6

1169 คำ
6 “เชิญดื่มน้ำธรรมดาได้แล้วค่ะคุณเทวดา” มนตราพูดประชด “ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ตอนนี้อยากกินน้ำอุ่นๆ มากกว่า” เขาไม่เงยหน้ามามองใบหน้าบึ้งตึงของมนตรา เอาแต่นั่งจ้องตัวอักษรที่อยู่ในนิตยสารนิ่ง จึงไม่เห็นสีหน้าของมนตราที่เริ่มตึงมากยิ่งขึ้น มนตราทำอะไรไม่ได้อีกตามเคยเดินกลับไปที่ห้องครัว เพื่อนำน้ำมาให้เขาดื่มตามคำสั่ง วิศรุตอดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นเธอเข้าไปในห้องครัวนานผิดปกติ หรือว่าทนกับการกลั่นแกล้งของเขาไม่ไหว กระโดดตึกตายไปแล้ว เขากำลังลุกขึ้นไปดูหญิงสาว แต่ต้องทรุดนั่งลงตามเดิม เมื่อสาวเจ้าเดินกลับเข้ามาพร้อมกับถาดใส่แก้วน้ำนับสิบใบ “นี่ค่ะน้ำ อยากดื่มน้ำแบบไหนเลือกหยิบได้เลย มีทั้งน้ำเย็น น้ำใส่น้ำแข็ง น้ำร้อน น้ำอุ่นน้อย น้ำอุ่นมาก น้ำหวานสีแดง และสีเขียว กาแฟร้อน กาแฟเย็น น้ำธรรมดา ส่วนแก้วนี้น้ำก๊อก” มนตราบอกรายละเอียดของแก้วที่บรรจุน้ำชนิดต่างๆ ให้กับชายหนุ่มได้รับรู้และเลือกสรรน้ำที่ต้องการดื่มได้ตามอัธยาศัย วิศรุตมองความร้ายกาจของมนตราด้วยความขุ่นมัว ตั้งแต่เกิดมาเขามีคนคอยเอาอกเอาใจด้วยตลอด ไม่มีใครกล้าขัดใจเขาเลยสักคน เห็นจะมีแต่แม่คนนี้เท่านั้น ที่กล้าหาญชาญชัยประชดประชันเขา “เธอประชดฉันเหรอ” เขาเอ่ยถามเสียงค่อนข้างดัง “เปล่า...ฉันเอาน้ำมาให้คุณเลือกต่างหาก เผื่อคุณอยากเปลี่ยนใจจะกินน้ำชนิดอื่น ฉันก็ไม่ต้องเสียเวลาเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมให้คุณใหม่ ส่วนคุณก็ไม่ต้องคอยด้วยเพราะมีให้เลือกดื่มตามใจชอบ” คำพูดของมนตราทำให้วิศรุตพูดไม่ออก ในความตั้งใจของเขา จะเปลี่ยนน้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะพอใจ แต่นี่มนตราเล่นนำน้ำมาให้เขาเลือกกินนับสิบแก้ว แล้วจะหาเรื่องแกล้งได้ยังไง แต่เขาไม่มีวันยอมหรอก “ไม่ต้องบอกนะคะว่าน้ำที่อยู่ตรงหน้านี้คือน้ำที่ไม่ต้องการ จะเอาอย่างนู้นจะเอาอย่างนี้ ถ้าไม่ดื่มน้ำที่ฉันยกมาให้ ก็ไปหาดื่มเอาเองนะคะ เพราะฉันเมื่อยอยากนั่งพัก” หญิงสาวพูดดักคออย่างรู้ทัน ทรุดนั่งที่โซฟาทำท่าบีบที่ขาประกอบคำพูด วิศรุตหน้าง้ำที่ถูกหญิงสาวตรงหน้าขัดใจ ‘ฝากเอาไว้ก่อนเถอะวันพระไม่ได้มีครั้งเดียว’ เขาเข่นเขี้ยวในใจลุกเดินเข้าไปในห้องนอนทันที หญิงสาวยิ้มกริ่มเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับมนตรา มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวนะไม่ได้มาเป็นคนใช้ ไม่รู้พี่สาวทนได้ไงเป็นเธอลาออกไปตั้งแต่วันแรกแล้ว ก่อนถึงเวลาเดินทางออกไปทำงานหนึ่งชั่วโมง วิศรุตเดินออกมานอกห้องเพื่อหาผู้จัดส่วนตัวชั่วคราว เขาเดินหาเธอจนทั่ว จนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่ที่ประตูครัว สายตาของเขามองร่างอรชรของมนตรานิ่ง เธอกำลังทำอาหารอะไรบางอย่างที่หอมฉุย ชวนให้ท้องร้องและน้ำลายไหล ขณะที่มือกำลังทำสะโพกงามงอนส่ายไปมาตามจังหวะเสียงเพลงจากเครื่องเล่นเพลงเอ็มพีสาม มันช่างดูเย้ายวนยิ่งนัก เขามองร่างงามอย่างเพลิดเพลิน ผู้หญิงคนนี้มีความสวยไม่แพ้พี่สาว แต่นิสัยต่างกันลิบลับ มายาเป็นคนพูดน้อยให้ทำอะไรก็ทำ เขารู้สึกสบายใจที่ได้มายาเป็นผู้จัดการส่วนตัว แม้ว่าทางต้นสังกัดจะให้คนอื่นมาทำแทนมายา แต่เขาไม่ยอมยืนยันเสียงหนักแน่นว่าต้องเป็นมายาเท่านั้น ต่างกับมนตราผู้เป็นน้องสาว ปากไวและคมอย่างกับกรรไกรห้องผ่าตัดและดูท่าทางจะทำให้เขาปวดหัวแน่นอน แค่หนึ่งอาทิตย์คงหมดยาแก้ปวดหัวไม่กี่แผงหรอก วิศรุตก้าวเท้าเข้าไปในห้องครัวยืนหยุดซ้อนด้านหลังของมนตรา กลิ่นกายสาวที่หอมผสมกับกลิ่นแป้งเด็กที่เขาสูดดมเข้าไปในปอด เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก ชายหนุ่มชะโงกหน้าไปดูอาหารที่เธอกำลังง่วนทำอยู่ พร้อมกับเอ่ยถาม “ทำอะไรอยู่ น่ะ” เขาถามชิดริมใบหูหอมสะอาด มนตราหันมาทางต้นเสียงทันที และนั่นทำให้ปลายจมูกโด่งของเขาสัมผัสกับแก้มนวลอย่างจัง ความหอมจากแก้มปลั่งที่เขาเผลอสูดดมเข้าไป ทำให้ภายในร่างกายของเขาร้อนรุ่มดั่งไฟสุมได้อย่างน่าอัศจรรย์ หญิงสาวถอยร่นหนีออกไปหลายก้าวยืนตกตะลึงกับการฉวยโอกาสของชายหนุ่ม ใช้ฝ่ามือถูกแรงๆ ที่แก้มจนเกิดรอยแดง “คุณ...คุณแต๊ะอั๋งฉันเหรอ” เธอพูดไม่เต็มเสียงใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย ท่าทางห้าวๆ แก่นๆ หายไปหมดสิ้น หลงเหลือเพียงหญิงสาวคนหนึ่งที่มีดวงหน้าแดงก่ำจากความเขินอาย...น่ารักมากนั่นคือความรู้สึกของเขา “ใครว่าฉันฉวยโอกาส ฉันก้มหน้าถามเธอดีๆ เธอต่างหากที่เอาแก้มมาโดนจมูกของฉันเอง ไม่รู้จะหักหรือเปล่า เจ็บชะมัด” เขาแกล้งนำนิ้วมาคลำจมูกทำทีเป็นเจ็บ เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส มนตราถึงกับพูดไม่ออก แสดงว่าเรื่องทั้งหมดเธอผิดเอง ที่นำแก้มของตัวเองไปให้เขาหอม “จมูกอย่างนี้หักได้ก็ดี จะได้ไม่ทะเล่อทะล่าไปโดนแก้มของคนอื่นเขา แล้วมาทำไมเนี่ย” เธอเปลี่ยนเรื่องพูดทันที หันหน้าไปในทิศทางที่ไม่มีเขายืนอยู่ “เวลาเธอถามคนอื่นเนี่ย ไม่มองหน้าคนคนนั้นเลยหรือไง หรือว่าอายเรื่องเมื่อกี้” เขาพูดยิ้มๆ นึกสนุกกับการได้กลั่นแกล้งเธอเล็กๆ น้อยๆ “ใคร...ใครอาย...ไม่มี...ฉันแค่ปวดคอหันมาทางนี้แล้วมันไม่ปวด” มนตราแก้ตัวน้ำขุ่นๆ อุตส่าห์เปลี่ยนเรื่องพูดแล้วยังจะวกเข้ามาอีก “นวดให้เอาเปล่า รับรองฉันนวดให้หายปวดคอเลย มามะเดี๋ยวนวดให้” วิศรุตเดินเข้าไปหามนตรา ทำท่าจะไปนวดที่คอให้เธออย่างที่พูด หากแต่มนตรารีบห้ามก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามา “ไม่ต้อง หยุดอยู่ตรงนั้น ไม่ต้องเข้ามา หายแล้ว...ต่อไปนี้ห้ามก้าวเข้าใกล้ฉันเกินสามก้าว อยากได้อะไรบอก จะไปเอามาให้” ไม่ได้เธออยู่ใกล้มากกว่านี้ไม่ได้ เพราะตอนนี้หัวใจของตัวเองมันเต้นตุ๊มๆ ต้อมๆ กับเหตุการณ์เมื่อครู่ จะไม่ให้หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงได้อย่างไร เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่หอมแก้มเธอนี่ มันก็ต้องตื่นเต้นเป็นของธรรมดา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม