“งั้นก็ทำสิอคิราห์กลืนมันเข้าไป”
อคิราห์ค่อย ๆ ลองชิมทีละนิด ๆ จนงับมันเข้าเต็มคำ ราวกับมันคือไอศกรีมรสสตรอว์เบอร์รีแท่งใหญ่ ที่ทั้งอุ่นและแข็ง แค่ลงมือกุมมัน ค่อย ๆ ละเลียดชิมไม่กี่ครั้ง ใบหน้าหวานก็ต้องอ้าปากค้าง เหมือนไอติมแท่งนั้นจะสั่นไหวจนแทบจะระเบิด มันผงกขึ้นลงพร้อมกับเสียงครางฮือด้วยความสุขสม
“อ้าาาาา”
เหมือนนั่นเป็นสัญญาณอันตราย คนตรงหน้าที่ดูจะพึงพอใจคล้ายจะต้องการเพิ่มขึ้นอีก เขาผลักร่างเล็กลงบนเตียง ขยับเรียวขาเล็กก่อนจะจดจ่อแก่นกายเขากับเธอ ใบหน้าแดงซ่านที่แสนน่ารักแทบจะซ่อนตัวใต้ฝ่ามือเล็ก แม้จะตื่นเต้นจนใจสั่นไหว ธารน้ำหวานไหลเอื่อยราวกับกำลังต้อนรับเขา แต่คนใต้ร่างกับเกร็งเหมือนจะผวา ไร้เงาของคนที่พยายามหลอกล่อให้เขาปล้ำ ยิ่งดึงดันเขาไปเท่าไหร่เหมือนร่างนั้นจะยิ่งสั่นจนเกือบจะเรียกว่าหวาดกลัว
“อย่าเกร็งสิ”
“แต่ฉันกลัว” เธอตอบด้วยน้ำเสียงพร่า แม้รู้สึกถึงฤทธิ์ยาแต่ความกลัวกลับโจมตีจนเกือบได้สติ แค่เพียงแก่นกายนั้นชิดเข้ามาเธอก็ผวาไปทั้งตัว
“เชื่อใจฉัน ถ้าเธอเกร็งฉันจะเจ็บไปด้วยจำไม่ได้แล้วเหรอ” คิมหันต์ยิ้มหวานก้มจูบประโลมเธออย่างอ่อนโยน สอดนิ้วเรียวหยอกล้อทำความคุ้นเคย จูบปลอบสลับกับยั่วเย้าเบี่ยงเบนความสนใจ แล้วดันแก่นกายเข้าไปจนสุด
สวบบบ
“อ๊า...อื้อออ”
แก่นกายร้อนขยับเข้าออกอย่างต่อเนื่อง จากที่เริ่มอย่างเชื่องช้า ค่อย ๆ ถี่มากขึ้น ขยับเข้าสุดออกสุดไม่ปล่อยให้เธอได้ปฏิเสธ กักขังอคิราห์ไว้ด้วยจูบหวานแต่ร้อนระอุ กวาดเรียวลิ้นตวัดเกี่ยวเธอไม่ให้ได้คิด หลอกล่อให้เธอตอบสนองอย่างน่าไม่อาย สติของเขาและเธอเลือนรางเหลือเพียงความปรารถนาที่ลุกโชนจนหลอมร่างให้เป็นหนึ่งเดียว ลมหายใจหอบถี่ไม่ช่วยให้เขาปล่อยเธอได้เร็วกว่าที่คิด จับเธอขยับเปลี่ยนท่าทางด้วยความเอาแต่ใจ บีบเคล้นอกสวยจนเธอผ่อนคลายมากขึ้น
“อ๊ะ ๆ อื้อออแรงเกินไปแล้ว”
“ชอบไหม” ร่างสูงกระซิบที่ข้างหู กอดเธอไว้ในอ้อมกอดในขณะที่ขยับชิดเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
“ชอบ...อื้อออ”
“ดีมากเด็กดี” สิ้นเสียงตอบเอาใจ ชายหนุ่มก็เร่งจังหวะไม่ให้เธอได้พัก
คำพูดของเขาราวกับวนิลาแสนหวาน แต่สะโพกกลับขยับรุนแรงจนร่างบอบบางลอยเคว้ง กรีดร้องกับความสุขสม
เสียงหวานครวญครางสมอารมณ์ ราวกับผีเสื้อนับล้านบินวนในท้องเธอด้วยความเร็วสูง ต้นขากระทบกระแทกกันจนเกิดเสียงน่าอาย มันถี่มากขึ้นตามความคิดถึงและความอัดอั้น เรียวปากหนาสูดปากด้วยความทรมาน ฟังจังหวะหวานจากเสียงครางของหญิงสาวด้วยความภูมิใจ ขยับเข้าอีกครั้งจนสุดก่อนจะบดเบียดกับร่างเล็ก และนำพาเธอทะยานขึ้นสู่สรวงสวรรค์
“อ๊าาา คิมหันต์”
โคตรน่ารัก!
เส้นผมเงางามหยาดไปด้วยเม็ดเหงื่อ เขามองเธอด้วยแววตาที่แสนลึกซึ้ง คนหลับตาพริ้มที่เพิ่งปลดปล่อยตัวเองจากความทรมาน ขยับแพขนตาก่อนจะชะงักไปชั่วขณะมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ ใบหน้าแดงซ่านส่ายหน้าหนีเมื่อโดนร่างสูงบังคับให้นั่งบนตัก
“ถ้าเหนื่อยก็พักก่อนดีไหม”
“คุณ...อื้อออขี้แกล้ง” เธอบ่นเง้างอด ความน่าเอ็นดูนั้นไม่พ้นสายตาของชายหนุ่มจนเขาหลุดหัวเราะ ทัดผมที่ใบหูเล็กของเธอ จับเอวคอดตรึงไว้บนตักก่อนจะกลืนทรวงอกเล็กอย่างหลงใหล เหลือบมองนาฬิกาบนเพดาน เหลือเวลาอีกนานกว่าจะเช้า ไม่นานคนบนตักก็เหมือนจะทนความอึดอัดไม่ไหวจนเผลอทำตามใจเขาเข้าจนได้
สะโพกใหญ่เกินตัวบดเบียดเข้าหากายแกร่งช้า ๆ ครอบครองมันราวกับเป็นสิ่งล้ำค่า ความเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วร่างกายยามที่เธอโยกย้ายอยู่บนตักของเขา ยิ่งชิดยิ่งใกล้ ใจดวงเล็กยิ่งเต้นตุบตับอยู่ที่ยอดอก ปล่อยให้เธอและเขาครอบครองกันและกัน
“อื้อออ”
“เก่งมากเด็กดี ขยับเร็วอีกนิดสิ”
คิมหันต์ผละออกจากหน้าอกสวยซบหน้าลงกับตำแหน่งหัวใจ ฟังเสียงหัวใจที่เต้นตามจังหวะกระแทกตัวของอคิราห์ เขากระซิบชมเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อเธอเรียนรู้มันได้อย่างรวดเร็ว “คนเก่ง”
“ฉันไม่ใช่...อึก เด็กนะ” น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นตอบอย่างไม่ลดละ ปล่อยตัวขึ้นและลงบดเบียดสะโพกเขาแน่นไม่ย่อมห่าง
“ฉันรู้...เธอไม่เด็กแล้วอคิราห์”
เขาตอบรับเบา ๆ พลิกคนเหนือร่างลงพื้นก่อนจะตามลงไปก่ายกอดเธอไว้แน่น ส่งสะโพกสอบแนบชิดเธออีกไม่กี่ครั้ง เสียงทำนองหวานดังก้องไปทั่วทั้งห้องพร้อมจังหวะหัวใจ ก่อนจะเร่งจังหวะทะยานอารมณ์หวามปลดปล่อยน้ำรักออกมาเป็นประจักษ์พยาน
“ฉันคิดถึงเธอ” ชายหนุ่มมองร่างบนตัวที่ฟุบหลับคาอกเขาไปแล้ว พอเขายอมปล่อยเธอก็ไม่ยอมพอ เขาเรียกร้องบ้างก็งอแงจนแทบฟ้าเหลือง
ดวงตาอ่อนโยนฉายวับขึ้นมาพลันยกมือปัดเส้นผมเกะกะออกให้พ้นสายตา ลากมือบนข้างแก้มใสลงมาที่ข้างลำตัว
ลงมาที่ข้างสะโพกซ้าย
เขาจับจ้องมันอยู่นาน ก่อนริมฝีปากหยักจะยกยิ้ม เคาะบนรอยตำหนินั้นสองสามทีแล้วจูบลงไปซ้ำ ๆ ก่อนทิ้งให้หญิงสาวนอนหลับพริ้มขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มต่อไป