บทที่ 7 เข้าตลาดมืด

1549 คำ
เย่วซินเข้ามาในบ้านแล้วเดินตรงมา แล้วนั่งตรงหน้าสองคนพี่น้อง จากนั้นเธอก็พูดขึ้นว่า “ฉันรู้ว่าทั้งพี่ใหญ่และห่าวหรวนสงสัยว่าทำไม ใช่ไหม” ทั้งสองคนพยักหน้าทันทีที่เธอถามจบ “ฉันเพียงสงสารลี่มี่ เราทั้งสามคนเองก็เป็นเด็กกำพร้าหลังจากที่พ่อแม่ตายไป ทว่าฉันและห่าวหรวนยังมีพี่ใหญ่เป็นทั้งพ่อทั้งแม่ แต่สิ่งที่ฉันได้ยินมา ลี่มี่ไม่เคยได้รับความรักจากคนเป็นแม่ และไม่เคยซึมซับความรักจากคำว่าครอบครัว ฉันไม่รู้หรอกนะว่าสองพ่อลูกจะใช้ชีวิตยังไงในบ้านหยาง แต่ฉันเอ็นดูลี่มี่ตั้งแต่แรกเห็นจริง ๆ” เย่วซินรู้ว่าพี่ใหญ่กับห่าวหรวนไม่ได้สงสัยเรื่องนี้อย่างเดียว คงจะอยากรู้เรื่องที่เธอเปลี่ยนไปมากกว่า ทว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะบอก ขอเวลาเธอทำใจอีกสักนิด หลังจากที่จบการสนทนาระหว่างพี่น้อง ทุกคนจึงต่างแยกย้ายกันเข้าห้องตัวเอง บ้านหยาง ซีห่าว อุ้มลี่มี่เข้ามาในบ้าน เมื่อหยางฮุ่ยหมินเห็นได้เอ่ยทักทันที “พี่ใหญ่กินอะไรมาหรือยัง ทุกคนไม่รู้ว่าพี่จะกลับมาช้าขนาดนี้เลยไม่ได้เหลืออะไรไว้ให้” พูดเสร็จก็สบตากับนางหลินเจียวจูแม่ของตนพร้อมยกยิ้มมุมปาก “อืม กินมาแล้วขอบใจมาก” “ว้าย! ตายแล้ว ลี่มี่ใส่ชุดใหม่ด้วย” สะใภ้รองของบ้านซึ่งเป็นภรรยาของหยางฮุ่ยหมินเอ่ยทักทันทีที่เห็นชุดที่ลี่มี่ใส่ “นั่นสิ ท่าจะแพงน่าดู เจ้าใหญ่มีเงินซื้อชุดใหม่ให้ลูก แต่ดูที่บ้านสิ กินธัญพืชหยาบกับผักแทบทุกมื้อ” นางหลินเจียวจูเอ่ยเหน็บทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วชุดนี้ซีห่าวเอามาจากไหน นางหลินเจียวจูไม่ชอบแม่ของซีห่าว เธอคิดว่าแม่ของซีห่าวมาแย่งสามีไปจากเธอ เลยทำให้เกลียดซีห่าวมาก “ไม่สำคัญหรอกว่าผมจะเอาชุดมาจากไหน ถึงแม้ว่าผมจะซื้อเอง ก็ไม่น่าจะเดือดร้อนใครนะ เพราะผมไม่ได้เอาเงินกองกลางไปซื้อ” กล่าวจบจึงเดินเข้าห้องไปทันทีโดยไม่สนใจเสียงโวยวายตามหลัง เช้าวันถัดมาเย่วซินรีบตื่นขึ้นมาล้างหน้า แปรงฟัน และเตรียมอาหารไว้รอทุกคน เช้านี้เย่วซินทำซาลาเปาไส้หมูกับไส้ผักกุยช่าย ตามด้วยทำขนมจีบและโจ๊กหมูสับข้น ๆ สำหรับลี่มี่ตัวน้อย เธอเอากาแฟมาเตรียมไว้จะได้ชงให้พี่ใหญ่และซีห่าวได้ดื่มตอนเช้าเพื่อร่างกายจะได้สดชื่น “ตื่นแล้วเหรอพี่ใหญ่ ห่าวหรวนล่ะพี่ ยังไม่ตื่นเหรอ” เธอถามออกไปเมื่อเห็นห่าวอู๋เดินมาที่โต๊ะอาหาร “กำลังมาน่ะ เดินสวนกับพี่ที่หน้าห้องน้ำเมื่อครู่นี้” “ห่าวอู๋ ห่าวอู๋” ห่าวอู๋ได้ยินเสียงเรียกดังมาจากหน้าบ้านตั้งท่าจะลุกขึ้นไปเปิดประตู ยังไม่ทันจะลุกก็ได้ยินเย่วซินพูดขึ้น “ไม่ต้องลุกพี่ใหญ่ ฉันไปเปิดเอง สงสัยพี่ซีห่าวกับลี่มี่จะมาแล้ว” จากนั้นเธอจึงเดินไปเปิดประตู เมื่อเปิดประตูบ้านก็เห็นสองพ่อลูกยืนอยู่ที่หน้าประตู “สวัสดีตอนเช้าค่ะน้าเย่วซิน” ลี่มี่ตัวน้อยพอเห็นเย่วซินจึงรีบกล่าวทักทายด้วยท่าทางน่ารักไม่น้อย “สวัสดีตอนเช้าค่ะลี่มี่” พูดจบก็หอมแก้มเด็กน้อยไปหนึ่งฟอด “มาค่ะเข้าบ้านกัน ปิดประตูด้วยนะคะ” “ครับ” เมื่อซีห่าวปิดประตูบ้านเรียบร้อยก็ได้เดินตามเย่วซินมาที่โต๊ะอาหาร ระหว่างทางซีห่าวมองตามด้านหลังของเย่วซินไม่วางตา ความรู้สึกที่เกิดขึ้นตั้งแต่ที่เขาเจอเธอเมื่อวานจนถึงตอนนี้ เขามองการกระทำของเธอไม่เหมือนการเสแสร้งเหมือนผู้หญิงที่เขาเคยเจอ หรือแม้กระทั่งแม่ของลี่มี่เองเขายังไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้ เขารู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก “พี่ซีห่าวมาแล้ว มานั่งเลยพี่ พี่กินอาหารเช้ากัน” “นี่ค่ะเครื่องดื่มตอนเช้า สำหรับพี่ใหญ่และพี่ซีห่าว” เธอส่งกาแฟที่เตรียมไว้ให้ทั้งสองคน “ส่วนของลี่มี่กับห่าวหรวนคืออันนี้จ้ะ ทั้งสองคนต้องดื่มนมทุกเช้ารู้ไหมร่างกายจะได้เติบโต มาลี่มี่เดี๋ยวน้าเป่าให้ก่อนนะมันยังร้อนอยู่” เธอหยิบแก้วนมของลี่มี่ขึ้นมาเป่า เวลาเด็กน้อยดื่มจะได้ไม่ลวกปาก “ซาลาเปา ขนมจีบมีในลังนึ่งอีกนะ ฉันทำไว้เยอะ กินให้อิ่มไม่ต้องกลัวหมด ยิ่งพี่ใหญ่กับพี่ซีห่าวที่ต้องทำงานในแปลงนา ยิ่งต้องกินเยอะ ๆ จะได้ไม่เป็นลมกลางแดด” ทุกคนเริ่มกินซาลาเปาและขนมจีบที่เธอทำไว้ให้ สองคนที่เคยกินฝีมือการทำอาหารของเย่วซินนั้น รู้สึกประหลาดใจกับรสชาติแปลกใหม่ที่เธอทำ มันอร่อยกว่าทุกครั้งที่เธอเคยทำให้กิน สำหรับซีห่าวเขารู้สึกว่าอาหารที่เย่วซินทำนั้นอร่อยกว่าอาหารทุกอย่างที่เขากินมา หลังจากที่กินอาหารเช้ากันแล้วเย่วซินบอกกับลี่มี่ให้อยู่กับน้าห่าวหรวนก่อนเพราะเธอจะเข้าไปในเมืองเพื่อที่จะซื้อของกลับมาที่บ้าน ทันทีที่เดินออกมา ซีห่าวก็ได้เรียกเธอไว้ก่อนที่เธอจะออกไปพ้นห้องครัว “เย่วซิน รอก่อน” “พี่ซีห่าวเรียกฉัน มีอะไรหรือเปล่า” “เอานี่ พี่เอามาให้” เขายื่นถุงให้กับเธอ เมื่อเธอเปิดดูก็พบเงินในถุงนั้นถ้านับด้วยตาเปล่าน่าจะประมาณสามสิบหยวน “พี่เอาเงินมาให้ฉันทำไม หรือพี่จะฝากฉันซื้อของ” “เปล่า พี่ให้ค่าอาหารและห้ามปฏิเสธ เพราะถ้าเธอปฏิเสธพี่ พี่จะไม่พาลี่มี่มากินอาหารที่นี่อีก” “ได้ แต่ต่อไปไม่ต้องให้นะ พี่เก็บเงินให้ลี่มี่ไว้เรียนเถอะ เงินแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับค่าอาหารทั้งปี” พูดจบเย่วซินรีบเดินออกไปจากบ้านทันที พอใกล้จะถึงเวลาลงงาน พี่ใหญ่จางกับซีห่าวก็เตรียมที่จะออกจากบ้านไปทำงานที่แปลงนา “ลี่มี่ พ่อไปทำงานก่อนนะ ตอนเลิกงานแล้วพ่อมารับนะลูก” หยางลี่มี่ได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ เพราะมัวแต่เล่นอยู่กับคุณน้าห่าวหรวน เย่วซินเดินออกมาได้สักพัก มองซ้ายมองขวา เมื่อไม่เห็นใครจึงได้เอาจักรยานออกมาจากมิติ ตอนแรกเธอคิดที่จะเอารถมอเตอร์ไซค์ออกมา แต่กลัวคนผิดสังเกตเพราะยังออกมาไม่ไกลจากหมู่บ้านเท่าไร รอที่ปลอดภัยกว่านี้ค่อยเปลี่ยนเป็นรถมอเตอร์ไซค์ดีกว่า จากที่เปลี่ยนรถสองรอบแล้ว เมื่อถึงที่หมายเธอเข้าไปในซอยเล็ก ๆ เพื่อเอารถเก็บไว้ในมิติ จากนั้นเธอเดินตรงดิ่งมาที่ซอยทางเข้าตลาดมืด จากความทรงจำ เธอเคยมาที่นี่สองสามครั้ง เธอหยิบผ้าปิดปากกับหมวกแก๊ปจากมิติออกมาใช้ เพราะเธอต้องการปกปิดใบหน้า เมื่อมาถึงทางเข้าเย่วซินได้บอกรหัสผ่านกับผู้ชายที่เฝ้าประตู ชายทั้งสองคนได้ฟังรหัสผ่านที่ถูกต้องจึงได้ให้เธอเข้ามาข้างใน เย่วซินตื่นตาตื่นใจไม่น้อย เธอหันมองรอบ ๆ เพื่อหาเป้าหมาย ทว่าในตลาดมืดของที่นี่ไม่ต่างจากตลาดในภพที่เธอจากมา มีทั้งร้านค้าที่ขายอย่างเปิดเผย บางคนที่ไม่มีร้านก็ปูผ้าขายตามทางเดิน เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็ได้พบกับเป้าหมายแรกของวันนี้ เป็นหญิงมีอายุดูเธอเหมือนกำลังมองหาอะไรสักอย่าง เย่วซินจึงเดินเข้าไปแล้วถามคุณป้าคนนั้นทันที “สวัสดีค่ะป้าหาอะไรอยู่หรือปล่าวคะ” “ป้ากำลังมองหาเนื้อหมูกับวัตถุดิบหลายอย่างอยู่น่ะ ป้ายังหาไม่เจอเลย วันนี้ที่บ้านเจ้านายป้ามีงานเลี้ยงด้วยน่ะสิ ถ้าไม่ได้วัตถุดิบกลับไปแย่แน่เลย” “ฉันมีของที่ป้าต้องการว่าแต่ป้าต้องการเยอะไหม” “หลายอย่างเลยล่ะ แต่ป้าขอดูก่อนได้ไหม จะได้บอกว่าต้องการเท่าไร” “ได้ค่ะป้ารอฉันที่นี่สักครู่นะคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม