ครืดด! ครืดด!
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของธามไทดังขึ้น มือหนาละจากพวงมาลัยรถ เลื่อนหยิบขึ้นมามอง ชื่อพี่สาวเพียงคนเดียวเด่นหราบนหน้าจอสัมผัส ทำให้เขาต้องรีบกดรับอย่างเลี่ยงไม่ได้
[ธามอยู่ไหน?] เสียงหวานของปลายสายดังก้องเข้ามา และมากพอให้วีด้าได้ยินเพราะในรถค่อนข้างเงียบมีเพียงเสียงลมแผ่วเบาจากเครื่องปรับอากาศเท่านั้น
“มีอะไร?”
[รถเสียอ่ะ มารับหน่อย]
“ตอนนี้อยู่ไหน”
[กม.XX รีบมานะแถวนี้น่ากลัว]
“อืม..อย่าลงจากรถ”
สายตัดไป พร้อมกลับรถสปอร์ตหรูจอดสนิทหน้าคอนโด ธามไทกับวีด้าหันมองหน้ากันราวกับว่าต้องการพูดบางอย่างกับอีกฝ่าย ก่อนจะเอื้อนเอ่ยออกมาพร้อมกัน
“ขึ้นไปห้อง....”
“ฉันมีธุ....”
ต่างฝ่ายต่างหยุดชะงัก ประโยคเมื่อครู่กลืนหายเข้าไปในลำคอ สองสายตาสบประสานมองลึกเข้าไปในดวงตา
ธามไทปลดเข็มขัดนิรภัยเอี้ยวตัวเข้าหาร่างบาง มือหนาข้างหนึ่งจับเบาะที่มีคนตัวเล็กนั่ง ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้าใกล้ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่าง กระทั่งริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสแนบสนิท มือสากลูบไล้ลำคอระหงจับประคองท้ายทอยปรับองศาให้เธอรับรสจูบของเขาถนัดขึ้น
“อื้มม~”เสียงหวานครางกระเส่า ร่างบางจูบตอบอย่างไม่คิดผลักไส ด้วยความช่ำชองของเขาทำให้อารมณ์กระสันจุดติดขึ้นมาอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นเล็กพันเกี่ยวไม่ถอดถอย ดูดชิมน้ำหวานเจือแอลกอฮอล์เคล้ากลิ่นบุหรี่จางๆอย่างเอาแต่ใจ
ทว่า ก่อนทุกอย่างจะเลยเถิดไปมากกว่านั้น โทรศัพท์ราคาแพงของธามไทกลับแผดเสียงดังขึ้นมาเพราะมีสายเรียกเข้า ทำให้ทั้งสองคนจำใจต้องผละออกอย่างนึกเสียดาย
“จิ๊!..” เสียงจิ๊จ๊ะติดหงุดหงิดดังจากปากหนา เมื่อเห็นว่าเป็นพี่สาวโทรเข้ามาอีกครั้ง'รอหน่อยไม่ได้เลยมั้ง'
“เอ่อ...ขอบคุณที่มาส่งนะคะ”
“ฉันมีธุระต้องรีบไป...”
“ค่ะ” วีด้าพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ พร้อมส่งยิ้มบางให้ ก่อนจะเปิดประตูรถก้าวเดินหายเข้าไปในคอนโดหรู ธามไทจึงขับรถออกไปจากตรงนั้น
*โมเดล*
“หยุดโทรได้แล้วเจ๊ กำลังไป”
[เอ้า...จะเสียงดังทำไมเนี่ย เจ๊จะบอกว่าไม่ต้องมาแล้ว ป๊าส่งคนมารับแล้ว]
“ว่าไงนะ ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้วะเจ๊" วันนี้วันอะไรวะ แม่งเอ๊ย!
[พูดไม่เพราะ จะฟ้องหม่ามี้]
“อย่าขี้ฟ้องดิ...แค่นี้นะ กลับเพนท์เฮาส์นอนดีกว่า” จบประโยค ธามไทกดตัดสายทิ้ง มือหนาหมุนพวงมาลัยรถเปลี่ยนทิศทางมุ่งหน้ากลับที่พัก
เพนท์เฮาส์สุดหรูตั้งอยู่ชั้นบนสุดของตึกสูงเฉียดฟ้า ผนังกระจกจากพื้นจรดเพดานเผยให้เห็นวิวกลางเมืองทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา โถงใหญ่ตกแต่งด้วยฟอนิเจอร์ครบคลันคุมโทนสีเทาดำ บ่งบอกตัวตนเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี
ภายในห้องน้ำกว้างมีร่างสูงดูดีเปลือยเปล่า ยืนใต้ฝักบัวอาบน้ำ ปล่อยให้สายน้ำอุ่นชะล้างตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แต่ทว่าร่างสูงกลับไม่ให้ความสนใจ หัวสมองประมวลภาพนางแบบสาวสวยที่เขาเพิ่งไปส่งเมื่อครู่ ยามนึกคิดมือหนากอบกุมแท่งร้อนชักรูดขึ้นลงเป็นจังหวะ
“ซี๊ดด...วีด้าดูดแรงๆเลยครับ” เสียงทุ้มต่ำหลุดร้องครางออกมา ในหัวจินตนาถึงปากเรียวบางสีหวานอ้ากว้างครอบครองความเป็นชายของเขาจนสุดโคน มิหนำซ้ำลิ้นเล็กยังตวัดรัวๆส่วนปลายหัวเห็ด
“อมลึกๆครับวีด้า อ๊าา~” มือหนาเร่งจังหวะ เมื่อนึกถึงท่วงท่าสุดเซ็กซี่ของสาวเจ้า ยังตราตรึงไม่รู้ลืม ไม่นานแก่นกายใหญ่ปลดปล่อยน้ำรักพุ่งลงพื้นกระเบื้องทุกหยาดหยด และถูกสายน้ำชะล้างหายไปในพริบตา
หลังเสร็จกิจร่างสูงอาบน้ำแต่งตัว นอนราบลงบนเตียงกว้างขนาดคิงไซส์ ท่อนแขนแข็งแรงข้างหนึ่งยกขึ้นก่ายหน้าผาก
“เป็นเอามากนะมึงไอ้ธาม” เสียงทุ้มบ่นพึมพำกับตัวเอง จะไม่ให้พูดอย่างนั้นได้ยังไงกัน ผมไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้เลยซักครั้ง อยากก็แค่ซื้อกิน เป็นอย่างนั้นทุกครั้ง การใช้เงินแก้ปัญหาเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับชายโสดอย่างผม
วันต่อมาธามไทสั่งเลขาคนสนิทติดต่อผู้จัดการของวีด้าเพื่อทาบทามพรีเซนเตอร์คนใหม่ของโรงแรมสุดหรูใจกลางเมือง ซึ่งหมดสัญญากับคนเก่าช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา หลังจากโรงแรมใหม่ที่ภูเก็ตเปิดตัวได้เพียงไม่กี่วัน และได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่เป็นเพราะพรีเซนเตอร์นางแบบสาวสวยที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังทั้งในและต่างประเทศอย่างวีด้า
ก๊อก! ก๊อก!
“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มเอ่ยอนุญาต ประตูหน้าห้องบานใหญ่เปิดออกกว้างด้วยฝีมือของโฬมเลขาหน้าห้อง เพิ่งกลับมาจากดูงานข้างนอก และต้องรีบเข้ามารายงานความคืบหน้า หลังติดต่ออิ๋วแต่กลับติดขัดเรื่องค่าตอบแทนก่อนจองคิวงาน ซึ่งโฬมไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ
“นายครับ...คุณอิ๋วแจ้งว่า เรทค่าตอบแทนถ่ายงานของคุณวีด้าไม่ใช่เรทเดิมครับ เพราะบริษัทต่างประเทศเสนอเงินมหาศาลเพื่อให้ได้ร่วมงานกับคุณวีด้าครับ”
“เท่าไหร่...กูจ่ายไม่อั้น แล้วกูต้องได้วีด้ามาเป็นพรีเซนเตอร์!!!” ธามไทเอ่ยเสียงเข้มดุดัน จ้องมองเลขาด้วยสายตาเรียบนิ่ง ทำโฬมหน้าหดเหลือสองนิ้ว รู้ดีว่าเจ้านายจริงจังกับงานมากแค่ไหน และไม่ว่าต้องการสิ่งใด เขาจะทำทุกทางเพื่อให้ได้มา
“ครับๆ ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้”
“กูให้เวลาห้านาที!!”
ให้หลังโฬมก้าวเดินออกไปพร้อมกับประตูบานใหญ่ปิดสนิทลง ธามไทวางปากกาแท่งโปรดบนโต๊ะ เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สายตาคมกริบจับจ้องไปยังบานประตูเฝ้ารอคำตอบอย่างใจเย็น
แกร๊ก!
ประตูหน้าห้องถูกเปิดออกอย่างไร้มารยาท ประธานหนุ่มดันตัวนั่งหลังตรง คิดว่าเป็นเลขา แต่ผิดคาด คนนั้นกลับเป็นหญิงวัยกลางคนอันเป็นที่รัก
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะลูกชาย ผิดหวังรึไงที่เห็นเป็นหม่ามี้” เสียงเล็กสดใสเอ่ยอย่างคนน้อยใจ หยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานลูกชายคนเล็กของเธอ
“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะครับหม่ามี้ ทานอะไรมารึครับ ผมพาไปได้นะ” ธามไทดันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้หนัง สาวเท้าหนาไปหาผู้เป็นแม่ ท่อนแขนแกร่งทั้งสองข้างโอบกอดร่างเล็กกว่าไว้แน่น
“อยากรู้จัง ใครกันทำให้ลูกหม่ามี้ตะโกนเสียงดังไปถึงหน้าลิฟท์นู้น~”
“...” ชิบหายแล้ว หม่ามี้มานานแล้วหรอวะ หวังว่าคงไม่รู้เรื่อง....
“สวยมั้ย?หม่ามี้อยากเห็น” เอ่ยถามไปอย่างนั้นทั้งที่ส่งคนตามสืบแล้ว ไม่ใช่แค่รูปถ่ายแต่รวมถึงประวัติของเธอโดยละเอียด
“คะใครครับ...หม่ามี้หมายถึงใคร”
“พรีเซนเตอร์คนใหม่”
“เอ่อ...ก็คนเดียวกับสาขาภูเก็ตแหละครับ เธอกำลังมาแรงตอนนี้”
“งั้นหรอคะ ไม่มีอะไรพิเศษใช่มั้ย” จีเบลหรี่ตามองลูกชายอย่างจับผิด เธอผู้ก่อตั้งโรงแรมและดูแลสาขาต่างประเทศส่วนในไทยปล่อยให้ลูกชายคนเล็กบริหาร วันนี้ที่มา ก็เพราะรู้เรื่องบางอย่างเกี่ยวกับพรีเซนเตอร์คนใหม่จึงอยากมาดูให้เห็นกับตา
“ไม่มีครับ...ไปทานข้าวกันเถอะครับหม่ามี้ผมหิวแล้ว” ธามไทเบี่ยงเบนความสนใจผู้เป็นแม่ จับมือเล็กพาเดินออกไปจากห้องทำงานตรงไปยังโต๊ะเลขา
“ไอ้โฬมมีอะไรสำคัญโทรมา กูจะออกไปทานข้าวกับหม่ามี้”
“ครับนาย”
ระหว่างนั่งทานข้าวธามไทได้รับข้อความผ่านแอพสีเขียวจากเลขา รายงานถึงข้อตกลงและวันนัดหมายเซ็นสัญญา ซึ่งยังไม่ได้ระบุสถานที่อย่างแน่ชัด ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มมุมปากเมื่อได้ในสิ่งที่ถูกใจ
“หึ!”จีเบลมองดูท่าทีของลูกชายยิ้มๆ การกระทำของธามไทตกอยู่ในสายตาของเธอทั้งหมด