วันต่อมา~
มหาวิทยาลัย S เวลา 13.00 น.
บรื้นๆๆ เอี๊ยดดดด~
ฉันจอดรถมอเตอร์ไซต์นินจาของตัวเองที่โรงจอดรถของมหาลัยซึ่งมีไว้สำหรับนักศึก และรถของฉันมันทำให้เป็นที่สนใจเพราะฉันไม่ค่อยขับมาหรอกเพราะอะไร เพราะคนมองไงแต่ไม่แคร์ โฮะๆ และที่เอารถมาวันนี้เพราะขี้เกียจเดินหรือนั่งรถเมย์เพราะเมื่อย เหนื่อย ล้า สาเหตุคือการขึ้นชกเมื่อวานนี้นั่นแหละ และไม่ต้องสงสัยนะว่าแม่รู้ไหม?และโดนด่าหรือเปล่า? โดนเต็มๆแต่ที่หนักสุดคือพ่อนั่นแหละเพราะพ่อฉันเคยสัญญากับแม่ว่าจะไม่ให้ฉันขึ้นชก เห็นว่าโดนนอนนอกห้อง 1 อาทิตย์ แต่เดี๋ยวพ่อก็อ้อนแม่ได้แหละ
“คิดไงเอามา?” และในขณะที่ฉันกำลังถอดหมวกกันน๊อกไอ้วุ้นที่เดินจากข้างหลังถาม
“ขี้เกียจเดิน...”
“เห้ย น่ามึงไปโดนอะไรมา?” พอมันเห็นแผลที่หน้าก็โวยวายทันทีจนคนแถวนี้เริ่มมอง
“ไหนๆๆใครทำอะไร?” เมลที่มาจากไหนไม่รู้ถามอย่างเป็นห่วง
“เมื่อวานมึงไปกับกระทิงนิ..หรือว่า....!?” วุ้นมันคิดอะไรในหัวอยู่คนเดียวและตาโตออกมา มันคิดอะไรว่ะ?
“อะไรมึงอีวุ้นอะไรๆๆๆ?” เมลมันก็เป็นไปด้วย
“มึง..โดนไอ้กระทิง...”
“ฉันทำไม?” แต่ระหว่างที่พวกมันกำลังคิดอะไรไปทั่วเสียงกระทิงก็โพล่งถามเข้ามา
“มาแล้วเหรอ? ไอ้ตัวดีนายทำอะไรเพื่อนฉันหะ!!?” วุ้นมันถามอย่างเอาเรื่อง
“อะไรว่ะ?” กระทิงทำหน้าสงสัย ส่วนฉันเองก็สงสัยจู่ๆมันก็เข้ามาโวยวายและถามอย่างโมโห
“ก็เมื่อวานนี้ลิเคียวมันไปกับนาย!...และดูหน้ามันดิ..นายทำร้ายเพื่อนฉันเหรอว่ะ!?” อ๋อ มันคิดว่ากระทิงทำร้ายร่างกายฉัน แต่กระทิงไม่เคยทำร้ายร่างกายฉันทำร้ายแต่หัวใจ... หึหึ
“ว้ายย ตายแล้วนายกล้าดียังไงห่ะ!!” ไอ้เมลอีกคนเป็นไปได้ไม่ถามฉันสักคำ
“ฉันทำอะไรเพื่อนเธอหนะ?”
“นี่ไง! ดู๊ดูหน้ามันดูๆ” วุ้นมันชี้มาที่หน้าฉัน ที่กำลังหน้าเซ็งเพราะพวกมันโวยวายอะไรไร้สาระ
“เป็นอะไร?” กระทิงถามฉัน
“เอ่อ”
“ลิเคียวววววว~” แต่ยังไม่ทันที่จะตอบแก้วใสก็วิ่งเข้ามาหาฉันด้วยเสียงร่าเริง
“มีอะไร?”
“เมื่อวานลิเคียวโคตรเท่ชกชนะด้วย สุดยอดดด~” แก้วใสพูดและยกนิ้วโป้งสองข้างยิ้มร่า หึ
“เดี๊ยววว อะไรของมึงคะ?” เมลเบรกความร่าเริงของแก้วใสไว้และถามขึ้น
“อ๋อ เมื่อวานนี้ไงลิเคียวไปชกมวยที่สนามพี่ชายแก้วใสเองงงง ชนะด้วยนะทั้งที่ๆคู่แข่งตัวเท่าช้างแหนะ!” อืม สนามเมื่อวานธุรกิจของครอบครัวแก้วใสเองเหรอ? เคยได้ยินมาบ้างว่าที่บ้านแก้วใสเปิดกิจการเกี่ยวกับกีฬา
“ชะชกมวย? ที่มึงเป็นงี้เพราะไปชกมวยให้พ่อมึงมา?” วุ้นถามอย่างตกใจเพราะมันไปโวยวายกับกระทิง หึ
“มึงไม่ได้โดนกระทิงซ้อมเหรอว่ะ?” เมลถามต่อ
“เปล่านิ! พวกมึงโวยวายไปเอง” ฉันยักไหล่
“หึ!” กระทิงกระตุ้นยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์เสียหน่อยๆมั้ง
“ขอโทษค่า~”/ “ซอรี่~” และพวกมันสองคนก็วิ่งเข้าตึกเรียนไป สงสัยอายมั้งที่โวยวายผิดคน
“อ้าว! รอด้วยยยยย” แก้วใสวิ่งตามสองคนนั้นไป
“เด๋อชะมัด..” ฉันบ่นถึงพฤติกรรมแปลกๆของเพื่อนตัวเอง พร้อมส่ายหัวไปมาเบาๆ จนไปเจอหน้ากระทิงที่กำลังมองฉันอยู่
“มีอะไร?” อดที่จะถามไม่ได้
“ชกมวยด้วย?”
“อืม แต่ไม่ได้บ่อยหรอกแม่ไม่ให้... ไปเรียนกันเถอะ” ฉันเดินนำไป แต่ว่า หมับ กระทิงคว้าแขนฉันไปอีกทางนึ่งที่ไม่ใช่ห้องเรียน
“ไปไหน?”
“ทำแผล” อ๋อ สงสัยจะพาไปห้องพยาบาล
“เดี๋ยวก็หายไม่ต้องทำหรอก..” ฉันเป็นแบบนี้ตลอดเวลาเป็นแผลคือปล่อยให้มันหายเอง
“เดี๋ยวมึงก็เป็นแผลเป็นหรอกดูดิแผลเต็มหน้า” จู่ๆกระทิงก็หยุดเดินและจับหน้าฉันเพื่อดูแผล หน้าเรา..ใกล้กันมากเลย -///-
“ก็..ชกมวยนิไม่ได้ไปวิ่งนะ” ฉันพยายามหลบตาเพราะเขิน
“หน้าแดงมึงไม่สบายเหรอ?” เอียงคอถาม
“หะ?เปล่าๆอากาศร้อนมั้ง รีบไปทำแผลดิ” ฉันเลี่ยงและเดินไปทางห้องพยาบาล
ห้องพยาบาล
“มานั่งนี่” กระทิงชี้ไปที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง ฉันก็เดินไปนั่งอย่างว่าง่ายส่วนเขากำลังหาที่ทำแผลมั้ง เพราะหมอประจำห้องพยาบาลไม่อยู่
“นายจะทำ?”
“เออดิ! มึงทำเองได้?” พูดและหาของไปด้วย
“แม่ง! อยู่ตรงไหนว่ะ? เจอล่ะ..มาๆ” ครืดด เขาลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งตรงข้ามฉัน
“ทำ..ได้แน่นะ?” ฉันถามอย่างไม่มมั่นใจเพราะไม่รู้ว่ากระทิงทำแผลเป็นแน่หรือเปล่า
“เออน่า~ ทำล่ะนะ”
“อะอืม” เกร็งโว้ยยยย
กระทิงทาแอลกอฮอล์ลงบนสำลีก่อนจะมาล้างแผลบนหน้าฉัน
“ฟูววว์”
“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอก”
“ก็กลัว โอ๊ยยยยย” ยังไม่ทันที่จะพูดจบกระทิงก็จิ้มสำลีมาที่แผลฉันแล้ว แสบนะเว้ย
“แสบเหรอ?”
“เออดิ” ยังมีน่ามาถามอีกนะ หื้ม
“เออกลับใคร?” เขาถามฉันเสียงดุ ทำไมต้องเหมือนไม่พอใจด้วยเนี่ย?
“กับนายแหละ อย่ามาดุนะ อ๊ากกก เจ็บนะเว้ย!!! โอ๊ย กระทิงพอๆแสบๆๆอ่า” กระทิงกดแอลกอฮอล์มาแรงๆที่แผลฉัน
“หึหึ” เขายิ้มมุมปากอย่างพอใจ
“พอเลยแสบนะเว้ย”
“อยู่นิ่งๆจะได้เสร็จไวไวจะไปเรียนไหม?” เสียงของกระทิงทำให้ฉันต้องนิ่งขึ้นทันทีกลัวเขากดแผลฉันหนะสิ
“เลิกแกล้งด้วย”
“เข้าใจแล้วน่า~” กระทิงเลิกแกล้งฉันและตั้งใจทำแผลให้ฉัน ฉันมองหน้ากระทิงที่กำลังตั้งใจและมุ่งมั่นในการทายาซึ่งมันทำให้ฉัน...อมยิ้มเบาๆ กับการกระทำของเขาลืมเรื่องเมื่อวานที่โดนทิ้งไปเลยแหะ ^^
“เสร็จล่ะเหรอ?” เพราะฉันมองหน้ากระทิงนานไปหน่อยเลยไม่รู้ว่าเขาทำแผลเสร็จตอนไหน
“อืม ไปเรียนไปแล้ว” หมับ! กระทิงจับมือฉันให้ลุกจากเก้าอี้ ฉันเดินตามกระทิงไปห้องเรียนทั้งๆที่เรากำลังจับมือกันอยู่
กึก!
แต่พอถึงหน้าห้องเรียนกระทิงก็หยุดเดินแต่เพราะเขาบังฉันอยู่เลยไม่รู้ว่าใครอยู่ข้างหน้า เลยชะโงกหน้าออกไปดู
ข้าวสวย...
เธอกำลังยืนร้องไห้และมองกระทิงอยู่...
พรึ่บ! เธอเดินเข้ามากอดกระทิงอย่างแรงและร้องไห้เสียงดัง
“ฮือออ~ กระทิง ฮึก! พี่คินเขาทิ้งข้าวไปแล้ว...” เธอร้องไห้และกอดกระทิงไว้แน่น ส่วนกระทิงตอนนี้ปล่อยมือฉันเรียบร้อยแล้ว
“ปล่อยมันไปเถอะ...” กระทิงปลอบใจและลูบผมข้าวสวยเบาๆ
“ข้าว..ขอเรียนด้วยนะ ข้าวไม่รู้จะไปที่ไหน ฮึก!”
“อืม ไปสิ” กระทิงจับมือข้าวสวยและเดินเข้าไปในห้องเรียน
ครั้งที่ 2 ที่เขาทิ้งฉันไว้โดยไม่หันมามอง... น้ำตาที่ฉันคิดว่าต้องเก็บมันให้ลึกที่สุดตอนนี้มันกำลังเอ่อขึ้นมาที่ขอบตา
“มึง...” วุ้นที่ออกมาจากห้องเรียกฉันเบาๆ
“กู..เจ็บ” ฉันพูด
“มึงเลือกเอง..” เมลบอก
“มึงจะย้ำเพื่อ?” วุ้นดุเมลแต่มันก็จริงเพราะถ้าแค่ชอบต่อไปเรื่อยๆ มันคง..ไม่เจ็บขนาดนี้
“เออๆกูขอโทษค่ะ”
“วันนี้เรา..ไปตี้กันให้ลืมโลกเลยยย!!” แก้วใสชวน
“ไปดิ..” และฉันไม่ลังเลที่จะตอบ
และฉันก็เดินเข้าห้องเรียนทั้งคู่นั่งอยู่ด้วยกันฉันมองและมอง..อย่างนั้น
“มองแล้วเจ็บมองเพื่อ?”
“.....” ฉันไม่ได้ตอบเมลออกไปแต่เลือกที่จะมองทั้งคู่อยู่อย่างนั้น..
...เขาลูบหัว
...เช็ดน้ำตา
...สบไหล่
ฮะๆ แล้วฉันควรทำยังไงดีนะ?
ร้านเหล้าชิวๆ เวลา 21.00 น.
ที่จริงพวกมันนัดฉัน 3 ทุ่มครึ่งแต่อยู่ในห้องมันฟุ้งซ่านและอีกอย่างออกมากินเหล้าน่าจะดีกว่า อ๋อ ถ้าสงสัยไม่ได้ไปทำงานเหรอ? ฉันลาหยุดตั้งแต่วันที่ชกมวยแล้วแหละร่างกายยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่เลยลาไป 1 อาทิตย์
ตอนนี้ฉันนั่งกินเบียร์และสูบบุหรี่ไปด้วยเพราะโคตรเครียดเลย ไม่สิ เขาไม่ได้เรียกว่าเครียด ฉันก่อนเวลาเพราะอยากเมาวันนี้ตั้งแต่ที่เจอข้าวสวย กระทิงก็หายไปเลย
ฟูววว์
ฉันพ่นควันสูบบุหรี่ออกมากี่มวนแล้วไม่ได้นับ พร้อมกับเบียร์บนประมาณ 5 ขวดที่ฉันกินไปแล้วคนเดียว ย้ำ คนเดียว...
“ลิเคียวกูว่าแล้วมึงต้องมาก่อน”
“....” วุ้นมันทำหน้าดุๆใส่ฉัน แต่ไม่สนใจหรอกยกเบียร์ขึ้นกินต่อ
“เห้อ~ หนักนะมึงเนี่ย”
“อกหักนะโว้ยยย~ ไม่ใช่ควายหายจะได้ไม่เศร้า” เมลทิ้งบนเก้าอี้และด่าวุ้นมัน
“แต่ควายแพงมากนะถ้าหายก็เศร้ามากเหมือนกัน” แก้วใสพูดหน้าตาใสซื่อ
“เห้ออ~ เพื่อนกูแต่ละคน” วุ้นส่ายยหัวอย่างเหนื่อยใจ
“กูปกติย่ะ!” เมลเชิงหน้าเชิงตาพูด คงจะจริงอย่างไอ้วุ้นพูดว่ากลุ่มฉันมันไม่ค่อยปกติ หึ
“แล้ว.. ลิเคียวจะเอายังไงต่อเหรอ?” แก้วใสถามพร้อมยกแก้วเบียร์กิน ถึงมันจะดูเหมือนคุณหนูใสใสแต่มันก็กินเหล้า กินเบียร์นะ เพื่อนกินมันก็กิน
“ตัดใจ?” วุ้นถาม
“...” ตัดใจ.. คำนี้มันไม่เคยอยู่ในหัวฉันเลยสักครั้งเพราะคิดว่าชอบก็พอ แต่พอเอาเข้าจริง แม่ง ทำไม่ได้เพราะขึ้นชื่อว่ามนุษย์มันก็โลภกันทั้งนั้น...
จากแค่ชอบไปเป็นแฟน แต่ถึงไม่ได้หัวใจเขา แค่ได้อยู่ข้างกายก็พอ แต่ตอนนี้ฉัน.. อยากได้ทั้งตัวและหัวใจของเขา
....หัวใจของกระทิง
“ดูถ้ามันไม่ยอมตัดง่ายๆแน่ว่ะ” เมลมันพูดแล้วมองหน้าฉันเหมือนรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่
“...กูจะพยายามมากกว่านี้” ฉันเกริ่น
“...?” พวกมันมองหน้าฉันอย่างสงสัย
“ลองทำให้กระทิงรักกู...ต่อให้เจ็บมากว่านี้กูก็จะทน” ใครจะว่าฉันบ้าก็ชั่งเพราะอย่างน้อยแม่งก็ได้ลองทำมันดูสักครั้ง ขอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น..
“ลิเคียว!!” X3
“แค่นี้...ไม่ถึงตายหรอกมั้ง?”