า มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า “ “ นี่ๆๆพวกเราไปดูกันไม่รู้ว่าทำไมวันนี้กู้ซื่อไม่มา” “ ใช่ๆๆ ไปๆๆ พวกเราไปดูกัน “ ชาวบ้านพากันเดินไปยังบ้านกู้เพื่อดูว่าทำไมวันนี้บ้านรองกู้ถึงไม่ไปซื้อของตามปกติ แต่เมื่อมาถึงก็พบว่านางกู้ซื่อนอนอยู่ที่พื้น มีเลือดไหลออกมาจากศีรษะไม่น้อย คาดว่าคงเป็นลมแล้วหัวฟาดก้อนหินที่อยู่ตรงนั้นพอดี ชาวบ้านรีบไปแจ้งหน่วยเพื่อให้เขานำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองทันที หลังจากที่ชาวบ้านไปกันมดแล้ว กู้ชวนก็กลับมาถึงบ้านพอดี เพราะเขาเข้าป่าไปดูกับดักที่วางเอาไว้ตั้งแต่เช้ามืด จึงไม่ได้อยู่ที่บ้านด้วย ” แม่ครับ ผมกลับมาแล้ว แม่ “ กู้ชวนเดินหาแม่ของตนเองรอบบ้านอยู่นานจนกระทั่งมีชาวบ้านไปบอกเขาว่าแม่เขาล้มหัวฟาดพื้น ตอนนี้ทางหน่วยได้ส่งไปโรงพยาบาลในเมืองแล้ว เขารีบวิ่งออกไปรอรถประจำทางที่หน้าหมู่บ้านทันที แต่รอมานานกว่า 1 ชั่วโมงแล้วรถก็ยังไม่มาสักคัน ไป๋เฟิ่งจื่อจึงให้เขาติดรถไปลงในเมืองด้วย “ไปแจ้งที่หน่วยให้เขาส่งหล่อนไปโรงพยาบาลเถอะ เร็วเข้า “ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ทุกคนจึงได้สติหลังจากที่มัวแต่ตกใจกับภาพที่เห็น กู้ชวนคนนี้อายุ 14 ปีแล้ว เขาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านรองกู้ ที่ตอนนี้แม่ของเขาอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนพ่อนั้นไปทำงานรับจ้างอยู่ต่างเมืองพร้อมกับลุงทั้งสองของบ้านใหญ่กู้ นานๆเขาจะกลับมาที่หมู่บ้านสักหน ส่วนมากจะส่งเงินมาพร้อมกับจดหมายทุกเดือน ส่วนเรื่องการแจ่งงานของเขากับเหวินหนวนนั้นพ่อของทั้งคู่ได้พูดคุยกันมาตั้งแต่พวกเขายังเด็กแล้ว และในตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เขาจะทำตามคำพูดของผู้ใหญ่แล้ว “ ขอบคุณมากครับพี่สาวไป๋ “ เขาเอ่ยบอกเมื่อรถจอดสนิทที่หน้าตลาดแล้ว “ ไม่เป็นไรเรื่องเล็กน้อย รับนี่ไปเอาไว้กินนะจ้ะ “ ไป๋เฟิ่งจื่อให้ซาลาเปาเนื้อเขาติดตัวเอาไว้สองลูกเพราะรู้ว่าอาหารในเมืองนั้นราคาแพง เขาคงซื้อกินไม่ไหว กู้ชวนรับซาลาเปาอย่างว่าง่าย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจที่หญิงสาวตรงหน้ามีน้ำใจกับเขามากถึงเพียงนี้ “ ขอบคุณมากๆครับ วันหน้าผมจะทดแทนบุญคุณของพี่สาวนะครับ “ เขาเอ่ยบอกแล้ววิ่งไปตามทางเพื่อรีบไปหาแม่ของตนเอง หลังจากที่แยกกับกู้ชวนแล้ว ตอนนี้เธอกำลังขี่รถสามล้อกลับไปที่ร้าน อากาศที่หนาวเย็นในวันนี้ทำให้ชาวบ้านไม่ค่อยมีใครเข้ามาในเมืองกันมากนัก ส่วนหนึ่งเพราะกลัวว่าหิมะจะตกแล้วจะทำให้การเดินทางนั้นลำบากเพราะหากหิมะตกลงมารถโดยสารจะหยุดวิ่งทันที เธอเข้ามาในร้านของตนเองแล้ว ตั้งใจว่าจะอาบน้ำที่ชั้นสองและนอนค้างคืนที่นี่พรุ่งนี้สายๆค่อยกลับไปที่หมู่บ้าน ก่อนที่พายุหิมะตกมา ซึ่งเธอจะไม่ได้เข้ามาในเมืองอีกนานหลายเดือน รุ่งเช้าเธอเตรียมอาหารสดและข้าวของอื่น ๆไว้จนแน่นรถสามล้อและขี่มันกลับไปที่หมู่บ้าน คราวนี้ชาวบ้านไม่ได้มารอซื้อของกับเธอ เพราะเธอไม่ได้แจ้งว่าจะขายของในวันนี้ มีเพียงเสี่ยวอี๋ที่มายืนรอที่หน้าประตูบ้านเท่านั้น “ พี่สาวจื่อ “ เด็กน้อยห่อตัวด้วยความหนาวเอ่ยเรียกเธออย่างดีใจ ในมือมีถุงใส่ธัญพืชอยู่เกือบครึ่งถุง เพราะเมื่อวานนี้เธอนอนค้างในเมืองจึงไม่รู้ว่าทางหน่วยได้ประกาศแบ่งอาหารและธัญพืชให้ชาวบ้านที่ทำงานแลกแต้มกันแล้ว ” เสี่ยวอี๋เข้าบ้านกันก่อนแล้วค่อยพูดคุยกัน ดูสิ ตัวของเธอเย็นขนาดนี้แล้ว “ เธอเอ่ยบอกแล้วพาเด็กน้อยเข้าไปในบ้านก่อนจะหาผ้านวมมาคลุมให้จนเหลือแค่ดวงตาเท่านั้น “ ฉันอุ่นแล้วค่ะพี่สาวจื่อ “ “ งั้นก็ดีจ้ะ “ เธอขยับผ้านวมให้อีกเล็กน้อยก่อนจะออกไปต้มน้ำร้อนเพื่อชงน้ำขิงมาให้เด็กน้อยของเธอได้ดื่มเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น “ มาหาพี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่าจ้ะ “ ไป๋เฟิ่งจื่อเอ่ยถามพร้อมทั้งยื่นแก้วน้ำขิงร้อนๆไปให้คนตัวเล็กกว่าได้ดื่ม “ ฉันนำธัญพืชมาแบ่งให้พี่สาวจื่อค่ะ แล้วก็จะมาขอแลกกับเนื้อสักชั่ง เมื่อคืนนี้พี่ใหญ่เป็นไข้ค่ะ เธอบอกรอบเดือนมาก็เลยปวดท้องแล้วก็มีไข้ “ เหวินอี๋เอ่ยบอก “ ได้จ้ะ เดี๋ยวเอาน้ำตาลแดงไปต้มให้พี่สาวของเธอดื่มด้วยน้ำ อาการปวดท้องจะได้ดีขึ้น “ “ ขอบคุณค่ะพี่สาวจื่อ ตอนนี้ฉันต้องกลับก่อน พี่ใหญ่คงตื่นแล้ว “ “ เธอรอตรงนี้ก่อนนะพี่จะไปหยิบของมาให้ “ ไป๋เฟิ่งจื่อเอ่ยบอกแล้วเดินไปหยิบน้ำตาลทรายแดงกับเนื้อหมูออกมาให้เหวินอี๋อย่างละชั่งแล้วให้เด็กน้อยถือผ้านวมกลับไปใช้ที่บ้านด้วย “ ขอบคุณมากค่ะ ฉันไปก่อนนะคะ “ “ จ้ะเดินดีๆนะ “
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม