7
“กลัวเหรอ” เขาถามด้วยน้ำเสียงกวนๆ
“ใครว่ากลัว แต่ขยะแขยงคุณต่างหาก ออกไปได้แล้วออกไปสิ...ว้าย...ซุปของฉัน” มนตราอุทานทันทีที่เห็นหม้อขนาดเล็กมีฟองของไอน้ำไหลออกมา เธอจึงหันความสนใจไปที่หม้อซุปที่ตั้งใจทำให้เขาก่อนเดินทางไปทำงาน มือนุ่มรีบปิดเตาแก๊สทันที
“อุ๊ย!...ร้อน”
มนตราอุทานเสียงดังลั่น ปล่อยฝาหม้อที่เธอเปิดออกลงไปกระทบกับเตาแก๊สไฟฟ้า เนื่องจากนิ้วมือนุ่มสัมผัสกับความร้อนของฝาหม้อ ความร้อนวิ่งตรงเข้าไปในผิวเนื้อจนนิ้วมือพุพองขึ้นมาทันที
“ไหนดูสิ”
วิศรุตรีบคว้าข้อมือหญิงสาวขึ้นมาตรงหน้า ดวงตาจับจ้องที่นิ้วมือที่พุพองขึ้นมา เขาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำให้ใคร ทำในสิ่งที่มนตราไม่คิดว่าเขาจะทำ
“เพี้ยง...เพี้ยง หายแล้ว แต่จะให้หายสนิทต้องทำอย่างนี้”
เขาพาเธอออกไปจากห้องครัว ตรงไปที่ระเบียง พาหญิงสาวมานั่งที่เก้าอี้สนาม ส่วนตัวเขาเดินไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งที่มีชื่อว่าว่านหางจระเข้ เด็ดมันออกมาหนึ่งใบก่อนจะเดินเข้าไปในครัวอีกครั้ง และกลับมาหาหญิงสาวในอีกห้านาทีต่อมา
“ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณช่วยรักษาแผลพุพอง ทีหลังเธอก็ทำอะไรระวังหน่อยก็แล้วกัน”
เขาพูดพร้อมกับน้ำวุ้นใสๆ ที่อยู่ในใบของว่านหางจระเข้ที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว มาทาบริเวณปลายนิ้วที่มีอาการพุพอง หญิงสาวมองการกระทำของเขาอย่างทึ่งๆ ไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องแบบนี้ด้วย
“เสร็จแล้ว”
“ขอบคุณ”
มนตราชักมือกลับทันที กล่าวขอบคุณเบาๆ ก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตาคมกล้าของเขา
“เมื่อกี้ทำอะไรในครัว” เขาถามทำลายความเงียบ
“ทำซุปให้คุณทานนั่นแหละ พี่ยาบอกว่าเวลาคุณมีงานตอนเย็น คุณจะไม่ทานอะไรทั้งก่อนไปและตอนกลับ ฉันเลยทำซุปข้าวโพดให้คุณกินรองท้อง ตอนดึกก็มีน้ำผลไม้ให้คุณทานก่อนนอน ร่างกายคนเราต้องกินต้องดื่มสิ่งที่มีประโยชน์ อย่างคุณต้องบำรุงให้มากๆ โดยเพราะคุณที่เป็นนักร้องชื่อดัง ต้องใช้ทุกส่วนของร่างกายในการทำงาน มันก็ต้องบำรุงร่างกายเป็นสองเท่า”
มนตราพูดตามที่ตัวเองคิด เนื่องจากวิศรุตเป็นนักร้องชื่อดังของเมืองไทย มีงานไม่เว้นแต่ละวันบางวันมีงานมาก ทำให้การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา มีเวลาก็กินไม่มีเวลาก็ไม่กิน หากวันไหนกลับดึกเขาจะนอนทันที โดยไม่แตะต้องอาหารเลยแม้แต่นิดเดียว ข้อนี้เป็นคำบอกเล่าของพี่สาว วิศรุตไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดที่เป็นห่วงเป็นใยจากหญิงสาวตรงหน้า เจอกันครั้งแรกตั้งท่าจะเป็นศัตรูกับเขา อย่างกับโกรธกันมานานแสนนาน
“เป็นห่วงฉันเหรอ” เขาหยั่งเชิงถาม หญิงสาวนิ่งไปพักก่อนจะตอบ
“ฉันมาทำงานแทนหน้าที่ของพี่ยา ฉันตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด ฉันไม่อยากให้พี่ยาผิดหวังในตัวฉัน”
“แหม!!...เราก็หลงดีใจนึกว่าเป็นห่วง ที่แท้ก็ทำตามหน้าที่นี่เอง แต่ก็ยังดีที่ยังอุตส่าห์รู้หน้าที่ของตัวเอง ฉันจะอาบน้ำไปผสมน้ำอุ่นให้หน่อย ยาเขาคงบอกนะว่าฉันอาบน้ำอุณหภูมิที่เท่าไหร่”
น้ำเสียงของเขาดูห้วนเหมือนคนโดนขัดใจ มนตราเดินเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่พูดอะไรสักคำ จะให้พูดอะไรได้เล่าก็มันเป็นหน้าที่ของเธอนี่
วิศรุตเดินออกมาจากห้องด้วยชุดที่เตรียมพร้อมจะขึ้นไปโชว์ลีลาและเสียงเพลง ในงานมินิคอนเสิร์ตที่ทางสมาคมแห่งหนึ่งจัดขึ้น ทันทีที่เขาก้าวออกมาจากห้องนอนกลิ่นหอมจากอาหารบางอย่างโชยเข้ามาในจมูก เขาจึงเดินตามกลิ่นนั้นไป
“คุณทานข้าวสักนิดหนึ่งนะ เวลาขึ้นไปเล่นคอนเสิร์ตจะได้มีแรง” มนตราเอ่ยบอก
“ไม่หิว ไม่กิน”
เขาตอบเหมือนมะนาวไม่มีน้ำ ทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาไม่สนอาหารและคำพูดของหญิงสาว
“กินหน่อยนะ...ฉันทำสุดฝีมือเลย อร่อยด้วย”
เธอพูด มือนุ่มฉุดรั้งข้อมือของเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี หวังจะให้เขารับประทานอาหารก่อนไปทำงานให้ได้ มนตราจะทำให้มายารู้ว่า น้องสาวคนนี้ทำหน้าที่ที่สมบูรณ์ในระหว่างที่พี่สาวไม่อยู่
“ไม่กิน”
เขาเอ่ยพร้อมกับกระตุกข้อมือกลับอย่างแรง เป็นผลให้ร่างของหญิงสาวที่ไม่ทันตั้งหลัก ลอยมานั่งอยู่ที่ตักของชายหนุ่ม
“ปล่อยสิ...จะลุก”
หญิงสาวพยายามลุกขึ้น หากแต่ลำแขนหนารัดร่างบางไว้แน่น แกะก็แกะไม่ออก จึงได้แต่ทุบให้เขาเจ็บจะได้ปล่อยลำแขนที่รัดร่างของเธอ
“ไม่ปล่อยแล้วก็เลิกทุบได้แล้วฉันเจ็บนะ”
เขาบอกเพราะเริ่มทนกับความเจ็บของมือน้อยๆ ที่หนักหน่วงกระหน่ำตีไม่ลืมหูลืมตา
“ไม่หยุดจะทุบจนกว่าจะปล่อย”
ไม่เพียงแต่พูด มนตรากระหน่ำตีต่อไปไม่หยุด
“ถ้าไม่หยุดฉันจูบนะ ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู”
กำปั้นเล็กๆ ที่กำลังทุบร่างหนาหยุดทันควัน และต้องหลับตาปี๋เมื่อใบหน้าของเขาโน้มเข้ามาใกล้
“หยุดแล้วนะ ห้ามจูบด้วย แล้วก็ปล่อยซะที”
มนตรารีบเอามือปิดปากทันที เนื่องจากตอนนี้ใบหน้าของเขาและเธอห่างกันไม่ถึงสองนิ้ว
“ฉันไม่ได้ให้เธอมานั่งตักฉันนะ เธอล้มมานั่งที่ตักของฉันเอง เพราะฉะนั้นอย่ามาสั่งให้ปล่อยง่ายๆ ถ้าอยากให้ปล่อยต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”
หญิงสาวเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง เป็นเพราะริมฝีปากของเขาเคลื่อนเข้ามาใกล้ทุกที จนกระทั่งจมูกของเขาสัมผัสกับแก้มปลั่งสีแดงเรื่อ อันที่จริงเขาอยากจะแกล้งเธอเท่านั้น แต่เป็นเพราะความนุ่มของเรือนกายที่นั่งซ้อนตักเขาอยู่ อีกทั้งกลิ่นกายสาวที่หอมเย้ายวน เขาอยากจะสูดดมความหอมนี้ให้ชุ่มปอด หัวใจของมนตราเต้นเร็วจนเธอรู้สึกได้ ความที่ไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายในระยะใกล้ขนาดนี้ ทำให้ความฉลาดและเอาตัวรอดเป็นยอดดีของเธอหายไปหมดสิ้น มันอื้อไปหมด